ตอนที่แล้วบทที่ 25 : ศิษย์พี่....อย่าได้ดูแคลนสติปัญญาข้าต่ำไป!!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27 : ให้ข้าลองหน่อยซิ!!

บทที่ 26 : ศิษย์น้องท่านไม่ใช่คนแบบน้านน!!


กำไรของวันนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากเขาได้มาถึง 17,000 เม็ดยา นิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นผู้แจกจ่ายเม็ดยาเหล่านี้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่โอสถระดับต่ำ แต่ทว่าเหล่าศิษย์ในเขตนอกนี้ก็มีถึง 8,888 คน หากคิดว่าได้รับคนละ 30 เม็ด นั่นเท่ากับว่า ทางนิกายต้องแจกเม็ดยาถึง 266,640 เม็ดต่อเดือนเลยทีเดียว นับว่าเป็นจำนวนไม่น้อย

แต่อย่างว่าโอสถระดับต่ำเหล่านี้มีแค่ให้เหล่าศิษย์ใช้จนกว่าจะถึงขั้นก่อเกิดเท่านั้น จำนวนเม็ดยาเม็ดยาที่หมุนเวียนอยู่ในนิกายจำนวนมากนี้ ก็เพื่อให้เหล่าศิษย์ถึงระดับก่อเกิดไวๆแค่นั้น

ตอนนี้หลินฟ่านขาด EXP อีก 2,000,000 เขาก็จะถึงระดับก่อเกิด และหากเขามีระดับก่อเกิดแล้วเขาก็สามารถเข้าไปเป็นศิษย์เขตในได้ เขตในถือเป็นระดับกลางๆของนิกายแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะได้สัมผัสกับอะไรใหม่ๆและเจอที่เก็บ EXP ที่มีระดับสูงขึ้นอีกขั้น

และตอนนี้หลินฟ่านก็ทราบถึงเหตุผลที่ทำไม เมิ่งหยางกวน ที่มีระดับบ่มเพาะถึงระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 6 แต่ยังดักดารอยู่ในที่แบบนี้ ...เอาจริงๆเขาก็คงไม่มีวันรู้ถ้าว่าวันนี้เขาไม่ได้เห็น ศิษย์สตรีที่ชื่อ มู่หยู่เฉิน คนนั้น

เหตุผลคงเป็นเพราะเมิ่งหยางกวนต้องการอยู่กับมู่หยู่เฉินนั่นเอง คนเรานี่ก็แปลกต่อให้หนทางมันยากลำบากแต่ก็จะยังดันทุรังเพื่อฟันฝ่า ไม่ต่างอะไรกับการเดินสวนสายธารที่ถาโถมเพื่อขึ้นไปยังยอดเขา เมิ่งหยางกวนเลือกที่จะละทิ้งอนาคตของเขาเพื่อผู้หญิงคนนึง ถ้าถามว่าดีไหมก็คงตอบยาก

หลินฟ่านหยุดคิดเรื่องไร้สาระก่อนที่จะเปิดถุงที่ได้รับมาก่อนจะหยิบเม็ดยาเพิ่มลมปราณมากินเล่นอย่างสนุกปาก

'ติ๊ง!!... บริโภคเม็ดยาเพิ่มลมปราณ EXP +100'

'ติ๊ง!!... บริโภคเม็ดยาเพิ่มลมปราณ EXP +100'

...

จำนวนเม็ดยาเพิ่มลมปราณค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นค่า EXP ของเขาอย่างรวดเร็ว ค่า EXP ของหลินฟ่านพุ่งขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดมันก็หยุดลงเมื่อเม็ดยาเม็ดสุดท้ายถูกกลืนลงคอ

เมื่อกินหมดแล้วหลินฟ่านก็เปิดหน้าต่างตัวละคร เช็คสถานะของเขาทันที

ชื่อ: หลินฟ่าน

ระดับ: 19 (ครึ่งก้าวระดับก่อเกิด)

EXP: (9,703,400/10,000,000)

EXP สะสม: 0 (สามารถใช้เพิ่ม Lv ตัวละคร และ วิชาได้)

วิชา: "กายปีศาจนิรันดร์" Lv 1 (10/3,000,000)

"ลิงขโมยลูกท้อ" Lv 13 (1,500 // 40,000)

อาชีพ: ช่างตีเหล็กขั้นสูง Lv 1 (1,000/5,000)

อุปกรณ์สวมใส่: อิฐแดง 95 (อาวุธระดับตำนาน)

ฉายา: ไม่ลองไม่รู้ (การบ่มเพาะ X 2,ระยะเวลาใช้งาน 1 เทียนหอม, ใช้ได้ครั้งเดียว)

ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นครึ่งก้าวระดับก่อเกิด เพียงแค่ใช้ค่า EXP อีกราวๆ 300,000 เขาก็จะอยู่ในระดับขั้นก่อเกิดแล้ว

ถึงแม้ระดับมนุษย์และระดับก่อเกิดจะห่างกันเพียงแค่ขั้นเดียว แต่ความต่างของทั้งสองระดับนั้นมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ระดับมนุษย์นั้นจะเน้นการฝึกฝนบ่มเพาะของพลังที่มากจากเลือดเนื้อและร่างกาย แต่เมื่อเข้าสู่ขั้นก่อเกิดจะสามารถบ่มเพาะพลังงานที่แท้จริง

ร่างกายของคนเราจะเริ่มสร้างพลังงานที่แท้จริง และเริ่มดูดซับพลังงานธรรมชาติจากฟ้าดินเพื่อมาหลอมรวมกับพลังงานที่แท้จริงในร่างกายหลังเข้าระดับขั้นก่อเกิด ซึ่งเมื่อถึงตอนนี้ความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์จะพุ่งทะยานไปอย่างน่ากลัว

ปัง ปัง ปัง ปัง !!!!

เมื่อเสียงกระหน่ำเคาะประตูดังขึ้น ไม่บอกหลินฟ่านก็รู้ว่าใครมาเคาะ ดูเหมือนอาวุธระดับต่ำนี่ จะเย้ายวนศิษย์พี่ หนี่ไม่น้อย

หลินฟ่านเปิดประตูออกมา ก็พบหนี่หมิงหยางในสภาพไอบ้าหอบฟาง ตอนนี้ตัวเขามอมแมมราวกับไปคลุกฝุ่นดินมา พร้อมทั้งมีกระสอบใบใหญ่มาด้วย

"ศิษย์น้องเจ้ารีบถอยไปสิ เข้าจะได้เดินเข้าไปได้" หนี่หมิงหยางกล่าวออกมา

หลินฟ่านรีบถอยออกมาเพื่อเปิดทาง หนี่หมิงหยางก็แบกกระสอบขึ้นพาดบ่าก่อนที่จะเดินเข้ามา เมื่อเข้ามาเขาก็ปล่อยกระสอบตกพื้นทันที ท่าทางมันจะหนักไม่น้อย

เคร้งงง!! ...เสียงเหล็กตกกระทบพื้นดังสนั่น เมื่อกระสอบตกพื้น เหล็กสีเงินเปล่งประกายแวววาวก็โผล่ออกมาตรงปากกระสอบ

"โห ศิษย์พี่ ท่านไปขนเหล็กมาจากไหนเยอะแยะเนี่ย?" หลินฟ่านรู้สึกทึ่งอย่างมาก ‘โห พี่แกไปขนมาจากไหนเยอะแยะวะเนี่ย ไปแป๊บเดียวเอง’

"ข้าได้มาจากช่างตีเหล็ก เหล็กเหล่านี้นับว่ามันเหลือใช้จนถูกนำไปเก็บไว้ในห้องเก็บของ บางครั้งมันก็เยอะจนล้นห้องเก็บของ เหตุเพราะเหล็กพวกนี้แทบจะไม่มีผู้ใดนำไปใช้อะไร ศิษย์อย่างพวกเราสามารถนำไปใช้ได้ตามต้องการ อยากได้เมื่อไหร่เพียงแค่ไปนำมันมาเท่านั้น" หนี่หมิงหยางกล่าวพร้อมกับปั่นฝุ่นที่มือและตามตัว มันไปหยิบเหล็กเหล่านี้มาจากห้องเก็บของที่รกและฝุ่นจับ เนื่องจากเป็นสถานที่ๆไม่ค่อยมีใครสนใจ

ด้วยความเย้ายวนของอาวุธระดับต่ำ หนี่หมิงหยาง รอไม่ไหวที่จะไปเอาเศษเหล็กที่ยังไม่ได้ถูกนำไปเก็บในห้อง มันเลยไปคุ้ยเอาถึงห้องเก็บของด้วยตัวเอง

หลินฟ่านเมื่อได้ยินเรื่องนี้ถึงกับอ้าปากค้าง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหล็กพวกนี้มันหาง่ายขนาดนี้ ถ้ารู้แบบนี้เขาไปจิ๊กที่ห้องเก็บของอะไรนั่นนานแล้ว และดูเหมือนว่าการใช้เหล็กพวกนี้จะเป็นการลดขยะในนิกายอีกด้วย เรื่องนี้ค่อนข้างน่าขำอย่างมาก แล้วไอที่เขาอุตส่าห์ไปทำลายกระบี่ชาวบ้านเพื่อต้องการเหล็ก จะทำไปเพื่อ....

"เอาล่ะ ศิษย์น้องเจ้าลงมือได้" อยู่ๆ หนี่หมิงหยางก็กล่าวขึ้น พร้อมกับ กางขาออก สีหน้ามันเกร็งเหมือนกำลังจะอดทนกับความเจ็บปวด หมัดทั้งสองกำแน่นตั้งฉากกับลำตัวตรงบริเวณเอว

“เอ่อ ศิษย์พี่หนี่ ... ท่านทำท่าอะไรของท่าน ท่านจะเบ่งพลังแปลงร่างเป็นซุปเปอไซย่าเหรอ?” หลินฟ่านรู้สึกเหวอเมื่อเห็นท่าทางของหนี่หมิงหยาง 'หรือศิษย์พี่จะเป็นโอตาคุ ดรากอนบอลวะ?'

"เอ่อ สุเป้อไส้ย่า อันใดข้ามิรู้จัก แล้วก็มิใช่ศิษย์น้องหรอกหรือที่เป็นคนกล่าวออกมาเอง เจ้าบอกว่าเจ้าจะขโมยลูกท้อข้า เพื่อสร้างอาวุธระดับต่ำ? เพื่ออาวุธระดับต่ำแล้วข้าทนได้ เจ้าลงมือได้เลย" หนี่หมิงหยางกล่าว

"เฮ่ๆ ศิษย์พี่หนี่ ศิษย์น้องท่านไม่ใช่คนแบบน้าน ปั๊ดติโธ่..เห็นข้าใจร้ายใจดำขนาดนั้นเลยรึไง? ท่านยืนดีๆเถอะข้าไม่ทำไรท่านหรอก เป็นเกียรติของข้าซะอีกที่จะได้สร้างอาวุธให้กับศิษย์พี่ " หลินฟ่านเดินไปตบไหล่หนี่หมิงหยางเบาๆ ขณะพูด

"ศิษย์น้องเจ้า... ... " เมื่อได้ฟังคำของหลินฟ่าน หนี่หมิงหยางก็เลิกเกร็งร่างกาย เขาผ่อนคลายลมหายใจออกมา ก่อนที่จะกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า "ศิษย์น้อง บุญคุณครั้งนี้ ข้าจักมิมีวันลืมเลือนเด็ดขาด"

"โอ้ย ท่านก็..บุญคงบุญคุณอะไรกัน เรื่องแค่นี้เอง ท่านจะจริงจังอะไรขนาดน้าน" หลินฟ่านยิ้มก่อนที่จะโบกมือไปมา

"ศิษย์น้อง ... " หนี่หมิงหยางมองไปที่หลินฟ่านด้วยแววตาซาบซึ้ง น้ำตาของมันเริ่มคลอเบ้าเพราะตื้นตัน

"ศิษย์พี่"

"ศิษย์น้อง ... "

"ศิษย์พี่"

"ศิษย์น้อง... " หนี่หมิงหยางรู้สึกเกลียดตัวเองนักที่ไม่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง ไม่งั้นเขาจะพลีกายถวายความบริสุทธิ์ให้ศิษย์น้องที่แสนดีคนนี้

"ลิงขโมยลูกท้อ ... " แต่ทันใดนั้นเองมือของหลินฟ่านก็พุ่งไปราวกับเคียวของมัจจุราช โอกาสดีๆแบบนี้หลินฟ่านจะพลาดได้ยังไง ค่า EXP มาเสริฟถึงที่ฟรีๆแบบนี้ เขาไม่ลงมือก็โง่แล้ว

'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี "ลิงขโมยลูกท้อ" EXP +300'

"ศะ..ศิษย์น้อง จะ... เจ้า" สีหน้าปลาบปลื้มซึ้งไปถึงแก่นของหนี่หมิงหยางแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวในฉับพลัน ความจุกแสนสาหัสและความปวดระทมล้นทะลักออกมาจากไข่สองใบของเขาอย่างล้นเหลือ เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเขาต้องเจออะไรแบบนี้ "ศิษย์น้อง..เราตกลงกันแล้วมิใช่หรือ?"

หลินฟ่านถอนหายใจออกลึกๆพร้อมกับสายหน้าไปมา ก่อนที่เขาจะทำสีหน้าเคร่งขรึมมองไปยังหนี่หมิงหยาง แล้วเริ่มกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังราวกับผู้อาวุโสผ่านโลกมามากกล่าวกับผู้เยาว์ พร้อมทั้งยืนตรงเอามือไหร่หลังอย่างสง่างาม

“ศิษย์พี่..หนทางแห่งการฝึกฝนนั้นยากเข็ญและไร้ที่สิ้นสุดทั้งเปี่ยมไปด้วยภยันตรายต่างๆนาๆ ข้าเห็นว่าตัวท่านนั้นจริงจังเกินไปในบางเรื่องและเชื่อถือคนง่ายเกินไป หากท่านเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้ากังวลว่าตัวท่านจะประสบกับหายนะ”

“เฮ่อ...ข้าทนเห็นท่านประสบเคราะห์กรรมเช่นนั้นไม่ได้ ข้าต้องขออภัยท่านแล้วที่ทำแบบนี้ แต่ข้าก็มีข้อคิดให้ท่าน...อย่าไว้ใจทาง..อย่าวางใจคน..จะจนใจเอง.. หวังว่าบทเรียนในวันนี้ศิษย์พี่จะจดจำเอาไว้” คำพูดของหลินฟ่านเต็มไปด้วยความรักและความจริงใจ

“ศิษย์น้องกล่าวได้ดี ข้าจักจำมันเอาไว้เป็นบทเรียน แล้วอาวุธที่ศิษย์น้องสร้างจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่หรือ?” หนี่หมิงหยาง ยังคงสนใจแต่อาวุธระดับต่ำ

หลินฟ่านมองไปยังหนี่หมิงหยางด้วยความทึ่ง 'โห ข้าล่ะเชื่อท่านจริงๆ อยากได้อาวุธมากขนาดที่ต่อให้ไข่แตกท่านยังไม่กลัว? ข้าล่ะไม่รู้จะพูดยังไงเลย'

“ศิษย์พี่ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ข้าจะเอาไปให้ท่านที่โรงอาหารตอนเช้า ท่านรอรับได้เลย” หลินฟ่านพูดออกมา

"เอาล่ะ เช่นนั้นข้าจะปล่อยให้ศิษย์น้องลงมือสร้างอาวุธ ตอนนี้ร่างกายข้ารู้สึกปวดร้าวยิ่งนัก ข้าไม่อยู่รบกวนเจ้าดีกว่า " หนี่หมิงหยางที่ยังหน้าเขียว พูดออกมาอย่างลำบาก

"โอเค" หลินฟ่านพูดพร้อมพยักหน้า ท่าทางของหนี่หมิงหยางดูงงนิดหน่อยเพราะมันไม่รู้ว่า โอเคของศิษย์น้องคืออะไร แต่มันก็พอเข้าใจ

หลังจากนั้นหนี่หมิงหยางก็ประคองไข่สองใบก่อนจะเตรียมลุกขึ้นยืนอย่างลำบาก ..เขาเดินไปทางประตูด้วยท่าทางทรมาน แถมกล่าวทิ้งท้ายไว้อีกคำนึงก่อนเดินออกนอกประตูว่า " ศิษย์น้องไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นอะไรมาก พรุ่งนี้พบกัน"

ปัง!

เมื่อปิดประตูลง หนี่หมิงหยางก็ทรุดลงไปคุกเข่าบนพื้นอีกครั้ง สองมือกำไข่เอาไว้แน่น ความเจ็บปวดมันรุนแรงเกินจะยืนไหว...ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ หนี่หมิงหยางก็ค่อยๆตะเกียกตะกายกลับบ้านด้วยความยากลำบาก

....

ทางด้านหลินฟ่านที่นึกถึงหนี่หมิงหยางก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปมองเหล็กจำนวนมากในถุงกระสอบด้วยประกายตาวาวโรจน์

'ใช่ได้ มีเยอะขนาดนี้คงสร้างได้หลายอยู่'

เขาเป็นช่างตีเหล็กขั้นสูงระดับ 1 แล้ว แค่ใช้เศษเหล็กโง่ๆเขาสามารถสร้างอาวุธระดับต่ำได้ แต่เหล็กพวกนี้มันคุณภาพดีกว่ามาก เพราะฉะนั้นการสร้างอาวุธระดับกลางคงไม่มีปัญหาอะไร

นอกจากนี้ระบบเทพวิชายังช่วยเหลือส่งเสริมอาชีพเสริมอย่างมาก ถ้าเขามีวัตถุดิบที่สามารถสร้าง อาวุธระดับกลางได้ 1 ชิ้น เขาสามารถเลือกที่จะสร้างอาวุธระดับต่ำแต่ได้ 2 ชิ้นแทนก็ได้ นี่ทำให้เขามีทางเลือกมากมายที่จะสร้างอะไร

ในนิกายปิศาจศักดิ์สิทธิ์เขตนอกแค่อาวุธระดับต่ำก็ถือว่าเป็นอาวุธระดับสูงมาก และมีแต่พวกหัวกะทิจำนวนน้อยเท่านั้นที่มี ซ้ำราคามันก็สูงมากอีกด้วย สำหรับศิษย์ที่ยังจำเป็นต้องใช้ยาเพิ่มลมปราณเพื่อบ่มเพาะทุกวัน จะเอาปัญญาที่ไหนมาจ่าย ถ้าเขาทะลึ่งเอาอาวุธระดับกลางออกมาขาย ใครมันจะไปมีปัญญาซื้อของเขาล่ะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด