บทที่ 11 : หนึ่งพันเหรียญเงินในแต่ละครั้ง

 

หลี่รู่ต้องการช่วยผู้อาวุโสที่หกออกจากสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ถึงแม้ว่าเธอจะอยากช่วยแต่เธอก็ไม่มีอำนาจที่จะช่วยเหลือเขาได้

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเธอได้ใช้เงินทั้งหมดของเธอในการซื้อยาเพื่อช่วยบุตรชายของเธอเสริมสร้างร่างกาย

เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายในการซื้อสมุนไพรทำน้ำยาบ่มเพาะร่างกายของหลิงเทียนทำให้ล่าสุดเงินออมทั้งหมดของเธอมีจำนวนเงินหนึ่งร้อยเหรียญเท่านั้น

"มีอะไรผิดพลาด, ผู้อาวุโสที่ห้า? ท่านไม่กล้าเดิมพันกับผู้อาวุโสที่เจ็ดหรือ? " หลี่ปิงหัวเราะด้วยท่าทางที่อิ่มเอมใจ

เช่นเดียวกับหลี่ถิงกำลังจะขอให้ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ กู้ยืมเงิน

"ผู้อาวุโสที่เจ็ด ข้าจะพนันกับท่านเอง" มีเสียงดังจากระยะไกล

เสียงดังมาจากเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่จับมือเดินเข้ามาด้วยกัน คนที่พูดก่อนหน้านี้ก็คือเด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มมีคิ้วรูปดาบ หล่อเหลาและดวงตาระยิบระยับเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า

แน่นอนเขาคือต๋วนหลิงเทียน!

"ผู้อาวุโสที่เก้า หลังจากใช้เงินจำนวนมากกับบุตรชายของท่านในปีนี้ เงินที่เหลือยังเหลืออยู่ห้าร้อยเหรียญหรือไม่"

ผู้อาวุโสที่เจ็ดหลี่คุนหัวเราะเยาะ ขณะที่จ้องมองอย่างล้ำลึกไปที่หลี่รู่

คิ้วของหลี่รู่กระตุกเล็กน้อยและเธอก็ถอนหายใจเบา ๆ ในใจ

<เทียน, ??เด็กคนนี้เขาคงไม่หวังให้ข้ามีเงินถึงห้าร้อยใช่มั้ย?>

"คาราวะ ท่านประมุข ผู้อาวุโสใหญ่ และผู้อาวุโสทุกคน"

หลิงเทียนเดินขึ้นไปบนเวทียกสูง ขณะที่จับมือของเค่อเอ๋อร์ และค่อยๆโค้งคำนับให้กับสายหลักของตระกูลหลี่

ท่านประมุขเหลือบมองไปที่หลิงเทียนด้วยความรู้สึกตกใจ ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นหลิงเทียนคือเมื่อเดือนที่แล้ว

ในขณะนั้นหลี่รู่อยู่ในความโกรธ และกำลังลงโทษบุตรชายของผู้อาวุโสที่เจ็ด, หลี่ซิน ในเวลานั้นหลิงเทียนเป็นคนอ่อนแอ แต่ตอนนี้หลิงเทียนดูเหมือนเป็นคนละคนแตกต่างไปจากนี้อย่างสิ้นเชิง!

"ขั้นสามของขั้นบ่มเพาะร่างกาย หลิงเทียน จริงๆ แล้วเจ้าทะลวงเข้าสู่ระดับสามของขั้นบ่มเพาะร่างกาย!"

เมื่อหลี่หนานเฟิงมองดูระดับการบ่มเพาะของหลิงเทียนแล้ว ม่านตาของเขาหดตัวลง และใบหน้าก็แสดงความไม่เชื่อ

น้ำเสียงตกใจของหลี่หนานเฟิงเหมือนกับก้อนหินกระทบสระน้ำก่อให้เกิดคลื่นเป็นริ้วๆ

ทันทีที่ทุกคนบนเวทีมองหลิงเทียนแบบเต็มตา ทุกคนบนเวทียกเว้นหลี่รู่ และหลี่ถิง มีการแสดงออกของความไม่เชื่อ

"ถ้าความจำของข้าถูกต้อง เดือนที่ผ่านมาเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากหลี่ซินและตอนนั้นเขายังไม่ได้เป็นผู้ฝึกตนด้วยซ้ำ!"

"ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน จากคนธรรมดามาถึงระดับที่สามของขั้นบ่มเพาะร่างกาย... ถ้าข้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย"

"ท่านมองไม่ออกหรือ เขาอยู่ในระดับที่สามของขั้นบ่มเพาะร่างกายดูเหมือนว่าเขาจะต้องได้รับสมบัติบางอย่างด้วยความบังเอิญ! "

ผู้อาวุโสที่เจ็ดและผู้อาวุโสยืนโง่งมไปสักครู่ เรื่องนี้ทำพวกเขาทำตัวไม่ถูก

ผู้อาวุโสหลี่ฮั่วลืมตาและมองไปที่หลิงเทียนด้วยสีหน้าแปลกใจ

หลี่คุนหนาวเหน็บไปทั้งร่าง

ที่หลิงเทียนทะลวงผ่านระดับที่สามของขั้นบ่มเพาะร่างกายเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเขา

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคิดถึงความแตกต่างระหว่างระดับที่สามกับระดับที่สี่ของ ขั้นบ่มเพาะร่างกาย เขาก็รู้สึกสบายใจอีกครั้ง

ในความเห็นของเขา หลิงเทียนอยู่ในระดับที่สองหรือระดับที่สามของขั้นบ่มเพาะร่างกายไม่ต่างอะไรสำหรับบุตรชายของเขาหลี่เจีย

"หลิงเทียน เจ้าบอกก่อนหน้านี้ว่าเจ้ายินดีที่จะพนันกับเงินห้าร้อยเหรียญไหม?" หลี่คุนมองไปที่หลิงเทียนตามที่เขาถาม

"ใช่." หลิงเทียนพยักหน้า

"แต่ตามความเข้าใจของข้า ผู้อาวุโสเก้าได้ใช้เงินส่วนใหญ่กับเจ้าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นข้าจึงกลัวว่าเงินของเขาอาจมีไม่ถึงห้าร้อย"

หลี่คุนกล่าว ใบหน้าของเขาแสดงออกอย่างนุ่มนวลในขณะที่เขารอคอยหลิงเทียนตอบ

"ท่านพูดถูกแล้ว ครอบครัวของข้าจริงๆไม่สามารถรวบรวมห้าร้อยเหรียญเงินได้" หลิงเทียนพยักหน้า

สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวของเขาเป็นเรื่องที่เขารู้ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงต้องการโกงหลี่คุนให้ได้ห้าร้อยเหรียญเงิน

"หลิงเทียนการเดิมพันระหว่างข้ากับผู้อาวุโสที่ห้า และผู้อาวุโสที่หก โดยใช้เงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน เงินจะต้องถูกส่งให้ท่านประมุขเพื่อให้ท่านเป็นพยาน ถ้าเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเดิมพันได้โดยไม่ต้องมีเงิน เจ้าผิดแล้ว " หลี่คุนยิ้มเยาะเย้ย

"ข้าบอกว่าข้าจะวางเดิมพันโดยไม่ต้องมีเงินก่อน? ท่านคิดว่าข้าเหมือนท่านหรือ? "

คำดูถูกของหลิงเทียน ทำให้ตาของหลี่คุนลุกเป็นไฟ หลิงเทียนปล่อยมือของเด็กสาว และพูดเบา ๆ ว่า "เค่อเอ๋อร์ ไปหาท่านแม่ของข้า"

เด็กสาวฉลาดพยักหน้า และเดินไปยืนข้างหลี่รู่

"ผู้อาวุโสเก้า ท่านช่างโชคดี!"

พวกผู้ใหญ่บางคนลุกขึ้นมองสาวน้อยคนนี้ และแสดงความยินดีกับหลี่รู่อีกครั้งหนึ่ง

พวกเขาทั้งหมดสังเกตเห็นว่าเด็กสาวจะเติบโตขึ้นมามีความงามเหมือนหลี่รู่

หลี่รู่ยิ้มตอบต่อการแสดงความยินดีของผู้อาวุโส ตรงหน้าของเธอใบหน้าของเด็กสาวคนนี้เริ่มขึ้นสีแดงขึ้นจากความอาย

<"เทียนกำลังวางแผนที่จะทำอะไร?">

การเฝ้าดูบุตรชายของเธอต่อต้านผู้อาวุโสที่เจ็ดหลี่คุน ดวงตาของหลี่รู่กระพริบด้วยข้อสงสัย มันเป็นการยากที่จะเข้าใจบุตรชายของเธอ

"งั้นลองดูซิว่า หลิงเทียนหาเงินห้าร้อยเหรียญเงินวันนี้ได้อย่างไร ถ้าข้ามองไม่ผิด แม้แต่ผู้อาวุโสห้าก็ยังไม่สามารถหาเงินอีกห้าร้อยเหรียญเงินได้ภายในวันเดียว " หลี่คุนเหลือบมองหลิงเทียนด้วยความรังเกียจ

เมื่อหลี่ถิงกำลังจะหยิบเงินสามร้อยเหรียญเงิน คำพูดของหลิงเทียนก็ไม่เพียงแต่ขัดจังหวะการกระทำของเขาเท่านั้น แต่ยังทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ

"ไม่ต้องกังวล ท่านอาวุโสที่เจ็ด ข้าไม่ได้วางแผนที่จะยืมเงินจากท่านอาวุโสที่ห้า ... "

หลิงเทียนกล่าวภายใต้การจ้องมองของความไม่น่าเชื่อจากตระกูลหลี่ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ตรงหน้าผู้อาวุโสหลี่หวู่

"ผู้อาวุโส ข้ารู้ว่าท่านมักจะต้องบ่มเพาะ และปรับแต่งยาทำให้ร่างกายของท่านอาจมีอาการบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่มากมาย ข้าจะช่วยนวดให้ท่านหาย และจากนั้นท่านให้เงินห้าร้อยเหรียญเงิน?" หลิงเทียนหันไปมองหลี่ฮั่วและยิ้มบาง

"เทียน อย่าสร้างปัญหา! " หน้าของหลี่รู่บิดเบี้ยว

ในตระกูลหลี่สถานะของผู้อาวุโสอยู่เหนือท่านประมุข เมื่อเห็นว่าบุตรชายของเธอถูกครอบงำอยู่หน้าผู้อาวุโส เธอรู้สึกโกรธและเป็นห่วง

การบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่หรือ?

ผู้อาวุโสเป็นนักปรุงยาระดับเก้า ถ้าเขามีอาการบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่จริงๆ เขาก็คงจะรักษาตัวเองอยู่แล้ว

เมื่อท่านประมุข และกลุ่มผู้อาวุโสคิดว่าผู้อาวุโสหลี่ฮั่วจะโกรธ

"เจ้าต้องการห้าร้อยเหรียญเงินเพียงเพื่อนวดให้ข้า? เด็กน้อยเจ้าเรียกราคาที่สูงเกินไป " หลี่ฮั่วเหลือบมองหลิงหนิงด้วยท่าทางที่ทึ่งไม่น้อย และยกยิ้มเล็กน้อย

"ผู้อาวุโส ข้าจะให้บริการนวดตัวแรกของท่าน หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว ท่านจะตัดสินผลเอง และจ่ายเงินให้ข้าตามที่ท่านคิดว่าคุ้มค่า" หลิงเทียนทำอะไรไม่ได้กับสิ่งที่หลี่ฮั่วกล่าวไว้

เมื่อได้ยินหลิงเทียนกระตุ้นความสนใจ หลี่ฮั่วจะปฏิเสธได้อย่างไร

"ตกลง ข้าอยากรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เจ้าทำได้"

เหตุผลเดียวที่เขาเห็นด้วยก็คือหลิงเทียนเปลี่ยนไปมากจากเดือนที่ผ่านมา ในเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านไป เขาถึงระดับที่สามของขั้นบ่มเพาะร่างกาย จากคนธรรมดาเป็นอัจฉริยะที่ไม่น่าเชื่ออย่างแท้จริง

ในฐานะที่เป็นนักปรุ่งยาเขาย่อมรู้ดีอยู่แล้ว

คนปกติจะไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นนักสู้ระดับที่สามขั้นบ่มเพาะร่างกายได้ภายในเวลาเพียงเดือนเดียว แม้ว่าบุคคลนั้นจะมียาช่วยบ่มเพาะร่างกายที่ไม่จำกัด

ตอนนี้หลิงเทียนเป็นตัวตนที่ค่อนข้างลึกลับ

นอกจากนี้ร่างกายของเขายังมีอาการบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่ ซึ่งทำให้เขาเป็นห่วงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะลองนวดตามคำเชิญของหลิงเทียน

เมื่อหลิงเทียนยืนอยู่ข้างหลังหลี่หวู่ เขาวางมือลงบนไหล่ของเขา ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ของตระกูลหลี่ก็แสดงออกแปลก ๆ บนใบหน้าของพวกเขา

พวกเขาคิดว่าบุตรชายของผู้อาวุโสที่เก้ากำลังฝันอยู่ ถ้าการนวดแบบสบาย ๆ ได้รับเงินห้าร้อยเหรียญเงินจริงๆ พวกเขาจะลาออกจากการเป็นผู้อาวุโสเพื่อไปเป็นหมอนวด

ไม่เคารพผู้อาวุโส และกล้าเล่นลูกเล่นกับผู้อาวุโส! เมื่อเห็นฉากนี้มุมของปากของหลี่คุนเป็นรอยยิ้มอันหนาวเหน็บ

ไม่เพียงแต่ผู้อาวุโสจะโกรธ นี่เป็นอาชญากรรมต่อตระกูลหลี่! ในความเห็นของเขา หลิงเทียนโชคร้ายแน่ๆ

หลี่เจีย และศิษย์ของตระกูลหลี่ที่อยู่ในโถงฝึกซ้อมไม่สามารถได้ยินสิ่งที่คนบนเวทีสูงพูดได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อเห็นหลิงเทียนยืนอยู่ข้างหลังผู้อาวุโส และให้เขานวด ดวงตาของพวกเขาแทบจะถล่นออกมา และหน้าดำทะมึนกันเป็นแถบ!

หลิงเทียนคิดจะทำอะไร? เขาคิดว่าการนวดให้ผู้อาวุโสจะทำให้ผู้อาวุโสมอบพลังให้เขา เพื่อเอาชนะหลี่เจีย?

“บ้าเอ้ย! หลิงเทียนทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่?”

"แทนที่จะเข้าสู่สนามรบทันทีที่เขามาถึง เขากลับไปยุ่งกับพวกผู้อาวุโส เขาพยายามที่จะเอาชนะใจผู้อาวุโส เพราะเขากังวลว่าหลี่เจียจะเอาชนะเขาได้? "

"ข้าว่าเจ้าพูดถูก ดูเหมือนนี่จะเป็นคำอธิบายที่เป็นไปได้เพียงอย่างเดียว "

......

การกระทำของหลิงเทียนทำให้เกิดความโกรธในฝูงชน

"ผู้อาวุโส ขณะที่กำลังนวดอยู่ โปรดอย่าหมุนเวียนพลังงานต้นกำเนิดของท่าน" หลิงเทียนกล่าวกับผู้อาวุโสหลี่หวู่ ใช้กำลังในมือของเขาเขาเริ่มขยับไหล่ของหลี่หวู่ ...

ในขณะนี้ส่วนของความทรงจำที่กระพริบอยู่ในใจของเขา ความทรงจำนี้เป็นการเกิดใหม่ของจักรพรรดิ มันเป็นเทคนิคการนวดที่แยบยลมาก เทคนิคนี้ทำเพื่อรักษาผลข้างเคียงที่มีอยู่ในร่างกายของนักปรุงยา

ตอนที่เขาได้เห็นผู้อาวุโสเป็นครั้งแรก หลิงเทียนสังเกตเห็นจากจุดสีดำอ่อนระหว่างคิ้วของเขาว่าเขากำลังทุกข์ทรมานจากผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงประเภทนี้มักแสดงออกกับนักเล่นแร่แปรธาตุเกรดต่ำที่ต้องค้นคว้าวิธีการกลั่นยาด้วยตัวเอง

โดยปกติผลข้างเคียงเหล่านี้จะไม่ทำให้เกิดอาการไม่สบายใด ๆ แต่เมื่อนักเล่นแร่แปรธาตุไหลเวียนพลังงานต้นกำเนิดจะมีอาการปวดบางอย่างในร่างกาย ในบางครั้งความเจ็บปวดนี้จะเจ็บมากจนรู้สึกว่ามีดกรีดลึกอยู่ภายในใจ และชีวิตจะไม่ดีไปกว่าความตาย

หลิงเทียนได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้จากความทรงจำของการเกิดใหม่ของจักรพรรดิ

การเกิดใหม่ของจักรพรรดิเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่น่าเกรงขาม เขาค้นคว้างานศิลปะแห่งการกลั่นกรองยาเพื่อการเรียนรู้ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่เขาไม่สามารถทำได้

ฉับพลันการเคลื่อนไหวมือของหลิงเทียนที่กำลังนวดหัวไหล่ผู้อาวุโสหลี่ฮั่วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!

การแสดงออกของผู้อาวุโสหลี่ฮั่วเปลี่ยนจากความเงียบสงบ เขาก็เริ่มสั่น ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ขบฟันด้วยท่าทางดุร้ายบนใบหน้าราวกับว่าเขากำลังรับมือกับอาการปวดอย่างรุนแรง

ตระกูลหลี่ที่อยู่บนเวทีรู้สึกหนาวสั่นไปหมด ความเจ็บปวดมากแค่ไหนที่จะทำให้ผู้อาวุโสมีสีหน้าดังกล่าว?

สิบห้านาทีต่อมา หลิงเทียนหยุดในขณะที่เหงื่อไหลออกมามาก

"ฮูว!”

ขณะนั้นเองหลี่หวู่ถ่มน้ำลายออกมา หลังจากที่ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาเขาก็ส่องประกายระยิบระยับ ดูเหมือนเขาจะเด็กขึ้นอีกสิบปี

พลังงานต้นกำเนิดไหลเวียนได้อย่างราบรื่นทั่วร่างกายทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ในอดีตการหมุนเวียนพลังงานต้นกำเนิดของเขาจะเปิดอาการบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่ แต่ในขณะนี้ดูเหมือนว่าการบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่เหล่านี้จะหายไป

"ผู้อาวุโส ท่านยังต้องได้รับการนวดอีกสองครั้งหลังจากนี้ เพื่อจัดการกับอาการบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของท่านอย่างครบถ้วน ตอนนี้ท่านรู้สึกยังไงผู้อาวุโส? ท่านคิดว่าท่านควรให้ข้าเป็นเงินเท่าไหร่? " หลิงเทียนยิ้มจาง ๆ

ผู้อาวุโสหลี่หวู่หัวเราะเสียงดัง และหยิบธนบัตรเงินออกมา

"เอาไปหนึ่งพันสำหรับตอนนี้ ทุกครั้งที่เจ้ามานวดให้ข้า ข้าจะให้เจ้าอีกหนึ่งพันเช่นนี้ เจ้าคิดว่าไงล่ะ? "