ตอนที่แล้วบทที่ 23 : นับเป็นการสูญเสียของเรารึเปล่า ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 : ศิษย์พี่....อย่าได้ดูแคลนสติปัญญาข้าต่ำไป!!

บทที่ 24 : ศิษย์พี่ทั้งสอง รีบใช้ยาเพิ่มลมปราณของท่านถล่มข้าให้ตาย!!


ตอนนี้หลินฟ่านรู้สึกสำลักความสุขอย่างมาก พวกคนใหญ่คนโตมากันแล้ว

อี้ซั่งเทียน เป็น 1 ใน 10 ของศิษย์อัจริยะของศิษย์เขตนอกแห่งนี้ ความมั่งคั่งของเขาย่อมไม่น้อยเป็นแน่ ทรัพยากรที่เขาได้รับจากการเป็นศิษย์อัจฉริยะน่าจะมากมายมหาศาล

จนถึงปัจจุบันนี้ศิษย์อัจฉริยะดังๆที่หลินฟ่านได้พบก็มีแค่เมิ่งหยางกวนเท่านั้น คนๆนี้ทำตัวเป็นหมูกินเสืออยู่ในเขตนอก เขามีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 6 ...แต่กลับหลอกลวงชาวบ้านว่าอยู่แค่ระดับก่อเกิดขั้นที่ 3

หลินฟ่านต้องขอบคุณระบบเทพวิชาอย่างมาก ที่ทำให้เขาเห็นระดับของคนอื่นได้ ไม่งั้นมีหวังสักวันเขาต้องถูกฆ่าตายอย่างอนาถเพราะไปหาเรื่องพวกหมูกินเสืออย่างเมิ่งหยางกวน

"ข้าจะซื้อกระบี่ของเจ้า ด้วยเม็ดยา 1,000 เม็ด" อี้ซั่งเทียน ปรากฏกายพร้อมกับชุดคลุมสีขาวแลสง่าราวกับเทพศักดิ์สิทธิ์ ออร่ารอบกายเขาราวกับเทพเจ้าในเหล่าหมู่ศิษย์สายนอก

"อะแฮ่มๆ ศิษย์พี่ท่านนี้จริงอยู่ที่ราคา 1,000 เม็ดยาที่ท่านเสนอมา มันสูงมาก แต่ว่าก็ต้องรอดูก่อนว่าจะมีคนอื่นเสนอราคาแข่งกับท่านอีกรึเปล่า" แม้ว่าหลินฟ่านจะรู้ว่าเขาเป็น 1 ใน 10 ศิษย์อัจฉริยะ แต่ตอนนี้เขาต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ไปก่อน ถ้าเกิดเขาแสดงตัวว่ารู้แล้วเกิดทำอะไรให้มันไม่พอใจเขาไม่ตายหยังเขียดจากการไม่ไว้หน้ามันรึไง?

"เด็กน้อย เจ้าไม่รู้เช่นนั้นรึว่าศิษย์พี่อี้เป็นผู้ใด ... " หวังเทียนเฟิงที่ไม่ถูกชะตากับหลินฟ่านกล่าวขึ้น

อี้ซั่งเทียนยิ้มก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างมั่นใจว่า "ข้าเชื่อมั่นว่าราคาที่ข้าเสนอย่อมสูงที่สุดแล้ว ในหมู่ศิษย์พี่ศิษย์น้องที่อยู่ตรงนี้ คงมิมีผู้ใดเสนอราคามากกว่าข้า" อี้ซั่งเทียนหันไปรอบๆก่อนที่จะกล่าวขึ้นมาด้วยความมั่นใจ รอยยิ้มของเขาทำให้บรรดาสาวๆ สงเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่

แม้ว่าจำนวนยาเพิ่มลมปราณถึง 1,000เม็ดจะเยอะมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครมีมันมากกว่านี้ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าทุกคนต่างกริ่งเกรงฐานะศิษย์อัจฉริยะของมัน เลยไม่มีใครอยากมีปัญหาจากการเสนอราคาแข่งขันหักหน้า

หลินฟ่านยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปมองอี้ซั่งเทียนพร้อมกับดูระดับบนหัวของมัน ระดับก่อเกิดขั้นที่ 6

สำหรับหลินฟ่านเขารู้สึกว่าระดับนี้ก็ค่อนข้างสูงแล้ว แต่หากจะให้เทียบกับระดับของเมิ่งหยางกวนนับว่าแตกต่างกันอยู่อีกมาก ส่วนไอนี่มันก็พวกบ้าอีกคน มาถึงระดับก่อเกิดแล้วแท้ๆ กลับยังดักดารอยู่ในเขตนอกแห่งนี้อีก... เมื่อศิษย์สายนอกมาถึงระดับก่อเกิด พวกมันก็มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นศิษย์สายในแล้ว แต่ดูเหมือนคนพวกนี้เลือกที่จะอยู่เขตนอกอย่างยินยอมพร้อมใจ

สาเหตุที่มีศิษย์สายนอกบางคนยังทนอยู่ในเขตนอกแห่งนี้แม้จะมีระดับก่อเกิดแล้วก็เป็นเพราะ เมื่อพวกเขาเข้าสู้นิกายเขตใน เหล่าศิษย์สายในทั้งหมดก็มีระดับบ่มเพาะที่เหนือกว่าหรืออยู่ในระดับเดียวกับพวกมัน ทำให้พวกมันวางท่าหรือข่มเหงคนอื่นไม่ได้ เลยอยู่เขตนอกทำตัวกร่างไปวันๆแบบนี้

ถึงทรัพยากรที่ได้รับจากเขตในมันจะมากกว่าเขตนอกหลายเท่า แต่พวกมันก็เลือกที่จะเป็นหัวสุนัข ดีกว่าเป็นหางของราชสีห์

ใต้หลังคาของเพิงเล็กๆ แห่งหนึ่ง ...

ปรากฏร่างของบุรุษคู่หนึ่งและหญิงสาวกำลังยืนมองชมเหตุการณ์อยู่ หนึ่งในนั้นเป็นสตรีที่มีความสวยงามอย่างมากแทบไม่ต่างอะไรจากเทพธิดาบนสวรรค์ ยืนเคียงคู่กับบุรุษหน้าหวานหล่อเหลาท่าทางเย็นชาเล็กน้อยผู้หนึ่ง

"ศิษย์พี่เมิ่งท่านดูสิ กระบี่เล่มนั้นช่างงดงามและเปล่งประกายถูกใจข้ายิ่งนัก" เสียงหวานปานระฆังของสตรีที่หน้าตาน่ารักสะสวยพร้อมทั้งอ่อนโยนดังขึ้น ภาพขนตาของนางที่กระพริบยามเอื้อนเอ่ยวาจาแลไปกลับงดงามยิ่งนัก

“ศิษย์น้องหญิง หากเจาชมชอบกระบี่เล่มนั้น ต่อให้มันจักมีราคาสูงสักเพียงไหน ศิษย์พี่จักนำมันมามอบเป็นของขวัญแก่เจ้าให้จงได้” ท่าทางเย็นชาของชายหนุ่มพลันมลายหายไปทันทีที่เขาได้ฟังเสียงออดอ้อนของสตรีด้านข้าง ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความรัก และแววตาของเขาพลันอ่อนโยนลงยามหันไปเอ่ยว่าจากับนาง

"ศิษย์พี่เมิ่ง ตอนนี้กระบี่เล่มนั้น อี้ซั่งเทียนได้แสดงตัวว่าอยากได้ไปแล้ว ข้าเกรงว่า" หนี่หมิงหยางที่ยืนอยู่ห่างๆทางด้านหลังของทั้งคู่กล่าวขึ้นมา

"หมิงหยาง อย่าได้กล่าวมากความแล้ว แค่เพียงศิษย์น้องหญิงเฉินหยูชื่นชอบก็เพียงพอแล้ว" เมิ่งหยางกวนได้ตัดสินใจไปแล้ว

หนี่หมิงหยางเงียบปากไม่พูดอะไรออกมาอีก ทว่ามันกลับมองไปที่เฉินหยูด้วยความแค้นใจ 'นางมารน้อยที่น่าตาย มิน่าเชื่อว่าอัจฉริยะอย่างพี่เมิ่งกลับถูกเจ้าล่อลวงไปเสียได้ บัดซบจริงๆ... เหตุใดอัจฉริยะเช่นศิษย์พี่เมิ่งถึงไปหลงไหลนางมารน้อยเช่นเจ้าได้กันนะ?

‘ศิษย์พี่ต้องตรากตรำขยันฝึกซ้อมบ่มเพาะอย่างหนักหนาถึงเพียงใดกว่าจะยิ่งใหญ่ได้ถึงเพียงนี้... แต่ขยะบัดซบตัวเลวร้ายเช่นเจ้ากลับติดอยู่ที่ระดับมนุษย์ขั้นที่ 4 มาเนิ่นนาน ฮึ่ม.. ปริมาณยาที่ศิษย์พี่เมิ่งมอบให้เจ้าหากเป็นผู้อื่นต่อให้ต่ำต้อยโง่งมสักเพียงใดพวกมันคงถึงระดับก่อเกิดไปเนิ่นนานแล้ว นางมารน้อยบัดซบ บัดซบ บัดซบ’

...

ในขณะที่อี้ซั่งเทียนกำลังคิดว่ากระบี่เล่มนี้ต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน กลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากที่ไกลๆ

"ข้าเสนอ 2,000 เม็ดยา"

เหล่าศิษย์รอบๆต่างตกตะลึง ศิษย์พี่อี้ได้เสนอราคาออกมาแล้ว แต่ตอนนี้กลับมีผู้ที่กล้าเสนอราคาแข่งขันกับเขา หรือมันไม่ต้องการมีชีวิตอยู่แล้ว?

แต่เมื่อได้เห็นว่าผู้ใดเป็นคนเสนอราคาประมูลที่มากมายถึงเพียงนี้ พวกมันก็ถึงกับตะลึงเพราะไม่คิดว่า จะได้พบกับ เมิ่งหยางกวน ที่สง่างามราวกับเทพเจ้าที่แท้จริง

อีก 1 ใน 10 ศิษย์อัจริยะ เมิ่งหยางกวน...

อี้ซั่งเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อมีคนกล้าเสนอราคาแข่งขันกับเขา แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าของผู้ที่เสนอราคาท่าทีของมันก็เปลี่ยนไปในทันที ..ทางด้านหลินฟ่านตอนนี้กำลังแอบยิ้มในใจอย่างลิงโลด ‘ตัวเป้งๆ มาอีกคนแล้วว้อยยยย บะบะโอ้บะบะ มันส์แน่พะย่ะค่ะ’

...

"ศิษย์น้องหลิน เป็นเจ้า ... " หนี่หมิงหยางที่ติดตามเมิ่งหยางกวนมาก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นใบหน้าผู้ที่จัดประมูลอาวุธ ใบหน้าของหนี่หมิงหยางเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึงทันที

"อ้าว ศิษย์พี่หนี่มาไงล่ะทั่น" หลินฟ่านยิ้มออกมา

"ศิษย์น้องหลิน ครานี้เจ้าทำให้ข้าตกตะลึงแทบตายแล้ว" หนี่หมิงหยางกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม เขารู้สึกประหลาดใจมาก เพียงเข้านิกายมาไม่ทันไรศิษย์น้องหลินผู้นี้กลับมีอาวุธระดับต่ำในครอบครองซะแล้ว

ในขณะที่หลินฟ่านพูดคุยทักทายกับหนี่หมิงหยาง อี้ซั่งเทียนก็หันไปสนทนากับเมิ่งหยางกวน "คาดมิถึงว่าศิษย์พี่เมิ่งจะมาแข่งขันกับผู้น้อง" อี้ซั่งเทียนได้แต่กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม หากแต่ในใจมันกลับเต็มไปด้วยความขื่นขม

แม้ว่าในนิกายเขตนอกแห่งนี้จะดูสงบเรียบร้อยไร้เรื่องราว แต่ทว่าเหล่าศิษย์อัจฉริยะทั้งสิบก็แอบมีการแข่งขันกันเล็กน้อยๆอยู่แล้ว และในบรรดาทั้งสิบนั้น นับว่าเมิ่งหยางกวนแข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่งอย่างไร้ผู้ต้าน ในขณะที่คนที่เหลือกลับคู่คี่สูสีกันไม่ได้มีความแตกต่างทางด้านฝีมือมากกว่ากันสักเท่าไร ทำให้อันดับที่สองลงมาแข่งขันกันอย่างดุเดือดนัก

"ศิษย์น้องอี้อย่าได้เข้าใจผิด ตัวข้านั้นมิได้สนใจอันใดในกระบี่เล่มนี้หรืออยากแข่งขันกับเจ้าแม้แต่น้อย ทว่าเฉินหยูของข้ากลับชมชอบมันอยู่มิน้อย ครานี้ข้าคงทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว" เมิ่งหยางกวนกล่าวออกมาอย่างสุภาพ

อี้ซั่งเทียนเหลือบไปมองสตรีข้างๆของเมิ่งหยางกวนเล็กน้อย ตอนนี้ความโกรธแค้นของเขาปะทุอยู่ในอก ‘เหตุใดท่านจึงต้องสนใจความต้องการของนางจนแย่งของๆข้าด้วยเล่า? ท่านมิรู้สึกเสียหน้าบ้างหรือไร!’

"ศิษย์พี่เมิ่ง ศิษย์น้องเฉินหยูนางเองก็มีอาวุธระดับกลาง กระดิ่งมังกรหยก ที่ท่านมอบให้อยู่แล้ว ข้ามิคิดว่านางมีความจำเป็นที่ต้องใช้อาวุธระดับต่ำเช่นนี้อีก ท่านจะให้ข้าวางมือได้อย่างไร? "แม้ว่าเมิ่งหยางกวนจะเอ่ยปากออกมาแล้วว่าต้องการ แต่อี้ซั่งเทียนก็ยอมเสียกระบี่ระดับต่ำเล่มนี้ไปไม่ได้

'แม้ข้าจักพ่ายแพ้ท่านเรื่องจัดอันดับ แต่ทว่าเรื่องนี้มันมิเกี่ยวกัน อย่าหวังว่าข้าจะยินยอมให้แก่ท่าน’อี้ซั่งเทียนคิดในใจอย่างไม่ยอมสยบ

เมิงหยางกวนเมื่อได้ฟังก็ส่ายหัวออกมาพร้อมรอยยิ้ม "เช่นนั้นก็มาหาผู้ชนะในการประลองกัน"

ถึงหลินฟ่านจะหันไปสนทนากับหนี่หมิงหยาง แต่หลินฟ่านก็เงี่ยหูฟังบทสนทนาของตัวเป้งทั้งสองไปด้วย เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่ยอมลงให้กัน หลินฟ่านก็เริงร่าอย่างมาก ‘เลิศศ ยิ่งพวกท่านไม่ยอมลงให้กันมากเท่าไร ข้ายิ่งได้กำไรมากขึ้นเท่านั้น โฮะๆๆๆ คิดไม่ผิดจริงๆพวกตัวเป้งนี่สร้างรายได้โคตรดี’

"ข้าเสนอเพิ่มเป็น 3,000 เม็ดยา ..ศิษย์น้องอี้เจ้าว่าราคาของเจ้ามาได้" เมิ่งหยางกวนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม ราวกับเย้ยหยัน

สีหน้าของอี้ซั่งเทียนหมองลงนิดหน่อย ในความจริงผู้มีระดับบ่มเพาะขั้นก่อเกิดระดับ 6 อย่างเขาไม่ได้ต้องการอาวุธระดับต่ำเพื่อใช้งานแต่อย่างใด แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่า ช่วงแรกๆที่เขาเข้ามาในนิกายแห่งนี้ ด้วยโชควาสนาเขา.. บังเอิญเดินตกเขา...บังเอิญจึงรอดตาย..บังเอิญมีกิ่งไม้...บังเอิญคำภีร์อยู่ที่นั่น ... และคำภีร์เล่มนั้นกลับมียอดวิชา ที่สามารถบ่มเพาะร่างกายด้วยการดูดซับอาวุธต่างๆเข้าไปได้ ยิ่งดูดซับอาวุธที่มีความแข็งแกร่งมากเท่าไร ร่างกายของผู้ฝึกก็แข็งแกร่งมากเท่านั้น

และวิชานั้นชื่อวา [กระบี่ ไร้จำกัด]

สำหรับกระบี่ระดับต่ำนั้นราคามันอยู่ที่ราวๆ 3,000 เม็ดยาเท่านั้น หากเขายังเสนอราคาออกไปนับว่าสิ้นเปลืองอย่างมาก แต่ ณ จุดๆ นี้ เรื่องความคุ้มค่าอะไรนั่นตัดทิ้งไปได้เลย ตอนนี้มันเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ต่างคนต่างไม่ยอมลง ซะแล้ว

โดยเฉพาะเมื่ออี้ซั่งเทียนได้เห็นสีหน้าเปื้อนยิ้มราวกับว่าจะเยาะเย้ยเขาของเมิ่งหยางกวน ทำให้เสียงๆหนึ่งที่ว่า ฆ่าได้หยามไม่ได้ ดังขึ้นมาก้องในหัวใจของเขา

ส่วนหลินฟ่านมีเหรอจะพลาด คนอย่างเขาเก็บทุกเม็ดอยู่แล้ว สีหน้าท่าทางของทั้งสองทำไมมันจะอ่านไม่ออก มันเป็นถึง เจ้าแห่งการดูซีรีส์ในตำนาน เจ้าของฉายา เริ่มดูตอนที่หนึ่ง ยาวถึงจบชุด !! สีหน้านับพัน หมื่นล้านการกระทำมันอ่านออกจนหมดสิ้น ...มันรีบผลักหนี่หมิงหยางที่เกะกะออกไปให้พ้นทาง เพื่อตั้งหน้าตั้งตารอการปะทะราคากันของทั้งสองอย่างตั้งใจ

‘ศิษย์พี่ทั้งสอง รีบใช้ยาเพิ่มลมปราณของท่านถล่มข้าให้ตาย’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด