ตอนที่แล้วตอนที่ 1: การเกิดใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3: การเปิดใช้งาน

ตอนที่ 2: ปรับตัว


หลังจากที่นอนลงบนเตียงประมาณครึ่งวันเย่ซ่งก็ได้ตัดสินใจที่จะลุกขึ้นมา เขาได้ยินเสียงจากคนที่อยู่นอกกำแพงบ้านของเขา เย่ซ่งรู้ว่าพ่อของเขากำลังไล่ล่าอาชญากรที่ต้องการกับผู้คุ้มกัน

กลุ่มอาชญากรที่มาจากที่ไหนไม่รู้ได้สุ่มปล้นคนไปรอบๆและพวกเขาได้ฆ่าไปสิบครอบครัวแล้ว ผู้คนในดินแดนต่างก็กลัวเป็นอย่างมากเพราะเหตุนี้อัศวินอูดิสจึงได้รับคำสั่งและค้นหาไปรอบๆเมืองกับผู้คุ้มกันของเขา

ด้านนอกห้องนอนเย่ซ่งเห็นลานบ้านสีเทาเล็กๆมีบ่อน้ำอยู่ตรงกลาง ลานไม่ได้ถูกดูแลรักษาอย่างดีมีวัชพืชโตอยู่ทุกแห่ง ยามวัยกลางคนสองคนกำลังยืนเฝ้ายามอยู่ข้างบ่อและพวกเขาโค้งให้เย่ซ่งทันทีที่ได้เห็นเขา พวกเขาอยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของบารอน พวกเขาทั้งสูงและแข็งแรง

"นายน้อยแองเจเล่ท่านเป็นอย่างไรบ้าง" ยามที่มีเคราถามเสียงเบา เขาสวมเกราะหนักหนังสีทองและมีขวานขนาดใหญ่อยู่ข้างหลัง เขาดูน่ากลัวมากกับอุปกรณ์เหล่านั้น

ยามอีกคนดูผอมและเขาสวมเพียงเกราะหนังยาวครึ่งตัว มีดาบกางเขนห้อยอยู่ข้างเอว เขาดูไม่ได้แข็งแกร่งมากนักแต่อุปกรณ์ที่เบาทำให้เขาดูปราดเปรียวและเย่ซ่งรู้สึกได้ถึงความหนักแน่นในสายตาของเขา

เย่ซ่งได้มองที่ขอบของดาบกางเขนที่ยังมีเลือดสีเข้มติดอยู่ เย่ซ่งตัดสินใจที่จะไม่มองมันอีกต่อไป

"ลุงอูดิสส่งพวกเจ้ามา?" เย่ซ่งถาม

"ครับ พวกเราจะนำท่านกลับปราสาทและพวกเราจะกลับมาทำหน้าที่ของพวกเราต่อ ไปกันเถอะเราไม่มีเวลาว่างมากนัก" ยามผอมตอบด้วยเสียงเข้ม

"ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรที่ต้องการแล้ว?" เย่ซ่งพยักหน้าและถาม

"ครับ พวกเราได้ค้นพบที่ซ่อนชั่วคราวของพวกมันในตอนเช้าวันนี้และผู้นำได้นำกองทัพไปที่นั่นและล้อมรอบพวกมันไว้" ยามผอมตอบขณะที่เขาพยักหน้า

"เอาล่ะ ตอนนี้ฉันจะไปเปลี่ยนชุดก่อน" เย่ซ่งพูด เขาเดินกลับไปที่ห้องนอนและถอดเสื้อคลุมออก เขาสวมชุดที่ดูเหมาะสมและเดินออกมาจากห้อง เย่ซ่งมองหายามสองคนและเดินออกไปพร้อมกับพวกเขา

บ้านเป็นเพียงแค่สถานที่สำหรับตระกูลของเย่ซ่งที่จะพักเมื่อพวกเขาอยู่ในเมือง สถานที่นี้ไม่ใช่สถานที่ที่ดีสำหรับเย่ซ่งที่จะพักผ่อนและรักษาอาการบาดเจ็บ นอกบ้านมีถนนที่มีผู้คนหลายคนกำลังเดินอยู่รอบๆ พวกเขาทั้งหมดสวมเสื้อผ้าลินินสีเทาหมองคล้ำและถนนทั้งสายดูสกปรก

พ่อค้ากำลังสินค้าตางๆตามข้างถนนและตะโกนขายของของตนเองเสียงดัง มีคนขายผลไม้ ของเล่นไม้หรือแม้แต่ผัก ผู้หญิงบางคนกำลังตรวจสอบสินค้าขณะถือตะกร้า

เย่ซ่งได้สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างเขาและผู้คนที่เดินอยู่หลังจากที่เขาออกจากบ้าน เสื้อผ้าของเขาสีแตกต่างจากผู้คนบนถนน เขากำลังสวมสีดำและผู้คนสวมสีเทา เหตุผลก็คือมีเฉพาะขุนนางเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้สวมเสื้อผ้าสีอื่นๆขณะที่คนทั่วไปถูกจำกัดไว้เฉพาะเสื้อผ้าสีเทาเท่านั้น นี่เป็นหนึ่งในสิทธิพิเศษของชนชั้นสูง ถ้าใครพยายามฝ่าฝืนกฎพวกเขาจะถูกตัดสินประหารชีวิตทันที มันเป็นความผิดร้ายแรงแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีข้อจำกัดของสีระหว่างขุนนางและสีที่พวกเขาสามารถใส่ได้ถูกกำหนดโดยสถานะของพวกเขา

เย่ซ่งได้เดินพูดคุยกับยามทั้งสองคนตลอดทาง เขาสังเกตเห็นว่าทุกคนจะทักทายเขาทุกครั้งที่เห็นเขาและใบหน้าของพวกเขามักแสดงออกถึงความหวาดกลัว เขารู้สึกเหมือนเป็นสิงโตอยู่ท่ามกลางฝูงแกะ

"ท่านยังไม่ชินอีกหรือนายน้อยแองเจเล่" ยามผอมหัวเราะ

จากบทสนทนาของพวกเขาเย่ซ่งได้รู้ชื่อของยามทั้งสอง ยามผอมชื่อคาร์เตอร์และเขาเป็นนักผจญภัยที่อาศัยอยู่ที่นี่ เขาได้รับการคัดเลือกให้เข้ากองทัพและเขาก็เป็นคนที่โชคดีจริงๆ นักผจญภัยเป็นคนที่ไม่มีงานจริงๆ พวกเขาอยู่ต่ำมากในแง่ของฐานะทางสังคมและเป็นยามในกองทัพก็เหมือนกับเป็นตำรวจในสถานีตำรวจบนโลก จุดยืนของเขาสูงกว่าคนทั่วไปมากและเขาได้รับผลประโยชน์มากมายจากงานของเขา

ยามแข็งแรงชื่อมิโร่และเขาเติบโตในดินแดนของบารอนริโอ มิโร่มีพรสวรรค์และเขาเป็นคนที่ทรงพลัง

"ใช่แล้ว...เมืองแคนเดียใหญ่กว่าเมืองเล็กๆแห่งนี้มาก" คาร์เตอร์พูดและหัวเราะ เขาไม่ได้รับรู้การตอบสนองของเย่ซ่ง คาร์เตอร์คว้ามะเขือเทศจากแผงขายของที่พวกเขาเดินผ่านและกัดคำใหญ่ เจ้าของดูไม่ค่อยจะมีความสุขแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เย่ซ่งขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่เขาไม่ได้พูดอะไร

เย่ซ่งคิดว่ายามประจำตระกูลเหล่านี้ได้รับของมาโดยไม่ชำระเงิน พวกเขาอาจมีชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ในดินแดนนี้แต่มันก็ทำให้เย่ซ่งนึกถึงตัวตนเก่าของเขา

เย่ซ่งได้สุ่มเรื่องพูดกับพวกยามระหว่างที่กำลังเดินทางและมันต้องใช้เวลาสักพักสำหรับพวกเขากว่าจะได้ออกจากเมือง พวกเขามองเห็นรถม้าสีดำกำลังรออยู่นอกรั้วของเมือง คนขับรถม้าออกจากรถม้าอย่างรวดเร็วเมื่อเขาเห็นเย่ซ่งและยามสองคนกำลังเดินเข้ามา คนขับรถม้าทักทายพวกเขาและยืนรออยู่ด้านข้าง

กลุ่มพวกเขาสามคนได้ขึ้นบนรถม้าและให้คาร์เตอร์เป็นคนขับรถม้า รถม้าได้เข้าสู่ถนนสายหลักด้วยความเร็วเต็มที่

มันใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีในการเดินทางมาถึงจุดหมายของพวกเขาซึ่งเป็นฐานหลักของตระกูลริโอปราสาทคาร์ล

เย่ซ่งได้ออกจากรถม้าอย่างระมัดระวังและเงยหน้าขึ้นมองดูปราสาทข้างหน้าเขา ปราสาทถูกสร้างขึ้นภายในป่าสีเขียวและดูเหมือนคฤหาสน์สมัยโบราณ

ทั้งปราสาทคาร์ลได้ถูกล้อมรอบไปด้วยคูน้ำ มันเป็นเมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงที่สูงกว่าปราสาท

ปราสาทสีเทาไม่ได้ดูเหมือนอดีตสำหรับเย่ซ่งและมันไม่เหมือนกับภาพจินตนาการเกี่ยวกับปราสาทที่คิดไว้เลย ความสูงของมันสูงประมาณอาคารห้าชั้น มียามสองคนที่มีดาบเหล็กอยู่ข้างหลังตรงทางเข้าหลัก สะพานได้ถูกลดลงเหนือคูน้ำและยามกำลังจ้องไปที่กลุ่มสามคนที่กำลังชุลมุน

เขายืนมองดวงอาทิตย์และปราสาทดูเหมือนสีแดงเพราะดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง เย่ซ่งได้กลิ่นหอมของดอกไม้แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน

เย่ซ่งหายใจเข้าลึกๆ ดวงอาทิตย์เกือบสุดขอบฟ้าและอากาศก็เริ่มเย็น

"ผู้เฒ่าเหว็ดอยู่ที่นี่?" เย่ซ่งถามเสียงต่ำ

"เขาอยู่ที่นี่ พวกเราได้พาท่านมาส่งที่นี่อย่างปลอดภัยและตอนนี้พวกเราจำเป็นต้องกลับไปทำงานต่อ" คาร์เตอร์พยักหน้าและพูด

เย่ซ่งเห็นด้วยและเขาเห็นยามทั้งสองกลับไปที่รถม้า มันไม่ได้ใช้เวลามากนักก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะหายไปจากสายตายของเย่ซ่ง

เย่ซ่งเริ่มเดินไปทางปราสาทและมีชายชราคนหนึ่งสวมเสื้อสีดำเดินออกมาจากปราสาท ผมของชายชราได้ขาวทั้งศีรษะและเขาก็กำลังเดินมาทางเย่ซ่งพร้อมกับยามผู้หญิงหลายคนที่กำลังเดินตามหลังเขา

"ผู้เฒ่าเหว็ด ข้ากลับมาแล้ว!" เย่ซ่งตะโกนและเขาก็เริ่มเดินเร็วขึ้น

เหว็ดเป็นพ่อบ้านที่ทำงานให้กับบารอนคาร์ล เขาได้รับผิดชอบในการดูแลข้อมูลทั่วไปภายในดินแดนและเขาได้ทำงานอยู่ที่นี่มาประมาณ 30 ปี เขารู้จักบารอนคาร์ลตั้งแต่บารอนอายุยังน้อย

"ข้าบอกบารอนนานแล้วว่าเขาควรจะปล่อยให้อูดิสดูแลนายน้อยแต่เขาก็ไม่ฟัง ตอนนี้นายน้อยได้รับการบาดเจ็บ เขาควรจะฟังคำแนะนำของข้า...." ชายชราร่างผอมพูดขณะที่เดินเข้ามาใกล้เย่ซ่ง

มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเย่ซ่งและเขาก็เดินตามคนที่มาต้อนรับเขาเข้าไปในปราสาท

เหว็ดบ่นอยู่ครู่หนึ่งทันใดนั้นก็หยุดลงทันที

"นายน้อยคราวนี้ท่านควรอยู่ในปราสาทและให้อูดิสสอนความรู้ที่จำเป็นทั้งหมด" เหว็ดพูด

"ท่านพ่อเป็นคนพูดแบบนั้นหรือ" เย่ซ่งถาม

"ครับ ตอนนี้สถานการณ์ภายนอกไม่ค่อยดีนัก พวกไม่คิดว่าการปล่อยให้ท่านอยู่ข้างนอกเป็นความคิดที่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคือการที่ท่านได้รับความเดือดร้อนมากในเวลานี้ พวกเราจะแก้แค้นแน่นอนแม้ว่าคู่ต่อสู้เป็นไวเคานต์แคนเดียก็ตาม" เหว็ดพูด เย่ซ่งรู้สึกได้ว่าหัวหน้าคนใช้นี้เป็นคนอย่างไร

"ข้าจะทำตามการตัดสินใจของท่านพ่อ" เย่ซ่งเห็นด้วย

เย่ซ่งตามเหว็ดเข้าไปในห้องโถงใหญ่และมีแม่บ้านอยู่สองคน

เด็กสาวสองคนกำลังสวมชุดหญิงชั้นสูง(ภาษาอังกฤษคือ Farthingale)สีขาวกำลังรออยู่ที่นั่นและพวกเธอก็คำนับพร้อมกันเมื่อพวกเธอเห็นเหว็ดนำเย่ซ่งเข้ามา

"ท่านพี่แองเจเล่" เด็กสาวสองคนพูดพร้อมกัน

"ซีเลียและแม็กกี้!" เย่ซ่งค้นหาความทรงจำของเขาอย่างรวดเร็ว

ซีเลียเป็นน้องสาวของแองเจเล่และพวกเขามีพ่อคนเดียวกัน แม็กกี้มาจากเครือญาติและเธอมาขอความช่วยเหลือจากตระกูลริโอ ตระกูลของแม็กกี้ได้ตกต่ำลงเป็นเวลานานแล้ว พวกเธออายุน้อยกว่าเย่ซ่งพวกเธอจึงเรียกแองเจเล่ว่า'ท่านพี่'

แองเจเล่มีบทบาทสำคัญในตระกูล ดังนั้นเครือญาติเช่นซีเลียและแม็กกี้ต้องระมัดระวังเมื่อต้องรับมือกับเขา มีผู้หญิงอีกหลายคนที่เหมือนพวกเธอในปราสาทแต่พวกเธอไม่ได้มีสถานะที่สูง บารอนไม่ค่อนสนใจผู้หญิงเหล่านั้น ชีวิตของซีเลียในปราสาทนั้นค่อนข้างดี เธอได้รับเงินจำนวนหนึ่งเพื่อใช้จ่ายทุกๆเดือนและมีแม่บ้านค่อยทำงานบ้านให้เธอ เธออยู่ในระดับเดียวกับหัวหน้าแม่บ้าน

ชีวิตของแม็กกี้นั้นเรียบง่าย พ่อแม่ของเธอทำงานให้กับบารอนในปราสาทและพวกเขาได้รับเงินง่ายๆเพื่อความอยู่รอด พวกเขาเหมือนคนงานประจำในปราสาทบางทีพวกเขาได้รับการปฏิบัติดีกว่าคนที่อยู่ในสถานะต่ำสุด มีญาติพี่น้องมากมายกำลังขอความช่วยเหลือจากตระกูลริโอและตระกูลของแม็กกี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

"มันนานมากแล้วนะ" เย่ซ่งพูดและเขายิ้มให้ เขากำลังหยอกล้อเด็กสาวสองคนเพราะพวกเธอค่อนข้างดูดีและพวกเธอมีลักษณะที่ดี เขาปฏิบัติต่อพวกเธอดีทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้ๆและเด็กสาวสองคนคิดว่าเขาเป็นคนที่พึ่งพาได้ดังนั้นพวกเธอจึงเต็มใจที่จะอยู่กับแองเจเล่

"พวกเราได้ยินว่าพี่ได้รับบาดเจ็บและพวกเราจึงตัดสินใจที่จะรอที่นี่เพื่อต้อนรับตอนที่พี่กลับมา พี่รู้สึกดีขึ้นหรือยัง" แม็กกี้ถาม เธออายุสิบสามปีและเสียงของเธอดูอ่อนเยาว์แต่ร่างกายของเธอก็เติบโตได้ดีทีเดียว แม็กกี้มีลักษณะดีและหน้าตาน่ารัก เอวของเธอบางและหน้าอกเธอใหญ่มาก เย่ซ่งถูกเธอดึงดูดและเขาจ้องมองเธอระยะหนึ่ง

มันดูเหมือนว่าแม็กกี้จะรู้ว่าเย่ซ่งมองเธอและเธอเริ่มจะอาย เธอไม่ได้ทำตัวเธอให้เป็นที่สังเกตของเย่ซ่งแต่เธอพยายามทำให้หน้าอกของเธอเป็นสิ่งล่อลวงอย่างเห็นได้ชัดในสายตาของเขา

ร่างกายของซีเลียดูด้อยกว่าเมื่อเทียบกับแม็กกี้และเธอเป็นคนขี้อาย ซีเลียมองที่เย่ซ่งกวางหนุ่มมีความกลัวอยู่ในสายตาของเธอ เธอเอามือของเธอไปวางไว้ที่ท้องดูเหมือนว่าเธอจะค่อนข้างกังวลใจ เย่ซ่งรู้สึกได้ถึงความไร้เดียงสาของเธอ

มีผู้คนจำนวนมากพยายามมาต้อนรับเย่ซ่งกลับปราสาทแต่เด็กสาวทั้งสองคนคิดถึงสถานการณ์และตัดสินใจที่จะมาเร็วกว่าคนอื่น ผู้คนคิดว่าพวกเขาจะใกล้ชิดกับเย่ซ่งถ้าพวกเขามาต้อนรับเย่ซ่งเป็นคนแรกๆ บางทีพ่อแม่ของพวกเขาอาจจะให้พวกเขาทำเช่นนั้น

"ไม่ต้องห่วงตอนนี้ข้ารู้สึกดีขึ้นแล้ว" เย่ซ่งพยักหน้าและพูดคุยกับเด็กสาวเล็กน้อย

เหว็ดไปอย่างเงียบเพื่อทำหน้าที่อื่นและเย่ซ่งก็ตามเด็กสาวสองคนเข้าไปในโถงด้านใน หลังจากที่ผู้คนหลายคนในปราสาททักทายเขาในที่สุดเย่ซ่งก็มีเวลาพักผ่อน

เขากลับไปที่เตียงของเขาและเขาก็หายใจเข้าลึกๆ

มีโต๊ะเขียนหนังสืออยู่ภายในห้องข้างเตียง บนโต๊ะมีเศษกระดาษสีเหลืองอยู่ที่นั่น มีปากกาขนนกวางไว้ข้างขวดหมึกที่อยู่ด้านข้าง มีเทียนไขอยู่สามเล่มเรียงเป็นรูปภูเขา เย่ซ่งได้กลิ่นหอมพิเศษที่ลอยออกมาจากเทียน

เย่ซ่งดึงเก้าอี้ออกมาและนั่งลง เขาเริ่มอ่านเอกสาร

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด