ตอนที่แล้วตอนที่ 42: หญ้าวิญญาณมรณะ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 44: ออกเดินทาง (1)

ตอนที่ 43: หญ้าวิญญาณมรณะ (2)


"เธอสวยและ....มีเสน่ห์มาก" แองเจเล่พยักหน้า

"ถ้าอย่างนั้น..." อดอล์ฟหัวเราะ

"เดี๋ยวก่อนพ่อ! ท่านไม่สามารถทำเช่นนั้นได้!" โซเฟียหยุดพ่อของเธอจากการพูดต่อ

"อะไร เจ้าไม่ชอบเขางั้นหรือ" อดอล์ฟหยุดยิ้มและมีสีหน้าที่จริงจัง

"แองเจเล่เป็นคนดีแต่เขาไม่ได้เป็นแบบที่ข้าชอบ พ่ออย่างน้อยก็ให้ข้าตัดสินใจเอง" โซเฟียยืนกรานเรื่องนี้ดังนั้นเธอจึงเรียกร้อง

"แบบที่เจ้าชอบ? เจ้าหมายถึงกวีจากเวสวินด์(westwind)? มีเพียงสิ่งเดียวที่เขามีก็คือหน้าสวยๆนั่น!" อดอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ แต่โซเฟียก็ยังคงมองไปที่มองแสดงให้เห็นว่าเธอจริงจังกับเรื่องนี้แค่ไหน

"ตั้งแต่ที่โซเฟียมีใครบางคนอยู่ในใจอยู่แล้วก็แค่ปล่อยให้ข้าปฏิบัติต่อท่านเหมือนพ่อของข้าก็พอ" แองเจเล่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขา อดอล์ฟยังคงโกรธแต่เขาก็หยุดจ้องมองไปที่ลูกสาวของตัวเอง

"ดี ถ้าอย่างนั้น.....ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนลูกชายของข้าเอง" อดอล์ฟพูด มันดูเหมือนว่าตอนนี้เขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

"อาจารย์ ท่านพ่อและป้าของข้าสามารถขอความช่วยเหลือท่านได้ ท่านคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง" แองเจเล่พูดพยายามที่จะลดความโกรธของอดอล์ฟและทำให้เขารู้สึกสบายใจ ถ้าเขาบอกให้อดอล์ฟช่วยตระกูลของเขาอดอล์ฟก็จะรู้ว่าวันหนึ่งแองเจเล่ก็จะตอบแทนเขา อดอล์ฟดูดีขึ้นหลังจากที่ได้ยินคำขอ

"ออกไปจากที่นี่ เจ้าทำให้ข้าอารมณ์ไม่ดี" อดอล์ฟตะโกนขณะที่เขาหันไปที่ลูกสาวของเขา โซเฟียไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ปิดประตูอย่างแรง แองเจเล่ได้ยินเสียงเธอเดินลงบันไดอย่างโกรธเกรี้ยว

"ข้าจะจับตาดูพ่อของเจ้าและถ้าเขาต้องการความช่วยเหลือใดๆข้าก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ข้าคิดว่านั่นจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของเราลึกซึ้งมากขึ้น" อดอล์ฟพูดขณะที่เขายิ้มอีกครั้ง เขาลุกขึ้นยืนและเปิดลิ้นชักที่โต๊ะ จากนั้นอดอล์ฟก็หยิบกล่องเล็กๆที่ตกแต่งอย่างดีออกมา มันมีทับทิมฝังอยู่ในกล่องสีดำ แองเจเล่คิดว่ากล่องนี้เพียงกล่องเดียวก็มีค่าพอๆกับหญ้า

"กล่องนี้ทำมาจากไม้อากิล่า มันช่วยป้องกันให้สมุนไพรไม่เสียประสิทธิภาพของมัน ข้าจะให้สิ่งนี้กับเจ้า" อดอล์ฟยิ้มไม่สนใจว่าแองเจเล่จะเป็นลูกของเขาหรือไม่ ถ้าตระกูลของแองเจเล่อยู่ในมือของเขาแองเจเล่ก็จะไม่ทำอะไรโง่ๆ แม้ว่าแองเจเล่จะยอมเสียทั้งตระกูลแต่สิ่งเดียวที่อดอล์ฟจะเสียก็คือเวลาและเงิน

อดอล์ฟต้องการให้โซเฟียแต่งงานกับแองเจเล่ตั้งแต่ที่การแต่งงานจะช่วยให้พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นแต่ลูกสาวของเขาไม่พอใจกับการตัดสินใจนี้ อดอล์ฟรักลูกสาวของเขาค่อนข้างมากดังนั้นเขาจึงไม่อยากทำให้เธอผิดหวังมากนัก เขาแกล้งโกรธเพื่อให้แน่ใจว่าแองเจเล่เข้าใจสถานการณ์

"ข้ายังคงเป็นเพียงเด็กฝึกงานพ่อมดชั้นต่ำ มันอาจจะสายเกินไปสำหรับการตามความฝันของข้า อย่างไรก็ตาม ข้าพบเจ้าแองเจเล่ ข้าหวังว่าเจ้าจะเดินต่อไปบนเส้นทางนี้" อดอล์ฟมอบกล่องให้แองเจเล่และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ข้าจะทำให้ดีที่สุด" แองเจเล่พูดก่อนที่จะรับกล่อง

ทั้งสองคนรู้ว่ามันเป็นการลงทุน อดอล์ฟกำลังพนันกับแองเจเล่ที่คิดว่าเขามีศักยภาพมาก แม้ว่าแองเจเล่จะตายในระหว่างการฝึกฝนอดอล์ฟก็เพียงแค่หยุดให้ความช่วยเหลือตระกูลของเขา อย่างไรก็ตามถ้าแองเจเล่ประสบความสำเร็จเขาก็จะไม่มีวันลืมอดอล์ฟที่ช่วยเขาอย่างมาก มันเป็นโอกาสของอดอล์ฟที่จะรับมันไว้

แองเจเล่ถือกล่องที่มีขนาดกำปั้นไว้ในมือ เขาเปิดมันอย่างระมัดระวังและสิ่งที่วางอยู่ข้างในมันเป็นโครเวอร์ดำ มันดูเหมือนที่หนังสืออธิบายและแองเจเล่ก็สามารถมองเห็นรากของมันได้ แองเจเล่ปิดกล่อง เขาแทบรอเริ่มการฝึกฝนไม่ไหว

"เดี๋ยวก่อน มีบางอย่างที่สำคัญที่แขวนอยู่ที่คอของเจ้าหรือไม่" ทันใดนั้นอดอล์ฟก็ถาม สายตาของเขาอยู่ที่คอของแองเจเล่

"มีอะไรที่ข้าสามารถซ่อนภายใต้สายตาของท่านได้บ้างไหม" แองเจเล่ยิ้ม เขาไม่ได้พยายามซ่อนมัน พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันในตอนนี้ซึ่งจะช่วยแองเจเล่กลายเป็นพ่อมด แต่แองเจเล่ก็กลัวกับการที่วางทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีกับอดอล์ฟ เขาหยิบแหวนมรกตอย่างระมัดระวังและส่งมอบให้อดอล์ฟ หลังจากที่ถูแหวนหลายครั้งเขาก็เริ่มตรวจสอบมัน

"พลังงานในแหวนเวทมนต์นี้ได้หายไปแล้วและมรกตก็แตกแล้ว มันมาจาก....โรงเรียนแรมโซด้า? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน บางทีมันอาจจะเป็นองค์กรพ่อมดโบราณ แหวนนี้จะช่วยให้เจ้าขึ้นเรือ ด้วยสิ่งนี้เจ้าจะถูกพิจารณาโดยองค์กร เจ้าเป็นคนที่โชคดี" อดอล์ฟหัวเราะและดูร่าเริงมาก

"ข้าคิดว่าโชคที่ดีที่สุดก็คือการที่ข้าได้พบกับท่านอาจารย์" แองเจเล่พูดสุภาพขณะที่ทั้งคู่หัวเราะอยู่พักหนึ่ง

"เดี๋ยว เรือที่พูดถึงคืออะไร" แองเจเล่ถาม

"ครึ่งเดือนหลังจากนี้จะมีเรือมา มันจะเต็มไปด้วยพ่อมดฝึกหัด ท่าเรือของเราได้รับโอกาสแนะนำนักเรียนหลายคนกับพวกเขาดังนั้นข้าจึงสามารถแนะนำได้เช่นกัน เรือจะพาเจ้าไปสถานที่ที่มีองค์กรพ่อมดตั้งขึ้นจำนวนมาก ถ้าเจ้าเข้าสู่หนึ่งในนั้นเจ้าก็จะได้รับโอกาสที่จะอ่านหนังสือเกี่ยวกับขั้นที่สูงขึ้น มันเป็นโอกาสสำหรับเจ้า ข้าวางแผนที่จะขอร้องคนที่ข้ารู้จักแต่ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีแหวนเวทมนต์ มันจะช่วยให้ข้าประหยัดทั้งเวลาและเงิน" อดอล์ฟพูด

"ฟังดูเหมือนว่าองค์กรเหล่านั้นจะอยู่ไกลจากที่นี่มาก" แองเจเล่ถาม

"ใช่ เจ้าจะต้องเดินทางไประยะหนึ่ง เรือนี้จะพาเจ้าไปยังดินแดนอื่นและจากนั้นเจ้าจะต้องเดินทางอีกสองเดือน แต่นี่เป็นโอกาสที่เจ้าไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ถ้าเจ้าต้องการกลายเป็นพ่อมด" อดอล์ฟพูดเสียงเข้ม

"ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะพูดกับตระกูลของข้าและทำเรื่องอื่นๆให้เสร็จก่อนที่ข้าจะจากไป" แองเจเล่พูดขณะที่เขาพยักหน้า

"ดี" อดอล์ฟยิ้ม "ถ้าเจ้าต้องการที่จะกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่เจ้าก็ต้องก้าวต่อไป เจ้าจะอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน ใช้เวลากับตระกูลของเจ้าให้นานที่สุดก่อนที่เจ้าจะไป" เขาพูดต่อ

"นอกจากนี้ยังมีคนอีกประมาณ 100 คนจากท่าเรือของเราบนเรือ นอกจากนี้ยังมีบางสิ่งที่ข้าต้องบอกให้เจ้ารู้ก่อนไป ข้าจะแจ้งให้เจ้าทราบในภายหลัง" อดอล์ฟพูดเสริม

"ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณครับอาจารย์" แองเจเล่พยักหน้า

มันเป็นเวลาสี่ทุ่มแล้วเมื่อแองเจเล่ออกมาจากบ้านของอดอล์ฟ เขาจ้างรถม้าและมุ่งหน้ากลับไปที่โรงเรียน มันดึกแล้วแต่เขาต้องการที่จะฝึกฝน แองเจเล่รีบกลับไปที่ห้องของเขาหลังจากที่ออกจากรถม้าแล้วปิดประตูทันที เขาตรวจสอบอีกครั้งว่าเขาล็อคประตูและหน้าต่างหรือยังก่อนที่จะเอากล่องที่มีโครเวอร์ดำอยู่ข้างในออกมา เขาเช็ดตัวและถอดรองเท้ากับถุงเท้า เขานั่งลงบนเตียงและเตรียมตัวสำหรับการฝึกฝนตามที่หนังสือเคยบอกไว้

เขานั่งขัดสมาธิและเปิดกล่อง เขาเอาโครเวอร์ออกมาและดึงใบออกมาหนึ่งใบ แองเจเล่วางใบไว้ในปากมันมีรสขมมาก ช่วยไม่ได้ที่แองเจเล่จะขมวดคิ้วเพราะมันห่วยแตก เขาวางส่วนที่เหลือกลับไปในกล่องและวางไว้ด้านข้าง ในที่สุดเขาก็เริ่มทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในหนังสือตลอดจนการจินตนาการรูนไว้ในใจ รูนเหล่านี้เรียกว่า 'รูนแห่งเจตจำนง' ตามที่บันทึกไว้ในหนังสือ

มนุษย์ทั่วไปจะสามารถเก็บรูนได้ 3 ถึง 7 รูนในใจในขณะที่คนที่มีพรสวรรค์จะเก็บได้ 8 ถึง 12 รูน คนสามารถฝึกความคิดของพวกเขาโดยการจินตนาการรูนเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงขั้นที่หนึ่งเขาก็จะมีความสามารถในการรับรู้ถึงพลังงานต่างๆในอากาศ เขาจะมีความสามารถในการค้นพบพลังงานที่เขาเพ่งเล็งโดยการแยกการรับรู้ถึงสิ่งที่เขาสัมผัสจากพลังงานอื่นๆ จำนวนรูนหนึ่งรูนที่พวกเขาสามารถเก็บไว้ในใจของพวกเขาจะกำหนดระยะของขั้นที่หนึ่ง

แองเจเล่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับหลับตา เขารู้สึกได้ถึงเวลาที่ผ่านไป เสียงข้างนอกที่เบาลงขณะที่นักเรียนได้ขึ้นไปบนเตียงของพวกเขา มันเป็นเวลาตีสองแล้ว ทันใดนั้นดวงตาของแองเจเล่ก็เริ่มส่องแสงสีเขียว เปลือกตาของเขากำลังสั่นราวกับว่าเขากำลังมีฝันร้าย ดวงตาของเขาส่องแสงประมาณครึ่งชั่วโมงในขณะที่ใบหน้าของแองเจเล่ค่อยๆกลายเป็นสีเทา อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาใบหน้าของแองเจเล่ก็กลายเป็นสีดำแม้กระทั่งมีกลิ่นเหม็นบนตัวเขา

แองเจเล่เริ่มขับเหงื่อสีดำ มันเหนียวมากและเสื้อผ้าของเขาก็เปียกโชกด้วยเหงื่อ ทันใดนั้นแองเจเล่ก็เปิดตาและถ่มเลือดสีดำจำนวนมากลงบนพื้น เลือดมันมีกลิ่นเหม็นแต่สีหน้าของแองเจเล่ก็แสดงความโล่งอกหลังจากที่ปฏิบัติทุกอย่าง

"การรวมกันของโครเวอร์ดำและการฝึกฝนมันช่วยเพิ่มค่าสถานะของข้า ข้าสามารถรู้สึกได้ หลังจากที่คายเลือดทั้งหมดออกมาข้าก็รู้สึกดีมากๆ" แองเจเล่พูด เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอารมณ์ดีและไม่เหนื่อยเลย โครเวอร์ได้ละลายในปากของเขาซึ่งส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่เส้นเลือดของเขา

'ซีโร่เจ้าได้บันทึกการทำงานของสมองของข้าหรือไม่' แองเจเล่ถาม

[ทุกอย่างถูกบันทึกและเก็บไว้ในฐานข้อมูล] ซีโร่รายงาน

"แสดงสภาพร่างกายของข้า" แองเจเล่บอก

[แองเจเล่ ริโอ:ความแข็งแกร่ง 2.9,ความว่องไว 4.1,ความอึด 2.8 สุขภาพดี ได้ถึงขีดจำกัดทางพันธุกรรมแล้ว] ซีโร่รายงาน

'ความอึดของข้าเพิ่มขึ้น 0.3!' แองเจเล่รู้สึกทั้งตกตะลึงและยินดี ความอึดของเขาคือ 2.5 เมื่อเขาตรวจสอบหลายวันก่อน การฝึกฝนทำให้เพิ่ม 0.3 มันเป็นจำนวนที่มาก เขาได้มาถึงขีดจำกัดของยีนแล้วแต่การฝึกฝนกำลังเปลี่ยนแปลงร่างกายของเขาในระดับพันธุกรรม

'ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพ่อมดได้พัฒนาด้วยวิธีการฝึกเช่นนี้!' แองเจเล่มีความสุขและคาดหวังกับสิ่งนี้มากขึ้น เขาคิดว่านี่ไม่ใช่แค่การฝึกเท่านั้นแต่มันยังเป็นการพัฒนา แองเจเล่รู้สึกอยากรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เขาสามารถทำได้ในอนาคต

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด