ตอนที่แล้วบทที่ 13 : ทำนองมันเพราะดีจริงๆ !!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15 : เอ๋ ของขวัญจากสวรรค์เหรอ ข้าไม่บอกใครหรอก!!

บทที่ 14 : ต้องแกล้งโอดครวญพวกมันถึงจะฮึด!!


'ติ๊ง... ขอแสดงความยินดี 'กายปีศาจอมตะ ' ได้เพิ่มระดับขึ้น '

เมื่อเสียงแจ้งเตือนนี้ดังขึ้น หลินฟ่านยิ้มออกมาด้วยความยินดี 'ความพยายามอย่างหนักย่อมมีค่าตอบแทนที่เหมาะสม ฮ่าฮ่า'

"เฮ่! ศิษย์พี่น้องทุกท่าน หยุดมือก่อนเถิดเดี๋ยวมันจักตายไปเสียก่อน " ในขณะที่หลินฟ่านกำลังนอนจมตีนอย่างสบายอารมณ์ กลับมีศิษย์คนหนึ่งตะโกนออกมา

"เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?"

"พวกเราเป็นศิษย์ร่วมนิกายเดียวกัน เหตุใดจึงลงมือด้วยความโหดร้ายถึงเพียงนี้? "

“เร็วเข้า! รีบพามันไปรักษาก่อนที่มันจักตายไปจริงๆ”

หานลู่ที่ยืนมองอยู่ไกลๆ แสยะยิ้มขึ้นมา ‘หากไอตัวบัดซบนั่นมันตายไปจริงๆ คงเป็นเรื่องดีเสียมากกว่า’

"ฮ่าฮ่า พวกเจ้าฝันกลางวันกันอยู่เหรอ คิดเหรอว่าน้ำมะหน้าอย่างพวกเจ้ามีปัญญาทำข้าถึงตาย อ่อนแอเยี่ยงสตรีมีพวงอย่างพวกเจ้าเลิกฝันกลางวันไร้สาระได้แล้ว บิดายังไม่หายเมื่อยสักนิด ออกแรงเพิ่มกันหน่อยพวกสวะ ... บิดาไปถล่มมารดาพวกเจ้าถึงเตียงทุกคน ยังเหลือแรงมากกว่าที่พวกเจ้าใช้ทุบตีเสียด้วยซ้ำ เฮ่อ" เมื่อเห็นว่าความรื่นรมย์จากท่วงทำนองของระบบกำลังจะจบลง หลินฟ่านจึงรีบลุกขึ้นยืนก่อนที่จะกล่าวเย้ยหยันออกมา

ก่อนหน้านี้หานลู่ยังคิดว่ามันต้องตายไปแล้วแน่ๆ กลับต้องรู้สึกทึ่งอย่างถึงที่สุด “เป็นไปมิได้ มันเหลือแรงลุกขึ้นมาอีกได้อย่างไร!”

"ถล่มมารดาจ้าสิ! โดนขนาดนี้ยังมิรู้สำนึกกลับกล้าพ่นวาจาบัดซบออกมาอีก? "หลังจากที่เห็นหลินฟ่านยังไม่ยอมสยบแถมยังกล้าพ่นคำด่าลบหลู่พวกมันออกมา ศิษย์ที่คิดเห็นอกเห็นใจมันเมื่อครู่กลับบันดาลโทสะวิ่งไปทุบตีมันต่อ

'ติ๊ง!!... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 2,000 "

'ติ๊ง!!... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 3,000 "

'ติ๊ง!!... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 1,000 "

ความรู้สึกสุขสมจากเสียงรายงานค่า EXP เกิดขึ้นอีกครั้ง หลินฟ่านรู้สึกดีมากที่วันนี้สามารถเก็บค่า EXP ให้กายปีศาจอมตะได้มากขนาดนี้ แต่มันกลับเสียดายอยู่นิดหน่อย ที่ยังมีกลุ่มศิษย์ที่ยืนอยู่วงนอกไม่ได้เข้ามาร่วมกระทืบมัน มันอยากให้พวกคนเหล่านั้นเข้ามารุมทำร้ายเพื่อให้ EXP ขึ้นได้รวดเร็วกว่านี้

"พวกสตรีมีพวงดีแต่ปากทั้งหลาย กล้ากล่าวว่าจะทุบตีข้าจนตาย แต่กลับไร้น้ำยาสิ้นดี เฮ่! หวังเทียนเฟิง เจ้าหวังให้ท่านปู่ยอมสยบแก่ขยะเปียกอ่อนแอเช่นเจ้างั้นเหรอ? ละเมอตดอยู่รึไง! " หลินฟ่านตะโกนออกมาอย่างสนุกสนาน

"พวกข้ามิได้ทำอันใดไม่ดีแก่เจ้า! เหตุใดจึงดูถูกพวกเราเยี่ยงนี้? "ศิษย์เขตนอกทั้งหมดที่ถูกหลินฟ่านดูถูกตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ก่อนหน้านี้พวกเขาแค่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ด้านหน้าเฉยๆ กลับถูกดูหมิ่นเหยียดหยามจนต่ำตมเสียขนาดนี้

"ทำไมข้าจะดูถูกหน้าตัวเมียอย่างพวกเอ็งไม่ได้วะ? มีปัญหาแน่จริงก็ตีข้าให้แรงกว่านี้อีกหน่อย อ่อนแอขนาดนี้ก็สมกับคำว่าสตรีมีพวงแล้วล่ะ พวกหน้าตัวเมียยืนดูผู้หญิงถูกรังแก "หลินฟ่านยังพ่นคำด่าต่อไป มันหวังเพียงให้ทุกคนรุมทำร้ายมันต่อ

"ศิษย์พี่น้องทั้งหลายอย่าได้ต่อปากต่อคำกับ เด็กบัดซบปากสวะเยี่ยงมันอีกเลย ดีหรือไม่? วันนี้พวกเราต้องสั่งสอนให้มันรู้สำนึกให้ได้ ว่าอะไรควรมิควร " หวังเทียนเฟิงกล่าวตะโกนออกมาอย่างเย็นชา

มันเป็นคนที่โกรธแค้นมากที่สุด ตั้งแต่ที่มันติดตามศิษย์พี่ อี้ ไม่เคยมีใครกล้าดูถูกมันมากขนาดนี้ ตัวบัดซบหลินฟ่านนี่นับว่าเป็นคนแรก

...

เพื่อที่จะให้กำลังใจผู้ที่กำลังรุมทุบตีมันอยู่ หลินฟ่านก็แกล้งปล่อยเสียงร้องครางครวญมาเป็นระยะ หากพบว่าพวกที่กำลังรุมทำร้ายเริ่มถอดใจจากการทำอะไรมันไม่ได้ หลินฟ่านก็จะแกล้งส่งเสียงร้องออกมาให้พวกมันฮึดสู้ ว่าการโจมตีของมันไม่ได้เปล่าประโยชน์

ปุกๆๆปักๆๆๆ ผลัวะๆๆ... .

ในขณะนี้บริเวณรอบโรงอาหารเต็มไปด้วยเหล่าศิษย์สายนอกจำนวนมากที่กำลังยืนดูเหตุการณ์ด้วยความสงบ พวกเขาได้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มจนจบ สมาชิกนิกายผู้นั้นแม้จะถูกรุมทำร้ายแต่ก็ไม่ได้ยินยอมสยบต่อความอยุติธรรมแต่อย่างใด เขายังกล้าเถียงสู้อย่างไม่ยินยอม ทำให้คนด้านนอกรู้สึกอดไม่ได้ที่จะนับถือ

‘จะมีสักกี่คนที่สามารถอดทนได้ถึงเพียงนี้? เหตุใดจึงมิยินยอมแพ้เพราะถูกคนหมู่มากรุมทำร้าย? เพียงแค่รอให้ระดับการฝึกฝนสูงกว่านี้ค่อยกลับมาล้างแค้นที่ละคนก็ยังไม่สายเกินไป ดีกว่าทิ้งชีวิตเอาไว้อย่างนี้’ พวกมันต่างยกย่องและนับถือหลินฟ่านกันอยู่ในใจ

ลูกผู้ชายล้างแค้นสิบปีไม่สาย

"เด็กบัดซบยินยอมสยบแล้วหรือไม่?" หวังเทียนเฟิงเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้วตอนนี้ แม้ว่ามันจะมีระดับมนุษย์ขั้นที่ 6 แต่ตอนแรกมันก็ไม่ได้ลงมือด้วยกำลังเต็มสิบส่วน แต่หลังจากที่มันจู่โจมหลินฟ่านไปมากมายแต่คนตรงหน้ากลับสามารถลุกขึ้นมาได้เรื่อยๆ มันจึงเริ่มโมโห ก่อนที่จะทุ่มพลังทั้งหมดจู่โจมหลินฟ่านอย่างไม่หยุดยั้งจนเริ่มเหนื่อย

"มารดาเจ้าสิยอมสยบตรงหน้าขาข้า! ข้า หลินฟ่านไม่เคยเกรงกลัวความชั่วร้ายของโลกและสวรรค์ สารเลวหน้าตัวเมียขยะเปียกมูลฝอยเช่นเจ้าคู่ควรอะไร แล้วมีปัญญาทำอะไรข้าได้"หลินฟ่านกล่าวตอบออกมาอย่างโอหัง

"เจ้า ... " หวังเทียนเฟิงได้แต่ชี้หน้าหลินฟ่านอย่างโกรธแค้น เขาพูดอะไรไม่ออกจริงๆ ร่างเด็กบัดซบนี่ทำมาจากเหล็กหรือยังไง?

'ติ๊ง!! ... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 800 "

'ติ๊ง!! ... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 600 "

หลินฟ่านสะดุ้งตกใจกับเสียงรายงานล่าสุด 'เกิดอะไรขึ้น? ทำไมมันได้ค่า EXP น้อยลงขนาดนี้วะ" จากนั้นหลินฟ่านก็ หันไปมองรอบๆ มันพบว่าเหล่าศิษย์ทุกคนที่ทำร้ายมัน ต่างหอบแฮ่กๆหน้าแดงก่ำ เหงื่อไหลไคลย้อยกันถ้วนหน้า

'แม่มันเถอะ ... '

ตอนนี้หลินฟ่านต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว 'ไอพวกนี้มันจะยุขึ้นอีกไหมวะเนี่ย? พวกมันทำมากันขนาดนี้แล้วจะให้หยุดง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง ไม่ได้การละ เราต้องกรีดร้องให้แรงขึ้น ขืนพวกมันทุบตีเบาๆจนได้ค่า EXP น้อยแบบนี้ ชาติไหน Lv กายปีศาจอมตะจะเพิ่มอีกฟะ "

"โอ๊ย..เมื่อกี้ใครจู่โจมข้า มันรุนแรงมากข้าแทบตายแล้ว"

"แต่บัดซบถึงข้าจะไม่ไหวแล้ว แต่ไม่มีวันยอมสยบพวกสวะเช่นเจ้า"

"มารดาพวกเจ้าเป็นโสเภณี บิดาพวกเจ้าเป็นขันที #$*(% ฯลฯ"

...แล้วท่วงทำนองจากระบบก็บรรเลงต่อไป..

....

ฟ่านหยูซิ่น มองไปยังคนที่รุมทำร้ายหลินฟ่านทีละคน แววตาโหดเหี้ยมอำมหิตฉายออกมาจากดวงตาที่เคยสวยงามและอ่อนโยน ในขณะที่เธอกำลังจะลงมือก็เหลือบไปเห็นผู้คนที่วิ่งเข้ามาในโรงอาหาร

"หยุดมือ" หนี่หมิงหยางตะโกนออกมาเมื่อมันได้ยินข่าวหลินฟ่านจากหยินโม่เฉิน หนี่หมิงหยางก็ตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรีบวิ่งมาช่วย น้องชายหลินคนนี้ช่างเป็นคนที่ไม่เกรงกลัวอะไรเสียจริงๆ

ปกติภายในนิกายจะอยู่กันอย่างสงบสันติ มีบ้างที่เกิดการกระทบกระทั่งจนต้องต่อสู้กัน แต่ครั้งนี้เหมือนจะเป็นเรื่องร้ายแรงเขาจึงรีบวิ่งมาหยุดเพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์ที่แก้ไขไม่ได้ หนี่หมิงหยางใช้ออกด้วยพลังปราณจากระดับมนุษย์ขั้น 8 สะบัดมือ ส่งฝูงศิษย์ที่อยู่รอบๆหลินฟ่าน กระเด็นปลิวออกไปในหนึ่งฝ่ามือ

"หวังเทียนเฟิง เจ้ากล้าดียังไง?" หนี่หมิงหยางพุ่งตัวราวกับเส้นแสงไปอยู่เบื้องหน้าหวังเทียนเฟิงก่อนที่จะถามออกมาด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง

หยินโม่เฉินรีบพุ่งไปช่วยหลินฟ่านที่อยู่ๆก็ทรุดตัวลง เข้าเริ่มตรวจสอบอาการหลินฟ่านด้วยความหวาดกลัว "ศิษย์น้องเจ้าต้องอดทนไว้ ศิษย์พี่มาช่วยเจ้าแล้ว"

ในขณะนี้หลินฟ่านที่พึ่งแกล้งล้มลงไปก็รู้สึกเอะใจ ‘เกิดอะไรขึ้นวะ? กำลังไปได้สวยเลยแล้วพวกมันหยุดทำไม อ่าวเฮ่ยนั่นจะไปไหนกันวะ EXP จ๋ากลับมาก่อนนนน?’ ...น่าเศร้านักที่เสียงรายงานจากระบบดังจนไม่ได้ยินคำพูดของหนี่หมิงหยางกล่าวให้หยุดในตอนแรก มันเลยไม่รู้เรื่องจนกระทั่งเสียงการรายงานค่า EXP หยุดลง

"ศิษย์น้องหลินเจ้ามิต้องกลัว ศิษย์พี่หนี่อยู่ที่นี่แล้ว "เมื่อหยินโม่เฉินเห็นแววตาและสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ของหลินฟ่าน ในขณะที่มองไปรอบๆ เขาก็คิดว่า หลินฟ่านหวาดกลัวพวกที่รุมทำร้าย เขาจึงรีบปลอบขวัญศิษย์น้องในอ้อมกอด

.

หลินฟ่านจองมองหยินโม่เฉินด้วยแววตาโกรธแค้น หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ รับรองหยินโม่เฉินต้องตายไม่ต่ำกว่าพันครั้ง

นี่มันขาดทุนย่อยยับ ... อุตส่าลงทุนแกล้งตะโกนออกมามากมายแถมการล้มครั้งสุดท้ายออกแอคติ้งไปขนาดนั้นแต่ไม่ทันไร ก็จบสิ้นแล้ว

เมื่อเห็นหลินฟ่านนอนจมกองเลือดอยู่หยินโม่เฉินก็โกรธแค้นอย่างหนัก มันตะโกนด่าเหล่าศิษย์ที่อยู่รอบๆออกมาด้วยความเสียใจ "เหตุใดพวกเจ้าถึงลงมือกับศิษย์ร่วมนิกายด้วยความอำมหิตถึงเพียงนี้ ? พวกเจ้ามิได้เป็นศิษย์นิกายเดียวกันหรอกหรือ? "

"นี่ ... " เมื่อได้ฟังคำกล่าว เหล่าศิษย์ที่รุมทำร้ายหลินฟ่านก็เหลือบไปมองหลินฟ่านที่นอนจมกองเลือด พร้อมกับเสื้อผ้าที่ฉีกขาดยับเยินจากการถูกรุมทำร้าย พวกมันก็ละอายใจ และไม่กล้าสู้หน้าหยินโม่เฉิน

...

"ศิษย์พี่หนี่ หลังจากวันนี้ข้าหวังว่าท่านจักสั่งสอนเด็กบัดซบนี่ มิให้มันปากกล้าหรือพ่นวาจายโสโอหังเยี่ยงวันนี้ออกมาอีก" หวังเทียนเฟิงกล่าวออกมาอย่างไม่แยแสในขณะที่จ้องหน้าหนี่หมิงหยางอย่างไม่เกรงกลัว ถึงแม้ระดับการบ่มเพาะของเขาจะน้อยกว่าหนี่หมิงหยางแต่เขาก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย ในสายตาเขามันก็เป็นแค่ขยะที่ฝึกบ่มเพาะมาหลายปีดีดักแต่ยังจมอยู่กับระดับมนุษย์ขั้น 8 ไม่ได้มีค่าอะไรแม้แต่น้อย

ในขณะนี้เองหนี่หมิงหยางก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "หวังเทียนเฟิงเรื่องราวในวันนี้ข้าจักนำไปรายงานศิษย์พี่เมิ่ง ข้าจักคอยดูว่าเรื่องนี้จักถูกตัดสินเช่นไร รวมถึงทุกคนในโรงอาหารที่รุมทำร้ายหลินฟ่านก็ด้วยอย่าคิดว่าพวกเจ้าจักรอดตัวไปได้"

...

เมื่อเห็นสถานการณ์ที่กำลังจะสิ้นสุดลง หลินฟ่านได้แต่ถอนหายใจออกมา วันนี้ถือว่าเขาผิดเองที่เลือกสถานที่ลงมือไม่เหมาะสม ครั้งต่อไปเขาจะหาสถานที่เหมาะๆลับตาคนให้มันมากกว่านี้ ไม่งั้นความพยายามในการแสดงละครและคำด่าที่ต้องเค้นสมองคิดออกมาจะไม่คุ้มกับค่า EXP ที่ได้

"ศิษย์พี่ข้ารู้สึกไม่ค่อยดี ข้าอยากกลับไปพักผ่อนแล้ว "หลินฟ่านกล่าวออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ ตอนนี้เขายังรู้สึกเสียดายค่า EXP ที่กำลังจะได้รับจนน้ำตาซึม

"ศิษย์น้องมิต้องกังวลเดี๋ยวข้าจะอุ้มเจ้ากลับไปส่งด้วยตนเอง " หยินโม่เฉินกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว

...

หนี่หมิงหยางมองหน้าหวังเทียนเฟิงอย่างเอาเรื่อง เขารู้ว่าเหตุการณ์นี้มันถึงจุดแตกหักยากที่จะแก้ไขได้แล้ว ก็ได้แต่แค่นเสียงออกมาด้วยความเย็นชา ก่อนที่จะหันหลังกลับออกไปพร้อมกับ หยินโม่เฉินและหลินฟ่าน ฟ่านหยูซิ่นที่ยืนอยู่กลางฝูงชนก็หายตัวไปแล้วเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด