ตอนที่แล้วตอนที่ 189 แขกไม่ได้รับเชิญ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 191 รอบๆทะเลทราย 1

ตอนที่ 190 แขกไม่ได้รับเชิญ 3


“หัวหน้าQuattro เจ้าพบอะไรงั้นหรือ?”

มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เคิร์ทไม่เคยพลาดที่จะจับความรู้สึกของใคร

ในเวลาเดียวกัน ความคิดของธีโอดอร์ก็กลายเป็นซับซ้อน

นอกเหนือจากเขา มีเพียงคนเดียวที่รู้ถึงการดำรงอยู่ของห้องทดลอง ซึ่งก็คือผู้นำYellow Tower ดังนั้นธีโอดอร์จึงต้องตัดสินว่าเขาควรเปิดเผยข้อมูลหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากธีโอดอร์ไม่พูดอะไร เคิร์ทที่3อาจจะตกลงเงื่อนไขกับมุจัก

ไม่เหมือนกับออสเต็น ที่ไม่ได้ถูกคุกคาม มันจะเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับเมลเทอร์หากจักรวรรดิแอนดราสได้อะไรบางอย่างจากซากโบราณ

‘ฉันไม่ชอบสถานการณ์นี้เลย ฉันไม่สามารถนิ่งเฉยได้’

ตราบเท่าที่ทีมขุดเจาะของแอนดราสยึดครองสถานที่นั้นอยู่ เขาจะไม่สามารถลอบเข้าไปได้โดยลำพัง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังไม่ชอบเล่ห์กลที่อาณาจักรออสเต็นใช้ ที่พยายามลักพาตัวเอลโลน่า ดังนั้น นี่จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่จะขัดขวางทั้งแอนดราสและออสเต็น

ธีโอดอร์ตัดสินใจได้และเปิดปากขึ้น “พะยะค่ะ ฝ่าบาท กระหม่อมจำได้ว่ากระหม่อมเคยเห็นมันจากที่ไหนสักแห่งและกระหม่อมเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับโบราณสถานนั้นมาก่อน”

“โอ้”

“อะไรนะ?สะ-สิ่งนั้น....!”ใบหน้าของมุจักสั่นเล็กน้อย มุจักคิดที่จะใช้เรื่องนี้ในการเจรจาต่อรอง?หากคำพูดของธีโอดอร์เป็นความจริง มันจะทำให้มุจักเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

การแสดงออกที่พึงพอใจปรากฏบนใบหน้าของเคิร์ท ขณะที่เขาพยักหน้า “น่าสนใจยิ่งนัก กล่าวต่อเลย”

“ขออภัย กระหม่อมขอไม่เป็นคนที่บอกท่าน”อย่างไรก็ตาม ธีโอดอร์ไม่มีเจตนาที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้ “กระหม่อมสามารถปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอีกคนได้หรือไม่?”

“หืม?เราขอถามได้ไหมว่าทำไม?”

“แน่นอน ฝ่าบาท”ธีโอดอร์ตอบคำถามของเคิร์ทและหันไปมองพาร่าที่อยู่ด้านหลังเขา “มันแตกต่างกัน แต่กระหม่อมได้ยินมาจากผู้นำYellow Tower ดังนั้นกระหม่อมจึงคิดว่าปรมาจารย์พาร่า ศิษย์ของเขา คือคนที่เหมาะสมจะอธิบายเรื่องนี้”

“ผู้นำYellow Tower?เรื่องจริงงั้นรึ ปรมาจารย์พาร่า?”

พาราแกรนัม เวทย์โบราณภายใต้คราบเด็กสาว ธรรมชาติที่แท้จริงของเธอได้หลุดออกมาชั่วขณะ แต่เธอก็ได้โค้งตัวอย่างสุภาพราวกับเธอเข้าใจสถานการณ์ “…เพค่ะ คำพูดของของหัวหน้าเป็นความจริง ฝ่าบาท”

“ให้รายละเอียดแก่เรา”เคิร์ทกล่าว

ขณะที่ผู้คนจากเมลเทอร์เฝ้ามอง พาร่าก็ได้เริ่มเล่าเรื่องราว

“นี่เป็นสิ่งที่อาจารย์ของหม่อมฉันได้บอกบางครั้ง การเล่นแร่แปรธาตุที่สร้างรากฐานของYellow Tower มันเป็นมรดกจากยุคโบราณกาล พวกมันเป็นคำสอนที่สืบทอดต่อมาจากนักเล่นแร่แปรธาตุผู้ยิ่งใหญ่ พาราเซลซัส”

“นักเล่นแร่แปรธาตุผู้ยิ่งใหญ่ พาราเซลซัส...”

“เพค่ะ ศาสตร์แห่งการเล่นแร่แปรธาตุของYellow Tower นั้นมีต้นกำเนิดจากคำสอนของพาราเซลซัส เช่นนั้น สถานที่แห่งนี้ควรเป็นที่ที่เก็บมรดกของเขาเอาไว้”

ขณะที่เธอกำลังจะอธิบายถึงโบราณสถานบนแผนที่ มุจักที่นั่งฟังเงียบๆก็ได้เด้งตัวขึ้น “ไร้สาระ!”

ขณะนั้นเอง เคิร์ทที่3ก็ได้ตะโกนด้วยเสียงร้อนรน “เวโรนิก้า!”

ก่อนที่มุจักจะได้ขยับตัว เปลวเพลิงก็ได้พุ่งออกมาและม้วนอยู่รอบคอของเขาทันที ด้วยเวโรนิก้าที่ยืนอยู่รอบๆ แม้กระทั่งปรมาจารย์ดาบยังมีความเสี่ยง แส้ ที่สร้างจากเพลิงนรก สามารถฆ่าเขาได้ทันที หากเสียงของเคิร์ทที่3ช้าไปครึ่งอึดใจ หัวของมุจักคงกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นไปแล้ว

อึก มุจักกลืนน้ำลายลงขณะที่เขาตระหนักว่าเขาได้ใกล้ความตายมากแค่ไหน เวโรนิก้าได้สลายเพลิงนรกไปก่อนที่จะถึงคอของเขา การโจมตีครั้งนี้เป็นเพียงการเตือนล่วงหน้าว่าเธอจะฆ่าเขาทันทีที่เขาขยับ

พาร่าได้กล่าวต่อ “มันไม่น่าเชื่อแต่มันเป็นความจริง มันง่ายที่จะพิสูจน์หลังจากที่ได้เห็นโบราณสถาน”

“…นั่นหมายความว่าอย่างไร?”

“โบราณสถานจะมีความยาว300เมตรและเป็นโดมที่สร้างจากโลหะสีเงินขาว แม้กระทั่งปรมาจารย์ดาบยังไม่สามารถที่จะสร้างรอยขีดข่วนได้โดยง่าย”

“จะ-เจ้ารู้ได้ยังไงกัน?”มุจักไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะเขาเคยเห็นมันโดยตรง

สิ่งก่อสร้างสีเงินที่อยู่ตรงกลางทะเลทราย....มันเป็นเรื่องลึกลับที่ไม่อาจจะสร้างได้ด้วยเทคนิคในยุคนี้ เด็กสาวคนนี้ได้กล่าวถึงมันอย่างถูกต้อง

“ดูเหมือนคำพูดของเจ้าจะเป็นความจริง”เคิร์ทเข้าใจถึงความจริงจากปฏิกิริยาของมุจักและยิ้มให้ “ตอนนี้ นี่เป็นเพียงข้อมูลเดียวที่เจ้านำมาซึ่งเกี่ยวกับแอนดราส เจ้าไม่คิดว่าราคาของมันนั้นต่ำไปงั้นหรือ?”

“…ท่านต้องการอะไรอีก?”มุจักยกมือทั้งสองข้างขึ้น การช่วยเหลือออสเต็นจะมีราคาอย่างน้อยหลายแสนเหรียญทอง ไม่มีทางที่ข้อมูลที่เขาเหลืออยู่จะมีค่าถึงขนาดนั้น

“เขียนสัญญา”เคิร์ทยิ้มด้วยท่าทางผ่อนคลาย แต่ดวงตาของเขาราวกับนักล่าที่ดุร้าย “เจ้าจะนำทีมสืบสวนของเมลเทอร์ไปยังสถานที่แห่งนั้นและจะไม่มีส่วนร่วมใดๆในสิ่งที่เราค้นพบ นอกจากนี้ไม่ใช่ว่าผู้นำYellow Tower ของพวกเรามีสิทธิ์ในสถานที่แห่งนั้นแต่แรก?”

“มันอยู่ในดินแดนของออสเต็น!”

“เจ้าไม่สามารถรับมือกับแอนดราสได้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะเข้าใจผิดไป นี่ไม่ใช่การเจรจาต่อรอง”ด้วยดวงตาและน้ำเสียงที่เย็นชา นี่คือราชาผู้ปกครองอาณาจักร “หากเจ้าไม่สามารถยอมรับมันได้ ข้าจะล่ามเจ้าอีกครั้ง จากนั้นเจ้าจะทำได้เพียงรออยู่อย่างเงียบๆจนกระทั่งเรื่องราวได้จบลง”

***

การเจรจาของมุจักได้สิ้นสุดลงเพียงแค่นั้น เขาได้เซ็นสัญญาว่าจะอุทิศตัวให้กับทีมสืบสวน จากนั้นเขาก็ถูกลากออกไป มุจักไม่สามารถที่จะทำอะไรได้จนกว่าการสืบสวนโบราณสถานจะสิ้นสุดลง

เหล่าทหารเอกที่สลบอยู่ก็ถูกนำออกไปเช่นกัน

“ฟู่ มันจบแล้ว”

“ฉันอยากสู้...”

แน่นอน ทุกคนที่นี่ต่างหวาดกลัวลูกหลงจากการต่อสู้ของเวโรนิก้าทั้งสิ้น

ไม่นานหลังจากนั้น เคิร์ทก็ได้ยกมือขึ้นและหยุดการพูดพล่อย “แล้ว เราจะเลือกทีมสืบสวนที่จะถูกส่งไป”

เนื่องจากความขัดแย้งกับแอนดราส นี่จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มันไม่ใช่การสืบสวนทั่วๆไป ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องคนที่มีความสามารถในการรบที่ยอดเยี่ยม

“เวโรนิก้า เจ้าไป”

“ในที่สุดก็ถึงตาของฉัน?อันที่จริง ฉันนั้นดีกว่าบลันเดลล์ในทะเลทราย”

มันเป็นเช่นที่เธอบอก ในฐานะที่เป็นจอมเวทย์ที่ขึ้นอยู่กับความชื้น พลังของบลันเดลล์จะลดลงในทะเลทราย ในทางกลับกัน เงื่อนไขเหล่านี้ถือว่าดีสำหรับเวโรนิก้า ความร้อนจากทะเลทรายจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่เธอแทนที่จะทำร้ายเธอ

อย่างไรก็ตาม คำพูดของเคิร์ทไม่ได้สิ้นสุดลงแค่นั้น

“Quattro พวกเจ้าต้องการเข้าร่วมหรือไม่?”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท หากท่านส่งพวกเราไป พวกเราจะเข้าไปในโบราณสถานให้ได้”

“ดีมาก ไปและตรวจสอบกับเวโรนิก้า”

นี่เป็นโอกาสที่จะได้เห็นสิ่งก่อสร้างจากยุคโบราณกาล สิ่งประดิษฐ์ที่พาร่าเตรียมไว้ให้แก่เขา เขารู้สึกเสียใจอย่างมากที่พลาดมันไปในฐานะจอมเวทย์ ยิ่งไปกว่านั้น แอนดราสยังมีหนี้ที่พวกเขาต้องจ่าย

อย่างไรก็ตาม หัวข้อที่ไม่คาดคิดก็ได้ถูกยกขึ้นมา

“ฝ่าบาท แล้วแขกจากเอลฟ์เฮล์มละ?”

“มีอะไรเกี่ยวกับพวกเขา?”

“ตามคำกล่าวของหัวหน้าQuattro ผู้คุ้มกันทั้งสองของท่านหญิงเอลโลน่า ต่างอยู่ในระดับเหนือธรรมชาติ เช่นนั้น บางทีพวกเราควรขอความช่วยเหลือจากพวกเขา”

“ไม่ได้ พวกเราไม่สามารถ”เคิร์ทตอบกลับทันทีและให้เหตุผลของเขา “พวกเขาเป็นแขกของเมลเทอร์ เราไม่สามารถขอให้พวกเขาต่อสู้ได้ด้วยเรื่องนี้ และทะเลทรายจะเป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณธาตุ มันจะไม่สุภาพหากร้องขอให้พวกเขาเดินทางไปพร้อมกับทีมสืบสวน”

“อ่า ท่านพูดถึง กระหม่อมคิดสั้นเกินไป”

เข้าก้าวถอยหลังไปด้วยความอับอาย ขณะที่คนอื่นพูดขึ้น

“ฝ่าบาท ทีมสืบสวนจะออกเดินทางตอนไหน?งานประลองเวทมนต์พึ่งจะเริ่มขึ้นเองนะ ฝ่าบาท”

“ถูกต้อง เช่นนั้น ศัตรูจะต้องคิดว่าเราจะไม่เคลื่อนไหวในเวลานี้ ทีมจะมุ่งหน้าไปยังทะเลทรายมิวส์ทันทีที่การเตรียมการเสร็จสิ้น”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท คำพูดของท่านถูกต้อง”

ทุกคนพยักหน้าให้กับคำพูดของเคิร์ท และการประชุมฉุกเฉินก็ได้สิ้นสุดลง พวกเขาต่างเหนื่อยล้าจากการเตรียมงานประลองเวทมนต์และงานเลี้ยงเมื่อคืนที่ผ่านมา ดังนั้นพวกเขาจึงรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเพียงสมาชิกQuattro เหล่าผู้นำหอคอยและเคิร์ทเท่านั้นที่อยู่ในห้อง

บลันเดลล์ได้ลูบเคราสีขาวของเขาและพูดกับเคิร์ท “5คน ไม่สิ ไม่ใช่ว่า6คนหากนับรวมเจ้าออสเต็นนั่นด้วย?ฝ่าบาท เพียงแค่6คนจะไม่เป็นไรงั้นหรือ?”

“ตาแก่ อะไรนะ?คุณไม่เชื่อในความสามารถของฉันงั้นหรอ?”เวโรนิก้าเย้ยหยัน

“ข้าจะรู้สึกโล่งใจหากเจ้าไปคนเดียว....”

“ว่าไงนะ?”

บลันเดลล์เป็นชายที่ดูโง่เขลาและไม่ใส่ใจเรื่องภายนอก แต่ทว่า ซิลเวียได้เข้าร่วมกับทีมด้วย ดังนั้นเขาจึงกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ธีโอดอร์มองไปที่สองจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ด้วยท่าทางเหนื่อยล้า ทั้งสองคนต่างใกล้เคียงกับภัยพิบัติทางธรรมชาติมากเสียยิ่งกว่ามนุษย์แล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่ต่อกรกับทั้งสองคนจะจบไม่สวยแน่นอน

อย่างไรก็ตาม มือของเวโรนิก้าได้พุ่งราวกับสายฟ้าและคว้าธีโอดอร์เอาไว้

“อ๊ะ”

“เด็กนี้ก็เป็นจ้าวมนตราเช่นกัน ไม่ใช่ว่าพวกเรามีความแข็งแกร่งที่เพียงพองั้นหรอ?ใช่มั้ย?ตาแก่ พูดอะไรบ้างเส้!”

“ขะ-เขายังไม่สมบูรณ์...”

“อ่า เขายังไม่ได้เรียน’ศาสตร์เวทย์’”เวโรนิก้านึกได้ว่าเธอลืมอะไรไป ในขณะเดียวกัน ธีโอดอร์ก็มีความสุขที่ได้แนบชิดกับเธอ

โชคดี เวโรนิก้าได้ปล่อยเขาอย่างเร็วและพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “เอาละ การเดินทางจะใช้เวลาไม่ถึง1หรือ2วัน ฉันจะสอนเธอเกี่ยวกับศาสตร์เวทย์ตลอดทาง มันจะเข้าใจได้ง่ายหากให้ฉันสอนแทนที่จะเป็นออร์ต้า”

“แค่ก แน่นอน แต่...”

“ใช่แล้ว”

สองผู้นำหอคอยต่างเห็นด้วยที่จะให้เวโรนิก้าสอนธีโอดอร์

ธีโอดอร์ไม่ทราบว่ามันหมายความว่าอะไร ทำไมมันจึงดีกว่าหากเรียนรู้จากเวโรนิก้าแทนที่จะเป็นบลันเดลล์หรือออร์ต้า?มันยังคงเป็นบทสนทนาที่ธีโอดอร์ ผู้รู้เพียงแค่ผิวเผินแก่ศาสตร์เวทย์ ไม่เข้าใจ

ในขณะนั้น เคิร์ทที่เฝ้าดูพวกเขา ก็ได้เปิดปากขึ้น “เวโรนิก้า ออร์ต้า”

“หือ?”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”

“พรุ่งนี้คือรุ่งอรุณ”

เคิร์ทได้พูดอย่างกะทันหัน แต่ทั้งสองคนต่างเข้าใจความหมายนั้นดีและพยักหน้า เคิร์ทที่3กำลังมองไปยังจุดจบของสงครามซึ่งกินเวลานานหลายร้อยปี และโบราณสถานนี้จะเป็นตัวตัดสินที่สำคัญของการต่อสู้

‘มันจะเป็นในอีก10ปีข้างหน้า หรืออาจจะเร็วกว่านั้น’

สงครามที่แสนยาวนาน สงครามระหว่างขุมอำนาจตอนเหนือใกล้จะถึงจุดจบแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด