ตอนที่แล้วตอนที่ 108: สูตร (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 110: ริมแม่น้ำ (1)

ตอนที่ 109: สูตร (2)


แองเจเล่ไม่สนใจว่าทั้งสองกำลังทำอะไร เขาหันกลับไปและจ้องไปที่เป้าข้างหน้าเขา

'ซีโร่ เริ่มบันทึกพลังของคาถาของข้า ใช้ความรุนแรงในการวัด'

[กำลังบันทึก]

แองเจเล่ยกมือขึ้นอย่างช้าๆ มีหมอกสีดำออกมาจากปลายนิ้วของเขา

เขาดีดนิ้วเสียงดังและมันก็มีอนุภาคพลังงานลมก็พัดหมอกสีดำไปทางเป้า

ชี่

หลังจากผ่านไปหลายวินาทีเป้าไม้สีเหลืองก็เปลี่ยนเป็นสีเทาแต่ไม่มีความเสียหายที่สามารถมองเห็นได้

แองเจเล่ขมวดคิ้ว

'รายงานผลรวมทั้งข้อมูลพลัง'

[อนุภาคพลังงานศาสตร์แห่งความตายต้องใช้ 5 หน่วยเพื่อให้มีผล ศัตรูที่มีความอึดต่ำกว่า 1.5 จะทำความเสียหายร้ายแรง ศัตรูที่มีความอึดมากกว่า 1.5 จะทำความเสียหายได้เล็กน้อยและศัตรูที่มีความอึดมากกว่า 3 แทบจะไม่เกิดความเสียหายใดๆ] ซีโร่รายงาน

ในที่สุดแองเจเล่ก็เข้าใจว่าเขาจะทำความเสียหายได้มากแค่ไหนเมื่อเขาใช้อนุภาคพลังงานล้วนๆ การร่ายคาถาจะสร้างความเสียหายมากกว่าการโจมตีศัตรูด้วยอนุภาคพลังงานโดยตรง นอกจากนี้วิธีนี้ก็ทำให้ใช้อนุภาคพลังงานมากเกินไป

'มันหมายความว่าพลังงาน 5 หน่วยจะทำความเสียหายได้กับมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น เมื่อศัตรูมีความสามารถระดับอัศวินอนุภาคพลังงานเหล่านี้ก็จะไม่มีผลอะไร ข้าควรจะทดสอบมันก่อนหน้านี้เมื่อข้ามีโอกาส การร่ายคาถาจะช่วยประหยัดพลังงานและสร้างความเสียหายให้กับคู่ต่อสู้ของข้าได้มาก' แองเจเล่กำลังคิดพร้อมกับขมวดคิ้ว

'พลังงานมากแค่ไหนที่ข้าต้องใช้ทำลายเป้าไม้'

[19 หน่วย] ซีโร่ตอบ

แองเจเล่หรี่ตา เขาดึงมีดสีดำออกมาและเดินไปยังเป้า

ฟึบ

แองเจเล่ตกใจที่การฟันของเขาไม่ได้ทำลายเป้า

เขายืนนิ่งและใช้กำลังมากขึ้นในการฟัน

แคร๊ก

เป้าไม้ขาดครึ่ง ส่วนบนได้หล่นลงไปที่พื้น

'ข้าใช้กำลังในการฟันมากขึ้น.....นั่นหมายความว่าพลังโจมตีกายภาพของข้าประมาณพลังงาน 19 หน่วย' แองเจเล่คิด

หลังจากนั้นเขาก็ได้ทดสอบอนุภาคพลังงานอื่น ด้วยฟังก์ชั่นการเก็บข้อมูลของซีโร่แองเจเล่มีพลังงานในร่างกายทั้งหมด 30 หน่วยแต่อนุภาคพลังงานแต่ละประเภทมีความหนาแน่นแตกต่างกัน

อนุภาคพลังงานลมมีความหนาแน่นต่ำ แองเจเล่ทำลายเป้าไม้ด้วยพลังงาน 19 หน่วย สายลมที่เขาเรียกออกมาเกือบจะเหมือนพายุทอร์นาโดขนาดเล็ก

แองเจเล่ออกจากห้องทดลองหลังจากที่เขาใช้พลังงานหมด

วันต่อมาเขาก็ไปที่ห้องทดลองอีกครั้ง ครั้งนี้เขาทดสอบอนุภาคพลังงานไฟด้วยการเรียกลูกไฟขนาดเล็กที่มีพลังงาน 19 หน่วย เป้าไม้ถูกทำลายอย่างง่ายดาย

แองเจเล่สันนิษฐานว่า'หน่วยใช้สำหรับการคำนวณการใช้พลังงานขั้นพื้นฐาน อนุภาคพลังงานที่แตกต่างกันทำความเสียหายใกล้เคียงกันเมื่อใช้พลังงานเท่ากัน โดยทั่วไปแล้วอนุภาคพลังงานเชิงลบทั้งหมดจะทำความเสียหายได้ใกล้เคียงกันสิ่งที่สำคัญก็คือการใช้พลังงาน นี่เป็นวิธีที่สร้างหน่วยขึ้นมา นอกจากนั้นความหนาแน่นอนุภาคพลังงานยังไม่สำคัญมากนัก ซีโร่อาจจะสังเกตเห็นแต่ข้าไม่'

แองเจเล่ออกไปหลังจากที่พลังงานหมดและกลับมาที่ห้องทดลองอีกครั้งในวันต่อมา

เขายืนอยู่ข้างหน้าเป้าที่เขาเพิ่งทำลายไปและกำลังคิด'ถ้าข้าสามารถตั้งค่าหน่วยสำหรับพลังของคาถาที่ออกไปได้ข้าก็อาจจะเริ่มวัดพลังต่อสู้ที่แท้จริงของข้าและมันจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับข้าที่จะบันทึกข้อมูล'

'น้ำอสุเป็นสิ่งสำคัญสำหรับข้าแต่ไม่มีทางที่ข้าจะหามันได้ในตอนนี้ ตอนนี้ข้าก็ควรจะทดลองต่อไป'

หลังจากทดสอบหลายวันแองเจเล่ก็ได้รู้ขีดจำกัดพลังโจมตีกายภาพของเขาซึ่งมันคือ 20.1 หน่วย มันแย่กว่าอนุภาคพลังงานล้วนๆซึ่งอยู่ประมาณ 22 หน่วยแต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้

ด้วยหน่วยใหม่นี้แองเจเล่มีวิธีวัดความแข็งแกร่งของศัตรูของเขา ถึงแม้ว่าการต่อสู้จะไม่ได้เน้นไปที่พลังอย่างเดียวแต่เขาก็ทำให้เขามีความคิดในการรับมือคู่ต่อสู้

พ่อมดฝึกหัดอีกสองคนที่เขาเคยพบก่อนหน้านี้ก็เข้ามาที่ห้องทดลองทุกวันเช่นกัน

หญิงวัยกลางคนคือเคลลี่ นาวิสเตอร์ พ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามที่เชี่ยวชาญเรื่องเวทมนต์ ชายหนุ่มที่เป็นพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สองตอนแรกเขากลัวที่จะเข้าร่วมการสนทนาของพวกเขา แต่เมื่อแองเจเล่เข้ามาหาเขาและถามว่าเขากำลังฝึกอะไรในที่สุดเขาก็เริ่มพูด ชายคนนี้ชื่อมิเชลเป็นหลานชายของเคลลี่ พ่อของเขาเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวย เขาเป็นความหวังของตระกูล

ตูม

แองเจเล่โจมตีเป้าไม้ด้วยลำแสงเปลวไฟสีเขียว

เป้าปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีเขียวและเริ่มไหม้ทันที มันกลายเป็นกองขี้เถ้าภายในไม่กี่วินาที

[หัวใจของช้างเรืองแสง เปลวเพลิงโจมตี ประเภทความเสียหาย: พลังงาน พลังคาถา: 12 หน่วย ความสามารถทางจิตที่ใช้: 1 มานาที่ใช้: 0]

แองเจเล่พอใจ เขาพยักหน้าและใส่หัวใจกลับเข้าไปในกระเป๋าของเขา เขาสามารถใช้เปลวเพลิงโจมตีได้สองครั้งต่อวันแต่มันสามารถใช้ได้ทันทีและความเสียหายมันก็ยอมรับได้

พลัง 12 หน่วยสามารถเจาะทะลุเกราะธรรมดาได้และอาจทำให้อัศวินบาดเจ็บอย่างมาก แกรนด์อัศวินมีพลังงานบาเรียของพวกเขาเอง มันมีแนวโน้มว่าจะไม่สร้างความเสียหายให้กับพวกเขามากนัก

แองเจเล่ยังคงมีระเบิดครั้งเดียวที่ทำจากหัวใจอีกชิ้น เขาคิดว่าพลังงานของระเบิดนั้นสูงกว่าหัวใจ

แปะ แปะ

แองเจเล่ได้ยินเสียงคนปรบมือ

เคลลี่ยิ้มและเดินเข้ามาหาเขา หญิงคนนี้มีใบหน้าที่ธรรมดาและผมน้ำตาลของเธอก็พาดไว้ที่ไหล่ ริมฝีปากของเธอบางและเธอมีดวงตาที่แหลมคม

"แองเจเล่ การทดลองของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" เธอถาม หญิงคนนี้ยิ้มแต่แองเจเล่ไม่ได้รู้สึกถึงความใจดีจากรอยยิ้มของเธอ

"เกือบเสร็จแล้ว" แองเจเล่พยักหน้า เขาไม่ได้พยายามซ่อนอะไรจากคนอื่น หัวใจเรืองแสงเป็นอุปกรณ์เวทมนต์ทั่วไปและสิ่งเดียวที่สำคัญต่อเขาตอนนี้คือรูปแบบคาถาใหม่ที่เขากำลังทดสอบอยู่

"เคลลี่ มีอะไรที่เจ้าอยากคุยกับข้าไหม" แองเจเล่หันกลับไปและยิ้ม

เหตุผลที่มิเชลกลัวการพูดคุยกับพวกเขาเนื่องจากระดับของพวกเขา พ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามมีความสำคัญกับโรงเรียนมากกว่าพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สอง มันเป็นเรื่องยากสำหรับพ่อมดฝึกหัดจากขั้นที่สองไปขั้นที่สามดังนั้นพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามจึงหายาก

แม้ว่าพ่อมดฝึกหัดทั้งหมดจะมีโอกาสไปเยี่ยมอาจารย์พ่อมด อาจารย์ก็ไม่ได้ใช้เวลากับพวกเขามากนักขณะที่พวกเขามีเรื่องสำคัญในการดูแลพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามในการสร้างกลุ่มของพวกเขา พวกเขาไม่ได้ใช้เวลามากนักกับพ่อมดฝึกหัดระดับต่ำ

"พ่อมดฝึกหัดไม่ค่อยถูกเรียกกลับมามากนักในครั้งนี้ ข้าได้ยินมาว่าพ่อมดทางการหลายคนถูกฆ่าระหว่างสงคราม" เคลลี่กระซิบ

มิเชลเพียงแค่ยืนฟังอยู่ที่นั่น เขายิ้มอย่างสุภาพแต่เคลลี่ไม่ได้สนใจเขาเลยเนื่องจากเขาเป็นเพียงพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สอง มิเชลอายุ 20 ปีแล้วและมันเป็นเรื่องยากที่เขาจะกลายเป็นพ่อมด แม้ว่ามิเชลจะเป็นหลานชายของเธอแต่เขาก็ไม่มีคุณค่ากับเธอ มันเป็นกฎที่ไม่ได้เขียนไว้เรื่องการที่พ่อมดฝึกหัดขั้นที่สองควรจะพูดกับพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามเมื่อถูกถามเท่านั้น

"จริงหรือ" แองเจเล่ปัดฝุ่นออกจากเสื้อคลุมสีเทาของเขา หลังจากที่ทดสอบเสร็จหมดแล้วเสื้อคลุมของเขาก็ปกคลุมไปด้วยฝุ่น

"ในตอนนี้ไม่มีใครสมัครใจเข้าร่วมภารกิจบนกระดาน มีอาจารย์หลายคนที่สูญเสียลูกศิษย์ของพวกเขาในสงครามนี้เช่นกัน" เคลลี่ต้องการให้แองเจเล่เดาว่าเธอกำลังพยายามจะพูดอะไร

"แล้วมีอะไรล่ะ" แองเจเล่ไม่ได้กังวล

"มันหมายความว่าโรงเรียนต้องการเรา มีเหตุการณ์ที่ยังไม่มีการตกลงกันรอบๆพื้นที่นี้ ผู้คนจะคิดว่าแรมโซด้าอ่อนแอดังนั้นพวกเขาจึงพยายามใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ มันไม่ใช่ปัญหาของพวกเราข้าเพียงแค่แจ้งให้เจ้าทราบ แองเจเล่เจ้าถามข้าว่าข้ามีสูตรพิเศษในตระกูลของข้าบ้างไหมใช่หรือไม่" เคลลี่ยิ้ม

"ข้าคิดว่าเจ้าบอกว่าเจ้าไม่มี" แองเจเล่ถามเธอเกี่ยวกับการรวบรวมสูตรในครั้งที่แล้วเมื่อพวกเขาคุยกันแต่เคลลี่บอกว่าเธอไม่มีสูตรอยู่ในมือ

"เราไม่มีแต่ข้าพบใครบางคนที่มี" เคลลี่ต้องการเข้าใกล้แองเจเล่ แองเจเล่มาถึงขั้นที่สามเมื่ออายุ 18 ปีซึ่งเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง ในขณะนี้มีพ่อมดฝึกหัดที่มีพรสวรรค์ไม่มากนักในโรงเรียนและแองเจเล่จะกลายเป็นศิษย์ของอาจารย์ในเร็วๆนี้ มันเป็นเวลาที่ดีสำหรับเธอที่จะได้รับความชื่นชอบจากแองเจเล่และเธอหวังว่าแองเจเล่จะทำอะไรสักอย่างตอบแทนเธอในอนาคต

"ใคร สูตรอะไร" การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไป เขาถามด้วยสีหน้าจริงจัง

"สูตรที่แท้จริงของฝันร้ายของกริฟฟิน ตระกูลของพวกเขาเชี่ยวชาญในการรวบรวมวัสดุหายาก มันไม่ใช่ตระกูลใหญ่แต่พวกเขาก็ปฏิเสธข้อเสนอของข้า" เคลลี่หัวเราะ

"ทำไม" แองเจเล่หรี่ตา "ขอบคุณสำหรับข้อมูลเคลลี่ ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไรเจ้าสามารถบอกข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลนี้ได้หรือไม่"

"แน่นอน" การแสดงออกของเคลลี่เปลี่ยนเป็นจริงจัง "พวกเขาขายวัสดุทุกประเภท ตระกูลได้แข็งแกร่งขึ้นเพราะหนึ่งในนั้นกลายเป็นพ่อมดฝึกหัดโดยใช้วิธีพิเศษ พ่อมดฝึกหัดมาจากโรงเรียนของเรา เขาได้เรียนรู้จากพ่อมดจรจัด พ่อมดคนนั้นเชี่ยวชาญยาซึ่งกำลังถูกไล่ล่าโดยศัตรูของเขาเนื่องจากฝันร้ายของกริฟฟิน เขาได้รับสูตรนี้โดยไม่ได้ตั้งใจแต่เขาได้เผามันต่อหน้าคนที่ไล่ตามเขาเพราะเขาไม่ต้องการถูกทำให้ยุ่งยากอีกต่อไป อย่างไรก็ตามพ่อมดได้หลอกลวงทุกคนเนื่องจากที่จริงแล้วเขาได้คัดลอกสูตรและมอบให้นักเรียนของเขา หลังจากที่พ่อมดฝึกหัดตายสูตรก็ได้ถูกส่งผ่านไปหลายรุ่นเพื่อเป็นมรดกสืบทอดตระกูล คนในตระกูลของข้าค้นพบความลับนี้ไม่นานมานี้"

ฝันร้ายของกริฟฟิน แองเจเล่เคยอ่านเรื่องนี้ในหนังสือไม่นานมานี้ "ฝันร้ายของกริฟฟิน.....ข้าได้ยินมาว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่าน้ำอสุ มันเป็นสูตรที่สูญหายไป ข้าไม่คิดว่ามันจะยังอยู่ในมือของใครบางคน เนื่องจากพวกเขาปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าข้าเดาว่าเจ้าต้องการให้ข้าช่วยเจ้าเพื่อที่จะได้รับมันจากพวกเขาใช่ไหม บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร"

สูตรนี้มีคุณค่ามากสำหรับแองเจเล่ เขาหิวกระหายอำนาจและเขาไม่สนเรื่องที่ทำให้มือของเขาสกปรก อย่างไรก็ตามแองเจเล่มีจุดต่ำสุดของเขา เขาจะไม่ทำอะไรที่โหดร้ายเกินไป

การแสดงออกของเคลลี่ไม่ได้เปลี่ยนไปหลังจากที่แองเจเล่ถามเธอ เธอรู้แล้วว่าแองเจเล่จะช่วย

"ยาจะช่วยให้เจ้าทำลายขีดจำกัดได้ง่ายขึ้นและมันหายากมาก ดังนั้นเราจึงเป็นคนกลุ่มเดียวที่รู้สถานการณ์นี้ ข้าได้จัดการสมาชิกในตระกูลที่ส่งข้อความมาให้ข้าแล้ว....." เคลลี่หยุดชั่วครู่ เธอพยายามที่จะบอกแองเจเล่ว่ามันควรเป็นความลับระหว่างพวกเขา "เราเกือบจะกวาดล้างพวกเขาออกไปจากดินแดนนั้น อย่างไรก็ตามทันใดนั้นพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สองได้ปรากฏตัวและขัดแผนของข้า คาถาของเขาแปลกมาก หลานชายของข้าก็ได้รับบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้" เคลลี่มองไปที่มิเชลที่กำลังฟังบทสนทนาอยู่ข้างๆ

มิเชลดึงแขนเสื้อที่แขนขวาขึ้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเคลลี่ แองเจเล่เห็นแผลสีเงินยาวที่ดูน่ากลัว

แองเจเล่แปลกใจเล็กน้อย เขาไม่เคยเห็นแผลสีเงิน

"เจ้าได้ขอให้พ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามคนอื่นช่วยหรือไม่" แองเจเล่ถาม

"ข้าทำ....เราเพียงบอกพวกเขาแค่ชื่อของยา ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร พวกเขาไม่ได้เรียนรู้การทำยาแต่เนื่องจากเจ้าถามข้าเกี่ยวกับสูตรข้าจึงตัดสินใจที่จะคุยเรื่องนี้กับเจ้า" เคลลี่ยิ้มและตอบ

แองเจเล่สงสัยว่าพวกเขาเป็นเพียงคนกลุ่มเดียวที่รู้สถานการณ์นี้

ฝันร้ายของกริฟฟินเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นยาฝันร้าย แม้ว่ามันจะหายากแต่พ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามไม่ค่อยสนใจในเรื่องนี้ วัสดุที่ใช้ในการปรุงยานี้มันหายากมากและอัตราความสำเร็จก็ต่ำ แม้ว่าพวกเขาจะได้รับสูตรนี้พวกเขาก็สามารถจ่ายไม่ไหว

เคลลี่อาจจะทำการวิจัยบางอย่างหลังจากที่แองเจเล่ถามเธอเกี่ยวกับสูตรดังนั้นเธอจึงรู้ว่าแองเจเล่ต้องการอะไรบางอย่าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด