ตอนที่แล้วตอนที่ 31: โรคที่ตามมา (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 33: ฟิลิป (2)

ตอนที่ 32 : ฟิลิป (1)


ทั้งสามคนเดินมาหาพวกเขาหลังจากที่โจรหนีไป

"เจ้ากำลังมองมาที่เคานต์ฟิลิป บุตรชายของมาร์ควิสไซเรียสของจักรวรรดิรูดิน!" หนึ่งในอัศวินตะโกนขณะที่เดินมา ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังกำลังยุ่งอยู่กับการจัดเสื้อผ้า ดูเหมือนว่าจะกังวลเกี่ยวกับหน้าตาของเขามากเกินไป

"เคานต์ฟิลิป ข้าบารอนคาร์ล ริโอจากทางทิศใต้ จะเป็นพระคุณของเราถ้าท่านแสดงตัวของท่าน" บารอนก้าวไปข้างหน้าและโค้งให้ฟิลิป แองเจเล่ยิ้มและทำตาม ทหารยามส่วนที่เหลือในคาราวานของบารอนเริ่มกระวนกระวายหลังจากที่ได้ยินว่าชายหนุ่มนั้นเป็นเคานต์ พวกเขาก็โค้งหลังจากที่เห็นบารอนและแองเจเล่ทำ บางคนลดศีรษะลง บางคนคุกเข่าและบางคนก็ชักดาบออกมาเพื่อแสดงความเคารพ บารอนและแองเจเล่พูดไม่ออกหลังจากที่ได้เห็นพฤติกรรมของทหารยามของพวกเขา

"คาร์ล ริโอ ข้าขอขอบคุณที่ช่วยให้ข้าพ้นจากอันตราย ข้าจะตอบแทนเจ้าในอนาคต" ชายหนุ่มในชุดหรูหราดูเหมือนไม่สนใจการกระทำของทหารยามได้เดินมาข้างหน้าและพูดเสียงดัง เสียงของเขาดังแต่ก็ใสคล้ายกับนักร้องบนโลก

"เคานต์ฟิลิป ถ้าท่านไม่ว่าอะไรข้าขอถามได้หรือไม่ว่าท่านกำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน" บารอนคาร์ลยืดตัวและถาม

เคานต์ฟิลิปมองไปที่อัศวินทั้งสองอยู่ครู่หนึ่งเขาไม่แน่ใจว่าควรตอบหรือไม่

"พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือมารัวซึ่งมีเพื่อนที่ดีที่สุดของพ่อของข้าอยู่ที่นั่น ตอนนี้สถานการณ์มันเลวร้ายมากพวกเราจึงวางแผนที่จะเข้าร่วมกับเขาที่นั่น" ฟิลิปตอบด้วยรอยยิ้ม เขารักษาระยะห่างจากบารอนเพราะเขารู้ว่าสถานะของเขาสูงกว่าและคิดว่าบารอนกำลังอะไรบางอย่างจากเขา

"โอ้ เคานต์ฟิลิปพวกเรากำลังไปที่ท่าเรือมารัว ถ้าหากท่านไม่ว่าอะไรท่านสามารถเข้าร่วมคาราวานของข้าได้ หลังจากที่มีคนมากขึ้นจะทำให้การเดินทางปลอดภัยขึ้น" บารอนมีความสุข แต่เขาไม่ได้บนใบหน้า ฟิลิปรู้สึกร่าเริง เขากำลังคิดอย่างเดียวกันหลังจากที่เขาเห็นความแข็งแกร่งของบารอน

"ดี ข้ากำลังจะกลับไปที่ขบวนรถของพ่อข้า แต่ตั้งแต่ที่เจ้าถามข้าก็จะเข้าร่วมกับเจ้า" เขาพูดขณะที่พยักหน้าหลังจากที่อัศวินหนุ่มกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของเขา

'ไอ้ตูดหมึก! ถ้าเจ้าสามารถกลับไปที่ขบวนของพ่อเจ้าได้ทำไมเจ้าต้องมาเข้าร่วมกับคาราวานของขุนนางชั้นต่ำที่ไหนก็ไม่รู้ เจ้าต้องหาคำแก้ตัวที่ดีกว่านี้ เห็นได้ชัดว่าเจ้าได้สูญเสียการติดต่อกับพ่อของเจ้า โจรขี่ม้าเหล่านี้นำเจ้ามาเป็นตัวปัญหาให้ข้า' แองเจเล่คิด เขามองไปที่อัศวินทั้งสองครู่หนึ่ง อุปกรณ์ของพวกเขานั้นดูดีแต่เขาสงสัยประสิทธิภาพของพวกเขา

'นี่มันไก่ได้พลอยสองตัวชัดๆ...' แองเจเล่สรุป

บารอนเดินกลับไปที่คาราวานพร้อมกับคนทั้งสามคน คนลงจากรถม้าเพื่อทักทายพวกเขา อย่างไรก็ตามฟิลิปไม่ได้พูดมากเพียงพยักหน้าหลายครั้งเพื่อตอบรับต่อคำทักทายของพวกเขา แองเจเล่ขมวดคิ้วขณะที่เขากำลังมองดูบารอนสนทนากับพวกเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาของจักรวรรดิรูดิน พวกเขาได้แบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองออกมาซึ่งทำให้เพิ่มความคุ้นเคยกับคนอื่น ดังนั้นรถม้าของฟิลิปได้เข้าร่วมคาราวาน

แองเจเล่ยืนอยู่ด้านข้างกับหัวหน้ามาร์ค ด้วยสถานะของเขาเขาไม่สามารถเข้าร่วมสนทนาได้ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยืนฟังอยู่ที่นั่น

"คาร์ล ข้ารู้สึกง่วงเล็กน้อยเพราะงั้นตอนนี้ข้าจะไปพักผ่อน" ฟิลิปพูดหลังจากที่คุยไปสักพัก

"แน่นอน พวกเราจะทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครรบกวนการนอนของท่าน" บารอนพูดด้วยรอยยิ้ม ฟิลิปพยักหน้าตอบและตามอัศวินคนหนึ่งไปที่รถม้าของเขา อัศวินอีกคนกำลังบอกอะไรบางอย่างกับบารอน

"ข้ารู้ โปรดรอสักครู่" บารอนพยักหน้าขณะที่อัศวินเดินกลับไปที่รถม้าด้วยความพอใจ แองเจเล่ได้ยินคำพูดของอัศวินอย่างชัดเจนว่าคาราวานมีอาหารและน้ำเพียงพอหรือไม่

"ท่านพ่อแม้ว่าเราจะมีน้ำเพียงพอแต่พวกเรายังต้องการอาหารทุกวัน นอกจากนี้พวกเรายังขาดอาหารอีกด้วย...." แองเจเล่พูดหลังจากที่ทั้งสามคนไปแล้ว

"พวกเราได้ช่วยเคานต์ฟิลิปดังนั้นพวกเราจะได้บางอย่างกลับมาเมื่อพวกเราไปถึงท่าเรือมารัว พวกเราจะมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นหลังจากที่พวกเราแบ่งน้ำและอาหารไปให้พวกเขาในตอนนี้" บารอนพูดหลังจากที่แองเจเล่หยุดพูด

"พวกเราไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นขุนนางชั้นสูงจริงๆ...." แองเจเล่พูดและเขาก็ขมวดคิ้ว

"ข้าเคยได้ยินชื่อของเขา เขาเป็นหนึ่งในบุตรชายที่มาร์ควิสไซเรียสรักมากที่สุด เขามีอัศวินสองคนเป็นผู้คุ้มกันดังนั้นข้าจึงแน่ใจว่าอย่างน้อยเขาก็เป็นคนสำคัญ" บารอนอธิบาย

"ทั้งสองคน....พวกเขาดูไม่เหมือนว่าพวกเขาอยู่ระดับอัศวิน" แองเจเล่ยังสงสัย

"พวกเขาใช้ทักษะดาบราชวงศ์ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้สำหรับแสดง ทักษะเหล่านี้ใช้สำหรับการแสดงหน้าขุนนางชั้นสูง แต่ทักษะจะไม่มีผลในการสู้รบจริงๆ พวกเขาอาจจะมีทรัพยากรที่หายากบางอย่างเพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าถึงระดับอัศวิน พวกเขาอาจจะมีภูมิหลังที่ดีเช่นกัน" บารอนหัวเราะขณะที่เขาตอบ

"จริงหรือ" แองเจเล่พูด มันดูเหมือนว่าเขาตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง

"เอาล่ะ พวกเราพยายามปฏิบัติกับพวกเขาให้ดีๆ ต้องขอบคุณโจรขี่ม้าพวกนั้นที่ทำให้พวกเรามีม้ามากพอสำหรับการหมุนเวียนในระหว่างทาง ตอนนี้พวกเราสามารถเดินทางได้เร็วขึ้นแม้ว่าจะต้องใช้เวลาประมาณสองเดือนที่จะไปถึงชายแดนของแอนดีส มันเพียงแค่สองเดือนเท่านั้นจากนั้นพวกเราก็จะอยู่ดีขึ้น" บารอนพูดหลังจากที่ตีไหล่แองเจเล่เบาๆ

แองเจเล่พยักหน้าและเขาก็หยุดพูด

ทหารยามทั้งสองคนได้นำอาหารและน้ำไปให้เคานต์ ในขณะที่คนอื่นๆกำลังรวบรวมม้าจากโจรที่ตายเพื่อใช้ม้าเหล่านั้น แองเจเล่เดินไปโจรที่เขาฆ่าด้วยลูกธนูและตรวจสอบลูกธนูไม้ ส่วนใหญ่แตกเป็นชิ้นๆจนไม่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้ เขาคว้าลูกธนูไม้สีน้ำตาลเข้มที่หักและมันก็ออกมาหลังจากที่แองเจเล่ใช้แรงเบาๆดึง

"บัดซบ ตอนนี้ข้าต้องการลูกธนูไม้มากขึ้น" แองเจเล่ดูหงุดหงิดเล็กน้อย

*********************

สามวันหลังจากนั้นที่ไหนสักแห่งในที่ราบแอนเซอร์

ท้องฟ้ามืดลงในขณะที่ฝนตก คาราวานกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆตามที่ราบที่ไม่มีที่สิ้นสุด รถม้าคันที่สองมีการตกแต่งที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับรถม้าอีกสามคัน มีเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลซึ่งอยู่รถม้าคันแรกกำลังเคี้ยวอะไรบางอย่าง มีผลเบอร์รี่ป่าสีม่วงอยู่ในมือของเขา เด็กหนุ่มไม่หล่อแต่สีหน้าของเขาดูสงบและน่าเชื่อถือ เขาเป็นแองเจเล่ที่กำลังสวมชุดล่าสัตว์สีดำและเขาพยายามฟื้นสภาพให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

เขาคว้าผลเบอร์รี่และโยนมันเข้าไปในปาก มันมีรสเปรี้ยวมากแต่แองเจเล่ก็ยังรับได้ มีกระติกน้ำสีดำอยู่บนโต๊ะข้างๆเขาและรอบๆมันเป็นพวงของผลเบอร์รี่ แองเจเล่ยังคงกินเบอร์รี่ขณะที่มองไปนอกหน้าต่าง ในเวลาประมาณสิบนาทีผลเบอร์รี่ก็กินหมดและดื่มน้ำทันที

ประตูเปิดออกจากข้างนอก มีชายวัยกลางคนขมวดคิ้วใส่ชุดขุนนางสีดำแดงเดินเข้ามา ชายคนนี้คือบารอน

"แองเจเล่เรามีปัญหา อาหารและน้ำของพวกเราเกือบจะหมดแล้ว มันจะอยู่ได้ประมาณครึ่งเดือน" บารอนพูด

"ทั้งสามคนได้เข้าร่วมคาราวานของเราไม่นานมานี้ ท่านพ่อมีแผนอะไร" แองเจเล่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

"พวกเราสามารถฆ่าม้าถ้าเราต้องทำ พวกเรามีม้าสี่ตัวที่ได้จากโจร" บารอนพูด

"นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเราต้องทำ เนื้อม้ามีรสเปรี้ยวและกลิ่นแย่มาก ผู้คนจะไม่กินมันจนกว่าพวกเขาจะหิวจนทนไม่ไหว" แองเจเล่พูดเสียงเบา บารอนหยุดพูดและเริ่มคิดถึงทางเลือกที่เป็นไปได้

"เมื่อวานนี้ข้าเห็นเคานต์เทน้ำออกมาจากถังน้ำจากในรถม้า ข้าคิดว่าเขาใช้เพื่ออาบน้ำ นอกจากนี้พวกเขายังกินขนมปังขาวและซุปเนื้อที่เราให้ไปเหลือ พวกเขาจะโยนสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการออกมา ถ้าพวกเราปล่อยทิ้งไปขว้างไปแบบนี้พวกเราจะอยู่ได้ไม่นาน" แองเจเล่พูด

"ถ้าพวกเราไม่ปฏิบัติตามคำขอของพวกเขาพวกเขาก็มักจะไม่พอใจ พวกเขาเคยชินกับวิถีชีวิตที่ฟุ่มเฟือยที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง พวกเขาเพียงแค่ถามข้าเกี่ยวกับน้ำมันและใช้มันบำรุงรักษาอุปกรณ์ของพวกเขา พวกเราไม่ได้มีน้ำมันมากพอสำหรับทำอาหารและพวกเขาใช้มันสำหรับอุปกรณ์ของพวกเขา!" บารอนหัวเราะเบาๆมีท่าทางผิดหวัง

"ข้าจะพยายามทนกับพวกเขา อย่างไรก็ตามมันจะดีกว่าถ้าท่านพ่อสามารถพูดกับพวกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ได้ ไม่เช่นนั้นด้วยปริมาณอาหารที่เรามีอยู่มันจะทำให้เราอยู่ได้เพียงห้าวัน" แองเจเล่พูด

"ตกลง ข้าจะไปพูดกับพวกเขาเรื่องนี้" บารอนพยักหน้าและออกจากรถม้า

แองเจเล่ถอนหายใจ หลังจากที่คว้ากระติกน้ำที่เหลือครึ่งหนึ่งเขาก็กระโดดออกไปจากรถม้า เขาเดินไปทางข้างหลังและเข้าไปในรถม้าคันสุดท้าย หัวหน้ามาร์คซึ่งเป็นคนขับรถม้าคันสุดท้ายจิตใจอยู่ในสภาพตกต่ำ เขาฝืนยิ้มเมื่อเขาเห็นแองเจเล่มา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด