ตอนที่แล้วChapter 240: System (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEpilogue

Chapter 241: The Final Battle


Chapter 241: The Final Battle

ราชานรกไอเป็นเลือดและเขาก็บดฟันเข้าด้วยกันพร้อมกับร่างกายที่สั่นสะเทือน เลือดไหลออกจากดวงตาของเขาทำให้มองไม่เห็นแบบปกติไม่ได้.

“รัลดาล...บิกิเซล...!”

เสียงของเขาเต็มไปด้วยการฆ่าฟัน หากได้ยินเพียงเล็กน้อยอาจจะทำให้คนที่ได้ยินนั้นขนลุกไปทั่วร่างของเขา คนที่แข็งแกร่งรู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นราชานรก นี่เป็นการทดลองครั้งสุดท้าย พวกเขารู้สึกถึงความกลัวและความาสิ้นหวัง

ราชานรกยกมือขึ้น

พลังแห่งการทำลายล้างค่อยๆรวมอยู่ในมือของเขา

พลังเวทย์อันยิ่งใหญ่ อันตราย แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ขณะที่เอายกมือลง ลูกบอลสีม่องก็ตกลงมาที่พื้น.

ตูมมมม!

ไม่สามารถป้องกันการระเบิดได้ พายุพัดทุกอย่างขึ้นไป สกิล มนุษย์ทำลายล้าง(God) มันมีอำนาจทำลายล้างเท่านั้นดีม่อนและสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ไม่สามารถต้านทานพลังได้ กว่า30,000ตนทั้งดีม่อนและสิ่งมีชีวิตรวมกันตายทันที

เดธบลิ้งเกอร์มองอย่างไร้ความปราณี ตอนแรกเขาน่าจะแข็งแกร่งมากขึ้น พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในระบบกระจัดกระจายอยู่ดังนั้นเขาจึงอ่อนแอลง เขามองไปที่ปราสาทที่เขาต้องการที่จะเอาชนะและกำหมัดแน่น ไม่ว่าเขาจะอ่อนแอแค่ไหนเขาก็ยังเป็น เดวิล เดธ บลิ้งเกอร์ อยู่

การกำจัดปราสาทขนาดใหญ่ไม่ใช่งานของเขา.

"มอทัลไม่สามารถเอาชนะพวกอมตะได้ ฉันเป็นเดวิล เดธ บลิ้งเกอร์! คุณกล้าที่จะเผชิญหน้ากับพระเจ้าหรือเปล่า?”

เขายื่นมืออกมาอีกครั้ง มือที่เหยียดออกไปยังบนบพื้นดิน มีศพกว่า30,000ศพลอยขึ้นมาตามมือของเขาและรวมตัวกันกลายเป็นหุ่นเชิดขนาดใหญ่

ตึง!

ตึง!

ศพทั้ง30,000หมื่นร่างรวมกันเป็นมอนเตอร์ขนาดใหญ่กว่า100เมตร นี่เป็นผลที่มาจากการผสานพลังอย่างเหมาะสมและสกิลของเขา.

มอนเตอร์นั่นโง่ แต่อย่างไรมันก็แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

สถานที่มอนเตอร์เดินผ่านไม่มีศพเหลืออยู่

เดธบลิ้งเกอร์ไม่ได้แยกแยะระหว่างมิตรและศัตรู

"ฉันจะฆ่าทุกคนในตอนท้าย ก่อนหน้านั้นฉันจะ...กำจัดทุกอย่างก่อน.”

เขาประกาศ คำพูดที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ เขาใส่มันลงไปในคำพูดด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้สัญญาเอาไว้

บัลร๊อต โรกุจัน,แอบนอลของดาร์กสปิริต ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าพวกเขาแข็งแกร่ง แต่มันก็ยังขาดเมื่อเทียบกับผม นั่นหมายความว่า แอ๊บโซลูท โรเบอทรี จะไม่มีผล แน่นอนวว่ามันจะเป็นเรื่องที่แตกต่างถ้าพวกเขามีอำนาจเหมือนกับคามิเอล

แอนอล...เขาได้เข้าสู่ระบบและได้รับ เอเลเมน ซิล. ระบบทำให้เขาบรรลุเป้าหมายได้แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะเรียกมันว่าพลัง เขาไม่สามารถที่จะใช้มันได้อย่างถูกต้อง เขาตกใจอย่างฉับพลันเมื่อเขาได้พลังที่เหนือกว่ามา

การดูดซึมทั้งสองจะไม่ทำให้ผมแข็งแกร่ง และดูเหมือน แอ๊บโซลูท โรเบอทรี จะจำกัดจำนวนครั้งที่สามารถใช้งานได้.

‘ฉันไม่สามารถดูดซึมได้ไม่เกินห้าครั้ง.’

ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นพลังเวทย์มนตร์ แต่เมื่อผมใช้มันหลายๆครั้งแล้วผมถึงรู้ว่ามันมีขีดจำกัด จำกัดเดี่ยวกับจำนวนที่ดูดซับได้ มันขึ้นอยู่กับความสามารถของผมและดูเหมือนว่ามันจะเหลือเพียง5ครั้ง

อย่างไรก็ตาม...ผมกำลังมองไปข้างหน้า

‘จะเกิดอะไรขึ้นหากว่าฉันดูดซึมเดธบลิ้งเกอร์?’

หลังจากทุกอย่าง เดธบลิ้งเกอร์ เป็นเดวิลและพระเจ้า แม้ว่าเขาจะสูญเสียพลังศักดิ์สิทธิ์แต่เขาก็ยังเป็นพระเจ้าขั้นสูง!

เขามีแนวโน้มว่าจะแข็งแกร่งเหมือนกับผมหรืออาจจะเหนือกว่า

แม้ว่าผมจะมีพลังศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับพระเจ้า แต่มันก็ยากที่จะขโมยพลังศักดิ์สิทธิ์จากเดธ บลิ้งเกอร์.

การมีชีวิตที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆก็สนุกเสมอ

และผมได้ยินจากยิฮิว่าเขาได้เริ่มต้นการโจมตีขนาดใหญ่.

‘ถ้าเขาเริ่มโจมตีแล้วมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะได้รับมัน’

การเอาตัวรอดเป็นเรื่องปกติของผม

ทันทีที่ผมออกมาจากรอยแยกผมได้เอาอาวุธทั้งหมดออกมาทันที มีหลายร้อยชิ้นที่อยู่ในระดับอีปริกและหลายพันที่อยู่ในระดับยูนิค

"ให้คนที่ต้องการ.”

“ค่ะ มาสเตอร์.”

ยิฮิทำตามคำสั่งของผมทันที

สถานะของปราสาทแย่มาก ต้องขอบคุณการโต้กลับและล่าถอยอย่างชาญฉลาดและอุปกรณ์ของพวกเขา ช่างฝีมือสามารถซ่อมเครื่องมือได้ แต่เรื่องราวจะแตกต่างออกไปในสนามรบ ถ้าสองคนที่มีอุปกรณ์ที่ดีกว่าอีกคนคนนั้นจะชนะ นี่คือความหมายที่แตกต่างไปของสนามรบ

การเปลี่ยนอุปกรณ์ของพวกเขาอาจจะเพิ่มขีดของดีม่อนได้ไม่กี่ตน นี่คือปราสาทที่เอเรียลปกครองดังนั้นพวกเขาจึงค่อนข้างมีระเบียบ

ผมออกไปทันทีหลังจากที่ผมสั่งงานยิฮิ ผมต้องไปดูสนามรบ เมื่อผมเห็นผมก็เดาะลิ้นเบาๆ

'เลวร้ายที่สุด.’

มันไม่นานมากนักหลังจากที่ราชานรกจู่โจม แต่มีร่องรอยการโจมตีทั่วทุกหนทุกแห่ง ร่างกายของศัตรูและพันธมิตรก็กองทับถมกันไป และพันธมิตรของผมก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ

‘ยังมีทหารเหลือไม่เกิน200,000คน.’

ผมกวาดตาจ้องมองไปที่สนามรบอย่างใจเย็น หลังจากมีการต่อสู้จำนวนมากพวกเขาก็ได้ลดผ่านตรงข้ามลง แต่มันก็ยังเหลืออีก3ล้าน มันเป็นสถานการณ์ที่ผมกำลังถูกปิดล้อมอยู่ข้างใน พวกเขาจะไม่ใช้เวลานานอีกต่อไป.

หากมีเส้นทางไหนเปิดสักเส้นทางหนึ่ง พวกที่เหลือจะถูกทำลายในพริบตา บวกกับ...

ผมขยับสายตา สถานที่สูงที่สุด เดธบลิ้งเกอร์ที่อยู่ในร่างของราขานรก เขากำลังรวบรวมพลังแห่งการทำลายล้าง พลังงานขนาดมหึมา และพลังเวทย์ที่มากมายจำเกิดการทำลายจากมันเป็นอย่างมาก

‘เขาตั้งใจจะกวาดล้างทุกสิ่ง’

ผมเข้าใจมันทันที

นี่คือพลังของเดธบลิ้งเกอร์!

พลังของพระเจ้า ในหมู่พวกเขาเดธบลิ้งเกอร์มีพลังทำลายล้างมากที่สุด

ผมจะสามารถป้องกันมันได้ไหม?

ผมส่ายหัว

ผมไม่สามารถป้องกันได้ ถึงแม้ว่าผมจะแทรกแซงได้ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันไม่ให้พลังงานจากการระเบิดเล็ดลอดออกไปได้ ผมต้องใช้พลังของพระเจ้าและมีเพียงแค่สองอย่างเท่านั้น โลกย้อนกลับ และ คำพูดราชา ทั้งสองไม่ใช่พลังที่แย่มากนัก

‘ฉันไม่สามารถทำมันได้.’

ถ้ามันโดนปราสาท ปราสาทก็จะพังเท่านั้น? สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้ๆก็จะหายไป.

เขาจะไม่มีพลังทั้งสองที่คล้ายๆกัน

ความกังวลของผมออกมาแค่ช่วงสั้นๆ

ผมถอดต่างหู ผมกำมันไว้ในมือของผมและพูดว่า

“พลังทำลายล้าง.”

คว้างงงง!

แสงสีขาวออกมาจากต่างหู แสงกลืนเป้าหมายของผมที่ผมตั้งใจเอาไว้คือเดธบลิ้งเกอร์จากนั้นตาของเขาก็ค้างแข็ง

'ข้อความไม่ปรากฎขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่าระบบพังไปแล้ว.’

ปกติระบบจะต้องเลือกให้ผมยืนยันในสิ่งที่ทำ แต่ตอนนี้ระบบล้มเหลว ผมต้องการจัดการมันด้วยตัวเอง

สีทั้งห้าโผล่ออกมาจากต่างหู.

สำดำ, สีม่วง, สีเขียวเข้ม, สีแดงและสีน้ำเงิน.

มันหมายความว่าผมต้องกำจัดหนึ่งในพวกเขา

ผมเลือกสีม่วง และเอามือสัมผัสมัน

ชวิ้ง!

ขณะเดียวกันกลิ่นอายทำลายล้างของเดธบลิ้งเกอร์ก็หายไป

ต่างหูก็ระเหยออกไป

'ตอนนี้ยังเหลืออีกสี่อำนาจ.’

ผมพยักหน้า พลังแห่งการทะลายล้างไม่ใช่สกิลที่มีพลังทำลายเท่านั้น นอกจากนี้มันยังช่วยให้ผมยืนยันจำนวนพลังของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย

แสงทั้งห้าที่ปรากฎและผมก็ทำลายหนึ่งในนั้น

ตอนนี้ยังเหลืออีก สี่พลัง.

"ราชานรกทำสิ่งที่ดีมาก.”

ผมยักไหล่และเหลือบมองเดธบลิ้งเกอร์ ปัจจุบันเขายังอยู่ในร่างของราชานรก เขาจะไม่สามารถออกจากร่างของราชานรกได้จนกว่าพลังของเขาจะกลับมา ดังนั้นถ้าราชานรกตายเขาก็จะตาย

มันสิ้นสุดหลังจากทำลาย

“รัลดาล บิกิเซล...!”

เขารู้สึกว่าอำนาจของเขาหายไปหนึ่งอย่าง

ร่างกายของเดธบลิ้งเกอร์สั่นสะท้าน มันเป็นเพราะว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาลดลงหรือไม่? การแสดงออกของใบหน้าของเขารุนแรงมาก อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ดูเหมือนเดวิล เขาแตกต่างจากครั้งแรกที่ผมเห็นในโลกดีม่อน

'ฉันทำได้.’

มีรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าของผม

เขาอาจจะรู้สึกโกรธ แต่ผมมีความสุข

ผมได้ทำลายพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาไปแล้วหลังจากที่ผมเคลื่อนไหว จะมีความเสียหายมากมายในการต่อสู้กับเดธบลิ้งเกอร์ ดังนั้นผมอาจจะเสียเปรียบในด้านกำลังพลของผมเท่านั้น

ตอนแรกเขาไม่สนใจผม และฆ่าทหารของผม อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้กลายเป็นศัตรูของผม เมื่อเขาโกรธผมต้องเคลื่อนไหว

ชวิ้ง!

ผมใช้ดาบแห่งความยุ่งเหยิงลงไปในวาธและดาบจักพรรดิ

ปัง!

ผมเตะเท้าขึ้นไปบนอากาศ ผมหุบปีกและพุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็วเป็นอย่างมากเพื่อเข้าไปหาเดธบลิ้งเกอร์

คว้าง!

บาเรียสีน้ำเงินป้องกันดาบของผม มันไม่ใช่พลังเวทย์

‘นี่มันพลังของพระเจ้า.’

พลังของมันคือบาเรีย.

ผมนึกถึงคามิเอล มันเป็นพลังที่น่ารำคาญเหมือนกับเขา

แต่เดธบลิ้งเกอร์ไม่ควรจะมีพลังนี้ กุสตาร์และดิอาโบก็หัวเราะ

ตอนนี้...

‘พลังนี้เดิมทีเป็นของราชานรก.’

การ์เดี้ยน พาวเวอร์!

มันเป็นพลังที่ใช้ชีวิตของคนอื่นป้องกันเอาไว้ มันทำได้แค่รักษาความปลอดภัยของเจ้าของเท่านั้นและไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน ในทางตรงข้ามจะไม่สามารถที่จะพลังของพวกเขาได้.(งงมั๊ย จะอธิบายให้ เมื่อโดนโจมตีจะมีหนึ่งตนตาย คนที่เป็นพลังจะไม่มีส่วนในการโจมตี และรอวันตายทุกครั้งที่ถูกโจมตี ยิ่งโดนแรงเท่าไรจำนวนการป้องกันก็ลดลงไปด้วย เหมือนกับคามิเอลต่างกันตรงที่คามิเอลเทวดาของมันจะร่วมโจมตีได้ แต่ของราชานรกทำอะไรไม่ได้นอกจากรอวันตาย/ไรต์)

เพล้งๆๆ!

โล่ที่ป้องกันของเขาพังด้วยดาบในมือของผม

เดธบลิ้งเกอร์ไม่จำเป็นต้องป้องกัน เขาอยู่คนเดียว.

ในทางตรงข้ามผมป้องกันหลายๆคน อย่างน้อยที่สุดผมก็ปกป้องทหารที่ตามผม นั่นเป็นความรับผิดชอบของราชาดีม่อน

การ์เดี้ยนพาวเวอร์ไม่มีประโยชน์อะไรต่อหน้าผม ผมมีพลังมากกว่าเดธบลิ้งเกอร์

‘มีอำนาจเหลืออีกสามอย่าง.’

ปัง ปัง!

ผมควงดาบของผมอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่เดธบลิ้งเกอร์เอื้อมมือออกมาป้องกันดาบของผมคลื่นกระแทกขนาดใหญ่จะผลักผมออกไปด้านข้าง

หุบเขากว้าง

เดธ บลิ้งเกอร์อ้าแขนของเขาขึ้น สักพักก็ปรากฎเป็นพลังงานสีแดงล้อมรอบภูเขา

มันคือพลัง พลังที่ยิ่งใหญ่ครอบคลุมไปทั่วพื้นที่

ผมขมวดคิ้ว หลังจากที่ผมได้เข้ามาในพื้นที่นี้ ผมบอกได้เลยว่าสถานะของผมลดลงเป็นอย่างมาก

การครอบงำอย่างสมบูรณ์ ผมเผชิญหน้ากับพลังของตนเอง

เสียงของดิอาโบลร้องขึ้น พลังเวทย์สีแดงที่เดธบลิ้งเกอร์ใช้คือ การครอบงำอย่างสมบูรณ์ ผมก็มีพลังคล้ายๆกันอย่างนี้และสามารถป้องกันตนเองด้วยจิตวิญญาณ

มันคล้ายกับคำพูดของราชา ผมไม่ยอมให้มันครอบงำผม การซ้อนทันกันมันเป็นไปได้

“เดธบลิ้งเกอร์ ผมไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจของคุณ.”

ผมพูดด้วยความตั้งใจทั้งหมดของผม

เปรียงงง!

พลังเวทย์พุ่งเข้าไปปะทะกับกระจกอย่างรวดเร็ว

'อันที่จริง...ตอนนี้เขาเป็นเดมิก๊อต’

มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เดธบลิ้งเกอร์มีพลังศักดิ์สิทธิ์แต่เดิมของเขา แม้ว่าจะมีอำนาจเท่ากันแต่มันก็ต่างออกไปโดยผู้ใช้

อย่างไรก็ตามระบบของเขาเสีย และพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ไหลกระจายออกไป

การแสดงของของเดธบลิ้งเกอร์แข็งค้าง

เขาเป็นพระเจ้ามาตั้งแต่แรกที่เกิด เขาไม่เคยประสบปัญหาแบบนี้มาก่อน ดีม่อนมอทัล

แต่ผมไม่ใช่แค่ดีม่อนเท่านั้น

ผมยังมีพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ ผมได้ดูดซึมพลังของกุสตาร์และสืบทอดอำนาจของดิอาโบซึ่งเป็นต้นกำเนิดของดีม่อน ผมเคยเจอมอทัลธรรมดามาแล้ว

"เรื่องของมอทัล....! สิ่งมีชีวิตตัวนี้พยายามที่จะอยู่เหนือผู้ที่สร้างมันงั้นเหรอ?”

การแสดงออกของเดธ บลิ้งเกอร์เต็มไปด้วยความรู้สึก พระเจ้าดั้งเดิมที่สมบูรณ์แบบ พวกเขาจะไม่แสดงอารมณ์ในลักษณะนี้.

ตอนนี้ผมแน่ใจแล้ว เขาเป็นพระเจ้าที่ร่วงหล่น มันถูกต้องที่จะเรียกเขาว่าเดมิก๊อต เขตแดนระหว่างมอทัลและพวกอมตะถูกรบกวน เนื่องจากการครอบครองที่ไม่สมบูรณ์ของเขามันอาจจะรวมไปถึงราชานรก...

นี่คือความโกรธของราชานรก ความสิ้นหวังของเขาถูกแสดงผ่านเดธบลิ้งเกอร์.

'คำอ้อนวอนเหล่านี้.’

ราชานรกต้องการที่จะฆ่าพระเจ้า ผมไม่สนใจ แต่ผมจะไม่ทำลายเกมส์นี้ ผมไม่สามารถแสดงความผิดพลาดขนาดใหญ่โดยการดำหนดเขาเป็นเป้าหมายได้.

เหลืออีกสองพลัง แต่ผมไม่สนใจ

“เดธบลิ้งเกอร์ ตอนนี้ผมจะจบเรื่องนี้.”

เพลิงของไพน์ สายฟ้าพระเจ้า ดาบแห่งความยุ่งเหยิง ผมใช้สกิลโจมตีทุกอย่างในเวลาเดียวกัน ถ้าผมฆ่าเขาแล้วกองทัพที่โจมตีปราสาทจะถูกทำลาย

การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปขณะที่ผมเข้าไปใกล้เขา เขายิ้ม

"จบ?...เข้ามาคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ได้”

เขายกมือขึ้นและชี้ไปที่ผม

"พลังที่แท้จริงของเดวิลไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถสู้ได้ด้วยใจของคุณ ฉันเป็นผู้สร้างและฉันก็มีพลังเหนือสิ่งมีชีวิตของฉัน ตามอำนาจของฉัน ฉันจะลบคุณเดี๋ยวนี้.”

เดธบลิ้งเกอร์คือเดวิล ดีม่อนและเทวดา คือเผ่าพันธุ์ที่เขาสร้างขึ้น

เขาเปิดปากและพูดออกมา

“ตาย.”

ไม่มีคำอื่นๆที่จะบรรยายมันได้ หนึ่งในสองพลังที่เหลือของเขาถูกเปิดเผย อย่างไรก็ตามผมก็รู้สึกแตกต่างจากอำนาจที่เขาเคยใช้มาก่อน

ถ้อยคำอันยิ่งใหญ่ พลังที่ยอดเยี่ยมออกมาจากร่างกายของเขา!

มันเป็นดั่งอาญาสิทธิ์ของฝ่ายตรงข้าม

เมื่อเดธบลิ้งเกอร์พูดคำว่า ‘ตาย’, โลกที่อยู่รอบตัวของผมก็เปลี่ยนไป มันเป็นสีดำและผมก็ไม่เห็นอะไรแม้ว่าผมจะยังไม่ตายก็ตามที.

"อัคๆ...!”

ร่างกายของผมไม่ฟังคำสั่งผม มือของผมเอื้อมมาบีบคอของตัวเอง แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้นผมก็ต้านทานมันด้วยความฉลาดได้.

ตูมม!

ผมตกลงจากฟ้าและกระแทกเข้ากลับพื้น

สภาพภายในร่างกายของผมบิดไปมาบนพื้น

‘ฉันต้องใช้คะแนนที่เหลืออยู่ของฉัน’

ผมกัดฟันแน่น ผมต้องไปที่นั่น

ผมรู้ตัวได้จากสัญชาตญาณของผมว่าการเพิ่มความฉลาดเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดอำนาจนี้

ในการที่จะทำแบบนี้ผมต้องใช้คะแนนที่เหลืออยู่ช่วยมัน

แต่จะทำอย่างไร? ระบบพังแล้วผมไม่รู้วิธีเพิ่ม

“มาสเตอร์!”

ขณะเดียวกันผมก็ได้ยินเสียงยิฮิบนหัวของผม

อาการประสาทหลอน?

พลังของเดธบลิ้งเกอร์ขังผมไว้ในมิติอื่น ผมรู้ได้จากการเชื่อมต่อของผมกับยิฮิถูกตัดขาดลงอย่างไม่ตั้งใจ

“ฉันคือแกนดันเจี้ยนที่มีชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของระบบหลัก! รีบสัมผัสยิฮิ!”

ผมมองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด รอบข้างของผมมีแต่ความมืด ผมรู้สึกเพียงแค่ว่าใกล้ตาย

ผมเอื้อมมืออกไป ทันใดนั้นก็มีอะไรสักอย่างสัมผัสมือของผม

- ระบบกำลังกู้คืน 0.001%.

ไม่สามารถกู้คืนได้.

- หน้าต่างสถานะ ... การกู้คืนเสร็จสมบูรณ์

ชื่อ: รัลดาลบิกิเซล [Randolph Brisiel]
อาชีพ        ราชาดีม่อน

(ดันเจี้ยนมาสเตอร์)

ฉายา * ดันเจี้ยน ฮันเตอร์ (จะได้รับสถานะพิเศษ 1 แต้มจากการครอบครองดันเจี้ยนหรือสักหารดีม่อนตนอื่น)

* นักรบทรหด (Ex U, All stats +2)

* คนแรกที่ได้พรแฟร์รี่ (U, Magic Power +6)

* เจ้าของดั้งเดิม (Epic, all stats +3)

* อันเดต (Ex U, Intelligence and Stamina +5)

* เจ้าของโลกเบื้องล่าง (Legend, สถานะทุกอย่าง +5, สกิลตั้งแต่ระดับอีปริกลงมาเพิ่ม +0.5)

* ทายาทราชาดีม่อน (God, all stats +10, เพิ่มระดับสกิลอย่างมาก)

สถานะ
Strength  130 (+30) Intelligence  149 (+35)
Agility  125 (+30) Stamina  145 (+32)
Magic Power   142 (+26)
ศักยภาพ: (691+143/???)

แต้มคงเหลือ: 47

พลังงานไฟฟ้า: 742 GW

เอกลักษณ์: เจ้าของโลกเบื้องล่าง. หัวใจของราชานรกได้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์. เป็นพระเจ้าที่แข็งแกร่งด้วยเหตุผลบางประการ. สืบทอดพลังของดิอาโบ,เป็นทายาทของราชาดีม่อน

สกิล: ผสมทุกอย่าง (Ex U), มัทอาย (Epic), ดาบทมิฬ (Epic), ดาบศักศิทดิ์แห่งเอกภพ (Epic, Passive), ธาตุสายฟ้า (Epic), ไพน์ (Epic), ทุจริต (Legend),พลังแห่งการครอบงำ (Ex Epic, Passive), การติดต่อกับสปิริต (Epic, Passive),โลกย้อนกลับ (God),คำพูดที่แท้จริง (God, Passive),แอ๊บโซลูทร๊อบเบอทรี (Demigod), ความแห่งความยุ่งเหยิง (Legend), พลังทำลายพระเจ้า (God)

สกิลและความสามารถของไอเทม: วาธ (Strength +7), สล๊อต (Agility +7), ไพน์ (Stamina + 7), ดาบศักศิทดิ์แห่งเอกภพ (Strength and  Agility +3)

ท่ามกลางความมืดมีข้อความปรากฎต่อหน้าผม

ผมเลียริมฝีมากและใช้แต้มทั้งหมดเพิ่มค่าความฉลาดของผม

ความฉลาดของผมเพิ่มขึ้นถึง 231 มันมากกว่า 200 คะแนน

-สกิล ‘เอจิส ซิล[Aegis Shield] (God)’ ถูกสร้างขึ้น

การมีความฉลาดมากกว่า200มันไม่แตกต่างจากพลังเวทย์มากนัก เมื่อเอจิสถูกสร้างความมืดที่ล้อมรอบตัวของผมก็หายไปทันที

โลกกลับมาเหมือนเดิมและแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก

แต่อย่างไรก็ตามได้มีสายตาที่ไม่เข้าใจส่งตรงมาหาผม

“แฟร์รี่กล้าแทรกแซงงานของฉันงั้นหรอ? แกสมควรตาย.”

มือของเดธบลิ้งเกอร์แทงเข้าไปที่หน้าอกของยิฮิ

ยิฮิมีร่างกายเป็นจิตวิญญาณ เดธบลิ้งเกอร์มีอำนาจมากพอที่จะฉีกจิตวิญญาณออก พลังของเขาอยู่ในระดับพระเจ้า

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะจัดการกับเดธบลิ้งเกอร์แม้ว่าเธอจะกลายเป็นแฟร์รี่ผู้คุมกฎ

ในเวลาเดียวกันยิฮิก็ค่อยๆจางลง

“......”

ผมพูดไม่ออก จากนั้นยิฮิก็จ้องมาที่ผมและหัวเราะเบาๆ

“มาสเตอร์..ยิฮิฮิ

“ฉันทำได้ดีไหม?”

ยิฮิเล่นคำ

หลังจากนั้นเธอก็กลายเป็นควันสีขาว

“......”

ใบหน้าของผมกลายเป็นปั้นยาก

อ่า ปากของผมเปิดกว้างเล็กน้อย แต่นั้นแหละ ผมไม่รู้จะพูดอะไร.

นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมเห็นยิฮิตาย

เธอตายในนามของผมทั้งสองครั้ง เธอไม่เคยไม่พอใจผมเลย

เดิมทีแล้วยิฮิควรจะกลายเป็นราชินีแฟร์รี่ สัญญาระหว่างเราควรจะถูกยกเลิกเมื่อถึงจุดนี้ เธอจะต้องสร้างโลกของเธอและออกจากแกนดันเจี้ยน แม้จะมีภารกิจสำคัญแบบนั้นเธอก็ยังเป็นยิฮิจากแกนดันเจี้ยนอยู่ดี

เธอรู้สึกไม่สบายใจและยังคงเฝ้ามองผม

-สวัดดีมาสเตอร์ ฉันเป็นแฟร์รี่จากกลุ่มของแฟรร์รี่ ยิฮิ! ยิฮิ!

-ว้าว มาสเตอร์น่าทึ่งมากที่สามารถอ่านใจได้!

-ยิฮิทำผิดจริงๆ ยิฮิควรจะระมัดระวังจนจบ โปรดอภัยให้ฮันด้วยมาสเตอร์..งืออ.

-มาสเตอร์ๆ ได้โปรดอย่าตายและปล่อยยิฮิไว้คนเดียว

เมื่อมองย้อนกลับไปมีแต่ยิฮิเท่านั้นที่ทำปัญหาให้กับผม เธอไม่ได้ทำในสิ่งที่เธอบอกเสมอไป ความรักของเธอสำหรับผึ้งมันก็เพียงพอกับสวนลับของเธอ บางครั้งเธอก็แสดงความคิดเห็นที่ยอดเยี่ยมและความคิดที่สร้างสรรค์ในแบบที่ไม่คาดฝัน ดังนั้นผมจึงไม่พูดอะไรเมื่อเธอทำประโยชน์ได้

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นเรื่องนี้ แต่ผมก็ยังคงอยากให้ยิฮิอยู่ข้างๆผมเหมือนเดิม ยิฮิไม่เคยทรยศผม แม้กระทั้งในชีวิตก่อนหน้านี้เธอก็ยังหัวเราะเสมอไม่ว่าจะยากแค่ไหน ความคิดของผมเปลี่ยนไปเมื่อเธอตายแทน.

แต่นี่เป็นจุดสิ้นสุด

ผมไม่สามารถหันหลังกลับไปได้แล้ว

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหันหลังกลับเมื่อเวลาเดินไปแล้ว ผมไม่แน่ใจเพราะว่าผมตระหนักถึงความจริงอย่างโลกของผมหลังจากที่กลายเป็นพระเจ้า

นั่นหมายความผมไม่สามารถมองเห็นแสงสว่างนั้นได้อีกต่อไป

"แก...มีพลังของเอจิสหรอ? มันยังไร้ประโยชน์ มอทัลไม่สามารถจัดการกับพลังนี้ได้อย่างถูกต้อง.”

เดธบลิ้งเกอร์เยาะเย้ยอย่างเงียบๆ

ผมจ้องไปที่เขา

“คุณจะตาย”

และผมก็ประกาศ

พลังแห่งความตายที่ไม่อาจจะหาวิธีหยุดได้ หากไม่ทำอย่างถูกต้อง

ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่สามารถอยู่รอดในที่นี่ได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด