ตอนที่แล้วตอนที่ 139: การมาถึง (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 141: การมาถึง (4)

ตอนที่ 140: การมาถึง (3)


ยามเรียงแถวไปตามรั้วอย่างระมัดระวังขณะที่บารอนมาที่ทางเข้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับคนในตระกูล ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำเปิดประตูและลงจากรถม้า

ชายคนนี้เช็ดฝุ่นออกจากชุดคลุมและมองไปที่คนที่กำลังเดินมาหาเขา

"แองเจเล่!" บารอนตะโกนเสียงดังหลังจากที่เห็นใบหน้าของชายหนุ่ม ใบหน้าของเขาดูตื่นเต้นมาก เขาเดินมาหาแองเจเล่และกอดเขาแน่น

"ทำไมเจ้าไม่บอกเราว่าเจ้ากำลังกลับมา" บารอนลูบหลังของลูกชาย

"จดหมายใช้เวลาเป็นปีในการส่งที่พ่อ" แองเจเล่ลูบหลังของบารอนด้วยเช่นกันแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นที่เขาเคยนึกถึงกับการพบกันครั้งนี้กับบารอน

บารอนหันกลับไปและกระซิบคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ คนรับใช้พยักหน้าและวิ่งกลับกลับไปคฤหาสน์

"มาสิเจ้าสามารถพักในบ้านของเจ้าได้ ข้าได้บอกให้เธอเตรียมห้องให้เจ้าแล้ว" บารอนจับมือแองเจเล่และพาเขาเข้าไปในคฤหาสน์

คนงานในพื้นที่สวนกำลังจ้องที่แองเจเล่และยามอย่างอยากรู้อยากเห็น

"การตกแต่งบนรถม้าสีเงิน......เขาจะต้องเป็นเคานต์" มีใครบางคนพึมพำ

"ไม่เอาน่า เขาได้ยินพวกเรา"

จัสตินบอกให้เรย์เบ็นพาแองเจเล่กลับบ้านของเขาพร้อมกับยาม เรย์เบ็นสั่งให้ยามออกไปทันทีหลังจากที่ภารกิจเสร็จสิ้นแต่เขายังอยู่กับแองเจเล่และตามเข้าไปในคฤหาสน์

แองเจเล่เข้าไปที่อาคารหลักพร้อมกับบารอน มีหญิงสาวสวยสองคนกำลังยืนรอพวกเขาอยู่กลางห้องโถงข้างคนรับใช้และคนงาน พวกเธองอเข่าเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพหลังจากที่เปิดประตู

"มิรันและซารินทั้งสองคนเป็นภรรยาของพ่อ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น" บารอนชี้ไปที่หญิงสาวสองคนและยิ้ม

ทั้งสองคนโค้งให้แองเจเล่อย่างสุภาพขณะที่พวกเธอถูกแนะนำตัวแต่พวกเธอก็ไม่ได้พูดอะไร

แองเจเล่มองไปรอบๆห้องโถงและเห็นเด็กสองคนข้างหลังหญิงสาวสองคน มือของพวกเขาถูกจับโดยคนรับใช้

เด็กผู้หญิงอายุประมาณสามขวบสวมชุดสีขาว เด็กผู้ชายชุดสีน้ำตาลกำลังจ้องที่แองเจเล่ด้วยความกังวล

บารอนเห็นแองเจเล่มองไปที่เด็กๆ

"พวกเขาเป็นน้องชายและน้องสาวของเจ้า เด็กผู้ชายชื่อแอนซอลและเด็กผู้หญิงชื่อโอริ"

บารอนเดินไปหาและอุ้มขึ้นมาก่อนที่จะหันกลับมา เขามองไปที่แองเจเล่

"พวกเขาน่ารักใช่ไหม เหมือนกับเจ้า เจ้าก็น่ารักแบบนี้ตอนที่เจ้ายังเด็ก" เขายิ้ม

แอนซอลและโอริหัวเราะเบาๆ เด็กผู้ชายเริ่มเล่นกับผมของบารอนและเด็กผู้หญิงจับเคราของเขา ผู้หญิงสองคนกำลังเฝ้าดูลูกๆของพวกเธอเล่นกับบารอนด้วยรอยยิ้ม

แองเจเล่ก็ยิ้มเช่นกันแต่รู้สึกถึงความเหินห่างราวกับว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่

พ่อของเขาเปลี่ยนไป บารอนเป็นคนเดียวที่แองเจเล่สามารถเชื่อใจได้ในครอบครัวแต่เขาก็สร้างก็ครอบครัวใหม่ในขณะที่แองเจเล่ไม่อยู่ ตอนนี้เขามีภรรยาสองคนและลูกสองคน มีหลายใบหน้าในห้องโถงที่แองเจเล่ไม่คุ้นเคย

แองเจเล่มองไปรอบๆ มิรัน ซาริน สาวใช้ทั้งหมดและคนงานพยายามหลบสายตาของเขา พวกเขาก้มศีรษะและจ้องที่พื้น

.

แองเจเล่เข้าใจได้ว่าบารอนต้องการที่จะสร้างตระกูลของพวกเขาและรับเกียรติของเขาคืน ด้วยความช่วยเหลือของศาสตราจารย์อดอล์ฟทำให้เขาเข้าร่วมสังคมชั้นสูงในเมืองง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตามแองเจเล่ไม่เห็นคนที่เขาเคยรู้จักมาก่อนดังนั้นเขาจึงสับสนเล็กน้อย

"ท่านพ่อ แม็กกี้และซีเลียอยู่ที่ไหน" ทันใดนั้นเขาก็ถาม

"ซีเลียไปร่วมงานเลี้ยงในเมือง แม็กกี้.....เธอป่วยตาย ร่างกายของเธอถูกฝังอยู่ที่สุสานเขาแดง" บารอนหยุดยิ้มและตอบด้วยเสียงเคร่งขรึม

"อะไรนะ เธอจากไปแล้วงั้นหรือ" แองเจเล่ตกใจ เขาหลับตาครู่หนึ่ง

"ท่านพ่อห้องของข้าได้เตรียมไว้แล้วใช่ไหม ข้าอยากพักผ่อน"

"ใช่" บารอนพยักหน้า เขาไม่ได้อธิบายอาการเจ็บป่วยที่ทำให้แม็กกี้จากไป

"ซีเลียจะกลับมาในไม่ช้า ข้าจะบอกเธอว่าเจ้ากลับมาแล้ว"

"ขอบคุณครับ" แองเจเล่พยักหน้า

********************

การตกแต่งส่วนใหญ่ในห้องนอนเป็นสีเหลือง แองเจเล่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างและมองไปที่ทุ่งสีเขียวด้านนอก

ก๊อกๆ

"เข้ามา" แองเจเล่หันกลับไปและเอนตัวพิงหน้าต่าง

แอ๊ดด

ประตูถูกเปิดออก

มีสาวสวยคนหนึ่งเข้ามาในห้อง เธอสวมชุดเดรสสีเทาและมีไวโอลินไม้อยู่ในมือ

"แองเจเล่ข้าเองซีเลีย" เธอพูดเสียงเบา ก่อนที่เธอจะปิดประตูแอนซอลและโอริก็รีบเข้ามาและคว้าขาของเธอ

"พี่ซีเลีย พี่สัญญากับข้าว่าพี่จะเล่นไวโอลินให้เราฟัง" โอริพูดด้วยเสียงน่ารัก

"ใช่ พี่สัญญากับเราก่อนที่จะออกไปตอนเช้า" แอลซอลพูดเสริม

"หยุดก่อนๆ" ซีเลียกังวลเล็กน้อย เธอสนุกกับการเล่นกับน้องชายและน้องสาวของเธอแต่เธอคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะทำต่อหน้าแองเจเล่ เธอไม่อยากให้แองเจเล่ผิดหวัง ศาสตราจารย์อดอล์ฟเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ตระกูลเติบโตได้ดีในเมืองและการทำให้แองเจเล่ไม่พอใจจะส่งผลโดยตรงต่ออนาคตของพวกเขา

.

"หยุด กลับไปที่ห้องดนตรีก่อนเดี๋ยวพี่ตามไป" เธอก้มลงและปลอบพวกเขา

แองเจเล่เฝ้าดูซีเลียปลอบแอนซอลและโอริ เขาตระหนักได้ว่าซีเลียไม่ใช่สาวไร้เดียงสาที่เขาเคยรู้จักอีกต่อไป ซีเลียได้กลายเป็นพี่สาวของเด็กทั้งสองคน

"ไม่เป็นไร ข้าไม่เคยได้ยินเจ้าเล่นไวโอลิน งั้นพวกเราทั้งหมดไปห้องดนตรีและเพลิดเพลินไปกับดนตรีที่ยอดเยี่ยมกันดีไหม"

ซีเลียลังเลชั่วครู่ เธอมองที่แอนซอลและโอริก่อนที่เธอจะพยักหน้า

พวกเขาออกจากห้องนอนและเดินไปที่ห้องที่อยู่สุดทางเดินบนชั้นสอง

ซีเลียเปิดประตู ห้องนี้มีขนาดพอๆกับห้องประชุมแต่มันว่างเปล่าครึ่งหนึ่ง มีไวโอลินหลายตัวแขวนอยู่บนผนัง บางตัวทำจากไม้เหลืองและส่วนที่เหลือทำจากไม้แดง

เด็กทั้งสองคนไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะปฏิบัติกับแองเจเล่อย่างไรแต่พวกเขารู้ว่าแองเจเล่เป็นพี่ชายของพวกเขาและพวกเขาควรจะเคารพแองเจเล่ แองเจเล่เป็นคนแปลกหน้ากับพวกเขาเมื่อไม่นานมานี้ดังนั้นแองเจเล่จึงเข้าใจได้ว่าทำไมพวกเขาพยายามอยู่ห่างจากเขา

ซีเลียนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับไวโอลินไม้แดงและวางเครื่องดนตรีไว้ใต้คางของเธอ วิธีที่เธอเล่นมันแตกต่างจากที่แองเจเล่รู้ เธอไม่ได้ใช้คันชักสีเพียงแค่กดนิ้วไปที่สาย

แอนซอลนั่งลงบนเก้าอี้และโอริยืนข้างซีเลีย พวกเขาทั้งสองคนจ้องที่ไวโอลินในมือของเธอ

ไวโอลินมีเสียงแหลมแต่แองเจเล่คิดว่ามันฟังดูเหมือนซิสเธอร์ เขายืนอยู่ข้างประตูและเฝ้าดูซีเลียเล่นไวโอลิน

(ซิสเธอร์(Zither)เป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งคล้ายกับขิมแต่ใช้มือดีด)

เสียงที่มีชีวิตชีวาดังเข้าหูของแองเจเล่ มันไม่น่าแปลกใจอะไรแต่แองเจเล่รู้ว่าซีเลียเคยฝึกซ้อมมาสักระยะหนึ่งโดยการฟัง

แองเจเล่มองไปที่ซีเลียและนึกถึงสาวขี้อายที่แสดงความรักในวิธีของเธอ เธอได้โตขึ้นมากลายเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน เขาคิดถึงวันเก่าๆแต่เขารู้ว่าสิ่งนั้นมันจะไม่อยู่ตลอดไป

แองเจเล่ออกจากห้องอย่างเงียบๆขณะที่ซีเลียและเด็กๆยังคงเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลง

เขาเดินตามทางทางเดินและเห็นผู้หญิงที่ชื่อมิรันเดินมาหาจากอีกฟากหนึ่ง เธอเป็นแม่ของโอริ

"คุณมิรัน" แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อย

"ท่านแองเจเล่สนุกกับการเข้าพัก...." มิรันตระหนักได้ว่าเธอพูดอะไรที่ไม่เหมาะสมและหยุดลงทันที

"ข้าขอโทษ ข้าเพียง...." เธอเอามือปิดปากและขอโทษ

แองเจเล่มองเห็นความกลัวในสายตาของเธอ เธอเดาว่าแองเจเล่จะไม่อยู่ในคฤหาสน์นานนักแต่เธอก็รู้ว่าแองเจเล่เป็นลูกชายของบารอน

แองเจเล่มองไปที่เธอและยิ้ม

.

"ไม่เป็นไร ข้ารู้ว่าข้าไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว" แองเจเล่พูดอย่างใจเย็น

ปากของมิรันสั่น เธอก้มหน้าลงและสังเกตแองเจเล่อย่างระมัดระวัง เธอไม่แน่ใจว่าแองเจเล่ได้ให้อภัยเธอหรือไม่

"แม่!" มีเสียงมาจากข้างหลังของแองเจเล่

เธอเป็นโอริที่กำลังวิ่งไปกอดแขนของมิรัน

ซีเลียเดินออกมาจากห้องพร้อมกับแอนซอล มิรันรีบปิดปากของลูกสาวเธอ เธอไม่อยากขัดใจแองเจเล่ มิรันตระหนักได้ว่าเธอกำลังขวางทางของแองเจเล่ดังนั้นเธอจึงจับมือของโอริและข้างอยู่ด้านข้างๆ

แองเจเล่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงปฏิบัติกับเขาอย่างระมัดระวังแต่แองเจเล่ไม่คิดว่าพวกเขาจะขัดใจเขาเลย

"คุณมิรันบอกข้าได้ไหมว่าสุสานเขาแดงอยู่ที่ไหน หรือไม่ก็ส่งคนพาข้าไปที่นั่น"

"ได้ค่ะ" มิรันพยักหน้าหลายครั้ง

แองเจเล่ยิ้มไปที่เด็กๆอีกครั้งก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้องนอนของเขา

********************

แองเจเล่อยู่คฤหาสน์สองวันก่อนที่จะจากไป

มีหลายสิ่งเกิดขึ้นในช่วงสี่ปีนี้ ตระกูลริโอได้คัดเลือกสมาชิกใหม่จำนวนมาก มีความเหินห่างมากขึ้นระหว่างแองเจเล่และพ่อของเขา เขาคิดว่ามันจะแย่ลงถ้าเขาอยู่ในคฤหาสน์นานเกินไป บารอนจดจ่ออยู่กับตำแหน่งผู้นำและแองเจเล่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับครอบครัวใหม่

ทุกคนในคฤหาสน์พูดกับเขาราวกับว่าพวกเขากำลังพูดกับคนที่มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาเลือกคำพูดของพวกเขาอย่างรอบคอบและทำให้แองเจเล่ไม่ผิดหวังกับชีวิตประจำวัน เขาได้รับการปฏิบัติเหมือนคนแปลกหน้าที่นำความมั่งคั่งให้กับตระกูล

แองเจเล่รู้ว่าการปรากฏตัวของเขาจะทำให้เกิดปัญหากับตระกูลและวันเก่าๆก็หายไปแล้ว เขาต้องการที่จะเห็นครอบครัวใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและผ่อนคลายดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะจากไปทันที บารอนขอโทษแองเจเล่ก่อนที่เขาจะออกไป บารอนรู้ว่าแองเจเล่ไม่สามารถอยู่ที่นี่และนำตระกูลในอนาคตได้ดังนั้นเขาจึงต้องหาคนอื่นมาสืบทอดตระกูล

บารอนพูดคุยกับอดอล์ฟหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าอดอล์ฟจะไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆแต่บารอนก็ยังตระหนักได้ว่าแองเจเล่กำลังพยายามทำอะไรอยู่

หลังจากนั้นเขาตัดสินใจที่จะสร้างครอบครัวใหม่ด้วยตัวเองดังนั้นเขาจึงแต่งงานใหม่และตัดสินใจที่จะทำให้แอนซอลเป็นทายาทของเขา

"นี่เป็นข้อมูลของแม่เจ้าและพี่ชายของเจ้า นี่เป็นทั้งหมดที่ข้ารู้" บารอนยื่นม้วนกระดาษให้แองเจเล่ก่อนที่เขาจะจากไป

แองเจเล่ให้หลอดขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยของเหลวสีเหลืองแก่พ่อของเขา มันเป็นยาที่เขาทำให้เพื่อรักษาบาดแผลทางกายภาพ ปริมาณของของเหลวเพียงพอที่จะรักษาอาการบาดเจ็บเก่าของบารอน แม้ว่าบารอนจะเริ่มแก่แต่มันก็เป็นไปได้สำหรับเขาที่จะกลายเป็นแกรนด์อัศวินหลังจากที่พลังของเขาฟื้นฟูเต็มที่

แองเจเล่ เรย์เบ็นและยามมาถึงสุสานเขาแดงพร้อมกับคนนำทางที่ส่งมาโดยมิรัน

มันเป็นช่วงบ่าย

แสงแดดสีส้มจากดวงอาทิตย์กำลังต่ำลงสู่พื้นดิน

แองเจเล่และคนอื่นๆยืนอยู่แผ่นหินหลุมศพสีขาวใต้ต้นไม้

"เรย์เบ็นบอกให้ยามขับไล่คนอื่นออกไป ข้าต้องการตรวจสอบอะไรบางอย่าง" แองเจเล่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร

จัสตินสั่งให้เรย์เบ็นตอบสนองคำขอทั้งหมดของแองเจเล่ดังนั้นเขาจึงบอกให้ยามจับไล่คนออกไปทันที

แองเจเล่ก้าวไปข้างหน้าและลูบป้ายหลุมศพ

มีเพียงสิ่งเดียวที่เขียนขึ้น 'แม็กกี้...1542 13 1'

"เอาล่ะ ขุดศพขึ้นมา" เขาสั่ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด