ตอนที่แล้วตอนที่ 97: การเริ่มต้น (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 99: การเริ่มต้น (4)

ตอนที่ 98: การเริ่มต้น (3)


แองเจเล่พักอยู่ครู่หนึ่งในห้องและเริ่มฝึกฝน

มีหลายวิธีสำหรับพ่อมดในการฝึกและการฝึกโดยการทำสมาธิของแต่ละองค์กรแตกต่างกันแต่พวกมันทั้งหมดมีผลคล้ายกัน(ปกติแองเจเล่จะทำสมาธินะครับ เดี๋ยวเปลี่ยนจากปกติที่พิม'ฝึกฝน'เป็น'ทำสมาธิ'แทน)

นอกเหนือจากความต้องการทางพรสวรรค์และขั้นพ่อมดฝึกหัดจะต้องมีความรู้และทรัพยากรเพื่อช่วยทำลายขีดจำกัดของพวกเขาในการกลายเป็นพ่อมด แองเจเล่ยังต้องการน้ำอสุและรูปแบบคาถาป้องกัน วิธีการทำสมาธิเป็นวิธีที่เขาเรียนรู้จากวิทยาลัยแรมโซด้าและเขาพบว่าผลของมันใกล้เคียงกับวิธีที่เขาได้เรียนรู้จากหนังสือพ่อมดที่อดอล์ฟให้เขา

ไม่มีอะไรพิเศษเกิดขึ้นระหว่างที่แองเจเล่เข้าพักในโรงแรม

เขาแทบจะไม่ติดต่อกับคนอื่นและเขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของพวกเขา คนส่วนใหญ่ในโรงแรมนี้มีจุดประสงค์เช่นเดียวกับแองเจเล่และใช้เวลาในการตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบคฤหาสน์บ่วงจันทราทุกวัน พวกเขาไม่สนใจคนอื่นดังนั้นจึงไม่มีใครพยายามพูดคุยกับแองเจเล่ ดังนั้นนอกเหนือจากการทำสมาธิเขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสำรวจพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้เตรียมพร้อมทุกอย่างสำหรับการเข้าคฤหาสน์

แองเจเล่พบสิ่งหนึ่งที่แปลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีสัตว์อยู่รอบๆมันไม่มีแม้แต่แมลง หญ้า ต้นไม้และพืชอื่นๆดูเหมือนว่าจะ'ตาย' มีเพียงวัตถุชิ้นเดียวที่อยู่นอกกำแพงที่แตกของคฤหาสน์ก็คือหินสีดำ

เขาตรวจสอบรอบกำแพงหลายครั้งแต่ได้ยอมแพ้คิดความคิดนี้ไปหลังจากที่รู้สึกได้ถึงออร่าแปลกๆ เขาบอกให้ซีโร่ตรวจสอบพื้นที่แต่น่าเศร้าที่ไม่มีอะไรที่ชิปสามารถตรวจพบได้

ชิปเป็นเพียงอุปกรณ์ช่วยเหลือและไม่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างให้แองเจเล่ได้ มันขัดขวางความรู้สึกทั้งห้าของเขาแต่เขาก็ยังไม่พบข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับคฤหาสน์ซึ่งหมายคลายว่าพลังลึกลับที่ปกป้องสถานที่นี้อยู่เหนือความเข้าใจของเขา หลังจากที่ตรวจสอบหลายครั้งเขาก็ตัดสินใจที่จะอยู่ในโรงแรมและรอวันที่จะมาถึง

เวลาได้ไหลผ่านไปและในที่สุดช่องว่างก็ปรากฏตัวขึ้นในวันที่กระรอกได้กล่าวไว้

****************************

ท้องฟ้าเป็นสีเทาโดยสมบูรณ์ไม่มีแม้แต่แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านเมฆสีเทามาได้

แองเจเล่ลุกขึ้นจากเตียงและมองท้องฟ้าผ่านหน้าต่าง เขามองไม่เห็นอะไรนอกจากเมฆสีเข้มที่มีอยู่เต็มไปหมด ป่าเงียบสงบและนกก็ไม่ได้ร้องเหมือนปกติ

"ถึงเวลาแล้ว"

เขาหายใจเข้าลึกๆครั้งหนึ่งและสวมชุดล่าสัตว์ของเขาจากนั้นก็รีบจัดตำแหน่งมีดและห้อยธนู

แองเจเล่เปิดประตูเงียบๆและมองเห็นคนยืนอยู่ในโถงทางเดิน ชายคนนั้นยังสวมชุดคลุมสีดำ เขาปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของเขา มันดูเหมือนว่าเขาเพิ่งตื่นขึ้นมาเช่นกัน

ชายคนนั้นเห็นแองเจเล่และพยักหน้า แองเจเล่ยังไม่เคยเห็นใบหน้าของชายคนนี้เลยเนื่องจากเขาไม่เคยออกจากห้องโดยปราศจากหน้ากากและเสื้อคลุมขนาดใหญ่

โถงทางเดินมันมืดและแองเจเล่ขมวดคิ้วแต่ก็พยักหน้าตอบ เขาล็อคประตูห้องของเขาและเดินลงบันไดไป

ชายในชุดคลุมสีแดง ชายชราและหญิงสาวก็รออยู่แล้ว พวกเขากำลังดื่มนมร้อนที่พนักงานเสิร์ฟให้พวกเขา

แองเจเล่นั่งลงที่โต๊ะว่างแล้วคว้าขนมปังกรอบและดื่มน้ำ

"เนื่องจากทุกคนอยู่ที่นี่ข้าคิดว่าข้าจะเป็นคนเริ่มพูด" ชายชราพูดเสียงเข้มหลังจากที่ลุกขึ้นยืน

เขามองไปรอบๆเพื่อทำให้แน่ใจว่าทุกคนสนใจเขาและรอฟังเขา "ข้าไม่สนใจว่าพวกเขาพบอะไรในสถานที่นี่แต่เราต้องทำงานร่วมกันในสวนถ้าเราต้องการสมบัติออกไป พวกเรามีเพียงห้าคนดังนั้นมันจะเป็นเรื่องยากแน่นอน"

"ใช่ ข้าคิดว่าทุกคนรู้ถึงสิ่งที่กำลังจะมาถึงและพวกเจ้าทุกคนก็เตรียมพร้อมสำหรับมัน" ชายในชุดคลุมสีแดงพูด "เมสซี่ เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าจะพาหลานไปที่นั่น" เขามองไปที่หญิงสาวในชุดล่าสัตว์สีน้ำตาล

"นี่เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของข้าและเจ้ารู้ว่าสถานการณ์ของข้านั้นไม่เลวร้ายไปกว่านี้แล้ว" ชายชราชื่อเมสซี่ยักไหล่ "สวนบ่วงจันทราเป็นจุดที่มีทรัพยากรโบราณและมันเต็มไปด้วยกับดัก ข้าจะไม่พาเธอไปที่นั่นถ้าถ้าสถานการณ์มันดีแต่มันอาจจะดีกว่าสำหรับเราทั้งคู่ที่จะตายภายในสวน"

เมสซี่มองไปที่หลานของเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้า

"ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นอะไร เรารู้ว่าสถานที่นี้อันตรายอย่างยิ่งเพียงแค่บอกแผนพวกเรา" ชายในชุดคลุมสีดำขัดจังหวะ

"แผนนั้นง่ายมาก เราต้องเคลื่อนไหวด้วยกันและเข้าสู่ช่องว่างเพื่อทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครเป็นต้นเหตุของกับดักที่ไม่จำเป็น" เมสซี่พูด

"ดี" ชายในชุดคลุมสีดำพยักหน้า เสียงของเขาแหบแต่แองเจเล่ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

ผู้ชายในชุดคลุมสีแดงก็พยักหน้าเช่นกัน "ข้าเห็นด้วย"

แองเจเล่ฟังบทสนทนาของพวกเขาอย่างเงียบๆ มันดูเหมือนว่าพวกเขาค่อนข้างคุ้นเคยกับสวนขณะที่เขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเก็บข้อมูลบางอย่างก่อนและเขาก็ไม่มีอะไรแย้งกับแผนนี้

"ข้าเห็นด้วยเช่นกัน" แองเจเล่พูดเสียงเบา

"เอาล่ะ ไปกันเถอะ เราต้องเข้าไปก่อนเวลา 10 โมงเช้า เผชิญหน้ากับความท้าทายร่วมกันและเข้าไปถึงสวนที่แท้จริงกัน นำทรัพยากรทุกอย่างที่เจ้าต้องการไปได้ตราบเท่าที่เจ้าสามารถทำมันได้ด้วยตัวเอง" เมสซี่พูดเสริม

"แน่นอน" ชายในชุดคลุมสีดำพูด

หลานสาวของเสซี่ดูกังวล เธอจับมือของเขาแน่นขณะที่เดินผ่านประตูด้วยกัน

แองเจเล่ตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการภายในกระเป๋าสองครั้งและตามหลังคนอื่นๆไป

ข้างนอกมันเงียบไม่มีแม้แต่คนอยู่บนถนนและไม่มีแม้แต่นกหรือแมลง

"เกิดอะไรขึ้น มันเงียบเกินไป" ชายในชุดคลุมสีแดงขมวดคิ้ว

"เมื่อวานนี้ข้าได้เทผงนอนหลับลงไปในบ่อ ข้าไม่ต้องการให้ใครรบกวนเราดังนั้นพวกเขาจะนอนหลับตลอดทั้งวัน" ชายในชุดคลุมสีดำอธิบาย

"นั่น....มันมีประโยชน์" ชายในชุดคลุมสีแดงมองไปที่ชายในชุดคลุมสีดำ

พวกเขาทั้งห้าเดินตามถนนอย่างช้าๆ

แองเจเล่สังเกตม้าของเขาและเห็นข้าของเขาก็หลับด้วยเมื่อเขาออกมาจากโรงแรม มันดูเหมือนว่าผู้ชายชุดคลุมสีดำได้วางยาทุกสิ่งทุกอย่างในเมือง ผงนอนหลบมีประสิทธิภาพมากกับคนปกติ

ทั้งห้าคนออกจากเมืองเงียบๆและไปถึงถนนที่มีทางแยก

ป้ายมันส่ายในอากาศเนื่องจากลม มันยังมืดและมีเมฆครึ้ม

เมซี่มองไปที่ป้ายและเดินไปตามเส้นทางไปสวนพร้อมกับหลานสาวของเขา แองเจเล่เป็นคนสุดท้ายในกลุ่ม เขามองไปที่ป้ายและเห็นสิ่งแปลกๆ

คำว่า'คฤหาสน์บ่วงจันทรา'ไม่มีอยู่ที่ป้ายอีกต่อไป มันถูกแทนที่ด้วย'ความตาย' คำนี้เป็นสีแดงและเขียนด้วยเลือด มันสดและเลือดมันยังหยดลงจากป้ายไม้

แองเจเล่ลังเลชั่วครู่จากนั้นก็รีบเดินไป กลุ่มของพวกเขากำลังเดินอย่างช้าๆ พวกเขาเดินอยู่บนหญ้าแห้ง ไม่มีใครพยายามที่จะเริ่มสนทนาและแองเจเล่ได้ยินเสียงหายใจอย่างหนัก

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตระหนักได้ว่าท้องฟ้าสีเทาเปลี่ยนเป็นสีแดง

"เตรียมตัวให้พร้อม" ทันใดนั้นเมสซี่ก็ตะโกน "เราเกือบจะถึงแล้ว"

การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้แต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไร

แองเจเล่คว้าไปที่ธนูโลหะของเขาและดึงลูกธนูสีดำออกมาอย่างช้าๆจากซองลูกธนู เขาคิดว่าเขาได้ตรวจสอบเส้นทางทั้งหมดรอบๆคฤหาสน์แล้วระหว่างการสืบสวนของเขาแต่ไม่มีอะไรที่ดูคุ้นเคยที่นี่ เขาเริ่มชะลอตัวลงและระวังตัว

เวลาได้ผ่านไป กลุ่มไม่ได้หยุดลงแม้แต่วินาทีเดียวและยังเดินหน้าต่อไป ถนนมันตรงและตอนนี้ไม่มีหญ้าให้เห็นบนพื้นอีกต่อไป

ท้องฟ้าเป็นสีแดงเลือดและมันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้มันดูน่ากลัว บรรยากาศค่อยๆหนักขึ้น

แองเจเล่สูดอากาศและมีกลิ่นคาวอยู่ในจมูกของเขา

"เรามาถึงแล้ว" ชายในชุดคลุมสีแดงพูด

"เราเดินทางประมาณ 15 นาทีและผ่านช่องว่างแล้ว ทุกคนระวังตัวไว้" เมสซี่พูดเตือน

ทางเข้าสวนได้ปรากฏอยู่ข้างหน้าพวกเขา สวนล้อมรอบไปด้วยรั้วโลหะสีดำและประตูก็เปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มันเป็นจุดสิ้นสุดของถนนและแองเจเล่สามารถมองเห็นต้นไม้และพืชที่อยู่ด้านหลังรั้วได้

สีของท้องฟ้าได้เริ่มเปลี่ยนอีกครั้ง มันไม่ได้เป็นสีแดงอีกต่อไปแต่มันเปลี่ยนกลับเป็นสีเทาหลังจากที่พวกเขาถึงประตู

เมสซี่ยืนอยู่หน้าประตูและชี้นิ้วไปในอากาศ

อากาศกระเพื่อมและกางเขนสีแดงที่กำลังส่องแสงปรากฏที่ปลายนิ้วของเขา กางเขนเริ่มขยายในอากาศและมันมีความสูงและกว้างเท่าประตู

เมสซี่ร่ายอะไรบางอย่างและดีดนิ้ว มีเปลวไฟสีขาวปรากฏที่ฝ่ามือของเขาและมันกำลังลุกไหม้อย่างเงียบๆ ชายชรารอสักครู่จากนั้นก็ผลักเปลวไฟไปข้างหน้า

มันถูกผลักเข้าไปตรงกลางของกางเขน

แคร๊ก

ทุกสิ่งทุกอย่างหายไปหลังจากที่เปลวไฟเชื่อมต่อกับกางเขนและประตูก็กลับสู่สภาพปกติ

"ดี ข้าตรวจสอบช่องว่างอย่างน้อยมันก็มีเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ตอนนี้พวกเราเข้าไปได้แล้ว" เมสซี่พึมพำดูเหนื่อย

"เหอะ" ชายในชุดคลุมสีดำเยาะเย้ยและเดินเข้าไป

ชายในชุดคลุมสีแดงมองไปที่แองเจเล่อยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็เดินผ่านประตูด้วยเช่นกันแต่เขาไม่ได้พูดอะไร

แองเจเล่รู้ว่าเขาต้องตื่นตัวตลอดเวลาแต่เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆบนใบหน้าของเขา เขาเพียงตามหลังทั้งสองคน

เมสซี่และหลานสาวของเขาก็เข้าตามหลังเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด