ตอนที่แล้วตอนที่ 24 : กระบี่อ่อนสะเก็ดดาวตกม่วง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26 : จารึกอาคมเพลิงอัสนี

ตอนที่ 25 : ไขมันน้อย


ลี่หลงนับว่าเป็นคนที่มีฝีมือมากผู้หนึ่ง

วันรุ่งขึ้นฝักกระบี่ที่สร้างจากหนังทั้ง 2 ฝักก็ถูกส่งมายังบ้านของหลิงเทียน

สิ่งที่ยอดเยี่ยมก็คือการที่ลี่หลงนำเศษสะเก็ดดาวตกม่วงที่เหลือจากการหลอมสร้างกระบี่ มาฉาบไว้ด้านในของฝักกระบี่รวมถึงบริเวณส่วนปลายด้านเก็บกระบี่เข้ามีสะเก็ดดาวตกม่วงฉาบอยู่จำนวนมาก

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เวลาหลิงเทียนชักหรือเก็บกระบี่อ่อนนี้จะทำให้ ตัวฝักกระบี่ไม่ได้รับความเสียหาย

กระบี่อ่อนทั้งสองเล่มนี้ หลิงเทียนเก็บไว้ใช้เองหนึ่งเล่ม ส่วนอีกเล่มมันเตรียมจะมอบให้แก่เค่อเอ๋อ สำหรับมารดาของมันนั้นหลิงเทียนมีสิ่งที่คิดว่าจะมอบให้นางอยู่ในใจแล้ว แต่ยังไม่สามารถกระทำได้ตอนนี้

เขาวางแผนไว้ว่า ทันทีที่เขาตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิด เขาจะสร้างกระบี่วิญญาณให้มารดาด้วยตนเอง!

กระบี่ยาว ที่เป็นอาวุธระดับวิญญาณ

กระบี่วิญญาณนี้ ผู้ใช้สามารถถ่ายพลังต้นกำเนิดลงไปในตัวอาวุธได้ ทำให้มันเพิ่มอำนาจการโจมตีขึ้นมาเหนือกว่าอาวุธระดับธรรมดาอย่างสูง!

"ท่านแม่ ดูเหมือนผู้ดูแลลี่หลง จะให้ความเคารพต่อท่านมาก ข้าได้ยินเขากล่าวถึงเรื่องที่ หากไม่ได้ท่านไปขอร้องประมุขตระกูลลี่ ตัวเขาคงไม่ได้อาศัยอยู่ในตระกูลลี่ถึงทุกวันนี้ เรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไรหรือท่านแม่?" หลิงเทียนเอ่ยถามขึ้นมาช้าๆ ก่อนที่จะสัมผัสไหล่ของมารดาเขา ตรงบริเวณลานบ้าน

"เรื่องนี้มันผ่านมาราว 10 ปีแล้วเห็นจะได้ ยามนั้นลี่หลงได้แอบลักลอบมีความสัมพันธ์กับบุตรสาวของผู้อาวุโสคนหนึ่ง ด้วยความไม่ระวังพลั้งเผลอจนทำให้นางตั้งครรภ์ขึ้นมา หลังจากนั้นเจ้าคงคาดเดาถึงผลลัพธ์การกระทำและบทลงโทษได้แล้วกระมัง เขาถูกโบยด้วยไม้ลงทัณฑ์อย่างหนักก่อนที่จะถูกขับไล่ออกจากตระกูล หลักจากที่เขาถูกขับไล่ออกจากตระกูลไปแล้ว ภรรยาของเขากลับเลือกที่จะคลอดบุตร ทำให้ผู้อาวุโสคนนั้นเดือดดาลอย่างมาก "

"น่าเสียดายโชคชะตาของนางอาภัพนัก คล้อยหลังการคลอดบุตรไม่ทันไร นางกลับต้องเสียชีวิตลงเพราะตกเลือดและมีอาการแทรกซ้อนจากการคลอดบุตร เมื่อข้าเห็นว่าเด็กน้อยที่พึ่งลืมตาดูโลกไร้ผู้ดูแล ข้าเลยไปขอร้องให้ประมุขตระกูลลี่ นำเขากลับเข้าสู่ตระกูลเพื่อเป็นบิดาคอยดูแลเด็กน้อย"

สายตาที่เคยทอแววเด็ดเดี่ยวของลี่หลัวกลับฉายแววเศร้าสลดออกมายามที่นางกล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีต หลังจากที่หลิงเทียนได้ฟังคำกล่าวของมารดามันก็อดที่จะเห็นใจชะตาชีวิตของลี่หลงไม่ได้

"คิดไม่ถึงจริงๆ หากตอนนั้นข้าไม่ได้ไปขอร้องท่านประมุข เพื่อให้ลี่หลงกลับมาอยู่ตระกูลลี่ เขาอาจจะจากเมืองวายุโปรยไปนานแล้ว ทีนี้ตระกูลของเราคงต้องสูญเสียช่างตีเหล็กมือหนึ่งของเมืองไปแน่แท้" ลี่หลัวกล่าวออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ

หลิงเทียนพยักหน้าเห็นด้วย โลกใบนี้ทุกคนล้วนแล้วแต่มีโชคชะตานำพาแทบทั้งสิ้น

"ลูกเทียน ส่วนตัวเจ้า ยามนี้ให้รีบกลับไปบ่มเพาะเสียเถิด ยังมีเวลาเหลืออีกสองเดือน ด้วยความช่วยเหลือของเม็ดยาเพลิงอัสนี และ โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวน มันคงช่วยให้เจ้าตัดผ่านไปยังระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 7 ได้ทันท่วงที "

ลี่หลัวกล่าวกระตุ้นหลิงเทียนเพื่อให้เขากลับไปเร่งการบ่มเพาะร่างกาย หลังจากที่นางได้ประจักษ์ถึงเพลงกระบี่ว่องไวเลิศล้ำของบุตรชาย นางย่อมมีความเชื่อมั่นในตัวมันอยู่ไม่น้อย

ตราบใดที่บุตรของนางมีระดับการบ่มเพาะร่างกายอยู่ที่ขั้น 7 นางเชื่อว่าการสังหารผู้ดูแลตระกูลฟางคงไม่มีปัญหาอะไร

"ครับท่านแม่!" หลิงเทียนยืนตัวตรงดุจหอกเล่มหนึ่ง ก่อนที่จะทำความเคารพราวกับทหาร

หลังจากหลิงเทียนทำความเคารพมารดาของมันเสร็จมันก็หันหลังกลับเข้าไปในบ้านทันที ทิ้งมารดาของมันให้ยืนงงกับท่าทางทำความเคารพของมันไว้เบื้องหลัง

"ลูกเทียนเขาทำท่าอันใดของเขากัน?" ลี่หลัวยังคงยืนสงสัยในท่าทางของหลิงเทียนเมื่อครู่

บางทีหากนางได้มีโอกาสไปท่องโลกกว้าง นางคงรับรู้ได้ว่าท่าทางที่ลูกชายของนางกระทำเมื่อครู่ เป็นรูปแบบการทำความเคารพที่เป็นสากลของทหาร

กาลเวลาพ้นผ่านยากหยุดยั้ง เพียงพริบตาหนึ่งเดือนครึ่งได้ล่วงเลยผ่านไป

บรึมมม แคร่ก กร๊อบบ!!

ในยามเช้าตรู่ของวันเสียงกระดูกลั่นปะทุดังออกมาจากร่างกายของหลิงเทียน หลังจากนั้นเพียงครู่หนึ่งหลิงเทียนก็ออกมารับไอแดดยามเช้านอกบ้านพัก

"ใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนครึ่ง ตามที่ข้าคาดไว้"

มุมปากของหลิงเทียนค่อยๆเผยรอยยิ้มกว้างออกมา สองมือของเขากำหมัดแน่น ความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยพลังราวกับไร้ที่สิ้นสุดเช่นนี้มันเป็นธรรมดา เมื่อคนผู้หนึ่งพึ่งตัดผ่านระดับชั้นมา

ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเม็ดยาเพลิงอัสนีและ โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวน ทำให้หลิงเทียนเลื่อนระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 5 มายัง ขั้นที่ 7 ภายในเวลาแค่เดือนครึ่ง!

ระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 7 โดยทั่วไปแล้ว จะมีความแข็งแกร่งของร่างกายราว 2,000 ปอนด์

แต่หลิงเทียนที่ได้ฝึกฝนบ่มเพาะตาม วิชา 9มังกรจักรพรรดิสงคราม กลับมีความแข็งแกร่งเหนือล้ำเกินปกติไปกว่าครึ่ง ตอนนี้ร่างกายของมันมีความแข็งแกร่งถึง 3,000 ปอนด์

หากให้เทียบกับพละกำลังยามที่เขามีระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 4 เพียง 300 ปอนด์ .. ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขามากกว่าตอนนั้น ถึง 10 เท่า!

"ข้ายังคงเหลือเวลาบ่มเพาะอีกครึ่งเดือน น่าจะมีเวลาให้ข้าฝึกฝนวิชา วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย ที่เป็นส่วนหนึ่งของ วิชา 9มังกรจักรพรรดิสงครามรูปแบบอสรพิษได้ทันเวลา!"

ประกายตาของหลิงเทียนสว่างวาบขึ้นมายามที่มันคิดถึงเรื่องนี้ มันรีบฝึกฝนวิชา วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกายในลานบ้านทันที ...

หลังจากที่เขาได้ปลูกฝัง 9มังกรจักรพรรดิสงครามรูปแบบอสรพิษ ยามนี้ความยืดหยุ่นของร่างกายเขานับว่าเกินความเข้าใจของคนทั่วไปมากโข

ตอนนี้หลิงเทียนค่อนข้างมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า หากให้ครูฝึกโยคะที่เก่งและชำนาญที่สุดในโลก ก็มีความยืดหยุ่นของร่างกายสู้เขาไม่ได้

“ซึบบบ!”

หลิงหลิงเทียนไปฝึกซ้อมใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่บริเวณมุมของลานบ้าน ร่างกายของเขาเคลื่อนย้ายราวกับว่ามีวิญญาณอสรพิษมาสิ่งร่าง เพียงเวลาแค่ชั่วพริบตาเขากลับสามารถเคลื่อนที่ขึ้นลงรอบต้นไม้ได้นับสิบรอบ

วิชาวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกายนี้ ด้วยการเคลื่อนไหวราวกับผู้ฝึกสวมวิญญาณอสรพิษ มันก่อให้เกิดความเร็วที่น่าตระหนกอย่างยิ่ง หากผู้ฝึกฝนมีความยืดหยุ่นร่างกายสูงมากเท่าไร ความเร็วก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปมากเท่านั้นอย่างน่าสะพรึง!

ซึ่บ!ซึ่บ!ซึ่บ!ซึ่บ!

เขาฝึกฝนวิชานี้ได้อย่างรวดเร็วเพราะว่าร่างกายของเขามีความยืดหยุ่นที่สูงมาก

เพียงหนึ่งชั่วโมง เขาก็เข้าใจส่วนเริ่มต้นของเทคนิค วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกายได้สำเร็จ

ทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้ ความเข้าใจแก่นแท้ของวิชาหมัดมวยต่างๆเมื่อชีวิตก่อน ทำให้ยามนี้เขาฝึกฝนวิชาอะไรเขาก็สามารถทำความเข้าใจถึงแก่นของวิชานั้นไม่ยาก

ยิ่งเขาฝึกฝนมากเท่าไร เขาก็ยิ่งซึมซับแก่นแท้ของวิชามากขึ้นเท่านั้น

หลิงเทียนจมอยู่กับการฝึกฝนบ่มเพาะอยู่ระยะเวลาหนึ่ง แต่เขาก็ต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงจากการเปิดประตูเข้ามายังลานบ้าน

"ท่านแม่!"

ใบหน้าของหลิงเทียนแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ยามที่เขาเห็นว่าผู้ที่เดินเข้ามาคือมารดาของมันเอง

ชีวิตก่อนหน้านี้เขาเป็นแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่ง เขารู้สึกโหยหาและอบอุ่นกับความรักของมารดาที่มีต่อบุตรของลี่หลัว... และเขาก็ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกนี้ ความสุขที่ได้รับมันทำให้เขาอิ่มเอมเป็นอย่างมาก

“ลูกเทียน” ลี่หลัวเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้ม แต่เมื่อนางสังเกตหลิงเทียนดีๆ รอยยิ้มของนางก็หยุดชะงักลง

"ลูกเทียน เจ้าตัดผ่านแล้ว?" เสียงของลี่หลัวสั่นราวกับพบเรื่องน่าตะลึง

"ใช่แล้วท่านแม่" หลิงเทียนพยักหน้าตอบรับ

"ดี ดียิ่ง" ลี่หลัวรู้สึกตื่นเต้นมาก นางไม่อาจเก็บอาการและความดีใจของนางก็ถูกแสดงออกมาทางร่างกายและน้ำเสียง

ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา นางมักกังวลอยู่เสมอว่าบุตรชายของนางจะสามารถตัดผ่านไปยังระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 7 ได้ทันเวลาก่อนที่การต่อสู้ตัดสินจะเริ่มขึ้นหรือไม่

แต่ ณ ตอนนี้ ต้องบอกเลยว่า เป็นตัวนางที่ประเมินหลิงเทียนต่ำไป

บุตรชายของนางสามารถตัดผ่านไปยังระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 7 ได้อย่างน่าทึ่ง เขาใช้เวลาเพียงแค่เดือนครึ่งเท่านั้น ...

"ลูกเทียน วันนี้ข้ามีความสุขมาก ข้าจะออกไปซื้อบางอย่างเพื่อมาทำอาหารเลิศรสฉลองการเลื่อนระดับของเจ้า! "

ใบหน้าสวยงามของลี่หลัวเต็มไปด้วยความยินดี ทันทีที่กล่าวจบนางก็หันหลังวิ่งออกไปทันที

ภายในใจของหลิงเทียนรู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก เขารับรู้ได้ถึงอารมณ์ทั้งหมดของมารดาแล้ว...

มารดาของเขา เปี่ยมไปด้วยความรัก และความเป็นห่วงในตัวเขาอย่างล้นเหลือ...

"ลูกพี่ ลูกพี่!"

ในขณะที่หลิงเทียนกำลังจะฝึกฝนวิชาวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกายต่อนั้น เสียงของใครบางคนก็ดังขั้น

"ไอ้วนบัดซบนี่หนังหน้าช่างหนายิ่งนัก ยังจะหน้าด้านกลับมาอีก" หลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความขุ่นเคือง

เสียงนี้เขาจำได้อย่างแม่นยำ ในหนึ่งเดือนนี้มันมาก่อกวนเขาไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งแล้ว

แต่เขาก็คำนึงถึงความสัมพันธ์อันดีตลอดระยะเวลาของผู้อาวุโส 5 และมารดาของเขา หลิงเทียนจึงวางอคติของเขาลง แต่เหตุเพราะไออ้วนนี่มันก่อกวนเขาหลายครั้งหลายครา ความอดทนที่มีจำกัดกำลังจะหมดลงแล้ว!

หลิงเทียนเปิดประตูทางออกจากล้านฝึกซ้อม ก่อนที่เขาจะเดินออกไป

"ลี่ซวน กี่ครั้งแล้วที่ข้าบอกเจ้า ข้าไม่มีเวลาจะมาสนใจเจ้า หากเจ้ายังก่อกวนข้าไม่เลิก สงสัยข้าคงต้องรายงานเรื่องนี้ให้แก่ผู้อาวุโส 5 ซะแล้วล่ะมั้ง!" หลิงเทียนมองไปที่ไขมันน้อย ก่อนที่จะขมวดคิ้วเป็นปม

"ลูกพี่ ได้โปรดอย่าทำเช่นนั้น! ที่ข้ามาในวันนี้เพราะมีเรื่องจะมาแจ้งต่อท่าน เรื่องนี้ร้ายแรงยิ่ง มันเกี่ยวพันกับท่านโดยตรง "

เมื่อเขาได้ยินหลิงเทียนกล่าวว่าจะนำเรื่องไปฟ้องบิดา เจ้าอ้วนก็รู้สึกหวาดกลัวจับใจ

"เรื่องร้ายแรงอะไรกัน? รีบบอกข้ามา! "

ท่าทีของหลิงเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาเริ่มให้ความสนใจไขมันน้อย จากความรู้สึกของเขา ไออ้วนปากมากผู้นี้คงไม่ได้ล้อเล่นเรื่องนี้กับเขา

"ลูกพี่ ทันทีที่ข้าได้ยินเรื่องนี้ ข้ารีบมาพบท่านเป็นคนแรก ขนาดท่านพ่อของข้าตัวข้ายังไม่ได้ไปรายงานเลย ท่านเห็นไหมว่าข้าภัคดีต่อท่านขนาดไหน "

ไขมันบนใบหน้าอ้วนๆของมันกระเพื่อมเล็กน้อย ยามที่มันหัวเราะ

"หากยังลีลาไม่รีบบอก งั้นเจ้าก็ไม่ต้องบอก!"

ดวงตาของหลิงเทียนหรี่ลง เขาไม่อยากสนใจอะไรไออ้วนตรงหน้าให้เสียเวลา

"เดี๋ยวก่อนลูกพี่ บอกแล้ว ข้าจะบอกท่านแล้ว! ข้าไปได้ยินเรื่องนี้มาโดยบังเอิญ เรื่องนี้เป็นความลับที่แม้แต่คนตระกูลฟางเองยังไม่ค่อยรู้กันเลย"

ใบหน้าอ้วนๆของลี่ซวนกระเพื่อมในขณะที่เขารีบกล่าวออกมา เมื่อกล่าวจบมันถึงกับต้องสูดหายใจเขาลึกๆ

"ตระกูลฟาง?" คิ้วของหลิงเทียนขมวดขึ้น

"ลูกพี่ ข้าไปได้ยินมาว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนฟางเจี้ยนผู้ดูแลของตระกูลฟาง สามารถตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดเรียบร้อยแล้ว ... ข้าว่าท่านควรปฏิเสธนัดหมายอีกครึ่งเดือนต่อจากนี้? ท่านยังมีอายุเพียงแค่ 15 ปี ต่อให้ท่านยกเลิก ก็ไม่มีใครกล้าว่าท่านหรอก! "

เจ้าอ้วนรีบพูดออกมาเพียงชั่วอึดใจ

แต่สีหน้าของหลิงเทียนกลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรราวกับเขาไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร ทว่าแววตาของหลิงเทียนหรี่ลงเล็กน้อยก่อนจะเปล่งประกายสว่างวาบขึ้นมาวูบหนึ่ง ...เรื่องเลวร้ายที่สุดที่เขากังวล มันเกิดขึ้นแล้ว

ในช่วงเวลาสำคัญนี้ฟางเจี้ยนสามารถตัดผ่านระดับชั้นได้!

ระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 มีพละกำลังราว 10,000 ปอนด์ เมื่อถึงจุดสูงสุดของขั้นตอนที่ 9 ผู้บ่มเพาะพลังขั้นนี้สามารถดึงพลังงานจากโลกและสวรรค์ จนก่อให้เกิดภาพร่างแมมมอธโบราณได้เลยทีเดียว ...

ในระดับขั้นแรกของระดับชั้นก่อกำเนิด พละกำลังและความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะโดยเฉลี่ยสามารถเทียบเท่ากับแมมมอธโบราณหนึ่งตัว แต่หากผู้บ่มเพาะผู้นั้นสามารถพัฒนาและยกระดับพลังงานก่อกำเนิดของมันได้ถึงขีดสุด ระดับพละกำลังอาจจะมากกว่าแมมมอธโบราณเพียงหนึ่งตัว!

หากผู้ฝึกยุทธ์และนักสู้สามารถเข้าถึงพลังงานสูงสุดของขั้นแรกระดับชั้นก่อกำเนิดพวกมันจะมีพละกำลังเทียบเท่ากับแมมมอธโบราณถึงสองตัว!

หลิงเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆสลายความกดดัน ตอนนี้ความยินดีและความสุขที่ได้รับหลังตัดผ่านไปยังระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 7 ได้สลายหายไปจนหมดสิ้น

"ลี่ซวนเรื่องที่เจ้าบอกกับข้าวันนี้ ห้ามไม่ให้เจ้าไปบอกกล่าวกับคนอื่นเด็กขาด เข้าใจหรือไม่" หลิงเทียนจ้องไปยังลี่ซวนก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"แม้แต่บิดาข้าก็บอกไม่ได้งั้นหรือ?" ไขมันน้อยถามออกมาอย่างไร้เดียงสา

"แล้วพ่อเจ้า ใช่บุคคลอื่นหรือไม่เล่า?"

หลิงเทียนจ้องมองด้วยสายตากดดันไปยังลี่ซวน ตอนนี้ลี่ซวนรู้สึกราวกับถูกเข็มที่แหลมคมทิ่มแทงร่างกาย

"ลูกพี่ แล้ว... " ลี่ซวนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

"อะไรอีก?"

ไออ้วนนี่มันช่างน่ารำคาญเสียจริง แต่เพื่อรักษาเรื่องนี้ให้เป็นความลับ หลิงเทียนทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องอดทน

"ลูกพี่ ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าสั่งสอนเจ้าลี่หมิง"

ไขมันน้อยกล่าวออกมาอย่างเริงร่าในขณะที่มันถูมือไปมา

หลิงเทียนครุ่นคิดก่อนที่เขาจะจำได้ว่าลี่หมิงเป็นใคร ...มันเป็นบุตรชายคนเล็กของผู้อาวุโสสอง

มันนับว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งของตระกูลลี่ พรสวรรค์ของมันนับว่าไม่ได้ต่ำกว่าลี่เจี๋ยในอดีตสักเท่าไร

ตอนนี้มันก็มีอายุได้ 17 ปี และพึ่งตัดผ่านไปยังระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 6 เมื่อไม่กี่วันมานี้ เหตุเพราะมันก็ใช้ เม็ดยาเพลิงอัสนีและ โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน

"เจ้ากับลี่หมิงก็มีต้นทุนและระดับบ่มเพาะไม่แตกต่างกัน พวกเจ้าทั้งคู่ไม่ได้ขาดเม็ดยาเพลิงอัสนีและน้ำยาบ่มเพาะ แล้วเหตุใดเจ้าไม่อาศัยความแข็งแกร่งของตนเองเอาชนะมัน?" หลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยโทสะ

ในความรู้สึกของเขา ไขมันน้อยตรงหน้าช่างแตกต่างกับอาวุโส 5 ราวฟ้ากับเหว

"ข้าไม่ได้เกรงกลัวมัน ... แต่ปัญหาอยู่ที่มันมีอายุมากกว่าข้าถึง 2 ปี"

ลี่ซวนมองไปยังหลิงเทียนด้วยสายตาอ้อนวอน ก่อนที่จะส่งรอยยิ้มแห้งๆออกมา

"แหะๆ ลูกพี่ ท่านช่วยเหลือข้าหน่อยได้หรือไม่ มันเคยเตะข้าราวกับลูกข่างซ้ำมันยังดูถูกข้าว่าเป็นหมูอ้วนโสโครกข้าอยากสั่งสอนมันบ้าง และอยากให้มันเรียกข้าว่า 'พี่อ้วน' ทุกครั้งที่มันเจอหน้าข้า!"

"ลูกพี่ ท่านต้องช่วยเหลือข้านะ หากข้าโดนมันรังแกอีกครั้ง ข้ากลัวว่าข้าจะลืมคำพูดที่รับปากท่านเมื่อครู่นี้ ... "

เมื่อเห็นว่าหลิงเทียนยังลังเลเรื่องนี้อยู่ เจ้าอ้วนรีบตีเหล็กตอนยังร้อนทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด