ตอนที่แล้วบทที่ 7: ศิษย์พี่ ใจของท่านกว้างดั่งมหาสมุทร!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 : ผู้อาวุโสกล่าวว่า! นี่คือสุดยอดอัจฉริยะที่หาได้มิได้อีกแล้วในรอบหมื่นปี !!

บทที่ 8 : โซนเริ่มต้นนี้ มีหมูกินเสือด้วยรึ!!


ระหว่างทางหลินฟ่านได้ข้อมูลจากการพูดคุยกับหนี่หมิงหยางค่อนข้างมาก

ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจและรับรู้ถึงระบบการคัดเลือกศิษย์ของนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์แล้ว

สำหรับอัจฉริยะบุคคลนั้นจะเป็นอะไรที่ทางนิกายต้องการอย่างมาก

ในนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ พื้นที่ของศิษย์สายนอกนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 9 พื้นที่ด้วยกัน ซึ่งตอนนี้หลินฟ่านก็กำลังอยู่ใน 1 ใน 9 ของพื้นที่ดังกล่าว

ถึงมันจะเป็นพื้นที่เล็กๆ แต่ก็มีเหล่าศิษย์อยู่หลายร้อยคน

ถ้านับรวมพื้นที่ทั้งหมดตัวเลขของศิษย์ ก็ไม่ใช่น้อยๆ

ดังนั้นเพื่อให้สามารถค้นหาอัจฉริยะจากกลุ่มคนเหล่านี้ ทางนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์จึงตั้งรางวัลให้แก่ ผู้ที่สามารถพาอัจฉริยะมาเข้าร่วมกับทางนิกายได้

"ศิษย์พี่หนี่แล้วศิษย์พี่เมิ่งอะไรนี่เขาเป็นคนยังไงหรอ? ตามความเห็นพี่เขาเป็นคนอัจฉริยะแบบผมป่ะ "หลินฟ่านถามออกมาด้วยรอยยิ้มซุกซน

เมื่อได้ยินคำถาม หนี่หมิงหยางที่เดินอยู่ด้านหน้า อยู่ๆเขาก็หยุดเดิน

หลินฟ่านก็มองไปที่หนี่หมิงหยาง เขารอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ

"ศิษย์น้องหลิน เจ้าควรจำเอาไว้ว่าศิษย์พี่เมิ่งเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง เจ้ามิอาจแสดงกริยาเช่นนี้ต่อหน้าของเขาได้ "หนี่หมิงหยางกล่าวออกมาด้วยเสียจริงจัง เขากลัวว่าเด็กน้อยไม่ประสาอย่างหลินฟ่านจะไปทำอะไรไม่ควรต่อหน้าของศิษย์พี่เมิ่ง มันจะสร้างปัญหาให้กับตัวหลินฟ่านมาก

"อ่า ข้าเข้าใจแล้ว"หลินฟ่านพยักหน้าตอบรับ แต่ตอนนี้เขาอยากรู้เป็นอย่างมากว่า ศิษย์พี่เมิ่งเป็นคนยังไง

ศิษย์สายนอกจำนวนนับหมื่นของนิกาย มีเพียง 10 คนเท่านั้นที่นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเป็นหนึ่งในสิบอัจฉริยะจากคนนับหมื่นจะมีความสามารถขนาดไหน

ในระหว่างทางหลินฟ่านเหมือนหลุดมาอยู่ในสวนอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม ตั้งแต่ที่เขาถูกส่งมายังโลกนี้เขาก็เป็นแค่กระสอบทรายมนุษย์โง่ๆที่ไม่เคยได้ออกไปไหนเลย มันก็ไม่แปลกที่เขาจะไม่รู้ว่านิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์มีขนาดใหญ่แค่ไหนหรือมีอะไรบ้าง

ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าของเขานับได้ว่าเป็นเรื่องใหม่อย่างสิ้นเชิง

"พวกเรามาถึงแล้ว ที่แห่งนี้เป็นที่พักอาศัยของศิษย์พี่เมิ่ง"

เมื่อหลินฟ่านเห็นบ้านตรงหน้าเขาก็รู้สึกว่ามันสวยน่าอยู่ไม่น้อย เขาสาบานว่าในอนาคตเขาต้องมีบ้านแบบนี้ให้ได้

"เข้าไปกันเถิด เจ้าอย่าได้ลืมเชียว ว่าห้ามมิให้แสดงกริยามิสุภาพต่อหน้าศิษย์พี่เมิ่ง"หนี่หมิงหยางกล่าวออกมาอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ข้ารู้แล้วน่า" หลินฟ่านพยักหน้าออกมา เขารู้สึกชอบหนี่หมิงหยางคนนี้มาก แม้ว่าสมองเขาจะทึบไปหน่อยก็เถอะแต่ดูเหมือนว่าก็เป็นคนดีใช้ได้

พื้นที่รอบๆถูกล้อมไว้ด้วยสนามหญ้าที่สวยงาม บริเวณรอบๆมีการปลูกต้นไม้สวยงามหลากสีสันเรียงเป็นแถว มีพุ่มไม้เล็กเรียงตัวเป็นกำแพงกั้นอาณาเขต มันร่มรื่นและสวยงามอย่างมาก

นี่เป็นที่อยู่อาศัยของศิษย์อัจฉริยะ ที่เหล่าศิษย์ทุกคนต่างปรารถนา

"ศิษย์พี่เมิ่งครับ ...... " หนี่หมิงหยางกล่าวชื่อเจ้าของที่อยู่อาศัยอย่างสุภาพ อยู่ด้านหน้าบ้าน

"เข้ามา" น้ำเสียงเสียงทรงพลัง เปล่งออกมาจากภายในบ้าน แม้มันจะไม่ได้ดังมากนักแต่มันก็สั่นสะเทือนจิตใจคนที่ได้ฟัง

หลังจากได้ยินเสียงทรงอำนาจดังกล่าว ก็รู้ได้เลยว่าศิษย์พี่เมิ่งคนนี้แข็งแกร่งอย่างมาก

......

หลินฟ่านเดินตามหนี่หมิงหยางเข้ามาภายในบ้าน ด้านในอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมแปลกๆ บอกไม่ถูกว่าคนที่อยู่มีอารมณ์แบบไหนกันแน่ กลิ่นและการตกแต่งมันค่อนข้างแปลกๆ ไม่ค่อยเข้ากับนิกายที่ชื่อว่าปีศาจศักดิ์สิทธิ์สักเท่าไร

"นี่เหรออัจฉริยะที่เจ้านำมา" เมิ่งหยางกวนปิดหนังสือที่ดูโบราณในมือ ก่อนที่จะหันมามองหลินฟ่าน

และการแสดงออกของหลินฟ่านก็ไม่ต่างอะไรกับศิษย์สายนอกคนอื่นที่เห็นหน้าเมิ่งหยางกวนครั้งแรก

รับรู้ได้ทันทีว่า ชายตรงหน้าเป็นมังกรในหมู่มนุษย์!

แต่หลินฟ่านก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมโลกนี้ถึงไม่ยุติธรรม? ทำไมผู้ชายตรงหน้าเขาถึงหน้าหวานและหล่อเหลาขนาดนี้!?

ถึงเมิ่งหยางกวนจะหน้าหวานแต่กลิ่นอายที่เขาแผ่ออกมากลับมีความแข็งแกร่งอย่างมาก

แม้บรรยากาศรอบๆของเขาจะกดดันผู้อื่น แต่มันก็น่าหลงไหล ทำให้คนที่สัมผัสไม่อาจจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

สรุปง่ายๆคือโคตรหล่อ และดูโคตรเก่ง พระเอกชัดๆ

คนแบบนี้จะเข้าหายากมาก ไม่สิโคตรยากเลยต่างหาก!

เมื่อหลินฟ่านตรวจสอบระดับคนตรงหน้าเขาก็พอเข้าใจได้ในทันที

‘ระดับ ศักดิ์สิทธิ์ ขั้นที่ 6!! แม่มันเถอะ!’

‘เชี่ยไรวะเนี่ย?! ระดับสูงขนาดนี้ทำไมมันยังอยู่เขตนอกอีกวะ? แม่งโรคจิตรึไง’หลินฟ่านได้แต่ในใจ

แค่ทะลุผ่านไปยังระดับก่อเกิดขั้นที่ 1 ก็สามารถเข้าไปเป็นศิษย์สายในได้แล้ว ถ้าเข้าสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์นี่ก็นับได้ว่าเป็นศิษย์หลักของนิกาย ในอนาคตศิษย์หลักที่โดดเด่น สามารถเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อคัดเลือกประมุขนิกายได้ ถึงแม้ว่าจะล้มเหลวในการเป็นประมุขนิกาย แต่อย่างน้อยก็นับได้ว่าเป็นผู้อาวุโสของนิกาย

‘นี่มันว่างมากจนมาทำตัวเป็นหมูกินเสือในที่แบบนี้เนี่ยนะ ประสาทกลับหรือไง’

หลินฟ่านได้แต่คิดในใจไม่กล้าพูดออกไป ถึงเขาจะมี "กายปีศาจอมตะ" Lv18 แต่ก็คงเป็นปุ๋ยในดอกเดียวถ้าอีกฝ่ายลงมือเต็มที่

"เจ้าชื่อหลินฟ่านงั้นรึ?" เมิ่งหยางกวนเอ่ยถามออกมา

"ใช่ครับศิษย์พี่" หลินฟ่านไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านอะไร เขาพูดออกมาพร้อมกับพยักหน้า แต่เขาก็คิดในใจด้วยความเชื่อมั่น ‘ถึงตอนนี้ระดับเอ็งจะสูง แต่ข้าก็มีระบบเทพวิชานะเฟ้ย ไม่กลัวเอ็งหรอก’

"ศิษย์พี่เมิ่ง ศิษย์น้องหลินฟ่าน ได้ฝึกฝนกายปีศาจอมตะจนอยู่ในระดับที่สูงอย่างมิน่าเชื่อ การโจมตีสุดกำลังของข้ามิอาจทำอันใดแก่เขาได้ เขาเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากอย่างยิ่ง "หนี่หมิงหยางกล่าวออกมา

"โอ้ เช่นนั้นรึ" เมิ่งหยางกวนตอบออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ ก่อนที่เขาจะหันมามองหลินฟ่านด้วยสายตาแปลกๆ

ทันใดนั้นหลินฟ่านรู้สึกว่าตัวเขากำลังแก้ผ้าล่อนจ้อนอยู่ต่อหน้าของเมิ่งหยางกวน ราวกับว่าตัวเขาถูกตรวจสอบทุกตารางนิ้ว เขาไม่สามารถต่อต้านอะไรได้เลย

หลินฟ่านรู้สึกอับอายมาก ระดับการเพาะปลูกของชายหน้าหวานตรงหน้าสูงถึงขนาดนี้ แต่ทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย?

ไม่นานความรู้สึกเหมือนถูกล้วงตับก็หายไป

"อืม มิธรรมดาอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ วิชา กายปีศาจอมตะ ของนิกายนั้นยากแก่การฝึกฝนยิ่งนัก ซ้ำยังต้องอดทนต่อความเจ็บปวดทรมานอย่างยิ่ง การที่จะฝึกฝนมาจนถึงระดับดังกล่าวได้ถึงแม้จะมีระดับการบ่มเพาะที่ต่ำ นับว่ามีความสามารถอย่างแท้จริง หวังว่าเจ้าจักตั้งใจฝึกฝนต่อไป อย่าได้ย่อท้อต่อความยากลำบาก " เมิ่งหยางกวนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ภายนอกเขาดูสงบแต่ในใจกลับตื่นตระหนกอย่างมากที่หลินฟ่านสามารถฝึกฝนมาได้ถึงระดับนี้

แต่ยังไงเขาก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะที่มีหน้ามีตาในพื้นที่ของศิษย์สายนอกแห่งนี้ จะให้เขาแสดงความประหลาดใจออกมาได้ยังไง?

"ข้าขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำของศิษย์พี่เมิ่ง" หลินฟ่านกล่าวออกมา

"หมิงหยางพาเขาไปลงทะเบียนศิษย์สายนอกกับ อาวุโสหลี่" เมิ่งหยางกวนกล่าว

"ข้าจักทำตามนั้นศิษย์พี่" หนี่หมิงหยางพยักหน้า ก่อนที่มือของเขาจะถูกคนตรงหน้าจับเอาไว้

 

“หมิงหยาง ......”

“ศิษย์พี่...?”

"อีก 3 เดือนการทดสอบคัดเลือกศิษย์สายในจะเริ่มขึ้น เจ้าควรเลิกให้ความสนใจเรื่องอื่นแล้วเก็บตัวบ่มเพาะให้มากยิ่งขึ้น เจ้าอาจสามารถผ่านการทดสอบไปได้" เมิ่งหยางกวนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"ศิษย์พี่ แล้วท่านล่ะ ท่านจะทำเช่นไร ข้าไม่ ...... " หนี่หมิงหยางกล่าวออกมา อย่างตะกุกตะกัก

หลินฟ่านที่ยืนอยู่ข้างๆ มองทั้งสองคนแล้วรู้สึกสยองแปลกๆ "เดี๋ยวนะ ไอหมิง เอ็งไม่ได้เป็นใช่มั้ย ...... เอ็งไม่ได้ชอบผู้ชายใช่มั้ยเฮ้ย? ตอบบ ทำไมต้องทำท่าแบบนั้นวะ?!!"

โอ๊ววววว จุกคับเอาออกคับ ...... (เสียงประหลาดๆ แว่วมาในความคิดของหลินฟ่าน)

‘ว๊ากกก ข้าต้องไม่คิดอะไรอุบาทว์แบบนี้ หยุดๆๆๆ......’ หลินฟ่าน ส่ายหัวไปมาอยู่คนเดียว

"อื้อ เจ้าไปได้แล้ว" เมิ่งหยางกวนถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะกล่าวกับหมิงหยาง

"ครับศิษย์พี่"

......

ด้านนอก ตรงทางเดิน

ระหว่างทางหนี่หมิงหยางไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย หลินฟ่านก็รู้สึกเกร็งๆ

"ระดับการบ่มเพาะของศิษย์พี่เมิ่งนี่อยู่ขั้นไหนแล้วเหรอ?" หลินฟ่านแกล้งถามออกมาด้วยท่าทางไร้เดียงสา เขารู้สึกสงสัยว่าทำไมคนที่อยู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 6 ถึงต้องมาอยู่ในที่แบบนี้ด้วย

"ระดับ ก่อเกิดขั้นที่ 3 " หนี่หมิงหยางกล่าวตอบออกมา

หลินฟ่านพยักหน้าตอบรับ ‘ตกลงเมิ่งหยางกวนนี่มันตอแหลทุกคนจริงๆด้วย แล้วทำไมมันต้องทำแบบนี้หว่า หรือมันจะอยู่แถวนี้ เพื่อทำตัวเป็นหมูกินเสือจริงๆ? โรคจิตป่าววะ’

"ศิษย์พี่ ศิษย์พี่เมิ่งบอกให้ท่านเข้าทดสอบคัดเลือกศิษย์สายใน แล้วทำไมท่านถึงไม่ไป? ท่านไม่อยากพัฒนาขึ้นให้มากกว่านี้เหรอ หรือมีเหตุผลอะไรให้ท่านรั้งสถานะให้เป็นศิษย์สายนอกแบบนี้" หลินฟ่านกล่าวถามออกมาอย่างสงสัย

"เจ้ามิเข้าใจ...... " หนี่หมิงหยางกล่าวตอบออกมาแค่ 3 คำสั้นๆ แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก

เมื่อหลินฟ่านได้ยินคำตอบก็ทำหน้าเหวอ

‘แม่เอ็งสิ? ตอบมาได้ ข้าไม่เข้าใจ? ไม่บอกเชี่ยอะไรสักอย่างแล้วใครมันจะไปเข้าใจเอ็งวะ’

แม่ง ...... ช่างหัวมันเถอะ

‘ก็ไม่ได้อยากจะเสนอหน้าหรือยุ่งอะไร กับไอบรรยากาศพี่น้องหวานซึ้งของเอ็งนักหรอก’

ถึงหลินฟ่านจะคิดแบบนั้น แต่เอาตรงๆเขาก็สงสัยและอยากรู้เหตุผลอยู่ดี

หลินฟ่านอยากจะเปิดกะโหลกของหนี่หมิงหยางออกมา แล้วตรวจดูว่าตกลงมันคิดอะไรของมันกันแน่ คนบนโลกนี้ปกติการบ่มเพาะและความก้าวหน้านับได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิต แต่ไอบ้านี่กลับโยนทิ้งซะงั้น

แต่พอเห็นหน้าที่เหมือนคนตายซากของหนี่หมิงหยางหลินฟ่านก็ไม่คิดจะคาดคั้นอะไรอีก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด