บทที่ 30 : เอื้อ..ฝากลูกเมียข้าด้วยย!!
'ฮ่าๆๆ เสร็จโจร ...ได้สักทีแม่มม!'
ตอนนี้ในหัวใจหลินฟ่านเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกผิดกับหยูเฟิงนิดหน่อย แต่เขาก็คิดจะตอบแทนมันภายหลังในอนาคต
ตั้งแต่ที่เขาได้รับระบบเทพวิชามา หากจะถามว่าครั้งไหน ที่เขาใช้วิชาลิงขโมยลูกท้อแล้วได้ EXP เยอะที่สุด เขาคงต้องบอกว่าครั้งนี้ ...การจู่โจมหยูเฟิงสำเร็จทำให้เขาได้รับ EXP มากเป็นประวัติการณ์
หลินฟ่านยืนรับความรู้สึกสุขอยู่ได้ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเริ่มรู้สึกร้อนๆ จนต้องหลุดจากภวังค์
หยูเฟิงที่ใบหน้าซีดเซียว กระเสือกกระสนมาหยุดตรงหน้าหลินฟ่าน ในมือของมันปรากฏเปลวเพลิงทมิฬ อุณหภูมิสูงจนขนาดอยู่ห่าง หลินฟ่านยังรู้สึกร้อนระอุ
“ไอ้บัดซบบ!”
สีหน้าหลินฟ่านพลันซีดเผือดเมื่อหยูเฟิงคิดจะใช้เปลวเพลิงร้อนแรงนั่นจู่โจมมาที่มัน ด้วยความแข็งแกร่งระดับก่อเกิดขั้นที่ 7 หากจู่โจมเต็มกำลัง หลินฟ่านคิดว่ามันคงไม่สามารถรอดได้แน่ๆ
"ไปลงนรกซะ ... " เมื่อถูกทำร้ายกล่องดวงใจ หยูเฟิงก็หน้ามืดจู่โจมอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ความเจ็บปวดที่หลินฟ่านกระทำกับมันเกินกว่าที่มันจะต้านทานได้ไหว ... สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของมันตอนนี้ คือต้องการให้ไอเด็กบัดซบตรงหน้าตกตายลงอย่างอนาถ
"ฝ่ามือเพลิงผลาญ"
แม้ว่าฝ่ามือเพลิงผลาญจะเป็นทักษะระดับความมืดขั้นต่ำ แต่มันก็เพียงพอที่จะดับชีวิตของหลินฟ่านได้...ฝ่ามือพุ่งปะทะเข้ากลางอกของหลินฟ่านอย่างจัง
ตูมมมมม ซู่วววว!
หน้าอกของหลินฟ่านถูกเปลวเพลิงทิมฬปะทุใส่แผดเผา จนเลือดระเหยกลายเป็นไอ ถึงแม้เขาจะมีกายปีศาจนิรันดร์คอยช่วยเหลือ แต่ครานี้ความเจ็บปวดมันมากมายนัก เสื้อของเขาเริ่มถูกเปลวเพลิงเผาผลาญสลายไป ก่อนที่ร่างกายของหลินฟ่านจะปลิวกระเด็นลอยไปราวกับว่าวสายป่านขาด
เหล่าศิษย์สายนอกทั้งหมดล้วนแต่ตะลึงงันกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า สภาวะเกรี้ยวกราดจากการปลดปล่อยพลังระดับ 7 ขั้นก่อกำเนิดสะกดเหล่าศิษย์ทุกคนให้ตกอยู่ในความกลัว หากพวกมันสัมผัสถูกเพียงแค่เศษเสี้ยวคงไม่เหลือแม้แต่ซากให้กลบฝัง
ตอนนี้เปลวเทียนชีวิตของหลินฟ่านเริ่มริบหรี่ลงแล้ว
"ศิษย์น้อง หลินนนน ... " หลินโม่เฉินเมื่อได้สติมันรีบตะโกนออกมาสุดเสียงพร้อมกับวิ่งไปหาหลินฟ่านอย่างเร่งร้อน เมื่อไปถึงหลินฟ่านเขาก็ต้องรู้สึกขนพองสยองเกล้า ตอนนี้หน้าอกของหลินฟ่านเหลวเหลวไม่มีชิ้นดี กลิ่นเนื้อไหม้ลอยคละคลุ้งชวนให้อาเจียน
หยูเฟิงที่ซัดฝ่ามือออกไปเต็มที่ตอนนี้พลันได้สติขึ้นมา และมันเริ่มตระหนักถึงการกระทำของมัน หน้าของมันก็พลันซีดลงเรื่อยๆ
หยูเฟิงอยากเดินไปตรวจสอบสภาพของหลินฟ่านด้วยสองตา แต่ติดที่ว่าไข่ทั้งสองใบของเขาเจ็บปวดจนไม่สามารถลุกยืนขึ้นไหว สุดท้ายเขาก็ได้แต่ลุกขึ้นมานั่งคุกเข่ากุมเป้าตัวเอง ...พยายามอดทนต่อความเจ็บปวดตุบๆที่ถาโถมเข้ามา
หลังจากที่เขามีระดับก่อเกิดแล้วร่างกายของเขาแข็งแกร่งจนมีดดาบฟันแทงไม่เข้า แต่ไอเด็กนรกระดับชั้นมนุษย์นั่นกลับสามารถเล่นงานเขาหนักหน่วงขนาดนี้มันเป็นไปได้อย่างไร?
หยูเฟิงสงสัยเป็นอย่างมาก
"หยูเฟิง เจ้าเป็นถึงศิษย์สายใน กลับกล้าลงมือกับเด็กน้อยอย่างโหดร้ายถึงเพียงนี้ ได้อย่างไร!?" ตอนนี้ผู้นำศิษย์สายในที่นั่งอยู่บนม้าหินหยกก็เริ่มลอยตัวลงมา ใบหน้าสงบไร้อารมณ์ของเขาแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมา
"ศิษย์พี่ ข้า ... " หยูเฟิงไม่รู้จะพูดอะไรออกมา เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หากไม่ลองโดนทำร้ายรังไข่ดูบ้าง แบบเขา ใครจะไปเข้าใจเขาล่ะ
"เฮอะ พอเถอะ! เจ้าจะต้องได้รับโทษทัณฑ์จากหอคุมกฎเมื่อกลับไปยังเขตใน" หลี่ชูจินกล่าวออกมาด้วยโทสะ เรื่องแบบนี้กลับเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา ศิษย์สายนอกกลับถูกลงมือด้วยอำมหิตต่อหน้าต่อตาโดยที่เขาไม่สามารถลงมือช่วยเหลือได้ อีกทั้งการลงมือเต็มกำลังของระดับก่อเกิดขั้นที่ 7 แบบนี้ แม้จะเป็นคนที่อยู่ในระดับต้นๆของขั้นก่อเกิดยังทานทนไม่ได้ด้วยซ้ำ
ดูเหมือนว่าการจะรั้งศิษย์ผู้นั้นให้กลับมาจากหุบเหวแห่งความตายคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว หลี่ชูจินได้แต่ถอนหายใจกับศิษย์ที่โดนหยูเฟิงทำร้าย...ทันใดนั้นเองก็มีคนผู้หนึ่งวิ่งมาคุกเข่าอ้อนวอนมัน
"ศิษย์พี่ ช่วยศิษย์น้องหลินด้วยเถิด ได้โปรด ข้าขอวิงวอนท่าน" หยินโม่เฉินมาคุกเข่าขอร้อง ถึงแม้ว่ามันกับหลินฟ่านจะรู้จักกันไม่นานแต่ความผูกพันของพวกมันก็มีไม่น้อย
"ทุกอย่างเป็นความผิดของข้าเพียงผู้เดียว หากข้าไม่นำศิษย์น้องหลินมาชมการแข่งขัน เรื่องเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้น... ทุกอย่างเป็นเพราะข้า ข้าผิดเอง "หยินโม่เฉินโอดครวญออกมาด้วยความเศร้าโศก
"ไหน ให้ข้าดูอาการมันก่อน" หลี่ชูจินเดินไปยังหลินฟ่านก่อนที่จะสำรวจอาการของมัน
ทรวงอกมีบาดแผลสาหัสอวัยวะภายในถูกเผาไหม้ เส้นเลือดและเส้นพลังถูกเผาผลาญจนหมดสิ้น กลิ่นอายของพลังชีวิตเริ่มรั่วไหล มันลดน้อยจนไม่อาจสัมผัสได้ ... อาการสาหัสขนาดนี้ ต่อให้หมอเทวดามาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
"อั่ค.... " หลินฟ่านกระอักเลือดออกมา อวัยวะภายในที่ถูกทำลายปะปนออกมากับการกระอักครั้งนี้ ทำให้ดูราวกับมันกระอักโคลนออกมา
"ศิษย์พี่... " หลินฟ่านกำลังจะกล่าว ทันใดนั้นการแจ้งเตือนของระบบก็ดังขั้น
'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี "กายปีศาจนิรันดร์" EXP +300,000,000'
'ติ๊ง!!... ขอแสดงความยินดี "กายปีศาจนิรันดร์" Lv +1'
'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี "ลิงขโมยลูกท้อ" EXP +100,000'
'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี "ลิงขโมยลูกท้อ" Lv +1'
'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี "ลิงขโมยลูกท้อ" Lv +1'
...
'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดีในการเอาชนะ หยูเฟิง ระดับ ก่อเกิดขั้นที่ 7 EXPตัวละคร +200,000'
'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดีระดับชั้นตัวละครได้ถูกเลื่อนเป็น ระดับก่อเกิด'
'ติ๊ง!! ... ระบบจะเริ่มการพัฒนาร่างกายของผู้ใช้ และผู้ใช้จะตกอยู่ในสถานะตายเทียมจนกว่าจะเสร็จสิ้น กระบวนการ ๆ นี้จะกินเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนกระบวนการจะเริ่มต้น จะทำการนับถอยหลัง 1 นาที'
'59'
'58'
"ศิษย์น้องอย่าพึ่งกล่าวอันใด ศิษย์พี่หลี่กำลังจะช่วยเจ้า" หยินโม่เฉินเริ่มหวาดกลัวเมื่อเห็นหลินฟ่านอาการเริ่มทรุดหนักลง
หลินฟ่านยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อครู่เขาก็เสียววูบไปทั้งตัว เขานึกว่าจะต้องตายซะแล้ว ...เพราะการกระทำของเขาเองแท้ๆ...
แต่การปรับระดับจากระบบก็เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ตอนนี้ระบบกำลังจะทำการปรับเพิ่มระดับให้แก่ร่างกายเขา และจะทำให้เขาตกอยู่ในสถานะตายเทียม เขาเหลือเวลาอีกไม่ถึงนาทีในการเล่นละครดราม่า...
ก่อนที่เวลานับถอยหลังจะหมดลงหลินฟ่านต้องรีบบิ้วอารมณ์ดราม่า เพื่อกล่าวลากับคนรู้จักซะก่อน พอเขาเข้าโหมดตายเทียมพวกนี้จะได้เอาเขาไปฝัง หลังจากที่ฝังเขาแล้ว พอเขาฟื้นกลับมาเขาจะได้หนีออกจากหลุมก่อนที่จะไปผจญโลกกว้าง หาสัตว์อสูรมาต่อสู้เก็บค่า EXP ให้มี Lv สูงๆ หลังจากที่เขาเทพแล้วเขาจะกลับมานิกายเพื่อมาปรากฏตัวแบบพระเอกในตำนานให้คนพวกนี้อึ้งทึ่งกันไปเลย
“ศะ..ศิษย์พี่อย่าได้พยายาม ดะ..โดยเปล่าประโยชน์เลย ขะ....ข้ารู้ตัวของข้าเองดี กะ..ก่อนที่ข้าจะจากไปข้ามีเรื่องจะกล่าวกับท่าน”ฟลินฟ่านกล่าวออกมาด้วยสีหน้าคนหมดอาลัย....
"ศิษย์น้องรีบกล่าวมา มีอันใดจักให้ข้ากระทำ" หยินโม่เฉินใจแทบแหลกสลายเมื่อได้ยินคำกล่าวที่ดูไร้เรียวแรงของหลินฟ่าน
หลินฟ่านค่อยๆฝืนขยับมืออย่างยากลำบากก่อนที่มันจะหยิบกระบี่ระดับต่ำออกมาจากถุงเก็บของออกมา 2 เล่ม
“ศิษย์พี่หยินนี่เป็นกระบี่ระดับต่ำที่ข้ารับปากศิษย์พี่หนี่เอาไว้ว่าจะทำให้ ส่วนอีกเล่มข้าขอรบกวนท่านนำไปให้ศิษย์น้องที่พึ่งเข้ามาใหม่..ท่านสอบถามศิษย์พี่หนี่ได้เขารู้จัก นอกจากนี้ถุงย่ามมิตินี้ข้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้มันแล้ว หากในอนาคตท่านมีปัญหาท่านอาจมีความจำเป็นต้องใช้สิ่งของภายใน” หลินฟ่านกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงโรยแรง ราวกับว่าลมหายใจสุดท้ายจะหมดลง
"ศิษย์น้อง... "
"ศิษย์พี่ข้าขอโทษที่ทำร้ายท่านในอดีต ... ท่านเกลียดข้าหรือไม่?" หลินฟ่านถามออกมา ด้วยเสียงสะเทือนอารมณ์
"ไม่เลยศิษย์น้อง หากเจ้าสามารถรอดชีวิตไปได้ข้ายินดีให้เจ้าทำร้ายข้าได้ทุกเมื่อตามแต่ที่เจ้าต้องการ ... ข้าอยากให้เจ้ามีชีวิตอยู่เพื่อทำร้ายข้า อย่าจากข้าไปศิษย์น้อง " หยินโม่เฉิงกล่าวออกมาทั้งน้ำตานองหน้า
"ศะ..ศิษย์พี่เช่นนั้น ขะ..ข้าขอทำร้ายไข่ท่าน อะ..อีกสักครั้งได้หรือไม่... ขะ..ข้าคิดถึงสัมผัสนุ่มละมุน ยะ..ยามไข่ท่านอยู่ในอุ้งมือของข้า ขะ..ข้า ยะ..อยากจะทำมันอีกสัก คะ.ครั้ง ... " หลินฟ่านมองไปยังหยินโม่เฉินด้วยสายตาเหม่อลอย ราวกับตอนนี้ชีวิตมันใกล้สูญสิ้นลงแล้ว
แต่ในใจของหลินฟ่านนั้น แม้ยุงจะมีเนื้อน้อยแต่มันก็ยังดีกว่าไม่มี ก่อนสลบเขาขอสักที ให้ได้ EXP สักหน่อย
"ได้เลยศิษย์น้องเชิญเจ้าลงมือได้เลย... ข้าพร้อมรับการจู่โจมของเจ้า" หยินโม่เฉินพยักหน้าอย่างไร้ความลังเล มันรีบขยับเป้าไปใกล้ๆหลินฟ่าน ทั้งน้ำตา
แต่ทว่ามือของหลินฟ่านที่กำลังจะเอื้อมมากลับตกลงราวกับหุ่นกระบอกสายขาด
"ศะ..ศิษย์พี่ข้าจะจดจำท่านไว้ ต ล อ ด ไ ป .เอื้.. ... " สติหลินฟ่านดับลงก่อนที่จะได้เอ่ยคำ ฝากลูกเมียข้าด้วย..
'ติ๊ง!! ... เวลานับถอยหลังสิ้นสุดลงแล้ว กำลังเข้าสู่กระบวนการตายเทียมเพื่อปรับสภาพร่างกาย ... '
สิ้นคำหลินฟ่านก็คอพับ...ร่างกายของมันหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว เสียงหัวใจเต้นและลมหายใจสุดท้ายอันตรธานหายไป...
"ศิษย์น้องงงงงงงงงงงงงงงงงง!! ... " หยินโม่เฉินตะโกนด้วยเสียงร้องราวจะขาดใจ ชวนให้ผู้ที่ได้ฟังรับรู้ว่าเจ้าของเสียงหัวใจสลายถึงเพียงไหน
“เฮ่อ”หลี่ชูจินสายหน้าอย่างอ่อนใจ เขาพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ไม่อาจรั้งเคียวมัจจุราชเอาไว้ได้ หากไม่ใช่ประมุขนิกายใช้วิชาลับต้องห้าม คงไม่มีใครสามารถช่วยชีวิตหลินฟ่านได้
มองดูเวลาที่มี ก็รู้ว่ามันคงเป็นนาทีที่เราต้องร่ำลา...
..สายเกินไป ที่จะทำอะไรตอนนี้ ..ราวกับ เวลาไม่เคยพอ
หลินฟ่าน..ตายจากไปแล้ว