บทที่ 11 : ไม่ลองไม่รู้เว้ยยย!!
สายลมหนาวเหน็บกวาดผ่านทั่วผืนดิน ใบไม้ปลิวว่อนตอบรับ ฝนลานฝึกยุทธ์ชายคนหนึ่งนอนสิ้นท่าอยู่บนพื้นทีท่าของมันพิกลนัก มันนอนคุดคู้กุมเป้าอย่างน่าเวทนา ส่งเสียงครางครวญโหยหวนราวโลกกำลังจะถึงกาลอวสาน
...
หลินฟ่านเดินกลับมาบ้านพักอย่างจนปัญญา ถึงแม้เขาจะผิดหวังกับการไปลานฝึกยุทธ์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ครั้งนี้ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแย่
เขาได้ขโมยหนึ่งลูกท้อ หรือระเบิดไข่ไปหนึ่งพวง
ถึงค่า EXP จะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายเท่าไร แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาก
“ติ๊ง!! ลิงขโมยลูกท้อ EXP + 200”
“ติ๊ง EXP ตัวละคร +3000”
‘อ่าหวังว่าศิษย์พี่ฮั่นจะแค้นเคียงข้ามากเพียงพอ และคิดที่จะแก้แค้นหรือทำร้ายข้า ให้ดีท่านไปนำเพื่อนพ้องหรือพรรคพวกมาล้างตาข้าได้เลย ข้าจะรอท่านด้วยใจตั้งมั่น’ หลินฟ่านคิดในใจ อย่างชั่วร้าย
ตอนแรกหลินฟ่านคิดที่จะไปเก็บ EXP กับเหล่าศิษย์ทั้งหมดเพื่อให้ Lv ของเขาเพิ่มขึ้นเร็วๆ แต่หากเขามีเลเวลที่ต่ำเกินไปเขาอาจจะมีปัญหาได้ ตอนนี้เขาก็ได้แต่ต้องคิดวางแผนดำเนินการให้ดีๆ ค่อยๆจัดการไปทีละคน ไม่ต้องหาเรื่องทุกคนทั้งหมดในทีเดียว เพราะว่าอาจจะมีคนที่แข็งแกร่งที่ลงมือหนักหน่วงเกินกว่าเขาทนได้ซ่อนตัวอยู่
เขาไม่ควรที่จะสร้างความโกรธแค้นให้แก่ทุกคนทั้งหมดในทีเดียว ทุกคนต่างฝึกฝนกันอยู่ที่บ้านพักของแต่ละคน เขาแค่คิดหาวิธีดำเนินการไปทีละนิดละหน่อย รับมือไปทีละกลุ่มเล็กๆก็เพียงพอแล้ว
'"กายปีศาจอมตะ" ... "ลิงขโมยลูกท้อ" ...ถึงขีดจำกัดที่หลินฟ่านจะเพิ่มมันได้รวดเร็วเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ได้แต่ค่อยเพิ่ม EXP ให้มันช้าๆ หลินฟ่านนั่งคิดนอนคิดเหม่อมองเพดานบ้านพักอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นมานั่งราวกับว่าคิดอะไรบรรเจิดออกมา
“จริงด้วย เราลืมไปได้ยังไงกัน? ลิงขโมยลูกท้อ และ กายปีศาจอมตะ มันก็แค่วิชาที่สามารถฝึกฝนพัฒนาได้ ... ถ้าเราระเบิดไข่คนอื่นแล้วได้ค่า EXP ยังงี้ถ้าเราลองระเบิดไข่ตัวเองมันจะไม่ได้ สองต่อเลยหรอวะ”
หลินฟ่านก้มมองไปที่หนอนบุ้งตัวเขื่องของเขา ในใจเริ่มคิดสัปดน... ถ้าเขาใช้วิชาลิงขโมยลูกท้อจู่โจมพวงสวรรค์ของเขา แล้วปรากฏว่ามันเพิ่ม EXP ทั้งกายปีศาจอมตะและลิงขโมยลูกท้อได้ นั่นหมายความว่าเขากำลังเดินทางเข้าสู่ด้านมืดของพลัง พลังที่ได้มาจากการทำร้ายตัวเอง ...
'ไม่ไหวว่ะ' ตอนนี้ภาพความเจ็บปวดของผู้คนที่ถูกเขาระเบิดรังไข่ได้ลอยมาจู่โจมสมองของเขา มันน่าสะพรึงกลัวและดูเจ็บปวดอย่างมาก ‘ไข่ของคนอื่นโดนบึ้มได้ แต่ไข่เรา...ไม่ทำอย่างนั้นจะดีกว่าผิดพลาดขึ้นมาแล้วมันไม่สู้จะอยู่ยังไงวะ..หรือจะลองสักที’ ความคิดด้านมืดกับด้านสว่างตีกันในหัวหลินฟ่านอย่างหนัก
ตอนนี้หลินฟ่านจมอยู่กับความคิดสัปดน ราวกับคนสับสนในหนทางที่จะก้าวเดิน ส่วนบ้านพักหลังอื่นบรรยากาศต่างกันอย่างสิ้นเชิง ...
หานลู่กำลังนั่งตรวจสภาพน้องชายตัวเองอย่างระวัง ฟันของเขาสั่นกึกๆด้วยความเจ็บปวด “หลินฟ่าน ไอ้ตัวบัดซบชาติชั่ว ชาตินี้ข้ามิมีวันอภัยให้เจ้า” ตาของหานลู่ลุกวาวราวกับจะพ่นไฟได้ ความเจ็บปวดและความอัปยศครั้งนี้เขาจะไม่มีวันลืม ถูกจู่โจมจุดตายของท่านชายทุกคนอย่างไม่ทันตั้งตัว ใครมันจะไปทนได้
ถึงระดับการบ่มเพาะของหานลู่จะอยู่ในระดับ สู่สวรรค์ขั้นที่ 4 แต่ไม่ว่าเขาจะฝึกฝนยังไงก็ไม่มีทางที่จะฝึกไข่ของเขาให้แข็งแกร่งขึ้นมาได้ แม้ระดับการบ่มเพาะของหลินฟ่านจะต่ำกว่าเขามากสักเพียงไหน แต่เมื่อมันใช้ด้วยวิชาลิงขโมยลูกท้อ เขาไม่มีทางทานทนได้เลย
หานลู่พยายามลุกขึ้นยืน ขาของเขาสั่นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเดินออกไปชะเง้อมองหน้าประตูบ้านพัก เมื่อเขาพบว่าไม่มีใครเดินผ่านไปผ่านมา เขาก็ปิดประตูหน้าต่าง ก่อนที่จะเดินมานั่งในห้อง หลังจากนั้นเขาก็แบมือออก
ปรากฏขวดหยกใบหนึ่งโผล่ขึ้นมาบนมือของหานลู่อย่างลึกลับ เมื่อสองปีที่แล้วในขณะที่เขาเดินทางมายังนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์เพื่อหาอาจารย์สอนวิชา เขากลับได้รับขวดหยกนี้มาโดยบังเอิญ ตอนแรกที่เขาได้มันมาเขาไม่รู้ว่ามันมีไว้ทำอะไร อยู่ๆขวดหยกก็หายไปในตัวของเขา และไม่ว่าทำยังไงมันก็ไม่ออกมา คนอื่นก็ไม่มีใครรู้ว่าเขามีขวดหยกใบนี้
แต่ครึ่งปีก่อนหน้านี้อยู่ๆ ขวดหยกใบนี้ก็โผล่ออกมาอีกครั้ง และเขาได้ค้นพบว่ามันมีอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน "ขวดหยกศักดิ์สิทธิ์" ในขณะที่ขวดโผล่ออกมา เขาได้ยินเสียงลึกลับบอกว่า ขวดหยกศักดิ์สิทธิ์นี้ เป็นของ "เจ้าแม่กวนอิม" ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความเมตตาและผู้มาโปรดของเหล่าสรรพสัตว์ทั้งมวล หานลู่พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับ เจ้าแม่กวนอิม แต่เขาก็ไม่สามารถหาได้ว่า เทพธิดาองค์นี้เป็นผู้ใด
ทุกๆวันขวดหยกศักดิ์สิทธิ์จะสร้าง ‘หยาดน้ำค้างของเทพเจ้า’ วันละ 1 หยด หยาดน้ำค้างของเทพเจ้านี้ หากได้ดื่มกินไม่เพียงแต่จะเพิ่มปริมาณพลังปราณได้อย่างมหาศาลมันยังสามารถรักษาโรคได้ทุกโรคอีกด้วย
สิ่งนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้หานลู่มีการบ่มเพาะอยู่ที่ระดับสู่สวรรค์ขั้น 4 ในเวลาที่รวดเร็ว
นอกจากนั้นหานลู่ยังได้ตำราวิชาของเจ้าแม่กวนอิมมาอีก 1 วิชาคือ "ฝ่ามือพันกร" เขาได้ทำการอ่านตำราและฝึกฝนทันทีที่ได้รับมา
ในอดีตนั้นหัวของหานลู่นับว่าช้าและโง่งมอย่างมาก แต่หลังจากที่เขาได้กิน หยาดน้ำค้างของพระเจ้า สมองของเขาพลันแจ่มใส เข้าใจอะไรได้ง่ายๆ จนเขากลายมาเป็นศิษย์อัจฉริยะคนหนึ่งของนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์
หานลู่รักและทะนุถนอมขวดหยกใบนี้มาก โชคร้ายที่ขวดหยกใบนี้มันมีรอยร้าวและดูเหมือนจะเสียหายเล็กน้อยเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเสียดาย
ถึงแม้ขวดหยกจะอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์แต่ผลผลิตที่ได้ ก็นับว่ายอดเยี่ยมมาก ถ้ามันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เต็มร้อยไม่อยากจะคิดเลยว่าผลลัพธ์ที่ได้จะยอดเยี่ยมถึงขนาดไหน ...หลังจากหานลู่นั่งจ้องขวดหยกในมืออยู่ครู่หนึ่งเขาก็ตัดสินใจกลืนหยาดน้ำค้างของเทพเจ้าลงไปทันที เมื่อเขากลืนลงไปความร้อนและพลังปราณมหาศาลก็แผ่กระจายไปทั่วท้องน้อยของเขา ไข่สองใบที่ปวดตุบๆก็ทุเลาลงอย่างน่าอัศจรรย์
หานลู่รีบนั่งสมาธิและฝึกฝนวิชา "ฝ่ามือพันกร" หากสามารถฝึกวิชา "ฝ่ามือพันกร" ให้มีความสำเร็จเพียงเล็กน้อยมันจะช่วยให้เขาตัดผ่านไปยังระดับสู่สวรรค์ขั้น 5 ได้อย่างง่ายดาย
ความแค้นในวันนี้เขาต้องชำระมันให้ได้ในวันหลัง
‘ตัวอุบาทว์หลินฟ่าน ข้ามิมีวันลืมเจ้า’
...
"โอ๊ยย ... " หลินฟ่านยังคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงกับชีวิต ในหัวของเขาราวกับมี มารร้ายหลินฟ่านในชุดสีดำกระพือปีกบินกรอกหูเขาอยู่ตลอดเวลา ... ‘ลองสิ...ลองหน่อยนะ..ลองเหอะหน่า’
ตอนนี้หลินฟ่านรู้สึกลังเลอย่างมาก ถึงก่อนหน้านี้เขาจะตัดสินใจไม่ทำร้ายหนอนบุ้งที่อยู่กับเขามาทั้งชีวิตก็ตาม
'แล้วถ้ามันได้ผลล่ะวะ? ยังงี้เราไม่เลื่อนระดับไวเป็นจรวดเลยรึไง ' หลินฟ่านยังไม่สามารถตัดสินใจได้
'ช่างหัวแม่ง ... จะคิดเชี่ยไรเยอะแยะวะเรา? เกิดตายห่าไปเพราะเจอคนเก่งๆจะเหลืออะไรอีก อยากเก่งขึ้นก็ต้องเสี่ยงกันบ้างล่ะวะ ... เพื่อความเทพ เพื่อความเป็นอมตะ ... เพื่ออนาคต จะเพื่ออะไรก็ช่างแม่งเหอะ ถ้าเรื่องแค่นี้เรายังทำไม่ได้ จะฝันไกลไปทำหอกอะไร?’ เมื่อหนึ่งห้วงคิดได้ถูกตัดสิน ฝ่ามือของเขาก็เคลื่อนไหวราวกับสายฟ้า...เพียงหนึ่งคิดสู่นิจนิรันดร์
"ลิงขโมยลูกท้อ"
“ผลุ ...”
เมื่อการจู่โจมบรรลุผล หนอนบุ้งและไข่น้อยสองใบที่ถูกทะนุถนอมมาทั้งชีวิต ...ทุกๆเช้าเขาจะขัดมันด้วยความรัก ก็ประสบกับการถูกทำร้ายอย่างรุนแรง หลินฟ่านล้มทั้งยืนทรุดลงไปกองกับพื้น สองมือของเขากุมพวงสวรรค์ไว้แน่นสุดชีวิต น้ำตาของเขาไหลนองออกมา
'สวรรค์ช่วย...ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว'
หลินฟ่านเจ็บจนปากสั่น แถมตอนนี้เขายังสูดหายใจอย่างยากลำบาก เพราะเผลอตดออกมาตอนที่คุกเข่างอตัวกุมไข่ ..กลิ่นมันอบอวลรันจวนไปทั้งห้อง
'ติ๊ง! ... "ลิงขโมยลูกท้อ" EXP +1 '
'ติ๊ง! ... "กายปีศาจอมตะ" EXP +1'
'ติ๊ง! ... ยินดีด้วยคุณประสบผลสำเร็จได้รับฉายา: ไม่ลองไม่รู้'
'ฉายาไม่ลองไม่รู้: มีความสามารถในการเพิ่มผลของการรักษาตัวเองอย่างมหาศาล'
'Effect: เมื่อเปิดใช้งานจะเพิ่มผลลัพธ์ที่ได้จากการเพาะปลูกหรือวัตถุอื่นเป็นสองเท่า'
'จำนวนในการใช้งาน: 1 ครั้ง'
...
ณ จุดๆนี้หลินฟ่านไม่สนใจข้อความใดๆทั้งสิน ความเจ็บปวดบวกกับความกลัวที่จะสูญพันธุ์ทำให้เขาโมโหจนอยากจะฆ่าคน
หลินฟ่านสาบานกับสวรรค์ วิธีการทรมานตัวเองด้วยสองมือของตน จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด เขาจะทำร้ายคนอื่นเพื่อเพิ่ม Lv เท่านั้น หลินฟ่านค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เขาจับโต๊ะเพื่อพยุงร่างกาย อดทนเดินไปถึงเตียงนอน ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนทั้งน้ำตา
'วันนี้ช่างมันแล้วกัน พักก่อนพรุ่งนี้จะเอาคืนให้เต็มที่' เขาหลับตาลงช้าๆ ร่างกายของเขายังคงสั่นจากความเจ็บปวด หัวใจของเขาเจ็บปวดรวดร้าวราวกับมีมีดนับร้อยคอยกรีดแทง น้ำตายังคงไหลออกมาเพราะความสมเพชตัวเอง เขาไม่รู้จริงๆว่าผีห่าซาตานตัวไหนบันดาลใจให้เขาทำอะไรจัญไรแบบนี้? แต่หลังการทดลองครั้งนี้ก็ทำให้เขารู้อย่างนึงว่า ศัตรูของเขาทุกคนจะพบกับความเจ็บปวดเช่นไร
‘หวังว่าพรุ่งนี้ศิษย์พี่ฮั่นคงมาแก้แค้น ... ถ้ามาได้ก็จะดีมาก วันนี้ไม่ไหวแล้ว ขอนอนก่อนแล้วกัน ...ป่านนี้ศิษย์พี่ฮั่นก็คงนอนกุมไข่ด้วยความเจ็บปวดแบบเราสินะ..อืม’ แล้วหลินฟ่านก็หลับลงไปพร้อมกับความทรงจำอันโหดร้าย...