ตอนที่แล้วTXV- 1 ความสูญเสียที่อาจไม่อาจคาดคิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV – 3 ไม่หลงกล

TXV – 2  ความสามารถของเนตร


TXV – 2  ความสามารถของเนตร

 

        หลังจากนั้นสักครู่หนึ่งเซี่ยเหล่ยก็ได้ละทิ้งความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นของเขาออกไปและเขาก็เลิกสนใจสิ่งผิดปกติที่อยู่ในซ้ายของเขา

 

          เซี่ยเหล่ยกำผ้าพันแผลไว้ในมือของเขาแล้วก็กลับไปที่เตียงนอนและเขาก็ยังกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเขาก็เผลอหลับไปในเวลาตี 1

 

          เมื่อเซี่ยเหล่ยตื่นขึ้นมาในตอน 8 โมงเช้าเขาก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆที่เกิดจากตาซ้ายของเขาเลย เขาเดินไปยังห้องน้ำอีกครั้ง แล้วถอดผ้าพันแผลที่ปิดตาซ้ายของเขาออกและมองไปยังกระจก

 

          ปรากฏว่าหมอกหนาทึบนั้นมันก็ค่อยๆมีความหนาขึ้นเรื่อยๆที่บริเวณตาซ้ายของเขา

 

          มันเกิดบ้าอะไรเนี่ย !! ตาข้างซ้ายของเราจะเป็นอะไรไหมเนี่ย ?”  ตอนนี้เซี่ยเหล่ยตื่นเต้นเป็นอย่างมากและไม่สามารถข่มความรู้อยากรู้อยากเห็นอขงเขาได้ในตอนนี้เขาใช้ผ้าพันแผลมาสัมผัสตรงบริเวณหมอกที่หนาทึบบริเวณตาซ้ายของเขาหลายต่อหลายครั้ง

 

          เมื่อเซี่ยเหล่ยไปสัมผัสบริเวณตาซ้ายของเขา เขาก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดแต่ความเจ็บปวดนี้ก็ไม่ได้รุนแรงมาก เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดนี้ได้

 

          จากนั้นหมอกหนาทึบที่บริเวณตาซ้ายของเขาก็ได้จางหายไป เซี่ยเหล่ยสามารถมองเห็นดวงตาของเขาได้ชัดเจนในกระจก ม่านตาซ้ายของเขานั้นมีความแข็งแรงมากกว่าเดิมและมีสีเงางามดูเหมือนว่ามันไม่ได้เกิดอาการบาดเจ็บใด้ๆเลยจากอุบัติเหตุสะเก็ดไฟฟ้าที่เกิดขึ้น จะมีบาดแผลก็แค่รอบๆม่านตานั้นมีแผลไฟไหม้เล็กน้อยเท่านั้น

 

          เซี่ยเล่ยยืนนิ่งสักครู่หนึ่งหลังจากนั้นเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจตาของผมไม่ได้บอด ผมไม่ใช่คนตาบอดโว้ยยย ฮ่าๆ ตาข้าไม่ได้บอด !”

 

          ในช่วงเวลานั้นมีหมอท่านหนึ่งได้เดินผ่านห้องนอนเขาพร้อมกับพยาบาลคนหนึ่ง พวกเขาก็ได้เห็นการกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขของเซี่ยเหล่ยในห้องน้ำ

 

          เห้ !!! คุณเอาผ้าพันแผลออกมาทำไม ?  นางพยาบาลพูดอย่างดุดัน “คุณเสียสติไปแล้วหรือไง ? หรือว่าคุณไม่อยากรักษาตาซ้ายของคุณให้หายเป็นปกติแล้ว ?

 

ช่วงเวลานั้นเซี่ยเหล่ยมีความสุขมากจนไม่ได้ยินเสียงใครพูดกับเขาเลย !

 

          เฮ้ !! ถ้าหากคุณไม่ปฏิบัติที่หมอสั่งพวกเราก็คงไม่สามารถรักษาคุณได้” คุณหมอท่านนั้นก็เริ่มพูดอย่างดุดันเพื่อให้เซี่ยเหล่ยได้ยิน “คุณได้ยินผมมั้ย ?

 

          อย่าไปสนใจมันเลย ! เขาต้องการเงินอย่างน้อย 200000 หยวนเพื่อจะทำให้ดวงตาเขากลับมาเป็นปกติครั้ง คุณคิดว่าคนแบบนี้จะมีปัญญาจ่ายได้เงินมากขนาดนี้ ?พยาบาลกล่าวแบบดูถูก

 

          เซี่ยเหล่ยเริ่มรู้สึกตัวและหันไปรอบๆห้องแต่ในขณะนั้นดวงตาซ้ายของเขาก็เริ่มมีแสงประกายออกมาเล็กน้อยและเขามองเห็นสะโพกที่เปลือยเปล่าของพยาบาลคนนั้นทั้งที่เธอใส่กระโปรงอยู่ จากนั้นสายตาเขาเต็มไปแสงสีขาวเหมือนหิมะกำลังตกสักครู่หนึ่ง เขารู้สึกตกใจมากและเขาก็ขยี้ตาและมองมันอีกครั้งและสิ่งที่เขาเห็นก็คือกระโปรงที่ปกคลุมก้นของเธออยู่เธอมีสรีระรูปร่างที่ดีแต่ในครั้งนี้มันต่างจากครั้งแรก ในครั้งนี้เขาเห็นเธอสวมกระโปรงตามปกติ

 

          นี่…..นี่มันจะต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ ทำไมสายตาของเราถึงฟ่าฟางขนาดนี้” เซี่ยเหล่ยตกใจและรู้สึกแปลกใจ

 

          เห้ย ผมกำลังพูดกับคุณอยู่นะ! มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกับคุณเนี้ย ?พยาบาลเริ่มหงุดหงิด

 

          จากนั้นแพทย์และพยาบาลก็ได้พุ่งตรงไปที่เซี่ยเหล่ยและได้จับเขาไว้และมองไปยังตาซ้ายของเขาและถามว่าตา…….ตาซ้ายของคุณ มันเกิดอะไรขึ้นเป็นไปไม่ได้.. ?

 

          นางพยาบาลคนนั้นถึงกับอ้าปากค้างเสมือนว่าขากรรไกรนั้นร่วงลงมาที่พื้น

 

เซี่ยเหล่ย ยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่าบังเอิญว่าตาของผมหายเอง ผมไม่สามารถจ่ายค่ารักษาได้เงินจำนวนมากขนาดนั้นได้ ผมจึงไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไป ผมต้องการออกจากโรงพยาบาลนี้เดี๋ยวนี้ !”

 

         หมอและพยาบาลจ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ยยังกับว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดและสิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือผลวินิจฉัยของแพทย์บอกว่าเขาตาบอดอย่างแน่นอน เขามีโอกาสน้อยมากๆที่จะหายเป็นปกติแต่แล้วในที่สุดเขาก็สามารถรักษาตาข้างซ้ายของเขาได้ด้วยตัวเอง สุดท้ายนี้เซี่ยเหล่ยก็มองย้อนกลับไป ด้วยสองตาที่เปิดกว้างและตาของเขาก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์

 

         ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นแหละที่จะสามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับเซี่ยเหล่ยได้

 

         เซี่ยเหล่ยออกจากโรงพยาบาลใน 1 ชั่วโมงต่อมาใช้เพียงแค่ 1,000 หยวนจาก 10000 หยวนที่เฉินฉัวหู่ให้เขามา และเขาก็ได้นำเงินที่เหลือทิ้งลงในถุงขยะ เพื่อชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้น !

 

         แสงแดดที่จัดในเวลากลางวัน มันคงจะไม่ส่งผลดีต่อตาข้างซ้ายของเซี่ยเหล่ยอย่างแน่นอนดังนั้นเขาจึงละทิ้งความคิดที่จะไปหาหม่าเสี่ยวอัน จึงได้เรียกรถโดยสารกลับบ้าน

 

         บ้านแห่งนี้เป็นบ้านของพ่อแม่ที่ถูกทิ้งไว้ให้พวกเขามันมีขนาดเพียงแค่ 75 ตารางเมตรและมีจำนวนห้องเล็กๆทั้งหมด 3 ห้องและมีห้องนั่งเล่น 1 ห้อง พวกเขาไม่มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพงทุกสิ่งทุกอย่างนั้นค่อนข้างเก่าเพราะว่าอายุการใช้งานแต่ละสิ่งนั้นมากกว่า 10 ปีแล้ว สิ่งของพวกนี้ถึงมันจะล้าสมัยแต่เขาไม่ทิ้งมันไปเพราะว่ามันเป็นความทรงจำจากพ่อแม่ที่ยังคงหลงเหลืออยู่

 

         ตาซ้ายของเซี่ยเหล่ยก็รู้สึกดีขึ้น เมื่อไม่อยู่ท่ามกลางแสงแดด

 

         มันเกิดอะไรขึ้น ? เรารู้สึกว่าเราฝันแปลกๆ…..” หลังจากที่เซี่ยเหล่ยนั่งลงเขาก็เริ่มคิดทบทวนกับสถานการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดของเขา

 

         ถึงเซี่ยเหล่ยจะต้องการหาคำตอบ แต่...เขาก็เจอแต่ความว่างเปล่า

 

         เหล่ย … คุณอยู่บ้านไหม ?เสียงผู้หญิงเรียกเขามาจากชั้นล่าง

 

         เสียงนั่นทำให้เซี่ยเหล่ยหยุดคิดถึงเรื่องนั้นสักครู่หนึ่งและเขาก็เดินตรงไปที่ระเบียง

 

         เสียงนั้นเป็นเสียงตำรวจสาวคนหนึ่งที่เธอรออยู่ข้างล่าง ใบหน้าของเธอช่างงดงามยิ่งนักและริมฝีปากของเธอเป็นสีชมพูเบาๆดูชีวิตดูมีชีวิตชีวา ชื่อของเธอคือเจียงหยูยี่ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนหนึ่งผู้ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้ๆกับบ้านของเซี่ยเหล่ย  หยูยี่และเหล่ยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กและพวกเขาก็อยู่ข้างๆกันเสมอเวลาที่มีปัญหา

 

         อ่าว...คุณมีอะไรหรอ ?เซี่ยเหล่ยยิ้มขณะทักทายเธอ

 

         ฉันมีเรื่องให้ช่วยหน่อย ช่วยเปลี่ยนแทงค์น้ำหน่อยได้ไหม? ฉันเจ็บมือไม่สามารถที่จะยกมันได้ในตอนนี้” เจียงหยูยี่กล่าว

 

         ได้สิ เดี๋ยวผมจะลงไป”เซี่ยเหล่ยเดินลงจากระเบียง

 

         ชั้นล่างนั้นมีแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาค่อนข้างรุนแรง จู่ๆตาซ้ายของเซี่ยเหล่ยเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีเข็มทิ่มเข้าไปในดวงตาของเขา อาการเจ็บปวดที่แสนจะทรมานได้พุ่งตรงไปยังจิตใจของเขาในตอนนี้และตาซ้ายของเขาตอนนี้ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย เขาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมากและไม่คิดว่าตาของเขาจะอ่อนไหวต่อแสงได้ขนาดนี้

 

         เจียงหยูยี่ วิ่งตรงเข้ามาหาเขาโดยทันทีด้วยความสามารถตาซ้ายของเขาในตอนนี้ผมมองเห็นเสื้อผ้าที่เธอใส่นั้นโปร่งใสและเป็นเส้นใยผ้าบางๆปกปิดร่างของเธออยู่ราวกับใยแมงมุมและเวลาผ่านไปอีกสักครู่หนึ่งใยแมงมุมนั้นได้หายไปในพริบตาในครั้งนี้เซี่ยเหล่ยเห็นเธอเปลือยกายต่อหน้าเขา !

 

         ทรวดทรงองเอวและหน้าอกของเธอนั้นช่างน่าตื่นตาตื่นใจซะเหลือเกินจนทำให้เขาเลือดกำเดาเกือบไหลออกมา….. เซี่ยเหล่ย ไม่เคยเห็นผู้หญิงมาเปลือยกายต่อหน้าเขา

 

         เซี่ยเหล่ยจำได้ว่าเขาเคยเห็นสะโพกของนางพยาบาลในโรงพยาบาลมาแล้วนั่นไม่ใช่ภาพหลอน มันคือเรื่องจริงสิ่งที่เขาเห็นภายในโรงพยาบาลนั้นมันเหมือนกับสิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่ในตอนนี้ !

 

         อะไรเนี่ย ! มันเกิดอะไรขึ้น ? เจียงหยูยี่เธอก็สวมเสื้อผ้าอยู่ ทำไมตาซ้ายของเรานั้นจึงเห็นว่าเธอกำลังเปลือยกายมันเป็นเพราะกระแสไฟฟ้าจากอุบัติเหตุหรือ ? ใช่สิ มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ !” เซี่ยเหล่ยกำลังตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

         หลังจากที่เซี่ยเหล่ยได้รับบาดเจ็บจากกระแสไฟฟ้า หมอวินิจฉัยว่าตาของเขาบอดอย่างแน่นอน แต่ไม่น่าเชื่อว่าตาของเขาไม่ได้บอดจริงๆและได้ความสามารถพิเศษที่อัศจรรย์มาด้วย ดูเหมือนว่าความโชคดีและความโชคร้ายก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันการโดนสะเก็ดไฟฟ้าที่ตานั้นเป็นโชคร้ายของเมื่อวานนี้แต่กลับเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับวันนี้

 

         เหล่ย…. เป็นอะไรรึปล่าว ?เจียงหยูยี่กำลังสงสัยว่าวันนี้ซี่ยเหล่ยทำตัวแปลกๆ ในตอนที่เขาจ้องมองมาที่เธอ

 

         อือ ผมสบายดี” เซี่ยเหล่ยกล่าวอย่างกังวลใจขณะที่ เจียงหยูยี่กำลังเปลือยกายต่อหน้าเขา ขณะที่เขาลืมตาข้างซ้ายของเขาอยู่

 

         เหล่ย ทำไมวันนี้ดูลุกลี้ลุกลน ?เจียงหยูยี่กล่าวแบบหยอกล้อกับเขา “บอกพี่ใหญ่มาซิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเหล่ย ?

 

         เซี่ยเหล่ยหัวเราะเธออายุน้อยกว่าผมนะ เธอกลายเป็นพี่ใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? ผมก็แค่เด็กเหลือขอคนหนึ่งจะมีผู้หญิงคนไหนจะมาอยู่เคียงข้างล่ะ ?

 

         อย่าโทษตัวเองเลย เหล่ย เป็นคนดีมันต้องมีสักวันหนึ่ง ที่มีคนมาชอบแหละ” เจียงหยูยี่ตอบ

 

         ท่าทีล้อเลียนของเจียงหยูยี่ทำให้เซี่ยเหล่ยผ่อนคลายและดวงตาของเขาก็กลับมาเป็นปกติ ในตอนนี้เขาเห็นเสื้อผ้าของเธอเป็นเหมือนเดิมแล้วและมันทำให้เขาระงับเลือดกำเดาออกจากจมูกของเขาได้...

 

         มันเผยออกมาให้เขาเห็นถึง 2 ครั้งความสามารถนี้ของเซี่ยเหล่ยดูเหมือนว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสามารถทั้งหมด ถ้าหากมีสิ่งเร้ามากระตุ้นการตอบสนองของเขา  เซี่ยเหล่ยจะสามารถเปิดใช้งานความสามารถมองทะลุจากตาข้างซ้ายได้ทันทีอย่างที่ใจต้องการ

 

         เซี่ยเหล่ยช่วยเหลือเจียงหยูยี่เปลี่ยนแท้งน้ำแล้วเมื่อเขายกแท้งน้ำไปไว้บนเครื่องเติมน้ำเสร็จ รู้สึกอ่อนเพลียขึ้นมาในทันทีเขารู้สึกหงุดหงิดและเกลียดร่างกายที่อ่อนแอตอนนี้

 

         เซี่ยเหล่ยกำลังคิดอยู่ว่าผมรู้สึกเหนื่อยและง่วงนอนเหลือเกินราวกับว่าผมไม่ได้กินไม่ได้นอนมา 2 วันติดกัน มันอาจจะเกี่ยวข้องกับการใช้ความสามารถในการมองทะลุ ? ดูเหมือนว่าความสามารถนี้ไม่สามารถใช้งานได้บ่อยๆจะต้องเลือกใช้งานเฉพาะเวลาที่เหมาะสมจริงๆ”

 

         เหล่ย… นี่สำหรับคุณ” เจียงหยูยี่เดินไปหยิบเครื่องดื่มเป็ปซี่และยื่นมันให้เซี่ยเหล่ย

 

         เซี่ยเหล่ยหันไปสบตาของเจียงหยูยี่แล้วก็เห็นภาพแปลกๆเขาเห็นเธอใส่ชุดบิกินี่สีแดง เธอดูสง่างาม และรอยยิ้มของเธอนั้นมีเสน่ห์มากกว่าดาราคนไหนๆในภาพยนตร์

 

         เธอ….” เซี่ยเหล่ยกำลังรู้สึกงงงวย

 

         เหล่ยทำอะไรหน่ะ ? ดื่มซะสิ” เจียงหยูยี่ยื่นเครื่องดื่มอีกครั้งและเธอใส่ไว้ในมือของเซี่ยเหล่ย

 

         เซี่ยเหล่ยมองไปที่มือของเจียงหยูยี่และสิ่งที่อยู่ในมือของเธอนั้นไม่ใช่เป็นกระป๋องเป๊ปซี่แต่มันเป็นถุงยาง !!!

 

         บิกินี่สีแดงและถุงยางมันไม่ได้เป็นเรื่องจริงแม้แต่อย่างใด แต่มันเหมือนจริงมากๆในสายตาของเซี่ยเหล่ย มันไม่ใช่เพราะว่าเพียงแค่สิ่งที่ตาก็มองเห็นแต่เป็นสภาพจิตใจของเขาด้วยดังนั้นจิตใจของเขาในตอนนี้กำลังคิดถึงเรื่องพวกนี้อยู่….เขาคิดว่าเจียงหยูยี่กำลังแกะห่อถุงยางอนามัยออกและค่อยๆขยับมาใกล้ตัวเขา

 

         เหล่ย…. ? คุณเป็นอะไร ? มีอะไรหรือป่าว ?เจียงหยูยี่ถามอย่างกังวล

 

         เสียงของเจียงหยูยี่ปลุกเซี่ยเหล่ยออกจากภาพจินตนาการที่เขากำลังคิดอยู่ เขาส่ายหน้าและภาพเหล่านั้นจะได้หายไป หลังจากที่เขาส่ายหน้าครู่หนึ่ง ร่างกายเขาก็รู้สึกอ่อนแรงจนล้มตัวลงไปที่อ้อมแขนของเจียงหยูยี่

 

          หน้าอกของเจียงหยูยี่ช่างอ่อนนุ่มและมีกลิ่นที่หอมหวล เซี่ยเหล่ยรู้สึกเหมือนอยู่กลางทะเลขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับปัญหาเขาได้ทุกๆอย่าง

 

          ขณะที่เซี่ยเหล่ยล้มตัวไปที่เจียงหยูยี่ริมฝีปากของเขาไปโดนแก้มของเธอ ใบหน้าของเจียงหยูยี่ที่อ่อนหวานและนุ่มนวลของเธอนั้นมันเหมือนกับเค้กวนิลานุ่มละมุนที่หอมหวล

 

          เจียงหยูยี่รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากแก้มของเธอก็เริ่มแดงและเธอก็ได้เคลื่อนตัวออกตามสัญชาตญาณของเธอ แต่ร่างกายของเซี่ยเหล่ยทิ้งน้ำหนักและล้มตัวลงไปที่เจียงหยู่ยี่มากขึ้นเรื่อยๆ

 

          เหล่ย... ทำอะไรเนี่ย ?เจียงหยูยี่รู้สึกกระวนกระวายใจและขาของเธอก็เริ่มอ่อนแรงลงเล็กน้อย

 

          เซี่ยเหล่ยรีบนำตัวของเขาออกจากอ้อมแขนของเจียงหยูยี่และใบหน้าของเขาก็เริ่มแดงก่ำผมขอโทษ…. ผมไม่ได้ตั้งใจ”

 

          เหล่ยตั้งใจใช่มั้ย ? ใช่มั้ย หือ ! เหล่ย… ?เจียงหยูยี่จ้องเขม็งไปที่เขาและสายตาของเธอเต็มไปด้วยความขยะแขยงและรำคาญ

 

          เซี่ยเหล่ยถอยห่างจากเธออย่างรวดเร็วและพูดทันทีว่าไม่ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ผมไม่ได้ตั้งใจผมขอโทษ...”

 

          ในตอนนี้เซี่ยเหล่ยมั่นใจแล้วว่าความสามารถพิเศษของสายตาของเขานั้นทำให้เกิดภาพหลอนหลายๆอย่างและยังมีผลข้างเคียงคือการมีประสาทหลอนแปลกๆ

 

          วันนี้คุณมีท่าทีแปลกไปมาก เหล่ย” เจียงหยูยี่ไม่พอใจกับคำอธิบายของเขา

 

          ถ้าเธอไม่มีอะไรแล้ว ผมจะกลับแล้วนะ ถ้ามีอะไรให้ผมทำก็โทรมาใหม่ในครั้งหน้า เผื่อให้ผมช่วยเปลี่ยนแทงค์น้ำอีก” เซี่ยเหล่ยไม่กล้าอยู่ต่อหน้าเธออีกเขาจึงรีบออกไปจากเธอ

 

          ขอบคุณนะ” เจียงหยูยี่เห็นเดินเขาไปที่ประตู

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มและพูดว่าเธอไม่ต้องมาส่งผมหรอกเราสองคนรู้จักกันมาตั้ง 20 ปีแล้ว ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากหรอก”

 

          เจียงหยูยี่ยิ้มมุมปากและพูดว่าฉันไม่ได้ทำเป็นทางการกับเหล่ย และฉันจะบอกเหล่ย นานแล้วว่าเหล่ยควรจะหางานประจำได้แล้ว อย่าไปทำงานที่สถานก่อสร้างเลยมันไม่ใช่งานระยะยาว มันไม่มั่นคงกับเหล่ย เลย”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขมขื่นและพยักหน้าจากนั้นเขาก็เดินออกไป

 

          ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากจะมีชีวิตที่ดี ? อาศัยอยู่ในบ้านที่ใหญ่โตสะดวกสบายมีพื้นที่บริเวณบ้านมีรถดีๆให้ขับมีหน้ามีตาในสังคมสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดล้วนเกิดจากเงินแต่เซี่ยเหล่ยขาดแคลนเงินมากที่สุด

 

          เฉินฉัวหู่จ่ายเงิน 10000 หยวนกับเขาในการรักษาในโรงพยาบาลแต่เขาก็ได้ทิ้งเงินที่เหลือไปแล้วส่วนข้าก็มีรายได้ 9000 หยวนต่อเดือน เมื่อก่อนขณะที่เธอยังไม่เข้ามหาวิทยาลัยมันคงจะพอหรอก แต่ตอนนี้เธอต้องการมากขึ้นเพราะว่าเธอได้เข้ามหาวิทยาลัยแล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อเดือนต้องใช้ 20,000 หยวนผมยังขาดอีก 11000 หยวน ผมจะทำยังไงดี ?สมองของเซี่ยเหล่ยในตอนนี้กำลังสับสนวุ่นวายกับความคิดเหล่านี้

 

          เซี่ยเหล่ยเดินออกจากระแวกบ้านของตัวเองโดยไม่รู้ตัว

 

          แสงแดดสาดส่องไปทั่วทั้งถนนและรถที่กำลังเคลื่อนที่บนถนนอย่างวุ่นวายในเมืองห่ายจู ผู้คนมากมายร่งรีบไปทำงานเพื่อไปเข้างานให้ทัน เมืองนี้ช่างสับสนวุ่นวายซะเหลือเกิน

 

          เฮ้ย เราเองก็มีความสามารถในการมองทะลุสิ่งของแล้ว แล้วทำไมเราต้องกลับไปทำงานในสถานที่ก่อสร้างอีกล่ะ ? ทำไมไม่ใช่ความสามารถของเราในการหาเงิน ? น้องสาวของเราและเราก็อาจจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ได้ !” ด้วยความคิดเช่นนี้เสียแล้วจึงมุ่งหน้าไปทางใต้ของเมืองห่ายจู เป็นทางไปสู่มาเก๊าและเกิดความคิดบางอย่างในใจของเขา………

 ขอบคุณครับ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า ติดตามข่าวสารและเรื่องราว https://www.facebook.com/Tranxending-Vision-1843606792370694/ ขอเพียงแค่กดไลค์กดติดตาม ก็เป็นกำลังใจให้ผมแปลต่อได้แล้วคร้าบบบ ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

###################################################################

 

               

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด