ตอนที่แล้วบทที่ 24 : ศิษย์พี่ทั้งสอง รีบใช้ยาเพิ่มลมปราณของท่านถล่มข้าให้ตาย!!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26 : ศิษย์น้องท่านไม่ใช่คนแบบน้านน!!

บทที่ 25 : ศิษย์พี่....อย่าได้ดูแคลนสติปัญญาข้าต่ำไป!!


"3,500 เม็ดยา" อี้ซั่งเทียนเป็นศิษย์ที่ติด 1 ใน 10 ศิษย์อัจฉริยะในนิกายเขตนอกแห่งนี้มาเป็นเวลานานแล้ว จำนวนเม็ดยาของเขานั้นย่อมมีมากมาย ถึงแม้ว่าราคานี้มันจะไม่เหมาะสมกับอาวุธระดับต่ำ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเสียหน้าได้

เหล่าศิษย์ที่อยู่รอบๆได้แต่มองการประมูลตรงหน้าด้วยความตกตะลึง ภาพการแข่งขันประมูลดุเดือดขนาดนี้พวกมันไม่เคยเจอมาก่อน และพวกมันคิดว่าหากพลาดโอกาสชมดูครั้งนี้หลังจากนี้คงไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เพราะนี่เป็นการต่อสู้เรื่องความมั่งคั่งระหว่างสิบศิษย์อัจฉริยะด้วยกัน เรื่องครั้งนี้ต่อให้พวกเขาอยากให้มันเกิดขึ้นมากแค่ไหนแต่พวกเขาก็คงไม่มีโอกาสสร้างสถานการณ์อะไรเช่นนี้ได้อีก ...ส่วนทางด้านหลินฟ่านก็ไม่ต้องสืบเลย ตอนนี้มันกำลังเบิกบานอย่างมาก ยิ่งทั้งคู่แข่งขันกันหนักหน่วงเท่าไรกำไรของมันยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น

"4,000 เม็ดยา" เมิ่งหยางกวนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เม็ดยาเพิ่มลมปราณนี้มันมีไว้สำหรับผู้ที่มีการฝึกฝนก่อนระดับก่อเกิดเท่านั้น มันไม่ได้มีค่าอะไรกับเขาสักเพียงนิด เพราะตอนนี้ตัวเขาอยู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 6 ต่อให้มีเม็ดยาพวกนี้ล้านเม็ดมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาอีกต่อไป

"4,500 เม็ดยา"

...

"เอาล่ะ ศิษย์น้องข้าว่าหากพวกเรามัวแต่แข่งขันกันเช่นนี้วันนี้คงมิได้ข้อสรุป เอาเป็นว่าข้าขอเสนอ 10,000 เม็ดยาเลยแล้วกัน "...ตอนแรกทั้งคู่ก็ค่อยๆเพิ่มราคาเม็ดยาตัดกันทีละนิดละหน่อย แต่ทว่าเมิ่งหยางกวนคิดว่าเขาเสียเวลากับเรื่องนี้มากเกินไป จึงกล่าวเสนอราคาสูงลิบลิ่วไปเลยครั้งเดียว

หลินฟ่านที่เกาะติดสถานการณ์อย่างใจจดใจจ่อ เมื่อได้ยินราคาที่เมิ่งหยางกวนเสนอออกมา มันแทบจะกระโดดออกไปเต้น ฮาคูน่ามาทาท่า ทันที ยาเพิ่มลมปราณหนึ่งเม็ดสำหรับมันเพิ่ม EXP ให้ 100 หากได้มา 10,000 เม็ด มันก็มีค่าสูงถึง 1000,000 EXP!!

'โอ้วววววพระเจ้าช่วยกล้วยทอด มันยอดมากซ์ บ๊ะแหล่วๆ ทำไมซื้อหวยไม่ถูกยังงี้มั่งฟะ!! '

เหล่าศิษย์รอบๆที่ได้ยินการเสนอราคาครั้งนี้ถึงกับสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ มันหันไปมองหลินฟ่าน ที่กำลังจะกลายเป็นเจ้าของเม็ดยาจำนวนมหาศาล ด้วยแววตาอิจฉา

เม็ดยาเพิ่มลมปราณ 10,000 เม็ด กับ กระบี่ระดับต่ำ นี่มัน ... จะเกินไปแล้ว

หลินฟ่านหันไปมองเมิ่งหยางกวนด้วยแววตานับถือ ศิษย์พี่หน้าหวานหล่อเหลาผู้นี้นับว่าเป็นแบบอย่างของ ป๋าสายเปย์อย่างแท้จริง ถึงทุ่มทุนสร้างเอาใจสาวขนาดนี้ ... หากถามว่าคนเราจะน่าสนใจมากที่สุดตอนไหน? สำหรับพวกหาเช้ากินค่ำก็คงต้องตอบว่า ตอนขยันทำงานอย่างจริงจัง แต่สำหรับผู้หญิงธรรมดา ลึกๆแล้วก็ไม่พ้นตอนที่ผู้ชายควักกระเป๋าหยิบแบงค์เป็นปึกมาปรนเปรอ

ตอนนี้อี้ซั่งเทียนรู้สึกอับจนหนทาง เขาไม่สามารถจ่ายออกไปด้วยเม็ดยา ถึง 10,000 เม็ดแบบนี้ได้ ไม่ใช่ว่าอี้ซั่งเทียนไม่มีสิ่งของที่มูลค่ามากกว่านี้ เพียงแต่ว่าเม็ดยาเพิ่มลมปราณของเขานั้นมีจำนวนไม่เพียงพอ

และอี้ซั่งเทียนก็ไม่สิ้นคิดถึงขั้นเผยสิ่งของหรือเม็ดยาระดับสูงที่ตนเองครอบครองเอาไว้ออกมา เพราะมันไม่อยากกระตุ้นความโลภของพวกเหล่าศิษย์อัจฉริยะด้วยกัน

"ผู้น้องอดยอมรับนับถือศิษย์พี่เมิ่งไม่ได้ ท่านถึงขนาดใช้ออกด้วยเม็ดยาปริมาณมหาศาลขนาดนี้เพียงเพื่อเอาใจศิษย์น้องเฉินหยู นางช่างมีโชควาสนายิ่งนัก ครั้งนี้ข้าคงต้องขอยอมรับท่านแล้ว " อี้ซั่งเทียนฝืนใจกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มฝืนๆ ...อาวุธระดับต่ำที่หลินฟ่านเหลืออยู่ก็ไม่ใช่กระบี่ เขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะยืนตรงนี้ให้อับอายอีกต่อไป

"ศิษย์น้องอี้ รอข้าครู่หนึ่ง" เมิ่งหยางกวนกล่าวออกมาในขณะที่อี้ซั่งเทียนกำลังเดินออกไป ท่าทางของอี้ซั่งเทียนที่กำลังเดินออกไปชะงักนิดหนึ่ง ‘หรือว่ามันอยากตอกย้ำความพ่ายแพ้ของข้ากัน?’

"ดูเหมือนว่าศิษย์น้องอี้จักมีความจำเป็นที่ต้องใช้กระบี่ระดับต่ำจริงๆ เช่นนั้นข้าคิดว่าเจ้าควรรับกระบี่เล่มนี้ของข้าไป "เมิ่งหยางกวนกล่าวพร้อมกับหยิบกระบี่ระดับต่ำเล่มหนึ่งออกมา

อี้ซั่งเทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยถึงความเมตตาของมัน ก่อนที่เขาจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ข้าไม่มีความจำเป็นอะไรขนาดนั้น ศิษย์พี่ท่านเก็บกระบี่ไว้เถอะ ขอตัวลา "

เมื่อเห็นศิษย์น้องจากไปด้วยความฉุนเฉียว เมิ่งหยางกวนก็ส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนที่จะหยิบถุงเล็กๆใบหนึ่งพร้อมยื่นไปทางหลินฟ่าน "ศิษย์น้องหลิน ย่ามใบนี้บรรจุไว้ด้วย เม็ดยาเพิ่มลมปราณ 10,000 เม็ด"

หลินฟ่านรับย่ามมาด้วยความสงสัยเล็กน้อย 'พ่องสิ เม็ดยาตั้ง 10,000 เม็ดจะอยู่ในถุงเล็กๆซังกะบ๊วยนี่ได้ยังไง? เชี่ย แม่งตอแหลกลางวันแสกๆ!'

'ติ๊ง!! ... คนพบกระเป๋ามิติระดับต่ำ'

' สร้างมาจากคริสตัลนภา..ใช้สำหรับจัดเก็บสิ่งของ '

"ส่วนย่ามใบนี้ข้าขอมอบให้ศิษย์น้องหลินเก็บไว้ใช้เลยแล้วกัน" เมิ่งหยางกวนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม

หลินฟ่านรู้สึกสำราญใจมากตอนนี้ เขาไม่คิดเลยว่าศิษย์พี่เมิ่งผู้นี้จะใจป้ำถึงขนาดนี้

"ขอบคุณ ศิษย์พี่เมิงอย่างมาก" ปกติแล้วหลินฟ่านไม่มีความจำเป็นที่จะใช้กระเป๋ามิติพวกนี้ ตัวเขามีมิติเก็บของส่วนตัวอยู่แล้ว แต่นี่เป็นของขวัญที่มอบให้จากน้ำใจของศิษย์พี่เมิ่ง หากไม่รับเอาไว้มันก็ดูจะเสียน้ำใจของพี่เขา ไหนๆมันก็เป็นของที่ได้มาฟรีอยู่แล้ว ขาไม่อยากขัดใจอะไรศิษย์พี่คนนี้เลยรับมันเอาไว้...เดี๋ยวเขาค่อยวางแผนเอาไปขายแลกกับเม็ดยาเพิ่มลมปราณทีหลังก็ได้...

"ศิษย์พี่ นี่กระบี่ทะลวงสวรรค์ของท่าน" หลินฟ่านยื่นกระบี่ระดับต่ำมอบให้ศิษย์พี่เมิ่ง เมื่อศิษย์พี่เมิ่งได้รับกระบี่ไปเขาก็ตรวจสอบดูก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างพึงพอใจ “มิเลวเลย! ช่างเป็นกระบี่ที่สร้างมาอย่างประณีตยิ่งนัก ช่างตีอาวุธผู้นี้นับว่ามิธรรมดาจริงๆ! มันมีอานุภาพมากกว่ากระบี่ระดับต่ำทั่วไปมากมายนัก”

“..แต่ชื่อของมัน ...ข้าว่าอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย? กระบี่นี้เนื้อดียิ่งนักซ้ำมันยังเปล่งประกายแวววาวราวกับสายน้ำต้องแสงสุริยัน ข้าว่ามันควรมีชื่อว่า กระบี่หลินตง ศิษย์น้องหญิงเจ้าว่าดีหรือไม่?”

"ท่านว่าเช่นไร ตัวข้าล้วนเห็นด้วยกันกับท่าน" มู่เฉินหยูที่พวงแก้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเขินอาย

หลินฟ่านมองทั้งคู่ก่อนที่จะกล่าวออกมาตามน้ำ "กระบี่งามคู่กับคนงาม ... ช่างลงตัวราวกับสวรรค์สร้าง"

เมิ่งหยางกวนที่ได้ยิน ถึงกับต้องยิ้มออกมาอย่างดีใจ นี่ทำให้หนี่หมิงหยางรู้สึกตกตะลึงมาก วันนี้ศิษย์พี่เมิ่งเผยรอยยิ้มต่อหน้าสาธารณะชนมากกว่าทั้งปีที่ผ่านมาเสียอีก

"ศิษย์น้องหลิน ข้ามีเรื่องที่จักเตือนเจ้าสักนิด ตัวเจ้านั้นมิได้รับอนุญาตให้ตั้งแผงขายของที่นี่ หากหน่วยคุมกฎที่เดินลาดตระเวนมาเห็นเข้า เกรงว่าจักเกิดปัญหาเอาได้" เมิ่งหยางกวนพูดเตือนออกมา

หลินฟ่านเมื่อได้ยินก็ตกใจ ‘เชี่ยต่างโลกยังมีหน่วยคุมกฎเป็นเจ้าที่อีกเหรอวะเนี่ย จ่ายค่าต๋งพวกมันจะยอมรับไหมฟะ?’

"โอ้ ข้าต้องขอขอบคุณศิษย์พี่มาก สำหรับคำเตือนครั้งนี้" หลินฟ่านประสานมือก่อนที่จะทำการคารวะขอบคุณ

เมิ่งหยางกวนพยักหน้า ก่อนที่จะหันไปหาหนี่หมิงหยาง "หมิงหยาง เจ้าอยู่ช่วยศิษย์น้องหลินขายอาวุธทีนี่แล้วกัน หากหน่วยลาดตระเวนผ่านมาเจ้าจักได้ช่วยเหลือมันได้ทัน"

"มิมีปัญหาศิษย์พี่" หนี่หมิงหยางพยักหน้ารับคำ

"ศิษย์น้องหญิงเราไปกันเถิด" เมิ่งหยางกวนหันไปกล่าวกับสตรีด้านข้าง

"ค่ะ ศิษย์พี่"

...

"ฮึ่ม นางมารน้อยน่าตาย" เมื่อศิษย์พี่เมิ่งเดินจากไป หนี่หมิงหยางก็กล่าวออกมาด้วยโทสะ

หลินฟ่านได้ยินเสียงบ่นก็ตกใจ ‘ชัด!! ศิษย์พี่หนี่ตกลงเอ็งมีซัมติงรองกับศิษย์พี่เมิ่งใช่มั้ย? ไอ้คลบาป!! เชี่ยละไงแล้วมันจะหันมาขุดทองข้ามั้ยเนรี่ยยย’

"ศิษย์พี่หนี่ สตรีผู้นั้นเป็นคนรักของศิษย์พี่เมิ่งหรือ" หลินฟ่านถามออกมา มันตัดสินใจไม่ยุ่งวุ่นวายอะไรกับความชอบของหนี่หมิงหยาง ขอแค่มันไม่เสียประตูหลังเป็นพอ...

"ฮึ่ม นางมิใช่ตัวดีอันใด เป็นแค่นางมารร่านราคะ! พอเถอะอย่าได้กล่าวแล้ว ศิษย์น้องเจ้ารีบนำอาวุธอีกสองเล่มมาขายต่อเถิด เดี๋ยวหน่วยลาดตระเวนมาแล้วจักแย่เอา"หนี่หมิงหยางกล่าวด้วยความหัวเสีย

"อ่า ... " ถึงแม้หลินฟ่านจะชอบเผือกเรื่องขาวบ้าน แต่ตอนนี้ธุรกิจสำคัญกว่า

ตอนนี้เขาแค่ลำบากนิดหน่อย ก็ได้เม็ดยาเพิ่มลมปราณมาถึง 10,000 เม็ดแล้ว ทำให้อารมณ์เขาดีอย่างมาก

อาวุธที่เหลืออีกสองชิ้นหลินฟ่านเรียกมันว่า "กระบองทลายจันทร์" และ ขวานเบิกนภา ..เขายังคงตั้งชื่อได้เวอร์วังตามเคย

ถึงแม้ว่าราคาของมันจะไม่ได้สูงเท่าราคาที่เมิ่งหยางกวนจ่ายออกมา แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่มีการจัดประมูลจำหน่ายอาวุธระดับต่ำเช่นนี้ในเขตนอก ราคาของมันเลยถีบตัวสูงกว่าราคากลางเล็กน้อย

สุดท้ายอาวุธทั้งสองชิ้นถูกขายออกไป ได้เม็ดยามาร่วม 7,000 เม็ด

เหล่าศิษย์สายนอกที่มีเม็ดยาไม่ถึงก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย ไม่รู้ว่าพวกมันจะมีโอกาสได้เจออาวุธระดับต่ำแบบนี้อีกหรือไม่ การประมูลแบบนี้จะมีอีกครั้งรึเปล่า?

...ความคิดนี้อยู่ในหัวของผู้ที่พลาดโอกาสครั้งนี้ และพวกมันรู้ดีว่าการหาอาวุธระดับต่ำในเขตนอกแห่งนี้ยากเย็นขนาดไหน โอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ

ขณะที่หลินฟ่านกำลังจะเก็บแผงของเขา เสียงสลดหดหู่เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ...

"ศิษย์พี่แล้วกระบี่ของข้าล่ะท่าน ... " น้ำเสียงมันช่างดูสลดหดหู่และน่าเวทนาอย่างมาก หลินฟ่านถึงกับรู้สึกผิดเล็กน้อย "อ่าว ศิษย์น้อง เจ้ายังอยู่เหรอ?"

“ฮึก...ศิษย์พี่ กระบี่นั้น ฮึก...ข้าพึ่งได้รับมาเมื่อวานเอง แล้วจากนี้ข้าจะเอาอะไรใช้ ฮือ...”ท่าทางศิษย์หงอๆคนนี้จะเศร้าอย่างมาก มันพูดออกมาพร้อมน้ำตาที่หลั่งริน

"เอาล่ะๆ ลูกผู้ชายใครเขาร้องไห้แบบนี้กัน พรุ่งนี้เจ้ามารอข้าที่นี่ ข้าจะให้กระบี่ระดับต่ำชดใช้เจ้า เป็นไง พอใจหรือไม่? "หลินฟ่านกล่าวออกมา

"ศิษย์พี่ท่านอาจทุบตีหรือรังแกข้าได้ ทว่า ศิษย์พี่! ท่านอย่าได้ประเมินสติปัญญาข้าต่ำไป!! ... "

หลินฟ่านพอได้ฟังมันนึกถึงฉากอนาคินกล่าวกับโอบีวันขึ้นมาทันที "หื้ม! ข้าจะไปประเมินอะไรเจ้าล่ะน้องชาย ศิษย์พี่หนี่ก็ยังอยู่ตรงนี้ทั้งคน ข้าจะหลอกลวงเจ้าได้ยังไง ปั๊ดโธ่!" หลินฟ่านกล่าวออกมา

สุดท้ายเพราะว่าหนี่หมิงหยางยังยืนหัวโด่อยู่ตรงนั้น ทำให้ศิษย์น้องหงอๆคนนั้นยอมรับเรื่องนี้ในที่สุด

หลินฟ่านก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะตอนนี้เขายังมีกระบี่ระดับกลางที่สร้างจากเศษกระบี่ของหยินโม่เฉินอยู่ แค่กระบี่ระดับต่ำโง่ๆ ทำไมเขาจะให้ไม่ได้ มันลำบากเพียงสะบัดนิ้วเท่านั้น..

เหตุผลที่หลินฟ่านไม่หยิบกระบี่ระดับกลางออกมาประมูลในวันนี้ เพราะว่าเขาไม่คิดว่าศิษย์สายนอกแห่งนี้จะมีปัญญาจ่ายราคาอาวุธระดับกลางได้ เขาเก็บไว้ขายตอนที่เขาเข้าไปเป็นศิษย์สายในแล้วจะดีกว่า

หนี่หมิงหยางที่ฟังอยู่ก็อดไม่ได้จนต้องถามขึ้นมา

"ศิษย์น้อง เจ้าไปได้อาวุธพวกนี้มาจากที่ใดหรือ?"

"ข้าสร้างขึ้นมาเอง"

"อะไร! เจ้าพูดจริงหรือไม่?"

"จริงสิศิษย์พี่ ข้าไม่ได้โกหก"

"เอ่อ ศิษย์น้อง พวกเราก็นับว่าสนิทสนมกัน เจ้าจักสร้างให้ข้าสักเล่มได้หรือไม่?"

"ไม่มีปัญหา ท่านไปหาวัตถุดิบมาให้ข้า แล้วก็ยอมให้ข้าขโมยลูกท้อครั้งนึงก็พอ"

"มิมีปัญหา วัตถุดิบอะไรที่เจ้าต้องการ บอกข้ามาได้เลย?"

"ก็พวกเหล็กเนื้อดี ... "

...

"อ่าว ศิษย์พี่ ท่านไปไหนแล้ว?" หลินฟ่านกล่าวไม่ทันจบ เขาหันมาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของหนี่หมิงหยางซะแล้ว

“ศิษย์น้องเจ้ารอข้าครู่หนึ่ง ข้าจักไปเอาวัตถุดิบมาให้เจ้า” เสียงตื่นเต้นของหนี่หมิงหยางแว่วมาจากที่ไกลๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด