ตอนที่แล้วตอนที่ 137 เป้าหมายคือเมืองท่า 3
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 139 เรือโดยสารที่ผิดปกติ 2

ตอนที่ 138 ไม่บอกชื่อ


ตั้งแต่อดีตกาล เหล่าเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองจะถือเป็นเมืองชั้นใน และแน่นอนว่าเมืองบางแห่งที่อยู่ใกล้กับชายแดนถือเป็นเมืองที่มีค่าทางยุทธศาสตร์ แต่รามอสไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น

อย่างไรก็ตาม รามอสนั้นมีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ มันเป็นส่วนหนึ่งของแนวชายฝั่งที่เรียกว่า ‘ปลายแหลม’ ซึ่งเป็นภูมิประเทศที่ทอดยาวจากพื้นดินสู่ทะเล

มันเป็นเมืองท่า ใช่ รามอสเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองท่าในใจกลางของผืนทวีปตอนกลางที่กว้างขวาง พื้นที่ดังกล่าวนั้นแคบเกินไปที่จะใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์ แต่มันไม่มีปัญหาเรื่องการขนส่งโดยใช้เส้นทางการเดินเรือ นอกจากนี้มันยังมีชื่อเสียงในเส้นทางลัดไปยังทวีปฝั่งตะวันออก

ด้วยเหตุนี้ รามอสจึงยกระดับจนเทียบเท่ากับเมืองใหญ่หลายแห่ง แม้ว่าจะอยู่ในขอบเขตของราชอาณาจักรก็ตาม

และวันนี้มันก็เป็นเหมือนกับทุกวัน

“เฮ้ เด็กใหม่!เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

“ครับ!เข้าใจแล้วครับ!”

ยามที่อายุน้อยที่สุดเป็นผู้ทำหน้าที่ในวันนี้ แฮนสัน รีบวิ่งไปยังทางรอกควบคุมประตูอย่างรวดเร็ว

เช่นเดียวกับเมื่องอื่นๆ รามอสควบคุมการเข้าเมืองโดยการล็อคประตูเมือง แม้ว่าเมืองจะอยู่ห่างไกลจากถิ่นที่อยู่อาศัยของเหล่าสิ่งมีชีวิต แต่มันก็เป็นการดีกว่าที่จะระวัง จากนั้นในตอนเช้า ประตูเมืองจะเปิดทันทีที่ดวงอาทิตย์ขึ้น

ตุกตึก.....กึกกึก...

แฮนสันวิ่งมาถึงสายพานและเริ่มเปิดประตูด้วยแขนหนาของเขา กำแพงนั้นไม่สูงมากนัก ดังนั้นประตูจึงไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่ก็ควรที่จะมีทหารสักสองสามคนคอยช่วยกันเปิดประตู แต่เขากลับถูกบอกให้เปิดประตูด้วยตัวคนเดียว

“ย่า....!”

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ใบหน้าของแฮนสันจะแดงก่ำ แต่เขาไม่สามารถที่จะเปิดประตูได้ อย่างไรก็ตามเขาถือได้ว่ามีพละกำลังที่มหาศาลยิ่งสำหรับมนุษย์ที่ไม่มีพลังออร่า ยามอาวุโส ผู้ที่กำลังเฝ้าดูเขาได้ผิวปากออกมาขณะที่พวกเขากำลังชื่นชมในพละกำลังของเด็กใหม่ที่ค่อนข้างดี

แต่การแสดงออกที่ผ่อนคลายนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน

“หืม ใครกำลังมา?”

“อะไรนะ?อีกนานแค่ไหนกว่าพวกเขาจะมาถึง?”

“พวกเขากำลังจะมาถึงเร็วๆนี้ ดูจากละอองฝุ่นแล้ว มันเป็นกลุ่มเล็กๆแต่เป็นรถม้าชั้นสูง?”

ทหารยามนั้นจะคอยเฝ้ามองไปยังขอบฟ้าจากด้านบนกำแพงในทุกๆวัน ดังนั้นสายตาของพวกเขาจึงคล้ายคลึงกับนักล่าชั้นดี พวกเขาสังเกตเห็นถึงการปรากฏตัวของรถม้าที่มาจากขอบฟ้าทางตะวันตกและระบุได้รูปลักษณ์ของรถม้าที่กำลังใกล้เข้ามา

มันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกสำหรับที่นี่เพราะมันไม่ใช่เรื่องหายากสำหรับที่นี่ที่จะมีแขกมาตอนเช้าตรู่ อย่างไรก็ตามปัญหาก็คือความเร็วของรถม้าต่างหาก

“อะ-อะไรกัน?ทำไมมันเร็วขนาดนี้?!”ทหารยามมากประสบการณ์ได้สังเกตเห็นถึงความรุนแรงของสถานการณ์และรีบไปดึงกำแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว

รถม้าระดับสูงหมายถึงแขกที่เป็นขุนนางหรือกลุ่มการค้าชั้นนำ มันไม่ได้เป็นสถานการณ์ที่พวกเขาจะสามารถชักช้าได้เพราะพวกเขากำลังรับน้องใหม่  พวกเขารีบวิ่งไปช่วยแฮนสันที่กำลังเหนื่อยหอบในการดึงสายพานอย่างรวดเร็ว

ตึงตึงตึง....!ประตูได้เปิดขึ้นด้วยความเร็วที่รวดเร็วยิ่ง ไม่นานนัก กลุ่มของธีโอดอร์ก็ได้หยุดลงที่หน้าประตู ทหารยามที่พึ่งผ่านวิกฤติได้ไม่นานนักกลับกลายเป็นกังวลอีกครั้งเมื่อได้เห็นรถม้า

“ฮะ-เฮือก!”

“รอยเลือด....?!”

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหารูปลักษณ์ดั้งเดิมของรถม้าที่ซึ่งเคยส่องประกายในตอนที่ซื้อใหม่ๆ รถม้าในตอนนี้ดูราวกับพึ่งวิ่งผ่ากลางสนามรบมา ราวกับเป็นเรื่องธรรมชาติ ธีโอดอร์ได้หันหลังให้กับทหารยามที่ตกใจไปยังป่าที่พวกเขาพึ่งผ่านพ้นมา ยังคงมีอันเดทอีกนับพันข้างในป่านั้น

‘บ้าจริง มันน่ารำคาญมากยิ่งกว่าคืนแรกเสียอีก’

หลังจากที่พวกเขาฆ่าวอร์ล็อคผู้ที่โจมตีเป็นคนแรก ธีโอก็ได้ระมัดระวังตัวอย่างเต็มที่ แต่เขากลับไม่พบเห็นเงาใดๆเลย

เพื่อที่จะซ่อนตัวจากการตรวจจับของฮิวกิ้น วอร์ล็อคคนอื่นต้องซ่อนตัวอยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร ในขณะเดียวกัน เป้าหมายของพวกมันก็คือการหยุดรถม้าของธีโอเอาไว้ มันเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมศัตรูจึงใช้แต่อันเดทชั้นต่ำซึ่งแตกต่างจากวันแรก

ในท้ายที่สุด ธีโอและแรนดอล์ฟก็ได้ยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับเหล่าอันเดทและได้ทะลวงฝ่ากองทัพอันเดทออกมา

ตุบ

ในที่สุด จู่ๆม้าตัวหนึ่งก็ได้ล้มลงไปกับพื้นดิน

“….ฉันขอโทษจริงๆ”

ธีโอนั้นได้ใช้เวทย์เร่งความเร็วและฟื้นฟูความเมื่อยล้าซ้ำๆให้กับม้าซึ่งหมายความว่าผลที่ตามมาจะเลวร้ายอย่างมาก ม้าอีกตัวเองก็แทบจะยืนไม่ไหว มันจะตายเช่นกันหากมันวิ่งต่อไปอีกสักพัก ธีโอดอร์ได้ใช้เวทมนต์ง่ายๆในการฝังม้าที่ตายไปแล้ว จากนั้นเขาก็หันหน้าไปหาทหารยามที่กำลังประสาทแตก

และธีโอมีวิธีที่สะดวกอย่างมากที่เขาไม่จำเป็นต้องตอบคำถามใดๆ

“ฉันมาจากกลุ่มการค้าโพโลเนล”

ด้วยคำกล่าวและแผ่นโลหะ มันเพียงพอที่จะทำให้ทหารยามของรามอสหลีกทางให้กับเขา

***

“เราจะแยกกันที่นี่”

“อืม เจอกันที่ท่าเรือ”

หลังจากที่เข้าสู่รามอส พวกเขาทั้งคู่จะแยกกันออกไปตามหน้าที่ แรนดอล์ฟจะทิ้งรถม้าและปล่อยม้าที่เหลืออยู่ไป ในขณะที่ธีโอดอร์จะคอยตรวจดูว่าเรือลำใดที่จะมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรโซลดุน

‘ฉันหวังว่าพวกเราจะได้ออกไปในวันนี้’

แม้ว่าพวกเขาจะเข้าสู่เมืองแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งการโจมตีของกลุ่มการค้าออร์คุส แรนดอล์ฟและธีโอสามารถที่จะจัดการกับอันเดททั่วไปได้.....แต่มันคงเป็นการยากหากอันเดทชั้นสูงอย่างอัศวินแห่งความตายปรากฏขึ้น

Doom Wight นั้นถูกจัดการโดยธีโอดอร์และความตะกละ แต่มันจะร้ายแรงอย่างมากหากแรนดอล์ฟอยู่ตัวคนเดียว ขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มการค้าออร์คุสนั้นทรงพลังกว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะหลบหนีจากอำนาจดังกล่าวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แต่ทว่า คำตอบที่ธีโอดอรืได้รับนั้นกลับไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

“ไม่มีเรือเหลือเลย?”

“ครับ ผมขอโทษ แต่มันถูกจองหมดแล้ว....”

มันถือเป็นข้อผิดพลาดสำหรับธีโอดอร์ เป็นเพราะเขาไม่เคยเห็นทะเลหรือเรือมาก่อนในชีวิตของเขา

“แม้ว่าคุณจะไปถามกลุ่มขนส่งอื่นๆก็ตาม คุณก็จะได้รับคำตอบเดียวกัน”

เรือทุกลำได้ถูกจองหมดแล้ว เห็นได้ชัดว่าเรือแต่ละลำสามารถบรรจุคนได้จำกัดและมันเป็นการยากที่จะแสดงความยืดหยุ่น ซึ่งแตกต่างจากภาคพื้นดิน และยิ่งไปกว่านั้น เขากำลังมองหาเรือที่จะมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรอื่น

มันจะมีโอกาสหากมีที่ว่าง แต่โชคไม่ได้อยู่ข้างธีโอดอร์ในครั้งนี้

ตอนนี้ เขากำลังพูดคุยกับเบลฟ์ สมาชิกของกลุ่มขนส่ง เลอซ์

“ในช่วงเวลานี้ เรือส่วนใหญ่จะไปยังทิศใต้หรือเหนือ ดังนั้นจึงมีเพียงเรืออยู่3ลำเท่านั้นที่มุ่งหน้าไปยังอาณาจักรโซลดุน ถ้าหากคุณจองตอนนี้ คุณอาจจะต้องรออีกเป็นเดือน”

“แม้กระทั่งคนที่มาจากกลุ่มการค้าชั้นนำ?”

ดวงตาของเบลฟ์เบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาเห็นแผ่นโลหะที่ธีโอดอย์ชูขึ้นมา

“โอ้ คุณมาจากกลุ่มการค้าโพโลเนล”

อย่างไรก็ตาม เบลฟ์นั้นไม่ลังเลเลยที่จะส่ายหัวของเขา แม้ว่าธีโอดอร์จะมีฐานะหรือเงินก็ตาม แต่ว่ามันไม่มีที่เหลืออยู่เลยจริงๆ

บนทะเล ชื่อกลุ่มการค้าโพโลเนลไม่ได้มีบทบาทที่สำคัญนัก อิทธิพลของกลุ่มการค้าโพโลเนลส่วนใหญ่จะอยู่บนภาคพื้นดินในเขตตอนเหนือ ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีอิทธิพลมากในพื้นที่ที่ห่างไกลในทวีปตอนกลาง และรามอสคือหนึ่งในเมืองเหล่านั้น เนื่องจากกิจการส่วนใหญ่ของพวกเขาดำเนินการผ่านทางทะเล

ธีโอดอร์ขบริมฝีปากแน่นเมื่อเขาไม่ได้ในสิ่งที่เขาหวัง

‘ถ้าฉันไม่สามารถหาเรือได้ที่นี่....ฉันจำเป็นต้องหารถม้าและวิ่งไปที่ชายแดนทางตะวันตกงั้นหรือ?ไม่ มันยากเกินไปเนื่องจากฉันเสียเวลาไปกับที่นี่ ฉันต้องการรถม้าที่ดีพอที่จะทำลายการโอบล้อมของเหล่าอันเดท...หรือฉันควรที่จะหลบซ่อน?’

เขาจนมุม ธีโอดอร์ตระหนักถึงความจริงในเรื่องนี้และมองไปที่พื้นด้วยท่าทางน่ากลัว

แม้ว่าเขาจะมีความรู้ สมองและประสบการณ์ที่เหนือกว่าคนหลายคน แต่ธีโอดอร์ยังคงเด็กอยู่ เวโรนิก้าจะเอาชนะความยากลำบากนี้ด้วยพลังของเธอ ขณะที่วินซ์คงจะจองเรือในเมืองท่านี้ตั้งแต่แรกเริ่ม

ขณะนั้นเอง....

“อืม....คุณบอกว่าคุณชื่อธีโอใช่ไหม?”

“อ่า ใช่”

“ดั่งที่ผมได้กล่าวไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นเรือธรรมดา อย่างไรก็ตาม มันอาจจะเป็นไปได้หากเป็นเรือพิเศษ”

ธีโอดอร์ผู้ที่กำลังจมดิ่งไปกับความเศร้าหมองนั้นรู้สึกราวกับถูกฉุดขึ้นจากขุมนรก “เรือพิเศษ?”

ไม่สำคัญว่าราคาของมันเท่าไร เขาสามารถจ่ายได้ทั้งนั้น ต้องขอบคุณการต่อสู้ตัวต่อตัว เงินที่เขาได้ใช้ไปในการประมูลใต้ดินนั้นไม่ได้มากมายนัก อย่างไรก็ตามแทนที่จะอธิบายต่อ เบลฟ์กลับเอานิ้วของเขาทาบริมฝีปากของเขาเอาไว้ “แต่ทว่า มันมีเงื่อนไขอยู่สองข้อ”

“อะไร?”

“ข้อแรก คุณจะได้รู้ความลับของเรือหลังจากที่ขึ้นเรือแล้ว และห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้เด็ดขาด”

“…เข้าใจแล้ว”

ธีโอดอร์ต้องการที่จะบ่น แต่เขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะทำเช่นนั้นได้ เขาต้องการที่จะหลบหนีการไล่ล่าและไปถึงอาณาจักรโซลดุนให้เร็วที่สุด ตราบเท่าที่เขาสามารถบรรลุจุดประสงค์ของเขาไม่ว่าจะยังไงเขาก็ยอม

จากนั้น เบลฟ์ก็ได้บอกเขาถึงเงื่อนไขข้อที่สอง และมันเป็นไปตามที่ธีโอคาดเอาไว้

“ผมต้องมีหลักค้ำประกันนิดหน่อย”

“คุณหมายความว่าฉันต้องจ่ายเงินเพิ่มงั้นหรอ?”

“ไม่ ไม่ใช่เช่นนั้น”

ธีโอดอร์นั้นสับสนอย่างมาก นั่นทำให้เบลฟ์ยิ้มกว้างและกระซิบด้วยเสียงดัง “มีใครในกลุ่มนอกจากธีโอไหม?”

“ใช่ สองคนรวมฉัน”

“งั้นก็ต้องใช้ 20เหรียญทอง หากคุณจ่าย10เหรียญทองต่อคน ในตอนท้ายคุณก็จะได้รู้ว่าทำไม”

เขาหมายความว่าเงินส่วนที่เหลือจะถูกเรียกเก็บหลังจากขึ้นเรือ?ธีโอดอร์พยายามที่จะถาม แต่เบลฟ์ยืนกรานว่าเขาไม่สามารถอธิบายได้อีกต่อไป

‘ชิ ช่วยไม่ได้’

เนื่องจากสถานการณ์ที่ล่อแหลมของเขา ธีโอจึงต้องยอมแพ้ ในท้ายที่สุด ธีโอดอร์ก็ได้ยอมรับข้อเสนอของเบลฟ์ เขาหยิบเหรียญทองให้แก่เบลฟ์และได้รับตั๋วขึ้นเรือมาสองใบ ขอบคุณตราทองแดงของกลุ่มขนส่ง เลอซ์ ทำให้การปลอมแปลงตั๋วขึ้นเรือนั้นทำได้ยาก บางทีนี้อาจไม่ใช่ของที่ใช้ได้ครั้งเดียว

“ผมจะจัดห้องสำหรับสองคนไว้ เวลาออกเดินทางคือช่วงเย็นของวันนี้”

ธีโอดอร์จ้องมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกกังวลและถามเบลฟ์ถึงสิ่งที่เขาเกือบจะลืมไป “ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเดินทางไปอาณาจักรโซลดุน?ฉันได้ยินมาว่าเราสามารถไปถึงได้เร็วที่สุดสี่วัน”

“อ่า ผมขอโทษ ผมลืมอธิบายไป”เบลฟ์ตบหัวของเขาก่อนที่จะตอบว่า “เรือของเรานั้นจะเดินทางโดยใช้ทางอ้อมเล็กน้อย ดังนั้นมันจึงต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์ คุณมีธุรกิจเร่งด่วนงั้นหรือ?”

“…ไม่เป็นไร”ธีโอดอร์หยุดคิดชั่วขณะก่อนที่จะหยิบเอาตั๋วขึ้นเรือทั้งสองใบไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการกำจัดความเสี่ยงจากกลุ่มการค้าออร์คุสไป ไม่ใช่ระยะเวลาที่จะไปถึงอาณาจักรโซลดุน

ข้อได้เปรียบของการเดินทะเลคือการที่เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการจู่โจมจากวอร์ล็อค ซอมบี้ กูลล์ และอันเดทชั้นต่ำอื่นๆไม่สามารถต้านทานแรงกดดันของกระแสน้ำในทะเลได้หรือต่อกรกับสิ่งมีชีวิตในทะเล

อย่างไรก็ตาม ธีโอดอร์นั้นกลับระแวงเกี่ยวกับเรือพิเศษลำนี้ซะมากกว่า

‘ฉันควรจะไปพบกับแรนดอล์ฟและบอกข่าวแก่เขา’

ธีโอดอร์เดินออกจากกลุ่มขนส่ง เลอซ์และมุ่งหน้าไปหาแรนดอล์ฟในที่ที่เขากำลังรออยู่ ในฐานะผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างที่ประจำการอยู่ในทวีปตอนกลาง แรนดอล์ฟอาจจะรู้เกี่ยวกับความลับนั่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด