ตอนที่แล้วตอนที่ 139 เรือโดยสารที่ผิดปกติ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 141 หมู่เกาะโจรสลัด 1

ตอนที่ 140 เรือโดยสารที่ผิดปกติ 3


ทันทีที่เขาตอบกลับ ธีโอดอร์ก็ได้แยกขาออก เพื่อถ่ายเทสมดุลแรงโน้มถ่วงของร่างกายเขา ทำให้เขาสามารถที่จะขยับตัวจากอีกด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งได้ตามที่เขาต้องการ ท่าทางของแรนดอล์ฟกลายเป็นจริงจังหลังจากที่เขามองไปที่ปฏิกิริยาของธีโอดอร์ ซึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สามารถทำแบบเขาได้

เขาสังเกตเห็นมันในระหว่างที่พวกเขาถูกไล่ล่า แต่แรนดอล์ฟได้ตระหนักดีว่าธีโอดอร์นั้นแตกต่างไปจากเมื่อปีก่อนโดยสิ้นเชิง ในบรรยากาศที่ตึงเครียด แรนดอล์ฟเป็นผู้ขยับเป็นคนแรก

"รับมือ”

หมัดของเขาได้ยืดออกขณะที่เสียงของเขาได้จางหายไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พลังออร่า ความสามารถทางกายภาพของผู้ใช้ก็เปรียบเสมือนอาวุธอยู่แล้ว เพียงแค่หมัดเปล่าๆของเขาก็เพียงพอที่จะบดขยี้กระดูกของใครบางคนแล้ว คนธรรมดาจะไม่สามารถมองเห็นความเร็วของหมัดนี้ได้ แต่โชคดี ธีโอดอร์ไม่ใช่คนธรรมดา

ปึก!

แขนของธีโอได้ตั้งท่าเป็นรูปครึ่งวงกลมและเบี่ยงหมัดที่เข้าใกล้ตัวเขาออกไป มันเป็นเทคนิคระดับสูงการบ่ายเบี่ยงที่พบได้ในทวีปตะวันออก ซึ่งเน้นความมั่นคงและการควบคุม(มวยอ่อน)

‘…ฉันไม่สามารถที่จะขจัดมันได้หมด เขาเร็วกว่าที่ฉันคิดเอาไว้’

ธีโอดอร์สะบัดข้อมือและเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งต่อไป มันเร็วกว่าที่เขาคาดไว้ถึงสองเท่า เขาต้องการที่จะยกฝ่ามือเพื่อป้องกัน แต่หมัดต่อไปของแรนดอล์ฟนั้นมาถึงตัวเขาก่อนที่เขาจะได้ทำเช่นนั้น

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถือดาบ แต่หมัดของเขาก็เปรียบเสมือนคมดาบที่แทงเข้าทุกช่องว่างที่เขาเห็น

ปึก!ปัก!ตึง!บูม!

หมัดและฝ่ามือได้กระทบกันส่งผลให้อากาศระหว่างพวกเขาระเบิดออก ขณะที่ฝ่ามือของธีโอสะบัดไปมาเพื่อป้องกันหมัดของแรนดอล์ฟ นิ้วของเขาก็เริ่มปูดบวม และในที่สุดเลือดก็ได้หยดลงสู่พื้นห้อง ส่งผลให้พื้นห้องแต้มไปด้วยเลือดที่เป็นจุดๆ

มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แรนดอลฺฟนั้นเป็นผู้เหนือกว่าในการเผชิญหน้าครั้งนี้ ธีโอนั้นทำได้เพียงแค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น เขาไม่มีสิทธิที่จะตอบโต้เลย  การจะเป็นนักดาบไม่ได้หมายความว่าพวกเขาใช้เพียงแค่ดาบเท่านั้น แต่ร่างกายของพวกเขาเองก็เปรียบเสมือนอาวุธ พวกเขาต้องหมั่นฝึกฝนร่างกายของพวกเขาเสมอเพื่อให้รองรับพลังออร่าได้

แรนดอล์ฟนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เขาจะสามารถเอาชนะได้ในตอนนี้

‘บ้าน่า อะไรกัน สถานการณ์ที่น่าอับอายเช่นนี้มันอะไรกัน?’

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ธีโอแต่กลับเป็นแรนดอล์ฟผู้ที่กำลังสับสนในสถานการณ์

ในความเป็นจริง เขากำลังที่จะสอนธีโอถึงความอันตรายของการต่อสู้ระยะประชิดด้วยการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวในหมัดแรกของเขา จอมเวทย์ผู้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มาเพียงเล็กน้อยไม่สามารถที่จะเทียบได้กับคนที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างชำนาญ

อย่างไรก็ตาม เขาไม่คาดคิดเลยว่าการโจมตีครั้งแรกของเขาจะถูกป้องกันได้และครั้งต่อๆไปก็เช่นกัน แรนดอล์ฟจ้องมองไปที่นายจ้างของเขาด้วยท่าทางตกใจ  ‘เกิดอะไรขึ้นกับเขากัน?’

ไม่มีคำอธิบายใดๆสำหรับมัน ร่างกายของมนุษย์นั้นจะไม่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบและเข้มงวดก็ตาม คนบางคนอาจจะได้รับพันธุกรรมมาจากบรรพบุรุษของเขา แต่นั้นไม่ใช่ในกรณีของธีโอดอร์

มันต้องมีโอกาสที่พิเศษสำหรับร่างกายที่แสนอ่อนแอของธีโอดอร์ เขาจึงเติบโตได้เช่นนี้ภายในหนึ่งปี แต่ทว่า นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ธีโอดอร์ยากที่จะจัดการ

ปึก!

ฝ่ามือของธีโอได้ขยับไปปัดป้องหมัดของแรนดอล์ฟได้ทุกหมัด การเคลื่อนไหวของธีโอดอร์ไม่เคยผิดพลาด แม้ว่าเขาจะทำเช่นนี้มากกว่าร้อยครั้งก็ตาม นอกจากนี้เขายังไม่ตกหลุมพลางของแรนดอล์ฟอีกด้วย

แรนดอล์ฟพยายามที่จะหลอกล่อทุกวิถีทาง แต่ธีโอดอร์นั้นรู้ทันว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม

ทำให้เขาสามารถป้องกันหมัดจริงๆได้ แรนดอล์ฟนั้นอาจจะไม่รู้ แต่มันเป็นเพราะสัญชาตญาณของธีโอดอร์ที่ทำให้เขารับรู้ถึงทิศทางของหมัดของแรนดอล์ฟ

‘น่าทึ่งมาก ไม่มีโอกาสที่จะชนะแรนดอล์ฟเลยในการต่อสู้ระยะประชิด’

อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับแรนดอล์ฟ ธีโอดอร์เองก็ตกใจเช่นกัน แม้ว่าเขาจะมี ความสามารถทางกายภาพและศิลปะการต่อสู้ของลี ยองซุก รวมถึงสัญชาตญาณของอัลเฟรด แต่เขากลับทำได้เพียงป้องกันตัวเองเท่านั้น เขาไม่มีโอกาสที่จะโต้ตอบเลย

แน่นอน มันจะแตกต่างออกไปหากธีโอใช้อัมบราและวิธีการอื่นๆ แต่แรนดอล์ฟเองก็ยังไม่ใช้พลังออร่าเช่นกัน ในขณะนี้ ธีโอได้ตระหนักแล้วว่าการต่อสู้ระยะประชิดกับปรมาจารย์ดาบถือเป็นเรื่องที่โง่เขลาสิ้นดี

แรนดอล์ฟนั้นได้บรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว แต่เขายังคงเหวี่ยงหมัดต่อไปโดยไม่รู้ตัว เขาคิดว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้คงจะไม่จบลงโดยง่ายนัก

ตุบ

ในขณะนั้นเอง จู่ๆแรนดอล์ฟก็ถอยหลังไปสามก้าวและคลายหมัดของเขา ไม่ใช่ว่าธีโอดอร์นั้นไม่ล่วงรู้ถึงการถอยหนีของแรนดอล์ฟ แต่การเคลื่อนไหวของเขานั้นเร็วเกินไป นื่คือจุดแข็งของผู้ใช้ออร่าที่เน้นความเร็ว แรนดอล์ฟสามารถที่จะเข้าประชิดและถอนตัวออกไปได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ

“มันน่าชื่นชมจริงๆ คุณเป็นจอมเวทย์นายน้อย และคุณสามารถพัฒนามาได้ขนาดนี้ภายในปีเดียว.....คุณเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง ผู้คนต่างกรอกใส่หูฉันทุกวันว่าฉันเป็นอัจฉริยะตั้งแต่ฉันเกิด แต่เมื่อเทียบกับนายน้อยแล้ว....”

“…ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า”

“ไม่หรอก มันยังไม่เพียงพอด้วยซ้ำไป หากคุณถือกำเนิดในจักรวรรดิแอนดราส  มันเป็นไปไม่ได้งั้นหรือที่คุณจะกลายเป็น7เทพดาบที่อายุน้อยที่สุด?”

แรนดอล์ฟนั้นไม่รู้เกี่ยวกับเวทย์โบราณ ความตะกละ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าทั้งหมดนี้คือพรสวรรค์ของธีโอดอร์ล้วนๆ แน่นอน ธีโอดอร์นั้นยิ้มอย่างขมขื่นออกมาเพราะเขาไม่ได้เป็นอัจฉริยะ แต่แรนดอล์ฟกลับคิดว่าเขากำลังถ่อมตน

แรนดอล์ฟได้กล่าวโทษถึงโลกที่ไร้ซึ่งความเป็นธรรมด้วยคำพูดไม่กี่คำ ก่อนที่เขาจะกำหมัดแน่นทั้งสองข้าง หมัดขวาของเขายกขึ้นอยู่ในระดับหัวไหล่ ขณะที่หมัดซ้ายของเขาอยู่ในระดับเอวของเขา

จิ้ด. สัญชาตญาณของธีโอดอร์ร้องเตือนถึงความอันตราย มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจถึงความหมายของมัน แต่สัญชาตญาณของเขากลับร้องเตือนในระดับสูงสุด

“โชคยังดี ฉันยังคงหลงเหลืออะไรบางอย่างที่จะสอนคุณ”แรนดอล์ฟยิ้มเมื่อเขาเห็นถึงการตอบสนองของธีโอดอร์

จากนั้น แรนดอล์ฟก็ได้เคลื่อนไหว

....ฟุ้บ!

เสียงนั้นตามมาทีหลังหมัด หมัดของแรนดอล์ฟได้มาถึงด้านหน้าของธีโอโดยที่ไม่มีเวลาให้ธีโอดอร์เตรียมการใดๆสำหรับการตอบโต้การโจมตีนี้ หากแรนดอล์ฟตั้งใจที่จะฆ่า ธีโอดอร์คงจะตายไปแล้ว

ธีโอดอร์ไม่สามารถที่จะขยับขาของเขาได้เลย พลังกายที่บริสุทธิ์ปะทะกับศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับการถ่ายทอด.....ผู้ชนะและผู้แพ้ได้ถูกตัดสินภายในชั่วพริบตา

“ทำได้ดี”

“เยี่ยมมาก นายน้อย”

มันเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ธีโอดอร์เองก็ไม่ได้ลืมที่จะลดการป้องกันของเขาลงแม้ในตอนสุดท้าย และแรนดอล์ฟเองก็ยอมรับในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาต้องการรู้ยังไม่ได้รับการอธิบาย ดวงตาของธีโอดอร์เปล่งแสงออกมาราวกับสัตว์ร้ายที่ต้องการคำอธิบาย นั่นทำให้แรนดอล์ฟถึงกับพูดติดอ่าง

“อะ-เอ่อ เหมือนที่ฉันคิด มันถูกต้อง”แรนดอล์ฟกล่าวออกมาอย่างคลุมเครือ

“คุณคิดอะไร?และอะไรที่นายคิดถูก”

“ฉันรู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่นายน้อยขาดไป”

ธีโอดอร์ฟังอย่างเงียบๆ เขาได้ซึมซับประสบการณ์ของลี ยองซุก แต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ และแรนดอล์ฟเองก็เป็นปรมาจารย์ดาบแล้ว ดังนั้นคำแนะนำของเขาจะต้องเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน เมื่อธีโอดอร์สงบสติลง ท่าทางของแรนดอล์ฟก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง

“พื้นฐานเป็นสิ่งที่ดี คุณรู้วิธีที่จะมองออกว่าการโจมตีที่แท้จริงนั้นมาจากการโจมตีหลอกๆ ซึ่งหมายความว่าสายตาของนายน้อยดียิ่งกว่าอัศวินทั่วๆไป มันจึงเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับนายน้อยที่จะมองทันการโจมตีแบบฉับพลันในระยะประชิด

“…แล้ว?”

“ปัญหาคือสิ่งที่ตามมา เนื่องจากคุณรู้เฉพาะพื้นฐานเท่านั้น   คุณจึงไม่สามารถตอบโต้ได้เมื่อฉันใช้เทคนิคอื่นๆ เช่น กระบวนท่าสุดท้ายที่ฉันได้ใช้ไป”

ธีโอดอร์ยอมรับมันอย่างเงียบๆ กระบวนท่าสุดท้ายของแรนดอล์ฟนั้นมันบ้าบอเกินไป มันเป็นเทคนิคที่ใช้ความสามารถทางกายภาพของผู้ใช้ออร่าและไม่สามารถที่จะเข้าใจมันได้โดยง่าย แรนดอล์ฟเรียกมันว่า ‘เจตนาซ่อนเร้น’

“มันถูกเรียกโดยชื่อที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ‘เจตนาซ่อนเร้น’ ‘กระบวนท่าลับ’หรือ ‘วิชาลี้ลับ’ ....สิ่งที่สำคัญก็คือลักษณะของมันไม่ใช่ชื่อ มันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เด็ดขาดซึ่งจะสามารถทำได้หลังจากที่สะสมพื้นฐานมาเป็นเวลานาน”

แรนดอล์ฟได้ดึงดาบของเขาออกจากซองใส่ดาบและตั้งท่าขึ้น เป็นท่าที่ปราศจากช่องโหว่ใดๆ

ฟุ้บบ!

การโจมตีที่ไม่สามารถมองเห็นได้ เขาเห็นเพียงแค่อากาศเบื้องหน้าเขาที่ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน นี่คือเพลงดาบของตระกูลโคลวิส ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีสมาชิกในตระกูลที่เป็นถึง1ใน7เทพดาบอันทรงเกียรติแห่งจักรวรรดิ

แรนดอล์ฟได้เก็บดาบไปโดยปราศจากคำโอ้อวดใดๆและกล่าวว่า “ฉันไม่รู้ว่าใครสอนศิลปะการต่อสู้ให้แก่คุณ แต่ถ้าหากคุณมีเวลา คุณควรที่จะเรียนรู้มันในส่วนที่เหลือ มิฉะนั้นคุณจะไม่สามารถชนะบุคคลที่เชี่ยวชาญในด้านนี้ได้ แน่นอน นายน้อยเป็นจอมเวทย์ ดังนั้นมันจึงไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น”

“…ขอบคุณ”ธีโอดอร์โค้งคำนับให้แรนดอล์ฟด้วยความเคารพ

เส้นทางของจอมเวทย์และอัศวินนั้นแตกต่างกัน แต่คำแนะนำในการเข้าถึงระดับขั้นต่อไปนั้นเป็นประโยชน์เสมอ หลังจากที่ขอบคุณแรนดอล์ฟ ธีโอดอร์ก็ถูกทิ้งให้ไตร่ตรองอะไรบางอย่างที่เขาลืมมันไป –การถ่ายทอด

หากพูดอย่างตรงไปตรงมา การกินหนังสือ ‘บทเพลงแห่งสงคราม’ได้ส่งผลให้ธีโอดอร์เข้าสู่เส้นทางนี้ อัตราซิงโครนั้นสูง แต่ความสามารถทางกายภาพของเขาต่ำ ซึ่งหมายความว่าเขาล้มเหลวในการได้รับทักษะของลี ยองซุก ไปครึ่งหนึ่ง  อาจจะต้องใช้อีกหลายปีหากเขาต้องการที่จะค้นหาความทรงจำของเขาและไล่ล่าภาพเหล่านั้น

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวมันจะแตกต่างออกไปหากเขาสามารถดูดซับจิตวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์ มันจะเป็นเหมือนกับอัลเฟรดที่ธีโอดอร์สามารถใช้ความสามารถทั้งหมดของเขาได้ และคำพูดของความตะกละที่เคยพูดเอาไว้ก็ได้พิสูจน์ความเป็นไปได้นี้

-โดยปกติแล้ว การถ่ายทอดไม่ได้ถูกใช้โดยวิธีเช่นนั้น’

ในอดีต เมื่อจิตวิญญาณของอัลเฟรดถูกดูดซับ ธีโอดอร์เองก็เกือบที่จะตาย อย่างไรก็ตาม ตามคำกล่าวของความตะกละ ดูเหมือนว่ามันจะมีวิธีที่ไม่รุนแรงมากนักในการใช้การถ่ายทอด แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม สิ่งจำเป็นที่ธีโอต้องคำนึงถึงเสมอก็คือการขยายแก่นพลังของเขา   ในขณะที่เขากำลังคิดถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆในการใช้การถ่ายทอด

จู่ๆ....

[ดีโอ้!]เสียงใสของมิตราก็ดังขึ้นในหัวของเขาและปัดเป่าความคิดทั้งหมดออกไป

‘มิตรา?มีอะไรงั้นหรอ?’

[ตรงนี้ บาบา!]

‘หืม?’ธีโอดอร์หันหัวเขาไปและพบกับภาพที่ทำให้เขากุมขมับ

“…มิตรา อย่าไปกวนฮิวกิ้นนักสิ”

เด็กหญิงผู้ที่มีเรือนผมราวกับสีของเมล็ดข้าวสาลีและผิวสีน้ำตาลอ่อนกำลังพยายามทรงตัวอยู่บนหัวของอีกา

แน่นอน สาวน้อยผู้นี้ก็คือมิตราและอีกาที่กำลังกระพือปีกอยู่ก็คือฮิวกิ้น เธอเป็นจิตวิญญาณธาตุที่มีความเป็นอิสระ แต่สิ่งสำคัญก็คือเธอนั้นเป็นจิตวิญญาณธาตุดิน  ดังนั้นเธอจึงถูกจำกัดให้อยู่ได้แต่ในเรือเท่านั้น

[เพิ่น!]

ดังนั้น มิตรานั้นจึงสร้างสายสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ผู้มีปีกของเธอ

กา--!

……แน่นอน มันเป็นสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่ตัวคนเดียว

‘ฉันขอโทษ ฉันจะให้อาหารดีๆแก่นายในภายหลังนะ’

ธีโอดอร์จ้องมองไปที่ฮิวกิ้นด้วยสายที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ก่อนที่จะหันไปหามิตราผู้ที่เรียกเขา เธออาจจะเรียกเขาเพื่อให้มาเล่นกับเธอเป็นประจำ แต่เขารู้สึกได้ว่า ในวันนี้มันไม่ใช่

มิตรากระพริบตาปริบๆก่อนที่เธอจะพูดอีกครั้ง [ดีโอ้!ตรงนี้ บาบา!]

“หะ?ตอนนี้ฉันไม่ได้มองดูอยู่งั้นหรอ?”

[ไม่!ไม่ได้มองมัน!]

‘เธอพูดอะไร?’ธีโอดอร์รู้สึกสับสนกับคำพูดของเธอ มิตราจึงเอาหัวของเธอกระแทกกับหัวของฮิวกิ้น

[ใบเรือฉีดำ!ใบเรือฉีดำ!]

กา--!

ไม่นานหลังจากที่ฮิวกิ้นบินไปมาและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เนตรทิพย์ก็ได้ถูกใช้งาน ขณะเดียวกันเส้นขอบฟ้าก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าดวงตาของธีโอดอร์ ธีโอดอร์รู้สึกสับสนกับภาพที่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน แต่เขาเคยมีประสบการณืเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นเขาจึงสงบสติได้อย่างรวดเร็ว

มันต้องมีเหตุผลที่ทำให้มิตราแสดงภาพทิวทัศน์ให้เขาเห็น ไม่นานนัก ธีโอดอร์ก็ได้เห็นบางอย่างที่ทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป

“…ใบเรือสีดำ”

บรรดาผู้ที่ไม่รู้เกี่ยวกับทะเลอาจจะพูดมาว่าสีของใบเรือนั้นไม่สำคัญ อย่างไรก็ตาม เหล่าลูกเรือจะเยาะเย้ยพวกเขาทันที

สีของใบเรือแสดงให้เห็นถึงจุดประสงค์ของเรือ สีขาวบ่งบอกว่าเป็นเรือโดยสารและเรือค้าขายภายในอาณาจักร สีฟ้าบ่งบอกถึงเรือค้าขายระหว่างอาณาจักรหรือเรือที่มีคณะฑูต ขณะที่สีอื่นๆเป็นสัญลักษณ์ของเรือทางการทหารในอาณาจักรต่างๆ

อย่างไรก็ตาม สีดำนั้นเป็นสัญลักษณ์ของ ‘บาป’ มีเพียงเรือชนิดเดียวเท่านั้นที่มีธงเป็นสีดำ --- เรือโจรสลัด

พวกมันไม่ได้มีเพียง1หรือ2ลำ แต่มีถึง5ลำ เรือโดยสารนั้นได้ละทิ้งความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการรบเพื่อเพิ่มขนาดของเรือ ดังนั้นมันจึงไม่สามารถต่อกรกับเหล่าโจรสลัดได้

“แรนดอล์ฟ เตรียมตัวเดี๋ยวนี้”

“เรียบร้อยแล้ว”

ในฐานะทหารรับจ้างผู้ผ่านศึกมาอย่างโชกโชน การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วอย่างแท้จริง เขาติดอาวุธของตัวเองทันทีที่ได้ยินคำว่า ใบเรือสีดำ  ชายติดอาวุธทั้งสองคนได้ออกจากห้องของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ธีโอดอร์ยังคงใช้เนตรทิพย์ขณะที่เขาก้าวเดินตามแรนดอล์ฟไปบนดาดฟ้า  ทันทีที่กลิ่นเค็มของน้ำทะเลได้ปะทะกับจมูกของเขา  เขาก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

‘....ทำไมฉันสัมผัสถึงพวกมันไม่ได้?’

สัมผัสของเขาสามารถสัมผัสได้ถึงศัตรูทั้งหมดที่เคยพบมา รวมถึงปีศาจและวิญญาณ แต่ทว่าทำไมเขากลับสัมผัสถึงเรือของโจรสลัดไม่ได้? นี่ถือเป็นครั้งแรกสำหรับธีโอดอร์ผู้ซึ่งเคยประสบกับปัญหามามากมาย

อบ่างไรก็ตาม คำถามของเขาจะหายไปในอนาคตอันใกล้นี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด