ตอนที่แล้วChapter 175: Quickening Period (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 177: Those who Protect (1)

Chapter 176: Quickening Period (2)


Chapter 176: Quickening Period (2)


ดันเจี้ยนเปลี้ยนรูปลักษณ์ของมัน.ดันเจี้ยนจากภูเขาปูซานได้เปลี่ยนเป็น ‘ปราสาท’ ขนาดใหญ่มาก

การเปลี่ยนแปลงมันเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มันยืดออกไปหลายกิโลเมตร ความสูง...มันเป็นไปไม่ได้ มันสูงขึ้นไปบนฟ้า

"การสำรวจดันเจี้ยนจะถูกห้ามจนกว่าจะมีการหาสาเหตุที่ชัดเจน.”

กิรินประกาศ.

เธอยืนอยู่บนแท่นและมีบรรยายกาศโดดเด่นรอบๆตัวเธอ.

"มีเพียงแกนขนาดเล็กเท่านั้นที่อยู่ในคลัง เราจะหยุดสำรวจดันเจี้ยนทั้งหมดเป็นเวลาสามวัน.”

ยองวูไม่เห็นด้วย กิรินและอเวคไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่อยู่ที่นี่.

มีหัวหน้ากลิด์เจ็ดคน กิริน และสองดาร์กเอลฟ์เท่านั้นที่อยู่ในห้องโถงขนาดเล็ก

พวกเขาถูกรวมไว้อยู่ในที่เดียวเพื่อหามาตรการรับมือต่างๆ.

"อเวคหลายคนรู้สึกไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับการสำรวจดันเจี้ยน หากมันระเบิดแล้วมันจะมีความเสียหายที่ใหญ่มาก.”

เอรินหัวหน้ากิลด์แดมบิ ได้ย้อนบรรยายกาศการพูดคุย.

แต่กิรินก็ไม่ธรรมดา รอยที่ถือดาบอยู่ข้างเธอกล่าว

"ผมสามารถแก้ปัญหาแก่นจากดันเจี้ยนได้.”

"เธอจะบอกว่าสามารถหาแก่นได้โดยไม่เข้าไปสำรวจ?”

รอบพยักหน้าให้กับยองวูที่ถามขึ้น.

"เจ้านายของฉันได้ส่งแก่นมาให้ผมมาก.”

"ผู้ช่วยชีวิต...?”

"เขาส่งอาวุธมาให้ผม เพื่อขจัดปัญหาที่จะเกิด.”

แปะ!

รอยตบมือ จากนั้นเพดานก็พังลงมา มันร้ายกาจมาก

"หืม!"

หัวหน้ากิลด์รู้สึกประหลาดใจเพราะว่าพวกเขาไม่ได้รู้สึกถึงการดำรงอยู่ของมัน.

ความสูงของมันสูงสุดแค่ไหล่ของเขา เป็นชายที่ราวกับถูกปั้นออกมาร่างกายเปลื่อยเปล่าและไม่มีผม ดวงตาที่ดำสนิทและลิ้นที่ห้อยยาวอย่างน่าปะรหลาด.

“โฮมุนครูส นี่เป็นความล้มเหลว แต่....มันก็เพียงพอที่จะกวาดล้างพวกเขา.”

โอมุนครูส สิ่งมีชีวิตประดิษ!

เหล่าหัวหน้ากิลด์ทั้ง7ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ พวกเขารู้สึกกลัวตามสัญชาตญาณ.

การเป็นหัวหน้ากิลด์ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะต้องแข็งแกร่งที่สุด แม่แต่ในกิลด์ก็มีหลายคนที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา แต่พวกเขาถูกเลือกจากคนของกิลด์และพวกเขาก็มีประสบการณ์สำรวจดันเจี้ยนมาก่อน.

มันเป็นธรรมชาตืที่พวกเขาจะรู้ความแข็งแกร่งของผ่านตรงข้ามได้ คนแข็งแกร่งที่สุดมีชื่อว่าผู้ช่วยชีวิตรองลงมาก็กิรินแต่โอมุนครูสเป็นรายต่อไป โกเลมเทียมที่ถูกใช้โดยดาร์กเอลฟ์ทั้งสองก็แข้งแกร่งแต่ไม่มีแรงกดดันมากขนาดนี้.

“ฮี๊ๆๆ....”

โอมุนครูสคำรามและจ้องมองไปที่กิลด์มาสเตอร์ทั้ง7 เขาเข้ามาใกล้และเอาลิ้นเลียแด้มของพวกเขา.

อึก!

บางคนกลืนน้ำลายบางคนยกมือขึ้นวางลงบนดาบของพวกเขา.

รอยสังเกตและพูด.

"เด็กคนนี้สายตาไม่ดี แต่เขามีการสัมผัสและรับกลิ่นที่ยอดเยี่ยม ตอนนี้เขาตระหนักถึงคนที่เป็นมิตร ไม่ต้องกังวล.”

"นะ-นั่นคือเหตุผลที่เขาเลียแก้มของพวกเรา?”

ยองวูหลับตาลง เขาค่อนข้างมั่นใจ แต่เมื่อลิ้นของโอมุนครูสเลียแก้มของเขาแล้วเขาคิดว่า ‘นี่คือจุดจบ’

“ใช่.มีคนรักษษการณ์บางส่วนที่ได้รับมอบหมายเหมือนกับเด็นคนนี้ การรวมตัวเป็นปราตี้กับพวกอเวคและอณุญาติให้เขารู้จักพวกเขา มาสเตอร์บอกว่าเขาเป็นคนค่อนข้างรุนแรงดังนั้นเขาอาจจะโจมตีพันธมิตรหาไม่ได้เตรียมมาตรการรับมือ”

"คุณรอยไม่ควรอยู่กับเขาหรอ?”

รอยส่ายหัว.

"ผมจะปลูก‘เมล็ด’ พร้อมกับโรสและทำพิธี ผมไม่สามารถไปได้.”

“เมล็ด?”

ยองวูกระพริบตาปริบๆเมื่อรอยยื่นเมล็ดทั้งสองออกมา.

เมล็ดมันไม่ได้เหมือนกันแบบปกติมันมีสีแดงและฟ้าตัดกัน

"ต้นไม้แห่งชีวิตและความตาย พวกเขามาจากต้นไม้ดั้งเดิม พวกเขาจะเป็นตัวช่วยเราหากการปลูกสำเร็จ อย่าไรก็ตามสิ่งมีชีวิตอาจจะเคลื่อนไหวในขณะที่เรากำลังปลูกมัน.”

รอยพูดอย่างเคร่งขรึม ความสงบของเขาแตกต่างจากตัวตนที่ขี้ขนาดของเขาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามรอยพูดเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้.

กิด์มาสเตอร์ไม่เข้าใจ

เอรินจากกิลด์แดมบิถามในนามของพวกเขา

“...มันกำลังจะมีคลื่นมอนเตอร์งั้นหรอ?”

“มาสเตอร์ของผมได้จัดการกับสิ่งมีชีวิตหลายอย่างในเกาหลีใต้ มีความเป็นไปได้ที่มีสิ่งมีชีวิตใกล้เคียงจะเข้ามา.”

สิ่งมีชีวิตมากมายที่ไม่ได้พบกับมาสเตอร์ พวกเขาใช้สัญชาตญาณในการทำล้ายผู้คนในเกาหลีใต้.

ขณะที่ต้นไม้แห่งชีวิตและความตายเติบโตขึ้น มันจะปล่อยกลิ่นเน่าเหม็นและชั่วร้ายไปสู่สิ่งมีชีวิตเฉพาะเจาะจง พวกเขาจะใช้สัญชาตญาณของพวกเขาในการมาหาต้นไม้เพื่อทำลายมันอย่างเฉพาะเจาะจง.

เอลินถามอย่างใจเย็น

"แล้วทำไมเราถึงต้องเสี่ยง?"

"พวกเขามีความเสี่ยงเมื่อเติยโต แต่พวกเขาจะขยี้สิ่งมีชีวิตเมื่อเติบโตแล้ว.”

"แล้วเราต้องปลูกพืชเหล่านี้อีกหรอ? มันไม่สายเกินไปหลังจากที่ทุกอย่าเสถีรยภาพมากขึ่นแล้ว.”

“ไม่ ตอนนี้เป็นเวลาที่พร้อมที่สุด ถ้าเราไม่ปลูกพืชใน3วันนี้ เราจะต้องรออีก12ปีข้างหน้า.”

รอยมองขึ้นไปที่เพดาน เขาดูเหมือนจะมองอะไรเกินกว่าที่เพดานจะกั้นอยู่.

เอลินมองไปที่หัวหน้ากิลด์อีก6คน เธอถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของพวกเขา ทุกคนไม่แน่ใจ แต่ทุกคนคิดว่ามันคุ้มค่ากับความเสี่ยง.

เอลินพูดอีกครั้งหลังจากได้รับข้อเสนอแล้ว

“เร็วที่สุกเท่าที่จะเป็นไปได้...เราจะเครียร์มันเอง.”

กองทัพของรัฐบาลเก่า ผู้ก่อการร้าย.

สงครามของพวกเขาจะต้องสิ้นสุดโดยเร็ว ระยะเวลา3วัน เป็นการดีที่สุดที่พวกเขาจะเสร็จตอนนั้น.

พวกเขาไม่สามารถรับการโจมตีของสิ่งมีชีวิตและรัฐบาล2ด้านพร้อมกันได้.

คีย์หลักอยู่ที่โฮมุรครูสตอนนี้รัฐบาลไม่ได้มีกำลังมากนัก อัตตราส่วนตอนนี้อยู่ที่ 6.5:3.5 แต่ต้องใช้กลยุทธ์แบบกองโจรที่น่ารำคาญ.

มันเป็นช่วงเวลานั้น

รอบและโรสลุกขึ้นมอง

เขาจ้องไปที่เงาแล้วพูด

“ฮืม? ตะ-ตอนนี้แล้วพิธี?”

"ถูกต้อง รอยไม่น่าเชื่อถือ พวกเราสองคนกำลังทำพิธี...”

หูของโรสกำลังกระดิก ดูเหมือนว่าเธอกำลังฟังอะไรบางอย่าง หัวหน้ากิลด์ต่างงงวย.

“คุณทำได้ไหม? คะ-คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ตอนนี้แค่ให้คำแนะนำของคุณ เยี่ยม เราทำมันได้.”

"ไม่ โรสดีกว่า ราชินีสบายใจได้.”

ราชินี?

นั่นหมายความว่าเป็นผู้ช่วยชีวิต.

นอกจากนี้ดาร์กเอลฟ์ทั้งสองก็ได้ติดตามหลังจากที่เขาปรากฎตัว

10 วินาที.มันก็เงียบ รอยและโรสก็โค้งคำนับ.

“...เข้าใจ”

“...ฉันจะพยายามทำมัน.”

ไม่นานนักจากที่ทั้งสองบอก ก็ปรากฎเห็นภาพบางคนจากเงามืด.

เงาร่างค่อยๆชัดเจน.

กิลด์มาสเตอร์แทบจะหยุดหายใจของพวกเขาขณะยืนยันการปรากฎตัวของมัน.

คนๆนั้นเป็นผู้หญิงและสวมใส่ชุดไหมผิวและหูของเธอได้แสดงว่าเป็นดาร์กเอลฟ์เหมือนกับรอยและโรส ใบหน้าของเธอถูกปกคลุมด้วยผ้าปิดปากแต่มันก็ไม่หลุดออกมา.

มีบรรยากาศที่ไม่สามารถแตะต้องได้รอบๆตัวเธอ แม้ตาจะมองไม่เห็นหน้าเธอชัดๆ แต่ก็สามารถบอกได้เลยว่าเธอสวยงามเป็นอย่างมาก ผู้ชายระงับความอยากที่จะยืดมืออกไป พวกเขาต้องการจะฉีกผ้าปิดปากของเธอนั่น.

“ยินดีที่ได้พบ.”

“อ๊าาาห์....”

ยองวูและชายหัวหน้ากิลด์คนอื่นๆก็ร้องอุทานออกมา ผู้หญิงทุกคนไม่แม้แต่เอรินก็ประหลาดใจด้วย เสียงของเธอช่างมีเสน่ห์!

สาวดาร์กเอลฟ์ยังคงพูดต่อ

"นี่เป็นภารกิจ ฉันจะทำพร้อมกันด้วย”

มีเวลาจำกัดแค่สามวัน.

พูดตามตรง พวกเขาต้องจับศัตรูที่กระจัดกระจาย ไม่ว่าพลังของเธอจะมีมายเท่าไร.

...พวกเขาคิดอย่างนั้น นั่นคือสามัญสำนึก.

แต่สามัญสำนึกที่ทำลาย ราวกับจานที่พลิกคว่ำ

โฮมุนครูสยอดเยี่ยมมากในการค้นหาศัตรู ความรู้สึกและการสัมผัสกลิ่นได้อย่างแม่นยำมุ่งตรงไปยังสถานที่พวกเขาใช้หลบซ่อนแม้ว่าเขาจะมีทักษะที่ชำนาญ

ทั้งหมดเกิดอะไรขึ้น?

ในด้านของความเร็วไม่มีใครเทียบได้ ความเร็วที่สามารถอยู่ยงคงกระพันอย่างแท้จริง! พลังทำลายของเขาอ่อนแรงกว่าความเร็วเล็กน้อย แต่มันก็ยังเป็นกำแพงที่ผ่านไปไม่ได้ของมนุษย์อยู่ดี.

อย่างไรก็ตามทุกอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยความแข็งแกร่ง กิรินบอกว่าจะไม่สู้กับมนุษย์ แต่โรสและโกเลมของเธอก็แกข็งแกร่งมาก

ปัญหาคือจำนวนของศัตรู พวกเขาอ่อนแอ แต่มีหลายร้อยหลายพันคน ในความเป็นจริงแล้วหากโกเลมของโรสวิ่งเข้าไปในกับดักของกองกำลังรัฐบาลเดี่ยวๆแล้วหล่ะก็เธอจะถูกทำเป็นเป้าซ้อมสกิลของคนกว่าสองพันคน.

เงื่อนไขหลายอย่างทับภมกัน แต่มันก็ไม่อาจจะละเลยได้.

อย่างไรก็ตาม...ไม่ได้มีคนที่แข็งแกร่งเพียงคนเดียว แต่เป็นสอง

หนึ่งนั้นแข็งแกร่งมากพวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบใดๆได้เลย

เรื่องรางแตกต่างออกไป.

ผัวะ!

ผลัก!

สาวดาร์กเอลฟ์

เธอก้าวข้างหน้าไปแม้ว่าจะมีจำนวนมากมายล้มตามรายทาง

อยู่ท่ามกลางศัตรู เธออ่านแฟนการกับดักของศัตรูทั้งหมดและจับความเคลือนไหวและฆ่าพวกมันอย่างรวดเร็ว การเคลือนไหวที่แพรวพราว ไม่มีส่วนเกินแม้แต่น้อย มันเรียบร้อย และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป

อ๊ากก! เสียงกรัดร้องได้ยินจากอีกด้านหนึ่ง

วันที่สาม พวกเขาสำเร็จในการโจมตีกองทัพของรัฐบาล.

แน่นอนว่าดาร์กเอลฟ์และโอมุนครูสไม่ได้เป็นพวกเดียวที่เกี่ยวข้องกับสงคราม.

อเวคหลายพันคนล้อมรอบอยู่ที่สำนักงานใหญ่ตรงภูเขา ทั้งหัวหน้ากิลด์ทั้ง7และสมาชิกของกิลด์ทั้งหมด.

"อย่าปล่อยให้พวกเขาหนีไป!”

"เรามีเทพธิดาแห่งชัยชนะ!”

ขวัญกำลังใจของพันธมิตรเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ในทางตรงกันข้ามของศัตรู พวกเขามีกำลังใจที่ต่ำมาก.

ไม่มีผู้ชนะที่แน่นอนของทั้งสองฝ่าย

อย่างไรก็ตามสถานการณ์กลับตรงกันข้ามเมื่อทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวดาร์กเอลฟ์ที่มีผิวสีดำนั่นที่ถูกเรียกว่า ‘เทพธิดาแห่งชัยชนะ’ มีบทบาทมากขึ้น.

แนวโน้มมาหาพวกเขาอย่างเต็มเปี่ยมดังนั้นมันจึงแทบจะเป็นกำหนดชัยชนะที่สมบูรณ์

ต้นไม้แห่งชีวิตและความตาย

พวกมันเป็นผลผลิตที่ไม่ได้ดั้งใจของตั้นไม้ดั้งเดิมตอนเพิ่มระดับ

ยิฮิไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้ผม แต่สปิริตไฟได้เห็นมันเนื่องจากสีที่แปลกตา

ไฟ1-3ได้เบื่อกับการปกครองที่เผด็จการของยิฮิและได้แอบบอกเรอิกับเซร่า.(มีหักหลังหัวหน้าด้วย555)

สุดท้ายยิฮิก็ถูกบังคับให้ส่งเมล็ดให้กับผม

ไม่ว่าเธอจะดีแค่ไหนแต่.....ยิฮิก็ยังเป็นยิฮิดูเหมือนสิ่งนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง.

ไม่ว่าทางไหน.

‘มันยากที่จะปลูกมันในดันเจี้ยน.’

ต้นไม้แห่งชีวิตและความตายจะดึงดูสิ่งมีชีวิตในขณะที่มันกำลังเติบโต มันจะขยายตัวอย่างบ้าคลั่งโดยมัน พวกเขาจะพึ่งสัญชาตญาณของพวกเขาและไม่ฟังคำสั่งผม.

กังนั้นมันจึงไม่เหมาะที่จะปลูกในดันเจี้ยน.

‘มันเหมาะอย่างยิ่งในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของพวกมนุษย์.’

ผมนั้งอยู่ด้านหน้าของแกนดันเจี้ยน.

เงื่อนไขที่จะปลูกต้นไม้ทั้งสอง.

ต้นไม้แห่งชีวิตจะเติบโตทุกครั้งที่มีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาและต้นไม้แห่งความตายจะเติบโตเมื่อมีสิ่งมีชีวิตตายลง.

และเมื่อต้นไม้ทั้งสองเติบโตขึ้นพวกเขาก็จะถูก ‘อเวค’ ขึ้นโดยรอบๆ ตังอย่างของมนุษย์จะมีโอกาศสูงที่จะมีอเวคเกิดขึ้น

มันจะเกิดอะไรขึ้นหากสิ่งนี้จะถูกนำมาใช้กับสิ่งมีชีวิต? มันเป็นไปได้ แต่...

‘มนุษย์ต่างจากสิ่งมีชีวิต.’

สิ่งมีชีวิตไม่ได้มีความแตกต่างจากอเวค.ในทางตรงกันข้ามมนุษย์ ‘มีความเป็นไปได้’ มากกว่านี่คือความแตกต่างขนาดใหญ่.

นอกจากนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าดันเจี้ยนจะมีความเป็นระเบียบหากมีต้นไม้ทั้งสองอยู่ภายใน.

มันเป็นการการันต์ตีว่าต้นไม้จะส่งเสริมความสามารถของมนุษย์.

‘จะมีประโยชน์มากถ้ามีอัตราส่วนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ.’

ก่อนอื่นมนุษย์ในเกาหลีนั้นต้องเติบโตอย่างรวดเร็ว

'เร่งความเร็วยิ่งขึ้น ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง.’

ผมสามารถจัดการฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่มีข้อจำกัดถ้ามีคนอื่นเข้ามาร่วม มนุษย์จะกลายเป็นประโยชน์ในเวลานั้น.

ควรเป็นประโยชน์.

นั้นเป็นเหตุผลที่ผมได้ทำสิ่งนี้

‘มนุษย์ อย่าทำให้ฉันผิดหวัง.’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด