ตอนที่แล้วChapter 206: Those who Gather (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 208: Those who Gather (3)

Chapter 207: Those who Gather (2)


Chapter 207: Those who Gather (2)


“รัลดาล บิกิเซลเหมือนกับดีม่อนตรงไหน?”

เอเรีย ดิอาโบถามหลังจากที่ยิฮิ ‘ยอมแพ้’ เกิดความเงียบหลังจากที่เอเรียลถาม.

ยิฮิย่นจมูกและนับนิ้วทั้งสิบของเธอ

"เยี่ยมยอด, เอาใจใส่, เท่ห์, แข็งแกร่ง, ฉลาด, ช่วยฉันตลอด, แล้วก็มีพลังเวทย์มีมากและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง...”

"ฉันเข้าใจ. หยุด. ฉันขอโทษที่ถามไม่ดีเอง.”

เธอต้องการจะแสดงคุณสมบัติของผมทั้งหมดให้เอเรียลฟังแต่เธอไม่ต้องการดังนั้นจึงบอกให้เธอหยุด.

"แล้วคุณถามทำไม?”

"หุหุ, มันเป็นเวลานานมากแล้วที่ฉันถูกปฎิบัติแบบนี้.อย่าไรก็ตาม...ถ้าเธอสามารถกลายเป็นราชินีแฟร์รี่ได้ทำไมคุณถึงมาที่นี่?”

"ราชินี...แฟร์รี่? ยิฮิ? ไม่มั๊ง?”

ดวงตาของยิฮิเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำถามที่น่าตกใจของเอเรียล

แต่เอเรียลก็ยังคงเหมือนกับพูดกับตัวเอง.

"สัญญานี้จะไม่สิ้นสุดจนกว่าแฟร์รี่จะกลายเป็นผู้คุมกฎ? ถ้าเธอเป็นราชินีแฟร์รี่แล้วเธอก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญาที่ไม่เท่าเทียมกันเหมือนกับตอนนี้. การเกิดขึ้นของแฟร์รี่ผู้คุมกฎเป็นสิ่งที่แฟร์รี่ต้องการ.พวกเขาต้องการมัน มังคงไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆ.”

“บู่~ คุณจะบอกว่ายิฮิต้องทำอย่างไร? คุณคิดว่าการเป็นแฟร์รี่ผู้คุมกฎนั่นง่ายมากหรอ?”

"ฉันรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับแฟร์รี่ แฟร์รี่ยิฮิ”

ขณะเดียวกับดวงตาของเธอก็กลายเป็นสีน้ำเงินอ่อน มันเปลี่ยนไปจากดวงตาสีแดงจากปกติ บรรยากาศก็แตกต่างกันมาก.

ยิฮิรีบหุบปาก

“เธอ...”

"ซู่~.นี่เป็นความลับที่ไม่มีใครรู้นอกจากพ่อที่ตายไปแล้วของฉัน.”

“ดะ-ดีม่อนที่มีดวงตาของแฟร์รี่เป็นไปได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้...”

"ฉันจะบอกเธอทุกอย่าง.”

เอเรียลมองไปรอบๆ

มันเป็นความสะดวกเล็กน้อยเมื่อไม่มีใครอยู่รอบๆตัว

หลังจากนั้นดวงตาของเธอก็กลับมาเป็นสีแดงปกติขณะที่ยิฮิกำลังจ้องมองเธอ.

ยิฮิกระวนกระวาย มันเหมือนกับว่าเธอกำลังจะถูกกินได้ทุกเมื่อ.

เอเรียลพูดด้วยเสียงเล็กๆแต่คมชัด.

“แฟร์รี่ยิฮิ.ฉันได้บอกความลับของฉัน.แล้วทำไมไม่บอกของคุณบ้าง?ทำไมคุณถึงไม่กลายเป็นแฟร์รี่ผู้คุมกฎแม้ว่าคุณจะทำได้?”

กองทัพของเอเรียลมีขนาดน้อยมาก.อัศวินสีเงิน(ซิลเวอร์ไนท์).ดูเหมือนว่าอัศวินขาวที่ถูกรายงานมาให้ผมจะเป็นจริงๆ.พวกเขาปรากฎตัวขึ้นหลังจากที่เอเรียลมาได้หนึ่งวัน.

ผมมองพวกเขาจากด้านบนหอดูดาว. พวกเขามีทั้งหมด250คน.องครักษ์? พวกเขาให้ความรู้สึกแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตธรรมดา.

‘มันคล้ายๆว่าอยู่ในรายงานเหมือนกัน.’

พวกเขาไม่ได้แตกต่างไปจากที่คริสปี้หรอโอเว่นที่รายงานมาให้ผม พวกเขาเอาคำเชิญของผมไปให้แกร์นดยุคในทางกลับกันเขาก็รายงานสิ่งที่เขาเห็น คำพูดของพวกเขาไม่ได้พูดเกินจริง

‘นั่นหมดแล้วหรือ?’

ผมเอียงหัว.

ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็มีความมั่นใจมาก ลักษณะของเอเรียลไม่มีมีลักษณะแบบสวนทางกับการกระทำ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกลุ่มของเธอถึงรู้สึกว่าขาดอะไรไปบางอย่าง.

‘ความมั่นใจ...’

ถูกต้อง เอเรียลมั่นใจในสิ่งมีชีวิตของเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินด้วยตัวเอง ดังนั้น..ผมต้องระมัดระวังมากขึ้น

อัศวินสีเงิน250คนเดินออกผ่านเกต ขนาดของพวกเขาต่างกันแต่พวกเขาเป็นผู้หญิงทั้งหมด อายุของพวกเขาก็ต่างกันด้วย.

ผมหายใจเข้าลึกๆ.

พลังเวทย์ต่างกันเล็กน้อย มีลางไม่ดีที่ผมไม่สามารถอธิบายได้ พวกเขาไม่ใช้เดธไนท์หรือนักรบทมิฬ.

‘การสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่.’

ผมพยักหน้าเล็กน้อย.

พวกเขาไม่ได้เป็นสายพันธุ์ใหม่ทั้งหมด.มีความรู้สึกที่คุ้นเคยกับอัศวินสีเงินเหล่านั้น.อัศวินเหล่านั้นสร้างมากจากสิ่งมีชึวิต

‘ขั้นสูง’.

ไม่มีร่องรอยว่าพวกเขาเป็นมนุษย์

ผมไม่รู้ว่าเอเรียลตั้งใจจะผสมสายพันธุ์เหล่านี้เข้าด้วยกันไหม.

หรือว่ามันจะเป็นไปได้.

‘ฉันสงสัยว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ถูกนำมาใช้แบบนี้ได้หรือป่าว?’

มีสิ่งมีชีวิตหลายพันกว่าตัว ผมรู้จักชื่อของสิ่งมีชีวิตไม่กี่อย่างเท่านั้น ไม่น่าแปลกเนื่องกจากผมไม่ได้รู้จักทุกสายพันธุ์.

อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการจะพูด.อัศวินเหล่านี้ถูกสร้างด้วยการสังเคราะห์. แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสายพันธุ์ใหม่แต่มันก็ถูกเรียกรวมๆว่าคิเมร่า.ปัญหาก็คือการรวมพวกมันไว้ด้วยกันแต่ยังคงรูปลักษณ์เดิมเอาไว้ได้อย่างแน่นอน.

‘เป็นไปไม่ได้.’

เท่าที่ผมรู้มันไม่ได้ให้ความรู้สึกอย่างนั้น.

ผมไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับคิเมร่าแต่ผมมั่นใจกับเรื่องนี้.

การสร้างคิเมร่าจากสิ่งมีชีวิตสามชนิดรวมกันมันไม่ต่างอะไรกับความเพ้อฝัน

มันเป็นเพราะว่ามันจะเกิดความไม่เสถียรภายในร่างกายของเขาและมันจะตายด้วยตัวของมันเอง

ผมได้สบตากับอัศวินสีเงิน.

“หืมม...”

ดวงตาเหล่านั้น!

ผมพยักหน้าน้อยๆ.

ผมได้สังเกตเห็นถึงความจริงหลังจากสบตาอัศวินเหล่านั้น.

‘เป็นการผสมครั้งใหญ่.’

ผมเชื่อมั่น

อัศวินทั้ง250คนเป็นตัวแทนของเอเรียลที่เธอได้ทำการผสมกว่า100ชนิด!

‘จริงแน่นอน.’

ผมไม่สามารถละเลยความเชื่อมั่น

วันนี้เป็นวันที่คำเชิญระบุไว้

ผมไม่เคยคาดหวังอะไรจากแกร์นดยุคยกเว้นเอเรียลที่มาถึงก่อน

พวกเขาหยิ่ง,มีควาภูมิใจและและไม่เครพสิ่งใด

แต่มันไม่นานนักกว่าที่จะรู้ว่าผิด

หลังนั้นหนึ่งวันหลังจากอัศวินสีเงินมาถึง จากทางทิศตะวันออก,ตะวันตกและทิศเหนือ...กองทัพทั้งหมดของแกร์นดยุคปรากฎตัวพร้อมกัน.

มันเป็นวันที่ถูกต้องที่ถูกส่งในคำเชิญมันเหมือนกับเป็นการบังเอิญเล็กน้อยที่ผมถูกเยาะเย้ย(ตรงนี้ถ้าจำได้ รัลดาลมันบอกว่าดีม่อนไม่ตรงต่อเวลา แต่พวกนี้มาตรงเวลาเป๊ะ)

มอนเตอร์เวฟ นับแสน...บางทีอาจจะมากกว่าล้านชีวิตรวมกัน .

สายตาอันงดงาม!

มันยากที่จะมีความรู้สึกกับการมีความสุขในสถานการณ์นี้.

ภาพเหล่านี้เพียงพอที่ทำให้เกิดความสิ้นหวัง กองทัพขนาดใหญ่ออกมาจากเกต พวกแกร์นดยุคและพวกดีม่อนของเขาก้าวลงจากรถม้าอย่างงดงามและเดินมาข้างหน้าด้วยความมีเกรียติ

ใบหน้าของพวกเขาไม่มีความตึงเครียดพวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างแท้จริง.

แกร์นดยุคทุกตนไม่มีความสงสัยเลยว่าฝ่ายของเขาเข้มแข็งที่สุด.

อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่จะหันหลัง จะมีเพียงผู้ชนะเท่านั้น

ผมไม่สามารถถูกมองว่าอ่อนแอได้ ดีม่อนที่ถูกมองว่าอ่อนแอมักจะตายตั้งแต่เกิด...

"เปิดประตู.”

ผมสั่ง.

เมื่อประตูเปิดออกพวกเขาก็ก้าวเข้ามาในปราสาท.(ไหนว่าหอดูดาวไงฟระ/ไรต์)

ผมควรจะพูดอย่างไรดี?

มันเป็นบรรยากาศแปลกๆ.

ผมได้เชิญพวกเขามาที่หอดูดาว กรีนวิช ซึ่งเป็นปราสาทที่ยอดเยี่ยม(อ๋อ) อย่างไรก็ตามปราสาทมันก็ยังเล็กไปเมื่อมองจากสายตาของแกร์นดยุค.

ของตกแต่งราคาแพงมากไม่สามารถตอบสนองสายตาของพวกเขาได้ เป็นเพราะว่าไม่มีเวลาเพียงพอที่จะทำทุกอย่างให้พร้อม

มันไม่มีอะไรมากกว่าการโชว์ เมื่อพวกเขาจับได้.

ทั้งสามคนนั้นมาเนื่องจาก"บัตรเชิญ"ที่ผมได้ส่งไป อย่างไรก็ตามผมก็ไม่เห็นความไม่สบายใจปรากฎบนในหน้า.

‘เนื่อหาต้องมีความเร้าใจ...’

ผมได้เขียนความลับที่ไม่มีใครรู้ การจ้องมองของพวกเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้ถึงวิธีการของผม มันก็ยังแปลกที่ไม่มีความตึงเครียด.

ผมพาพวกเขาไปยังโต๊ะจัดเลี้ยงที่เตรียมไว้ในขณะที่มอนเตอร์ก็กำลังเล่นดนตรีอยู่อย่างคลอๆ

“มีบ้าง.”

ผมได้เลียนแบบมนุษย์พร้อมกับส่งถ้วยให้.บรรยากาศอันเงียบสงบนี้...คือการเรียนแบบ ‘ปาร์ตี้’ ของมนุษย์.ในกรณีของดีม่อนพวกเขารู้สึกไม่สบายใจเนื่องจากพวกเขาไม่คุ้นเคย.

อย่างไรก็ตามเขาเป็นแกร์นดยุค.

พวกเขามีประสบการณ์หลายอย่างและเตรียมตัวมาดี

รวมกลุ่มกันและดื่มจากถ้วย.

“รสชาติ โอเค.”

ยูป้ายิ้มหวาน เขาเป็นคนที่มีความโลภมาก

ผมตอบเบาๆ.

"นี่คือเครื่องดื่มที่ดีที่สุด มันเป็นคอนยัญ..ผมไม่รู้ชื่อ แต่มันไม่รู้ทำไมมนุษย์ถึงชอบมัน?”

คำพูดของผมพูดออกมาหลังจากดื่ม ผมคิดว่าคนที่รักเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์อย่ายูป้าจะพูดอะไรสักอย่าง

อย่างไรก็ตามเขาปฎิบัติแตกต่างกันมาก.

“มันก็ดีกว่าที่พูดเนื้อหาโง่ๆของคำเชิญ.”

“มันเป็นเรื่องตลกเพราะว่าคุณก็ไม่มีความสามารถในการเขียนดีนัก”

ผมเกทับใส่คำดูถูกของเขา พวกเราไม่ได้ขอโทษกัน แม้ว่าจะเป็นการเล่นตลก.

‘นักเวทย์ดวงจันทร์ไม่ได้มาที่นี่.’

ผมมองหารอบๆตัวยูป้าแต่ไม่มีความรู้สึกถึงพลังเวทย์ลึกลับของกุสตาร์ ไม่ว่ามันจะมีพลังแค่ไหนในการเป็นอาวุธก็จะไม่อยู่ที่นี่หากมันไม่เสถียร

นั่นคือสิ่งที่ผมคิดผิด

อย่างไรก็ตามพลังของดีม่อนที่อยู่ใต้เขาก็ค่อนข้างดี ในขณะเดียวกันพวกเขามีความคืบหน้าขึ้นและพลังเวทย์ก็ดีกว่าฝ่ายอื่นนิดหน่อย

‘ราชินีซัคคิวบัส!’

สิ่งที่เด่นที่สุดคือ จอร์จจี้ อินพีร์(ที่เคยด่ากันไปมาในโรงประมูล ปีที่สอง)

ดีม่อนแห่งความรักซัคคิวบิ ดันเจี้ยนของเขาเต็มไปด้วยพวกมัน

เขามาพร้อมกับราชินีซัคคิสบัสสิ่งมีชีวิตที่ผมไม่เคยเห็นมาในชีวิตก่อนหน้านี้ สิ่งมีชีวิตชั้นสูงเลเวล3ที่ไม่เคยปรากฎออกมาเลยในโรงประมูล

มันเห็นได้ชัดว่าแตกต่างกันอย่างมาก

ในขณะที่คนอื่นๆนำมา..อะไรที่แพนเดอโมเนี่ยมพามาด้วย?

เขาดูไม่ต่างจากเดิมเท่าไรนัก มันรู้สึกเหมือนกับพลังของเขาเท่าเดิมตอนที่กิรินและอเวคโจมตีดันเจี้ยนเปล่าของเขา.

เขาได้ดูดกลืนฝ่ายโอคูลอส แต่มันก็มีเท่านั้น เขายังสูญเสียพลังในการโจมตีจากดันเจี้ยนของเขามาก.

จากบรรดาแกร์นดยุคทั้งหมดดูเหมือนจะมีแพนเดอโมเนี่ยมที่จะด้อยกว่าพวกเขาทั้งหมด แต่ผมไม่รู้ว่าแพนเดอโมเนี่ยมทำอะไรอยู่.

"งานเลี้ยงนี้...เหมือนกับมนุษย์."

"แพนเดอโมเนี่ยมคุณต้องมีประสบการณ์งานเลี้ยงของมนุษย์ คุณอยู่มาหลายปีแล้ว”

"ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างไรก็ตามคุณไม่ได้ส่งคำเชิญมาเพื่อทำอย่างนี้ รัลดาล บิกิเซล นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาปะทะคารมใช่มั๊ย?”

อ่าา ผมพยักหน้า

ผมจำได้ว่าผมใส่มันไว้ในบัตรเชิญ

ด้วยความสัตย์ผมไม่รู้ว่าแพนเดอโมเนี่ยมจะตอบสนองในลักษณะนี้.

เทวดาที่อยู่บนโลกไม่ได้ข่มขู่อะไรมากนัก อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกเขารู้ว่าคามิเอลจะลงมาเร็วๆนี้.

ผมเปิดปากของผม

“การโต้ตอบเทวดา? แน่นอน...”

"ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น เทวดาไม่ใช่สิ่งที่จะมาขวางฉันได้ง่ายๆ.”

แล้วไง?

ผมมองไปที่แพนเดอโมเนี่ยมด้วยความงุนงง

แต่..ใบหน้าของแพนเดอโมเนี่ยมบิดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจ.

ไม่ใช่แค่เขา แกร์นดยุคคนอื่นๆก็เหมือนกันหมด.

พวกเขาคิดว่าผมแกล้งทำเป็นไม่รู้

‘มีบางสิ่ง.’

ปัญหาคือผมไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร

แต่มันเป็นเรื่องง่ายที่จะคิดออก

พวกเขาต้องการบางอย่างจากผม ดังนั้นผมจึงหัวเราะ.

“คุณรู้ไหม..ว่าจะเกิดอีเว้นพิเศษ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด