ตอนที่แล้วตอนที่ 149: เอ้อระเหย (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 151: ข้อมูลเพิ่มเติม (2)

ตอนที่ 150: ข้อมูลเพิ่มเติม (1)


 

ชิ้ง

มีดเงินพุ่งไปในอากาศ มีสายผูกกับมันไว้

แองเจเล่ได้ยินเสียงฝีเท้าจากไปทางข้างหลัง เขาหันกลับไปมองไปรอบๆทันที

ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ในสายตาของเขา เขาขมวดคิ้วและหยุดก้าว มีรอยเลือดสีดำอยู่บนพื้นของชั้นบนสุดมันมีฝุ่นสีขาวอยู่ข้างบนรอยเลือด

สายเงินถูกตัดด้วยอะไรบางอย่าง

แองเจเล่ได้พัฒนาโลหะใหม่จากการที่เขาได้รับโลหะมาจากฟรานเชสโก้และเขาได้ใช้สายที่ทำจากมันเพื่อป้องกันไม่ให้เป้าหมายหลบหนี สายนั้นมันแข็งและคม มันสามารถตัดหัวคนๆหนึ่งได้อย่างง่ายดาย

"ผีหรือสิ่งมีชีวิตนี้สามารถต่อต้านการโจมตีทางกายภาพได้ดีที่สุด ข้าควรใช้พลังงานโจมตีแทนแต่มันเคลื่อนไหวเร็วมากจนแม้แต่ซีโร่ก็ไม่สามารถติดตามได้" แองเจเล่พึมพำ

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงความร้อนจากมือขวา เครื่องประดับรูปเพชรหลอมละลายและเขาไม่รู้ว่าทำไม

เขาตรวจสอบสภาพแวดล้อมแต่ไม่พบสิ่งที่น่าสงสัย เขากลับไปที่ร่างกายของนายพรานและเริ่มตรวจสอบบาดแผลของเขา เขาอยากรู้ว่าชายคนนี้โดนอะไรฆ่า

เลือดได้ไหลออกมาจากทวารทั้งเก้าของเขา ดวงตาเบิกกว้างและกล้ามเนื้อของเขาก็แข็ง มันดูเหมือนว่าเขาได้เห็นสิ่งที่น่ากลัวก่อนเสียชีวิต

"อย่างน้อยมันก็ยังมีเงื่อนงำ"

แองเจเล่ยิ้ม

เขารู้แล้วว่าหอคอยนี้อันตรายแต่สิ่งที่อยู่ที่นี่คือสิ่งเดียวกับที่เขาพบในสวนบ่วงจันทรา อย่างไรก็ตามตัวที่อยู่ในหอคอยนี้อ่อนแอกว่าดังนั้นแองเจเล่จึงตัดสินใจที่จะตรวจสอบ

เขาเดินไปที่รอยเลือดบนพื้นอีกครั้งและสร้างหลอดโลหะในมือขวา เขาขูดเลือดใส่หลอดด้วยมีดและเอาหลอดเก็บเข้าไปในกระเป๋า

ถ้าเขาไม่ได้คลุมมีดด้วยอนุภาคพลังงานสิ่งนั้นก็คงจะไม่บาดเจ็บ โลหะไม่ได้เก็บไว้ในร่างกายของแองเจเล่ในรูปแบบกายภาพ พวกมันเปลี่ยนเป็นสิ่งที่คล้ายกับอนุภาคพลังงานตามสนามพลังดังนั้นแม้ว่ามีดจะโจมตีพลาดสิ่งนั้นก็ยังได้รับบาดเจ็บจากสายเงินพิเศษ

แองเจเล่เดินขึ้นบันไดไปดูสะพานไม้ด้านล่าง ลมหนาวได้พัดผ่านใบหน้าของเขาเมื่อเขาขึ้นไปบนสุดและเขาก็เห็นว่าสะพานกำลังสั่น มันปกคลุมไปด้วยตะไคร่สีเขียว มีเพียงนายพรานคนเดียวที่ผ่านมันไม่นานมานี้

แองเจเล่มองไปที่อีกด้านของสะพานและเห็นเด็กสาวเดินไปข้างหน้าช้าๆ สีหน้าของเธอซีด มีผมสีดำและเธอสวมชุดเดรสสีดำ

เขาหรี่ตา เขาคว้าธนูโลหะที่อยู่ข้างหลังและดึงลูกธนูโลหะดำออกมาจากซองลูกธนู เครื่องประดับรูปเพชรที่หลังมือขวาของเขาร้อนขึ้นอีกครั้ง

สายลมได้พัดมาแรงขึ้นและผมของแองเจเล่ก็ลอยไปในอากาศ

ปัง

ประตูข้างหลังแองเจเล่ถูกอะไรบางอย่างกระแทก

"ใคร!" แองเจเล่ตะโกนแล้วหันกลับไปยิงลูกธนู

ฟึบ

ลูกธนูโดนประตูไม้และกระแสไฟฟ้าก็ระเบิดขึ้นในอากาศ พวกมันหายไปหลังจากที่กระจายไปหลายวินาที

กระแสไฟฟ้าสีน้ำเงินได้ทำให้ด้านบนของหอคอยสว่างขึ้น

แองเจเล่ลดธนูลง เขายิงอย่างเร่งรีบโดยไม่ได้ดึงสายเต็มที่ แม้ว่าเขาจะเพิ่มรูนสายฟ้าลงไปในลูกธนูพลังของมันก็ยังต่ำ

แองเจเล่ดึงลูกธนูโลหะออกมาจากประตูกลับเข้าไปในซองลูกธนู เขาหันหัวไปมองรอบๆและมองไปที่สะพานแต่เด็กสาวก็หายไปแล้ว

'เจ้าพบอะไรไหม'

[ไม่พบสนามพลัง เป้าหมายที่ไม่รู้จักไม่ใช่สิ่งมีชีวิตพิเศษ] ซีโร่รายงาน

"ข้าเดาว่าข้ายังไม่สามารถแก้ปริศนานี้ได้ ตอนนี้ข้าต้องออกไปก่อน"

แองเจเล่มองไปรอบๆเพื่อทำให้แน่ใจว่าไม่มีภัยคุกคามใดอยู่รอบๆ

ไม่มีอะไรอยู่อีกฟากของสะพาน มีเพียงสิ่งเดียวคือป้ายสีดำที่อยู่ข้างถนน

มีต้นไม้ทั้งสองข้างทางของถนนและแองเจเล่ได้ยินเสียงลมหอน เขามองไปที่ภูเขาที่อยู่เบื้องหลังหมอกและคิดอยู่ครู่หนึ่ง

จากนั้นเขาก็หันกลับไปและตรวจสอบประตูอีกครั้งแต่ไม่ได้ข้อมูลอะไรดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะกลับไปที่รถม้า

"แย่จริงๆ" แองเจเล่พึมพำในขณะที่ส่ายหัว

เขากระโดดขึ้นที่นั่งคนขับและมองไปทางหอคอยเป็นครั้งสุดท้าย

เด็กสาวได้ปรากฏขึ้นที่สะพานอีกครั้งหลังจากที่แองเจเล่จากไป เธอจ้องไปที่รถม้าของเขาด้วยสายตาที่เย็นชาและน่าสะพรึงกลัว

แม้ว่าแองเจเล่จะไม่เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นแต่เขาก็ยังรู้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องเขาอยู่

"เราจะได้พบกันอีกครั้ง"

ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยความเย็นชา

"ไป!"

ม้าเริ่มวิ่งและรถม้าก็เดินทางไปทางเดิมที่มา

'ซีโร่ทำเครื่องหมายสถานที่นี้ไว้ ข้าจะกลับมา' แองเจเล่สั่ง

[ตำแหน่งถูกทำเครื่องหมายแล้ว]

แองเจเล่จ้องไปที่หอเฝ้าระวังไม้จนมันหายไปจากสายตาของเขา

[โปรดตั้งชื่อตำแหน่ง]

'หอเฝ้าระวังไม้แดง'

[เสร็จสมบูรณ์ หอเฝ้าระวังไม้แดงถูกทำเครื่องหมายว่าเป็นสถานที่ที่อันตราย]

**********************

การเดินทางกลับมาที่เมืองอาเรียของแองเจเล่นั้นเงียบและเงียบสงบ

ไม่มีทางที่เขาจะอยู่ในป่าอีกต่อไปเพราะร่องรอยของแม่เขาจบลงที่ทิคก้า โซยุน เขาได้พูดถึงสิ่งที่ค้นพบกับโอมิเคดและถามเขาเกี่ยวกับสมาคมนักฆ่าสัญลักษณ์ทมิฬ

กษัตริย์ได้ส่งอัศวินหลายคนมาเป็นผู้คุ้มกันให้แองเจเล่แต่เขาบอกไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับตัวเขา เขาเดินทางไปส่วนกลางของสัญลักษณ์ทมิฬที่เมืองรากน้ำเงินด้วยรถม้าเพียงคนเดียว

ตามข้อมูลของโอมิเคดสถานที่นี้มีชื่อเสียงในเรื่องพืชแปลกๆที่เรียกว่าต้นไม้ทมิฬเรืองแสง

คนในท้องถิ่นพูดว่าต้นไม้ทมิฬเรืองแสงมักจะเติบโตในพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์และพวกมันจะดึงดูดนกพิราบ ผลของต้นไม้มีคุณค่ากับอัศวิน

ตำนานบอกว่าอัศวินที่กินผลของต้นไม้ทมิฬเรืองแสงจะพบเส้นทางของตัวเองดังนั้นผลของมันจึงชื่อว่าความศรัทธาของอัศวิน

โอมิเคดเล่าเรื่องเกี่ยวกับสมบัติที่สูญหายไปหลายเรื่องให้แองเจเล่ฟังและแองเจเล่คิดว่าเรื่องเหล่านี้อาจจะเป็นประโยชน์กับเขา ดรายแอดบอกว่าถ้าเขาอยากทำให้พลังจิตเข้มข้นขึ้นเขาจะต้องมีความเชื่อที่แข็งแกร่งก่อนที่จะใช้รังสีพลังงาน

ความศรัทธาของอัศวินสามารถนำอัศวินไปตามเส้นทางของตัวเองได้ดังนั้นเขาจึงคิดว่าผลไม้นี้อาจจะช่วยเขาเสริมสร้างความเชื่ออย่างแรงกล้า

แม้ว่าแองเจเล่จะรู้วิธีต่างๆที่พบในหนังสือของพ่อมดที่สามารถช่วยเสริมความเชื่อมั่นของเขาแต่วิธีเหล่านั้นจะใช้เวลาหลายปีในการทำให้มันเสร็จสมบูรณ์ อายุขัยสูงสุดของเขา 300 ปีแต่เขาไม่แน่ใจว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนที่เขาจะไปขั้นต่อไปและเขาต้องการประหยัดเวลา

แองเจเล่ตามแผนที่ที่ได้รับจากปราชญ์และใช้เวลาประมาณสองเดือนเพื่อไปถึงเมืองรากน้ำเงิน

*********************

นอกเมืองรากน้ำเงินมีหุบเขาที่ถูกล้อมรอบด้วยป่า

มีหอสังเกตการณ์ไม้สูงที่ถูกสร้างรอบหุบเขาและหอคอยแต่ละหอมีพลธนูหลายคนยืนอยู่

เหล่าทหารรักษาการณ์สวมชุดเกราะหนังสีเขียวเหลืองและมีซองลูกธนูที่เต็มไปด้วยลูกธนูขนนกสีดำข้างหลังของพวกเขาและมีมีดอยู่ที่เอว ใบหน้าของพวกเขามีลวดลายแปลกๆ

ทันใดนั้นทหารรักษาการณ์ก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวในพุ่มไม้ในขณะที่มองไปที่ป่า

พวกเขาแนบลูกธนูกับธนูทันทีแล้วดึงสายธนูเต็มที่และเล็งไปทิศทางที่มีเสียง

"ใครอยู่ที่นั่น! ออกมาซะ!" ทหารรักษาการณ์ตะโกน

มีผู้ชายในชุดสีดำเดินออกมาจากพุ่มไม้อย่างช้าๆเมื่อเขาได้ยินคำพูด

มันเป็นชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำ มีรอยสีเงินอยู่ที่ใบหน้าของเขาและผมสีน้ำตาลของเขาก็ยาวถึงไหล่ มีธนูโลหะและซองลูกธนูอยู่ที่หลังของเขา

ชายหนุ่มโยนป้ายทองแดงไปที่พื้น

"นั่นคือใบอนุญาตของข้า"

ไม่มีคำใดๆแกะสลักอยู่บนผิวของมันแต่ขอบของมันเป็นสีทอง ทหารรักษาการณ์เห็นป้ายทองแดงแล้วมองกันและกันและพยักหน้า

"ตอนนี้เจ้าเข้ามาได้" หัวหน้าทหารตะโกนแล้วลดธนูลง

ชายหนุ่มพยักหน้าและเตะป้ายทองแดงขึ้นไปในอากาศแล้วคว้าด้วยมือขวา

จากนั้นเขาก็เดินผ่านด่านยามและหายไปในทางเข้าหุบเขา

หัวหน้าทหารส่ายหัว "ทำไมพวกเขาไม่เคยเรียนรู้เลย มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความศรัทธาของอัศวิน มิฉะนั้นเราทั้งหมดจะเข้าไปสู่หุบเขา ข้าเดาว่าคนนี้ก็คงจะตายด้วยเช่นกัน"

เขาเฝ้าดูชายหนุ่มจนหายไปจากสายตาและถอนหายใจ เขาหันกลับไปและเริ่มตรวจสอบสภาพแวดล้อมอีกครั้ง ทหารรักษาการณ์ที่นี่ไม่ได้แค่ป้องกันไม่ให้คนนอกและประชาชนเข้ามาในหุบเขาแต่ยังปกป้องพวกเขาจากการได้รับบาดเจ็บ

แองเจเล่ค่อยๆเดินผ่านหุบเขา วิสัยทัศน์ของเขามันเห็นไม่ชัดเนื่องจากหมอกสีขาว การมองเห็นของเขามันเห็นประมาณสี่หรือห้าเมตรและหมอกมันก็หนาขึ้นในขณะที่เขาเดินไปเรื่อยๆ

หญ้าบนพื้นยังคงมีให้เห็นแต่วัสดุอื่นๆและพืชถูกซ่อนอยู่ในหมอก ด้วยการดีดนิ้วของเขาทำให้มีสายลมหมุนรอบร่างกายของเขา

สายลมได้ทำให้ผมของเขาลอยขึ้นไปในอากาศแต่หมอกสีขาวก็ยังคงไม่หายไป มันรวมตัวใหม่ในอากาศ

มีบางอย่างที่พยายามป้องกันไม่ให้แองเจเล่ก้าวไปข้างหน้า

เขาบอกให้ซีโร่สแกนพื้นที่ด้านหน้าและชิปแสดงสภาพแวดล้อมรอบตัวเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด