ตอนที่แล้วตอนที่ 126 ชีวิตคือเวลา 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 128 การประมูลใต้ดินแห่งคาร์กาส 1

ตอนที่ 127 ชีวิตคือเวลา 3


ความรู้สึกแรกของธีโอเมื่อจิตสำนึกของเขาตื่นขึ้นก็คือน้ำหนักของปากกาขนนกที่อยู่ระหว่างนิ้วมือของเขา

เขาเขียนบางสิ่งบางอย่างอย่างตั้งใจ ปากกาที่มีน้ำหนักเบานั้นรู้สึกราวกับหอกโลหะที่หนักอึ้งและทุกครั้งที่เขาขยับเขาจะรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนตั้งแต่ข้อมือไปจนถึงข้อศอก มันเป็นความเจ็บปวดสำหรับธีโอดอร์ที่ยังไม่ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์

เขานั้นเพ่งสัมผัสของเขาออกไปอย่างใจเย็น

จากนั้น...’นี่-คือสูตรเวทย์อัญเชิญงั้นหรอ?’

มือที่ไม่ใช่ของตัวเองกำลังเขียนสูตรเวทย์อัญเชิญโดยไม่หยุดนิ่ง ความเร็วในการเขียนนั้นช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง นี่เป็นหลักฐานว่าเขานั้นมีความรู้เกี่ยวกับเวทย์อัญเชิญเหนือกว่าทุกคน

หลังจากที่ธีโอดอร์เห็นเขาก็เชื่อมั่นว่า เจ้าของนิ้วมีแห้งๆนี้คือซาโตเมอร์ จอมเวทย์อัญเชิญที่เก่งกาจที่สุดในยุคใหม่(ซาโตเมอร์ไม่ได้มาจากยุคโบราณนะครับ อัญเชิญได้แต่ขั้นกลาง พยายามจะอัญเชิญระดับสูงแต่ตายก่อน เดวตอนเก่าขอกลับไปแก้หน่อยนะครับ) อย่างไรก็ตาม ธีโอไม่ได้รับโอกาสที่จะได้เห็นใบหน้านี้

 

“…ไม่ ไม่ ”เสียงที่ไม่พึงพอใจไหลออกมาจากลำคอของเขา เสียงนั้นราวกับเสียงเหล็กขูดกัน มันดูราวกับมาจากผู้ป่วยที่ป่วยหนัก เสมหะของเขามีเลือดป่นอยู่และเขารู้สึกลำบากในการหายใจ อย่างไรก็ตาม ซาโตเมอร์นั้นก็ได้ทุบโต๊ะด้วยหมัดที่อ่อนแอและตะโกนเสียงดัง

ตึง!ขวดหมึกได้ล้มลงและเลอะไปทั่วแผ่นกระดาษ

“นี่มันไม่ใช่...!”จอมเวทย์ได้กรีดร้องเสียงดังขณะที่เขาเปลี่ยนห้องวิจัยของเขาให้กลายเป็นยุ่งเหยิง เขาเตะเก้าอี้ที่ไร้ความผิดและขว้างเครื่องประดับที่ทำจากแก้ว ร่างที่ไม่คุ้นเคยกำลังสั่นไหวด้วยความเจ็บปวด แต่ความไม่พอใจของซาโตเมอร์ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

 

ธีโอดอร์นั้นไม่สามารถหยุดยั้งร่างกายได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้าดู

เขาอาละวาดอยู่ไม่กี่นาที จากนั้นซาโตเมอร์ก็หายใจอย่างรุนแรงและหันไปมองที่อื่น มันเป็นกระจกที่สกปรก มันเต็มไปด้วยคราบฝุ่นจนยากที่จะเห็นใบหน้าของเขาเว้นแต่เขาจะเข้าไปใกล้

โดยปกติมันจะถูกเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าเปียก แต่คนที่อยู่ตรงหน้ามันนั้นเป็นจอมเวทย์

 

“ชะล้าง” กระจกที่สกปรกถูกทำความสะอาดด้วยคำเพียงคำเดียวและภาพสะท้อนของชายวัยกลางคนก็ได้ปรากฏขึ้น เขามีผิวที่ซีดเซียวและริมฝีปากที่ถูกกัดอยู่หลายครั้ง โดยมีสะเก็ดแผลเต็มไปทั่วปาก ดวงตาของเขาดูราวกับว่าเขาไม่ได้นอนหลับมาหลายวันแล้ว

‘จอมเวทย์อัญเชิญคนสุดท้าย ซาโตเมอร์’

 

เมื่อมองภาพลักษณ์ของเขา ธีโอดอร์ ก็ได้รู้ว่าชายคนนี้ยังอายุไม่เกิน50ปี ซาโตเมอร์นั้นมีร่างกายที่บอบบางเพราะเขาเดินทางไปทั่วทุกสถานที่ในทวีป เขาได้สะสมความเหนื่อยล้าและสารพิษเอาไว้ในร่างกาย

ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ซาโตเมอร์นั้นก็ใกล้จะตายแล้วขณะที่เขียนหนังสือเล่มนี้

ในขณะนั้น....“คุ คุคุคุ...”

ชายวัยกลางคนจ้องมองไปในกระจกด้วยดวงตาอันน่าสยดสยองของเขาแล้วก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ซาโตเมอร์หัวเราะตัวเองขณะที่จ้องมองตัวเองในกระจก แต่ธีโอดอร์กลับรู้สึกว่าซาโตเมอร์กำลังจ้องมองมาที่เขา ไม่สิ การจ้องมองนั้นรุนแรงพอที่จะบอกได้ว่าเขาสัมผัสได้ถึงธีโอจริงๆ

 

ไม่น่าแปลกใจเลยซาโตเมอร์ได้คุยกับเขาก่อน “คุคุ เจ้ามาเพื่อหัวเราะเยาะข้างั้นหรอ?”

‘หืม?หัวเราะเยาะ?’

“อย่าแสร้งทำเป็นว่าเจ้าไม่รู้!เจ้าเองก็มาเพื่อเยาะเย้ยเวทย์อัญเชิญของซาโตเมอร์ผู้นี้ใช่ไหมละ?”

 

ตามบันทึก ความเป็นไปได้ของเวทย์อัญเชิญนั้นได้ถูกตัดขาดตั้งแต่ที่ซาโตเมอร์ยังคงมีชีวิตอยู่

เงินและวัตถุดิบที่ต้องใช้สำหรับเวทย์อัญเชิญนั้นเป็นจำนวนมากและไม่มีทางที่จะทำให้สำเร็จได้ ดังนั้นในสมาคมเวทมนต์ เวทย์อัญเชิญนั้นได้รับการปฏิบัติราวกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ พวกเขาไม่ได้รังเกียจ แต่จอมเวทย์นั้นมักจะมีการรวมกลุ่มกัน

จอมเวทย์อัญเชิญรวมถึงซาโตเมอรน์ นั้นไม่สามารถเข้าสู่กลุ่มใดๆได้ ดังนั้นในท้ายที่สุด ซาโตเมอร์จึงได้ออกจากหอคอยเวทมนต์ และเวทย์อัญเชิญก็ได้ยุติลง

มันอาจจะโชคร้ายอย่างมากสำหรับธีโอดอร์แต่ความแค้นที่สะสมมาหลายปีนั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าโศก

ซาโตเมอร์ยังคงพูดออกมาอย่างถากถาง “ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ เจ้าเป็นจอมเวทย์ขั้น6และยังหนุ่ม มากกว่าข้าผู้ที่เป็นจอมเวทย์ขั้น5จนกระทั่งตาย ทำไมเจ้าถึงจะต้องการความรู้ของข้ากัน?เห็นได้ชัดว่าเจ้าต้องการที่จะล้อเลียนข้า!”

ธีโอดอร์ไม่ได้รู้สึกอารมณ์เสียจากคำพูดที่ถากถาง แต่เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยเมื่อเขามีทัศนคติที่คล้ายเม่น

ซาโตเมอร์เคยเป็นจอมเวทย์ผู้ที่เดินบนเส้นทางที่เขาต้องการจนจบ แต่เขายังถูกสบประมาทโดยคนรอบตัว มันเป็นความอัปยศสำหรับซาโตเมอร์ แต่ธีโอไม่คิดว่าชีวิตของซาโตเมอร์นั้นไร้ค่า

ดังนั้นธีโอดอร์จึงตอบกลับด้วยความเคารพ ‘นั่นคือความเข้าใจผิดผู้อาวุโส ซาโตเมอร์’

อย่างไรก็ตาม ซาโตเมอร์กลับตอบสนองต่อคำพูดของธีโอดอร์ จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ใบหน้าของตัวเองขณะที่เขาพึมพำ “อาวุโส?ข้าเป็นผู้อาวุโสของเจ้า”

‘ผมไม่สามารถคิดคำเรียกได้อย่างเหมาะสม ถ้าคุณอยู่ในอารมณ์ไม่ดีผมสามารถเรียกคุณอย่างอื่นได้’

“…ไม่เป็นไร เจ้าเป้นคนตลกจัง”

เหตุผลสำหรับปฏิกิริยานี้คืออะไร?ซาโตเมอร์ถ่มน้ำลายลงบนกระจกหน้าเขาก่อนที่จะนั่งลงอย่างนุ่มนวลบนเก้าอี้ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจราวกับนักบวชที่อ่อนล้าจากการเดินทางที่ยากลำบาก เขาจ้องมองด้วยสายตาที่ว่างเปล่าไปยังเบื้องหน้า และธีโอดอร์ก็ได้รอคอยอย่างอดทนเพื่อให้เขาพูดเป็นคนแรก

ซาโตเมอร์ยังคงจ้องมองด้วยดวงตาที่ว่างเปล่าก่อนที่จะพูดขึ้น ขณะที่เขานึกถึงความทรงจำของธีโอดอร์ในซิงโคร ซาโตเมอร์ก็ได้พูดชื่อของธีโอดอร์อย่างเป็นธรรมชาติ

 

“เจ้าคือ ธีโอดอร์ มิลเลอร์?”

‘ครับ’

“เจ้าเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยม ไปถึงวงกลมที่6ด้วยอายุเพียงแค่20ปี ชีวิตของเจ้าเต็มไปด้วยคำอวยพรมากมายนัก ข้าไม่รู้ว่าทำไมคนอย่างเจ้าถึงต้องการความรู้จากผู้แพ้อย่างข้า”

ลิ้นของเขายังคงแหลมคม แต่คราวนี้ มันถูกใช้โดยซาโตเมอร์เพื่อพูดใส่ตัวเขาเอง ไม่ใช่ธีโอดอร์ ธีโอดอร์ส่ายหัวอย่างหนักแน่น’ผู้อาวุโสไม่ใช่ผู้แพ้’

“บัดซบ ไม่ต้องพยายามที่จะปลอบใจข้าเพียงเพราะข้าอารมณ์เสีย ข้าไม่อยากได้ยินเรื่องนี้จากเด็กที่ยังไม่โตเต็มที่”

‘ถ้าคุณมองเข้าไปในความทรงจำของผม คุณจะรู้ว่าผมเป็นเจ้าของหนังสือเวทย์โบราณ’

“เจ้ากำลังจะพูดถึงอะไร?”

 

การโต้แย้งของธีโอดอร์ดังสะท้อนอยู่ในหูของซาโตเมอร์ ‘ผมได้ถามบางอย่างกับเวทย์โบราณก่อนที่ผมจะมาที่นี่ ผมถามมันว่าทำไมเวทย์อัญเชิญจึงอ่อนแอกว่าเวทมนต์ทุกประเภทและเวทย์อัญเชิญที่บันทึกในตำนานเป็นเพียงเรื่องเล่างั้นหรอ’

“….ใช่ไหมละ?”

‘เวทย์โบราณนั้นมีคำตอบ เหตุผลที่ว่าทำไมเวทย์อัญเชิญนั้นทำงานอย่างไม่ถูกต้องนั้นไม่ได้เกี่ยวของกับระบบของมันเอง’

ซาโตเมอร์จึงจดจ่ออยู่กับคำพูดของธีโอขณะที่ดวงตาของเขาชุ่มไปด้วยน้ำเพราะเขานั้นไม่กระพริบตาเลย ดวงตาของเขาหยุดนิ่งด้วยวิธีอันน่าสยดสยองขณะที่แก่วที่เขาจับอยู่ในมือแตกออกทำให้เลือดไหลออกมา ซาโตเมอร์อาจจะแกล้งทำเป็นเย็นชา แต่แก่นแท้ของเขาคือจอมเวทย์ มันอาจจะเป็นเศษเสี้ยวจิตวิญญาณแต่มนุษยืที่ชื่อว่า ซาโตเมอร์ นั้นได้ปลูกฝังคำว่าจอมเวทย์ลงไปในกระดูกของเขา

ดังนั้นธีโอดอร์จึงบอกกับเขาถึงความจริงโดยไม่มีการเหนี่ยวรั้ง ‘ในขณะที่ยุคโบราณกาลได้สิ้นสุดลง เวทย์ป้องกันรอบๆโลกวัตถุก็แข็งแกร่งขึ้น ทำให้ยากที่จะยืมตัวสิ่งมีชีวิตหรือพลังจากโลกอื่นๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอัญเชิญสิ่งมีชีวิตระดับสูงเมื่อพันปีก่อน และในยุคของคุณ มันยากที่จะอัญเชิญสิ่งมีชีวิตระดับกลางได้’

“…..”

ธีโอดอร์ไม่อาจคาดเดาได้ว่าการตอบสนองต่อคำตอบที่โหดร้ายของเขานั้นจะเป็นอย่างไร มันเป็นเพียงถนนที่ซาโตเมอร์วิ่งมาตลอดชีวิตของเขา ซาโตเมอร์ก้มลงมองไปที่พื้นชั่วขณะ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองเพดานโทรมๆและกัดริมฝีปาก

 

จากนั้นเขาก็หัวเราะขึ้น “ฮ่าๆ ฮ่าๆๆๆๆ....!”

‘ผะ-ผู้อาวุโส?’ ธีโอดอร์เรียกเขาด้วยท่าทางกังวลว่าซาโตเมอร์จะกลายเป็นบ้า

“ใช่แล้ว! นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาไม่ตอบรับการเรียกของข้า!โลกนั้นเป็นปัญหา ดังนั้นไม่ว่าฉันจะแก้ไขสูตรกี่ครั้งก็ตาม มันก็ไร้ความหมาย!โลกวัตถุมันบัดซบสิ้นดี!ข้าขอสาปแช่งเวลา!อุวะฮ่าๆ!”

 

ธีโอดอร์สับสนว่าเขาเป็นบ้าหรือเขามีความสุข เขาจะตอบสนองแบบนี้หากงานที่เขาอุทิศชีวิตทั้งหมดของเขานั้นสูญเปล่า ?อย่างไรก็ตาม ซาโตเมอร์ไม่คิดเช่นนั้นขณะที่การแสดงออกทางสีหน้าของเขาได้จางหายไป

จากนั้นเขาก็พูดด้วยความพอใจ “ข้าไม่ผิด!การวิจัยของข้าไม่ได้ล้มเหลว!เวทมนต์ของข้า...ความฝันของข้าไม่ได้พังทลาย!”

ซาโตเมอร์ร้องออกมาอย่างยินดี เขาได้พยายามใช้เวทย์อัญเชิญจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่เขาก็ไม่สามารถอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่เขาฝันถึงในช่วงวัยเด็กของเขา ดังนั้นชีวิตของชายที่ชื่อว่าซาโตเมอร์จึงไร้ความหมาย

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ความพยายามของเขาถูกต้อง เวทมนต์ที่เขาฝันถึงนั้นมีอยู่จริง มันเป็นเพราะเขาไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคอันทรงพลังที่เกิดขึ้นในโลกนี้ได้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่เขาจะรู้สึกเสียใจ

 

จอมเวทย์ที่มีความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ ซาโตเมอร์ ได้โค้งคำนับและแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ “ขอบคุณธีโอดอร์ มิลเลอร์ ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าข้าจะแก้ไขการยึดติดของข้าได้ด้วยวิธีนี้”

‘คุณหมายถึงอะไร…?’

“ไม่เป็นไรหากเจ้าไม่รู้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอธิบายด้วยปาก งั้นมาแก้ปัญหานี้กันอย่างรวดเร็วเถอะ เวลามีน้อยเหลือเกิน”

‘อา!’

มันเหมือนกับที่เขาพูด ในขณะนั้น ห้องของซาโตเมอร์ก็ได้ปกคลุมไปด้วยความมืดที่ไม่รู้จักซึ่งกลืนกินพื้นห้องไปกว่าครึ่ง ธีโอดอร์มีความรู้สึกว่าซิงโครนั้นจะสิ้นสุดลงเมื่อความมืดได้สัมผัสกับเท้าของซาโตเมอร์ มันเป็นข้อพิสูจน์ว่ามันใกล้ถึงขีดจำกัดของเวลา 40นาที 25 วินาที แล้ว

ก่อนหน้านั้น ซาโตเมอร์ก็ได้กล่าวอำลา “จงเอาความรู้ที่ข้ามีไป!ด้วยสมองของเจ้า เจ้าอาจจะสามารถนำมันไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่าที่ข้าทำ”

‘อาวุโส...!’

“ข้าจะให้คำแนะนำแก่เจ้าหนึ่งข้อ ถ้าเป็นเช่นที่เจ้าพูด ม่านพลังป้องกันของโลกวัตถุนั้นได้ปิดกั้นการอัญเชิญ จอมเวทย์จะต้องทำลายม่านป้องกันนั่นลงซะหรือสร้างเส้นทางที่แยกออกไป”

 

อย่างไรก็ตามการทำลายมันด้วยกำลังนั้นแตกต่างออกไปจากการพูด เพื่อที่จะทำลายม่านพลังป้องกันของโลกวัตถุลง จะต้องใช้จอมเวทย์ในตำนาน แม้กระทั่งเวโรนิก้าก็ไม่สามารถที่จะจัดการกับมันได้ แล้วธีโอดอร์ละ?ดังนั้นซาโตเมอร์จึงพยายามที่จะสอนเขาเกี่ยวกับวิธีที่สอง

เหมือนความคิดของธีโอถูกต้อง ซาโตเมอร์ยิ้ม “เจ้ายังเด็ก ข้าหวังว่าข้าจะมีน้องชายเช่นเจ้า แต่ข้าดีใจที่เราได้พบกัน หากพระเจ้ามีจริง ตัวตนของพวกเขาคงบิดเบี้ยวยิ่ง”

 

‘อา....วุโส....’

“ไปซะ ไม่มีที่ให้บอกลากับคนตาย”

 

ขณะที่ร่างของซาโตเมอร์หายไป เสียงของเขาก็ได้ดังก้องอยู่ในหัวของธีโอ [ร่างกายของเจ้ามีประตูที่จะนำไปสู่อีกมิติหนึ่ง ข้าไม่ทราบว่ามันจะนำไปที่ไหน แต่หากเจ้าใช้เวทย์อัญเชิญโดยเส้นทางนี้ เจ้าจะสามารถอัญเชิญสิ่งมีชีวิตระดับสูงได้]

‘….’

[จงรับผู้ที่ทำสัญญากับข้าไป ข้าลืมชื่อของมันไป แต่มันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง]

เสียงของที่หยาบกระด้างของจอมเวทย์อัญเชิญที่เก่งกาจที่สุดในยุคสมัยใหม่ ซาโตเมอร์ ได้จางหายไป ถ้าเป็นไปได้ธีโอดอร์อยากจะกล่าวขอบคุณ เช่นนั้นการตอบสนองของซาโตเมอร์จะเป็นอย่างไรกัน?ธีโอดอร์อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ขณะที่เขาถูกดูดโดยพลังดูดที่รุนแรง

เขาเกือบจะสูญเสียสติขณะที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

[การซิงโครกับเป้าหมายที่เรียกว่า ‘ซาโตเมอร์’ได้สิ้นสุดลงแล้ว]

[อัตราซิงโครคือ 76.4%]

[ซาโตเมอร์ ได้ส่งมอบพิกัดของสิ่งมีชีวิตที่ทำสัญญาให้กับคุณ ถ้าคุณต้องการทำสัญญากับผู้อัญเชิญของเขา คุณต้องเชื่อมต่อกับมันด้วยคาถาเวทมนต์ขณะที่นึกถึงพิกัด]

[มีการเพิ่มคุณลักษณะใหม่ลงใน ‘Ring of Muspelheim’]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด