ตอนที่แล้วChapter 168: Spirits (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 170: Spirits (3)

Chapter 169: Spirits (2)


Chapter 169: Spirits (2)

ผมเป็นมือใหม่ในการให้กำเนิดสปิริต พวกเขาจะตื่นขึ้นมาในที่สุด แต่ส่วนหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของสิ่งแวดล้อม.

ผมเรียกคริสปี้ทันที เธอเป็นคนเดียวที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสปิริต ยิฮิก็ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับพวกเขา แต่ผมไม่อยากถามเธอ คงดีกว่าถ้าฟังจากคริวปี้อย่างละเอียด

“...สปิริตไฟ. นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นพวกเขามากมายขนาดนี้.”

ดวงตาคริสปี้เบิกกว้างอย่างประหลาดใจ.

ยิฮิก็มีปฎิกิริยาคล้ายๆกัน อย่างไรก็ตามคริสปี้จ้องมาที่ดวงตาของผมก่อนที่จะพูดว่า.

“มาสเตอร์ของฉัน คุณจะให้กำเนิดพวกเขาทั้งหมด?”

“ถูกต้อง มีปัญหาอะไรไหม?”

"ถ้ามีสปิริตเกิดมากมายพร้อมกันในทีเดียว...มันอาจจะไม่มีพลังเวทย์เหลืออยู่เลย.”

“พลังเวทย์จากดันเจี้ยนก็เพียงพอแล้ว.”

การจัดอันดับของดันเจี้ยนได้เพิ่มขึ้นจากต้นไม้ดั้งเดิม มันสามารถจัดการกับการใช้พลังเวทย์ได้ค่อนข้างมาก.

แต่คริสปี้ส่ายหัวของเธอ.

"พลังเวทย์ทั้งหมดอาจจะดี แต่พลังเวทย์ไฟจะหมดไปอย่างรวดเร็ว หากมันลดไปขนาดนั้นมันอาจจะมีปัญหาในการรักษาดันเจี้ยน.”

ความจริง...ผมก็คิดแบบนั้น

ดันเจี้ยนสร้างจากพลังเวทย์ชนิดต่างๆ ผมจำเป็นไตร่ตรองคุณสมบัติของพลังเวทย์ถ้ามีส่วนใดที่ไม่สมดุลมันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต

"ผมควรทำอย่างไร?”

ผมถามตรงๆ.

คริวปี้ไม่ใช่คนอื่น.จิตใจของเธอค่อนข้างดี.สกิลของเธอค่อนข้างใช้ได้,และเธอมักจะช่วยเหลือผม ตอนนี้ผมไม่มีอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์นี้

คริสปี้ตอบโดยไม่ลังเล

“มาสเตอร์ควรอยู่ข้างสปิริตไฟ ที่จริงแล้วมาสเตอร์มีเปลวเพลิงของไพน์และตอนนี้ยังมีแก่นแท้เปลวเพลิง...ทั้งสองอย่างเป็นพลังเวทย์ไฟบริสุทธิ์ มันอาจจะขาดบางอย่างเพื่อที่จะให้กำเนิดสปิริตไฟแต่...คุณควรมีอาหารให้เพียงพอ.”

ในที่สุดผมก็ได้คำตอบ.

ผมได้ดูดซึมแก่นแท้เปลวเพลิง มีเพียงเก้าคนเท่านั้นที่อยู่ในโลกสปิริต นอกจากนี้ผมยังมีเปลวเพลิงของไพน์ดังนั้นผมจึงเหมาะเป็นแหล่งพลังเวทย์ไฟให้แก่เขา.

"ฉันต้องอยู่ข้างๆเขา มันต้องใช้เวลาตลอดวัน?”

“ใช่ มันอาจจะใช้เวลาสักครู่ในการให้เมล็ดคุ้นเคยและตอบสนองกับคุณ มาสเตอร์จะเป็นอิทธิพลต่อสปิริต.”

คริสปี้ยืนกราน ผมรู้สึกผ่อนคลายหลังจากได้ฟัง มันดีกว่าการจิกเล็บหลังจากที่เริ่มต้น.(เสียใจตอนสุดท้าย/ไรต์)

นี่ไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาของผม

ผมไม่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้และต้องทำให้ดีที่สุด.

แม้ว่ายิฮิ...ธรรมชาติของเธอก็ไม่ได้แตกต่างจากชีวิตที่แล้วของผมเท่าไร ไม่มีอะไรจะบอกได้

คริสปี้เป็นดาร์เอลฟ์ที่โดดเด่นเพราะงั้นเธอจึงสามารถจัดการเรื่องอื่นๆได้อย่างง่ายดาย.

"คุณรู้ไหมว่าพวกเขาจะเกิดเมื่อไหร่?”

อย่างไรก็ตามผมยุ่งมาก.ผมไม่สามารถดูแลเมล็ดสปิริตเพียงอย่างเดียวได้.ถึงแม้ว่าผมจะไม่มั่นใจว่ามันจะดี....แต่ผมก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย. ตอนนี้ผมมี ‘งาน’ ที่ผมต้องทำ.

"ให้เมล็ดมันสมบูรณ์กว่านี้ก่อนและฉันจะได้เห็นมัน....มันอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนนั่นคือมากที่สุด.”

"1เดือนนานเกิดไป.”

“มาสเตอร์ของฉัน ทิ้งทุกอย่างไว้ให้ฉัน ฉันสามารถควบคุม โรส,รอยและแม๊กได้บ้าง.”

คริสปี้หัวเราะ.

ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้.

1เดือน.สถานการณ์ของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงทุกๆวัน

มันอาจจะฉลาดถ้าอยู่ในดันเจี้ยนเฉยๆ1เดือน.

'ฉันอาจจะไม่ต้องลงมือเองและฉันอาจจะเอาชนะศัตรูที่กำลังเหนื่อยล้า.’

มันเป็นกลยุทธ นอกจากนี้ผมยังเชื่อคริสปี้

'สปิริตมีค่า.’

สปิริต 100,000 ตน.

มันคุ้มค่าที่จะอยู่เฉยๆเป็นเวลา1เดือนเมื่อคิดถึงประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อพวกเขาเกิดขึ้นมา ในขณะเดียวกันผมอาจจะพัฒนาตนได้

“คริสปี้.ผมจะปล่อยให้คุณ คุณต้องจัดการอย่างใกล้ชิด ไม่ควรมากเกินไป แต่มันก็มีตัวแปรเกี่ยวกับรอยและโรสมากเกินไป.”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอยและโรสจำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ถึงแม้โรสจะฉลาดแต่เธอก็ยังเป็นเด็กดาร์กเอลฟ์เท่านั้น พวกเขาเป็นตัวแปรที่ผมไม่รู้

ตอนนี้เกาหลีกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลายคนกำลังชุมนุนอยู่และกรุงโซลกำลังฟื้นตัว เทคโนโลยีถูกแทนที่ด้วยแกนพลังงาน รัฐบาลใหม่และประเทศใหม่กำลังจะถูกสร้างขึ้น.

มันเป็นไปได้ที่จะให้มนุษย์เคลื่อนไหวไปในทิกทางเดียวกับรอยและโรส นั่นเป็นเหตุผลที่ผมมอบดาบเวทย์นั่นให้.

ผมให้คำแนะนำแก่เขา แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่งานจะเสร็จก่อนที่สปิริตจะเกิด.

“มาสเตอร์ของฉัน ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะไปในทิศที่มาสเตอร์ต้องการ.”

“ผมจะไว้ใจคุณ”

นี้ก็เพียงพอแล้ว.

หลังจากนั้นคริสปี้ก็ถอนตัวออกไป

ผมหันหัวไปมองทีเมล็ดเหล่านั้น

‘ตอนนี้...’

สปิริตจะต้องเกิดมาอย่างรวดเร็วมันเป็นสิ่งที่ดีกว่า.

ผมต้องทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของผม.

ผมกระจายพลังเวทย์ไปรอบๆเมล็ด.

ผมไม่แน่ใจ แต่ผมใช้วิธีนี้ก่อน

ผมนั่งลงท่ามกลางเมล็ดมากมาย

ผมค่อยๆปกคลุมเมล็ดด้วยเปลวไฟของไพน์และแก่นแท้เปลวเพลิง

-พลังเวทมนตร์ของ รัลดาล บิกิเซล ได้กระจายไปทั่วพื้นที่

เมล็ดของวิญญาณได้ตอบสนอง ตัวตนของเขากำตื่นขึ้นอย่างช้าๆ อัตราการรับรู้: 18.5%

- พลังแห่งไฟแข็งแกร่งเกินไป! สปิริต358ถูกทำลายโดยไม่ไดเเกิดมา

- พลังแห่งไฟอ่อนแอเกินไป! อัตราการรับรู้ลดลง

- พลังแห่งไฟเพียงพอ อัตราการรับรู้เพิ่มขึ้นอย่างมาก อัตราการรับรู้: 19.9% ...

มันยากกว่าที่ผมคิดในการรักษาพลังเวทย์ มันเป็นิส่งสำคัญที่จะไม่ใช้มากเกินไปหรือน้อยเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมขมวดคิ้วเมื่อมีข้อความระบุว่าเมล็ดถูกทำลาย.

‘มันยาก.’

ผมควงดาบอย่างดุดัน มันน่ารำคาญที่จะนั่งนิ่งๆและควบคุมพลังเวทย์ของผม มันไม่ต่างจากการถูกทรมาณ

‘อัตราการตื่นมันช้ามาก.’

นอกจากนี้ยังมีอีกประเด็นนึง คริสปี้พูดถึง1เดือน แต่สองสัปดาห์ผ่านไปและอัตราการรับรู้ก็แค่20%เท่านั้น

ในอัตรานี้ผมต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองเดือนถึงจะเสร็จสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราการรับรู้ลดลงเมื่อเปอร์เซนต์เพิ่มขึ้น.

ความเข้มข้มของผมลดลงเล็กน้อยหลังจากผ่านไป14วัน ผมตระหนักได้ว่ามันยากที่จะควบคุมพลังเวทย์.

‘ฉันได้เข้าสู่เขตแดนใหม่ แต่มันก็แค่ครึ่งทาง ปัจจุบันฉันไม่ต่างอะไรจากเด็กที่แข็งแกร่ง ความสามารถของฉันในการเคลื่อนย้ายพลังเวทย์ค่อยข้างอ่อนแอ.’

ผมต้องยอมรับมัน ผมคิดว่าผมกำลังเติบโตอย่างช้าๆ แต่ผมยังไปไม่ถึงรับดับนั้น

ผมต้องการเพิ่มสถานะทั้งหมดให้มากกว่า100 ผมไม่รู้กับการควบคุมความแข็งแกร่งนี้ ตั้งแต่ที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์ในชีวิตก่อนหน้านี้ของผม.

‘ในขั้นต้นฉันต้องควบคุมพลังเวทย์ในการต่อสู้ แต่การต่อสู้ไม่ได้เป็นวิธีการเดียวให้แข็งแกร่งขึ้น ฉันต้องตระหนักว่าฉันกำลังขาดอะไร’

มันเป็นไปได้ที่จะมีการพัฒนาเมื่อมีการ ‘รู้แจ้ง’

มันไม่ได้เป็นกับการต่อสู้เท่านั้น

การรู้แจ้งเป็นส่วนสำคัญของเรื่องนี้ ผมเพิ่งรู้เมื่อเร็วๆนี้.

'พลังเวทย์ของฉันหยาบเกินไป มันเหมือนกับม้าป่า รู้แค่วิธีการใช้งาน’

ผมคิดถึงสิ่งที่ผมขาดหายไปและได้ข้อสรุปนี้.

การควบคุมพลังเวทย์ของผมไม่เหมาะสมกับเมล็ดสปิริต.

ถ้าไม่มีความหยาบของพลังเวทย์อัตราการรับรู้จะเพิ่มขึ้น.

เมล็ดก็เหมือนกับไข่ พวกเขาต้องการอากาศที่อบอุ่น.

'พลังเวทย์อุ่นๆ...’

ผมจำเป็นต้องควบคุมพลังเวทย์ การควบคุมความละเอียดอ่อนของมัน มันไม่ใช่ธรรมชาติของผม

'ฉันไม่สามารถยอมแพ้ได้เนื่องจากมันไม่เหมาะกับฉัน.’

ถ้ามันไม่ดีพอแล้วผมต้องบังคับมัน การให้มากขึ้นหมายความว่าไม่มีการพัฒนา ผมต้องผ่านความท้าทายนี้เพื่อก้าวไปข้างหน้า

แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องอยาก แต่ในที่สุดผมก็จะถูกแขวนคอจากมัน

(Of course it was difficult, but I would eventually get the hang of it.)

ผมคิดถึงช่วงเวลาที่ผมรู้สึกถึงพลังเวทย์ที่อบอุ่น.

'ผู้พิทักษ์แห่งดิน เอซิส.’

มนูษย์ เธอเป็นอเวคจากอเมริกา เธอรู้วิธีที่จะเคลื่อนย้ายไปยังผืนดิน ก่อนอื่นเลยเธอคล้าย แต่ลักษณ์ของพวกเขาแตกต่างกัน

เธอไม่ชอบการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรือมนุษย์....เธอสั่นแม้ว่าจะเห็นดีม่อนบาดเจ็บ เธอไม่สามารถช่วยได้ในการต่อสู้

พลังเวทย์ของเธอคือความรู้สึกอบอุ่นมากที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้สึก.

เธอคิดว่าเธอทุกคนสามารถกลับตัวได้ แต่สุดท้ายเธอก็ถูกฆ่าโดยแวมไพร์เพราะเหตุนี้ แต่เธอก็มีความสำเร็จมากมาย.

เอซิสมีบางอย่าง.

ผมสงสัยว่ามันคืออะไร

‘การแสกงออกจากจิตใจ.’

เป็นเพราะเธอรักและเป็นห่วงผู้คน?

ผมหัวเราะกับความคิดนี้

การนึกภาพว่าเป็นตัวของผมเองแล้วมันอดไม่ได้ที่จะขนลุก บอกตรงๆมันไม่อาจะคิดออกมาได้.

ผมส่ายหัว.

ผมไม่ใจดีเหมือนกับเอซิส ถ้ามันเป็นสิ่งจำเป็นมันก็จะเป็นความท้าทายที่เป็นไปไม่ได้ ผมไม่สามารถเปลี่ยนวิถีของผมได้.

ดังนั้น...ผมต้องหาทางของตัวเอง

‘ตื่นขึ้น ฉันจะนำทางคุรเอง’

ผมจ้องมองไปที่เมล็ดด้วยความเหยียบหยาม ผมต้องการที่จะทำเส้นทางของผมเอง สปิริตจะเป็นผู้ติดตามเรา นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้.

เป๊าาา!

แป๊ะะะะ!

ในขณะเดียวกันเมล็ดก็ดีดลั่นออกมา.

-พลังเวทย์ของไฟอุ่นขึ้นเล็กน้อย อัตราการรับรู้เพิ่มขึ้นอย่างมาก อัตราการรับรู้: 32.7%

-พลังเวทย์ของ 'รัลดาล บิกิเซล' เพิ่มขึ้นหนึ่งแต้ม

การเปลี่ยนความคิดเป็นเรื่องง่าย.

อย่างไรก็ตามมันก็เพิ่มขึ้นแค่10%

‘นี่คือสิศทางที่ถูกต้อง.’

นอกจากนี้พลังเวย์ของผมเพิ่มขึ้นทีละหนึ่ง

มันน่าอัศจรรย์มาก เมื่อพลังเวทย์เกินกว่า90แต้มมันจะไม่เพิ่มอย่างง่ายๆ พลังเวทย์เพียวๆของผมคือ95แต้ม.

ผมรู้สึกสบายขึ้นนิดหน่อย.

ทิศทางนี้ถูกต้องดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นรู้สึกต้องเร่งมากมายนัก.

0 0 โหวต
Article Rating
8 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด