ตอนที่แล้วเล่มที่ 1: บทที่ 2-2 (Resident Evil)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่มที่ 1: บทที่ 3-2 (Resident Evil)

เล่มที่ 1: บทที่ 3-1 (Resident Evil)


เล่มที่ 1: บทที่ 3-1 แปลโดย: กิลด์เทพอสูร

 

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ทุกคนได้กลับคืนสู่สภาวะปกติของเหตุ การณ์นองเลือด วันแสดงความขอบคุณด้วยการตบไหล่ของเจิ้ง ผู้นำทหารรับจ้างคนนี้ควรจะตายตั้งแต่อยู่บนทางเดิน แต่ตอนนี้เขากลับยังมีชีวิตอยู่ เพราะถูกแทรกแซงพล็อตเรื่องเดิม เป็นเรื่องที่แน่นอนว่าหลังจากนี้เขาอาจจะตายเพราะซอมบี้ หรือ ฮันเตอร์ ในภายหลัง ซึ่งคงไม่มีใครสามารถคาดเดาได้

วันมองไปที่ทุกคนแล้วพูดว่า“ดำเนินการต่อ!”

“ดำเนินการต่อ?” สเปนซ์ตะโกน “ดำเนินการต่ออะไร? คุณล้อผมเล่นใช่มั้ย? ไม่มีทางที่ผมจะลงไปที่นั่นอีกแน่”

วันหันไปทางแคปแลน ใบหน้าของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ“ใช่ใช่ ผมปิดระบบป้องกันของเธอทั้งหมดแล้ว ทั้งหมด ...”

วันทวนคำพูด “ทั้งหมด? คุณมั่นใจ?”

โดยไม่ต้องรอให้แคปแลนตอบกลับ วันหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาและเดินผ่านทางเดิน

แคปแลนยังคงพิมพ์ต่อโดยไม่พูดไม่จา คราวนี้ประตูไม่ได้ปิด อลิซทำเหมือนในพล็อตเรื่องเดิม หลังจากที่พวกเขาเดินผ่านประตูของราชินีแดงก็ปิดลงอีกครั้ง กลุ่มของเจิ้งมองหน้ากันไปมา พวกเขารู้ว่ากำลังจะเจอกับอรรถบทของเรสซิเดนต์อีวิล (ผีชีวะ) ก็คือ : ซอมบี้

หลานกระซิบบอกเจิ้ง และ เสี่ยวอี้ ด้วยเสียงแผ่วเบา“อย่าอยู่ห่างจากเจี๋ย ระวังอย่าให้พลาดโดนซอมบี้กัด ในหนังเรื่องนี้ถ้านายติดเชื้อนายจะกลายเป็นซอมบี้ในสามสิบนาที ฉันได้คำนวณคร่าวๆ แล้วว่า วัคซีนจะทำงานภายใน 10 นาทีหลังจากที่โดนกัด อย่าลืมอยู่ใกล้เจี๋ยไว้ล่ะ เขาสามารถมีชีวิตรอดจากหนังถึง 3 เรื่อง ในครั้งนี้เขาก็อาจจะรอดเช่นเดียวกัน”

พวกเขาพยักหน้ารับ แล้วหลานก็ส่งยิ้มให้ “จริงสิ นายรู้สึกจะอาเจียนอีกไหม ถ้าต้องฆ่า?”

เสี่ยวอี้ตอบคนแรก “ผมเคยรู้สึกเบื่อ ผมยังไม่ค่อยคุ้นกับที่นี่เท่าไหร่ แต่พอได้อ้วกออกมาเหมือนมันได้ปลดปล่อยทำให้รู้สึกดีขึ้น ผมคิดว่าถ้าผมหลับตาผมก็สามารถฆ่าคนได้นะ”

เจิ้งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตัวเขาเองก็รู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้อาเจียนออกมา โดยเฉพาะหลังจากที่ต้องเจอกับเหตุการณ์เฉียดตายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาหมาดๆ เขาได้ขจัดความรู้สึกเพ้อฝันทิ้งไป และหลอมรวมตัวเองเข้ากับหนังเรื่องนี้อย่างช้าๆ ถ้าตราบใดมันจะช่วยให้เขาสามารถมีชีวิตรอดได้นานขึ้น ไม่ว่าจะต้องฆ่าปีศาจ หรือ ฆ่ามนุษย์ เขาก็ยินดีที่จะทำ

หลานยังคงพูดต่อไป “ได้ ถ้าอย่างงั้นก็หาโอกาสฉกปืนของพวกเขามา แล้วถ้าเจอซอมบี้พยายามแยกมันออกจากฝูง แล้วค่อยฆ่ามันเพื่อเก็บคะแนน! อ้อ..จำไว้ด้วยว่าหัวคือจุดอ่อนของพวกมัน”

หลังจากนั้นห้องก็เริ่มมืดลง พวกเขารู้ว่าวันได้ปิดคอมพิวเตอร์ส่วนกลางแล้ว ในเวลาเดียวกันระบบการป้องกันที่แยกซอมบี้และฮันเตอร์หยุดทำงาน หลังจากเหตุการณ์ที่ผ่านมามันทำให้เจิ้งไม่กล้าเปลี่ยนพล็อตเรื่องในครั้งนี้ เขาเพียงแค่รอจนคอมพิวเตอร์ส่วนกลางถูกปิดลงในที่สุด แล้วพวกเขาก็จะต้องไปเผชิญหน้ากับความตาย

ถึงจะเป็นในที่มืด เจิ้งก็รู้สึกได้ถึงอาการสั่นไม่หยุดของเสี่ยวอี้ หรือแม้แต่กระทั้งหลานเองก็ตัวสั่นเช่นกัน เจิ้งถามว่า “กลัว?”

เสี่ยวอี้ตอบว่า“กลัวดิพี่ โคตรกลัวเลยล่ะ”

ถึงแม้หลานจะตอบว่า“รู้สึกตื่นเต้นมากเกินไป ...”

แต่เจิ้งก็รู้ดีว่าหลานกำลังหวาดกลัว เขาไม่ได้เอ่ยคำถามต่อเขาหันกลับมองแหล่งกำเนิดแสงเพียงเท่านั้น และสงบนิ่งเพื่อรอคอยสิ่งที่จะปรากฎขึ้น

หลังจากผ่านไปไม่นาที แสงสว่างถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง เจิ้งรู้ว่าทุกอย่างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

วันและอลิซกลับมาจากห้องคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง วันมองสำรวจโดยรอบทั้งหมด จากนั้นเขากลับเข้ามาดูศพที่อยู่ตรงทางเดิน “ลำดับแรกพวกเราจะนำวงจรหลักของราชินีแดงกลับบริษัท แคปแลนตอนนี้รังผึ้งเป็นยังไง?”

แคปแลนหันไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ “ดี การป้องกันทั้งหมดลดลง เราสามารถออกจากรังผึ้งเป็นเส้นตรง”

วันพยักหน้า “ตกลง แล้วตอนนี้ …”

ก่อนที่วันจะพูดจบ ได้มีเสียงปืนดังมาจากห้องอาหารบี วันมองที่แคปแลนแล้วพวกเขาก็วิ่งออกจากห้องไป อลิซและนักแสดงคนอื่นๆ ตามเขาไป จากนั้นกลุ่มของเจิ้งก็ตามไปด้วยเช่นกัน

เมื่อเจิ้งมาถึงห้องอาหาร เขาสังเกตเห็นว่าตู้โลหะที่บรรจุฮันเตอร์ ไฟที่อยู่ด้านบนเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง แค่คิดถึงจำนวนฮันเตอร์ที่อยู่ภายในห้องนี้ มันก็ทำให้เจิ้งถึงกับขนหัวลุกหนาวเข้ากระดูกสันหลัง ด้วยจำนวนและความแข็งแกร่งที่มนุษย์ไม่อาจเทียบได้

วันถามว่า“มีอะไรผิดปกติ? ผมได้ยินเสียงปืน”

นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของเรนนั้นขาดหายไป ชิ้นส่วนที่ยังเหลืออยู่มันอยู่ในสภาพเลือดอาบและน่ากลัว “หัวหน้าเราพบผู้รอดชีวิต แต่เขาเป็นบ้าไปแล้ว เขากัดฉัน ...”

วันขมวดคิ้ว "คุณเลยเปิดฉากยิงก่อน?"

เรนตะโกน "แต่หัวหน้าเขามันบ้าไปแล้ว!"

“เขาหายไป” จู่ ๆ เจี๋ยก็ถามขึ้นมา เขามองไปที่กองเลือดที่อยู่บนพื้นและพูดว่า“เขายังอยู่ที่นี่ แต่เขาแค่หายไป”

วันเดินไปที่กองเลือดแต่มันแข็งตัวไปแล้วกว่าครึ่ง แน่นอนว่านี่มันไม่ใช่เลือดสด เขารู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

วันลุกขึ้นยืนและตะโกนออกมาว่า“พวกเราจะถอนกำลังทันที”

เรนรู้สึกผิดปกติ ๆ เลยถามว่า “หัวหน้า? คำสั่งของเราไม่ได้ให้พวกเรารออยู่ที่นี่ เพื่อรอกำลังเสริมหลังจากที่เราได้วงจรหลักของราชินีแดง?”

วันส่ายศรีษะ “ไม่มีกำลังเสริมอีกแล้ว เตรียมพร้อมถอนกำลัง!”

หลานเดินเข้าไปหาเจี๋ย และถามว่า “เมื่อกี้คุณพึ่งเตือนพวกนั้นไป ไม่กลัวว่าพล็อตเรื่องจะถูกเปลี่ยนหรอ?”

เจี๋ยหัวเราะ “ขนาดพวกเธอยังกล้าที่จะเปลี่ยนพล็อตเรื่อง ทั้งๆ ที่เป็นมือใหม่แท้ๆ แถมยังรอดมาได้อีก ลองมองไปที่นาฬิกาของเธอดูสิ ตอนนี้ชื่อวันไม่มีอีกต่อไปแล้ว”

หลานและเจิ้งมองไปที่ช่องนาฬิกาเดิมที่เคยมีชื่อ วัน ปรากฎอยู่ บัดนี้มันกลับว่างเปล่า

เจี๋ยหัวเราะพวกเขา “ตอนนี้เรามีอิสระที่จะไปไหนก็ได้ จำไว้ว่าพวกนายสามารถทำอะไรก็ได้ ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตรอด”

เจี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ถ้าฉันเป็นเธอ ที่ไม่มีความแข็งแกร่ง, ความเร็วปฏิกิริยาตอบสนอง,และอาวุธ ฉันจะตามกลุ่มกลับไปที่ห้องราชนีสีแดง อย่างน้อยเธอก็จะปลอดภัย”

หลานยิ้ม “จริงๆ แล้วคุณค่อนข้างเป็นคนดี คุณเพียงแค่แสดงออกไม่เก่งเท่านั้น”

เจี๋ยหัวเราะ “คนดี ? อย่าตลกไปหน่อยเลย ฉันแค่ไม่ต้องการให้เธอที่มาเกะกะเวลาที่ฉันกำลังล่าคะแนน อย่าเข้าใจผิดไป ไม่มีคนดีอยู่ในโลกนี้ ตราบเท่าที่ฉันยังอยู่รอด ฉันก็จะไม่ใช้พวกเธอทั้งสามคนเป็นโล่เนื้อ”

น้ำเสียงที่พูดมันชวนให้หนาวจับไปยั้นไขกระดูก

ในเวลาเดียวกัน มีเสียงโลหะดังมาจากระยะไกล เรน และ ดีเจ เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง เดินได้เพียงไม่กี่ก้าวชายคนหนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้นเขาสวมเสื้อคลุมสีขาวเดินออกมาจากมุม มีบางคนเดินโซเซและสะดุดล้มอยู่ด้านหลังของเขา

ดีเจเล็งปืนไปที่พวกเขา“หยุดอยู่ตรงนั้น! ไม่งั้นผมจะยิง!”

เห็นได้ชัดว่า ‘คน’ นี้ไม่มีทางที่จะหยุด พวกเขาติดเชื้อ ที-ไวรัสแล้ว เพียงไม่นานนักมีคนจำนวนหนึ่งเดินโซเซออกจากทุกด้านของห้องอาหาร บางคนอยู่ในเครื่องแบบและบางส่วนอยู่ในเสื้อคลุมยาวสีขาว (ชุดกาวน์แล็ป) ร่างกายบางส่วนของพวกเขานั้นเริ่มเน่าเปื่อย และบางคนขาของเขามีรูปร่างผิดเพี้ยน เจิ้งยังเห็นคนหนึ่งมีหัวเพียงครึ่งเดียว โดยที่หัวซีกขวาได้หายไปเหลือเพียงแค่ซีกซ้ายเท่านั้น

"หยุด! ไม่งั้นผมจะยิง!”

ปัง!

วันเป็นคนแรกที่ยิ่งกระสุนเข้าใส่ซอมบี้ถือค้อน มันล้มลงกระ แทกกับพื้น แทบจะในทันทีมันกลับลุกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว แม้มันจะถูกกระสุนยิงเข้าใส่ตัวมัน มากกว่าสิบนัดมันกลับไม่มีเลือดออกซักหยด

ปัง!

เจี๋ยยิงซอมบี้ด้วยปืน ดีเซิร์ท อีเกิ้ล ของเขามันระเบิดหัวซอมบี้เหมือนแตงโม “พวกนายไปหาทางออก ตรงนี้ฉันจัดการเอง!”

วันลังเลชั่วครู่และตะโกน“เอาล่ะ ทุกคนที่เหลือตั้งขบวน ดีเจ ไปหาทางออก เรนควบคุมนักโทษ ส่วนคนอื่นๆตามผมมา”

เจิ้งมองไปที่เจี๋ยและเห็นเขารอ ให้ฝูงซอมบี้เข้าใกล้แล้วค่อยสาดกระสุนใส่พวกมันในครั้งเดียว ซอมบี้จำนวนหนึ่งที่เข้าใกล้ตัวเขาทั้งหมดโดนยิงเข้าที่หัว ความแม่นยำ และ ความเร็วของเขามีศักยภาพสูงกว่าคนปกติ

เจิ้งรู้สึกว่าตอนนี้เขาสามารถตามการเคลื่อนไหวของเจี๋ยได้ทัน เขาเคยอ่านหนังสือ MMA เกี่ยวกับสายตาเรื่องความแม่นยำ และ ความเฉียบคม ความคมชัดของภาพจากการมองเห็นในระยะไกล สามารถวัดได้ว่าคุณมองเห็นได้ไกลแค่ไหน ส่วนความคมชัดแบบภาพไดนามิค สามารถกำหนดการมองเห็นของดวงตาของคุณ ในการมองรายระเอียดของภาพ หรือ วัตถุ ที่กำลังเคลื่อนไหว

ดูเหมือนความคมชัดแบบภาพไดนามิกเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาความเร็ว เขาสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเจี๋ยได้อย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่าความแตกต่างระหว่างปฏิกิริยาความเร็วของพวกเขานั้นต่างกันไม่มากนัก ในตอนแรกเขารู้สึกรังเกียจที่จะระเบิดหัวของซอมบี้ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่ามันช่างเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งมันอาจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาที่เพิ่มขึ้น

"ดูเหมือนว่ารางวัลตอบแทน มันจะช่วยเพิ่มศักยภาพของเราจริงๆ!

เจิ้งมีความสุข เขาสงบจิตใจและเดินตามวันต่อไป วันหันกลับไปมองรอบ ๆ และยื่นปืนให้กับเจิ้ง พร้อมกับลูกกระสุน 2 แม็ค

“ผมไม่สามารถดูแลพวกคุณได้ตลอดเวลา มีลูกกระสุน 15 นัดในแต่ละแม็ค  ทำตามที่เจี๋ยทำ และยิงพวกมันที่หัว”

เจิ้งเข้าใจเรื่องนี้มากกว่าใครๆ แม้ว่าเขาจะไม่เคยใช้ปืนมาก่อนก็ตาม เขาสามารถยิงมันได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากศักยภาพที่เพิ่มขึ้นของความเร็วปฏิกิริยาตอบสนอง เขาฉลาดพอที่จะเล็งซอมบี้ที่อยู่ภายในระยะสิบเมตร เพราะเป็นระยะยิงที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ส่วนคนอื่น ๆ ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันพยักหน้าเมื่อเห็นเจิ้งยิงโดนหัวของซอมบี้ทุกนัดโดยไม่ต้องเล็ง จึงให้เขาและเจี๋ยคอยระวังหลังให้

ทันทีที่เสี่ยวอี้ได้เห็นฝีมือการยิงของเจิ้ง อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “สุดยอดเลยพี่เจิ้ง! พี่เคยยิงปืนมาก่อนหรอ? ได้กี่คะแนนแล้ว?”

วันหันกลับไปมอง “คะแนน ?”

เสี่ยวอี้หน้าสลดลง เจิ้งเหอเคยได้ยินคำเตือนเกี่ยวกับเรื่องหักคะแนน เพื่อนผู้น่าสงสารเขาอาจจะโดนหักคะแนน ก่อนที่จะได้คะแนนเสียอีก

วันมองที่พวกเขาทั้งสามคน แล้วจึงหันกลับไปมองฝูงซอมบี้ หลานตบหน้าอกของเธอและบ่นพึมพำ “ลุ้นจริงๆ ฉันคิดว่าพล็อตเรื่องจะเปลี่ยนอีก”

ความจริงแล้วหลานมีรูปร่างดีมาก และ ใบหน้าของเธอก็ค่อนข้างสวยทีเดียว เจิ้ง และ เสี่ยวอี้ มองดูเธอขณะที่เธอตบหน้าอกของตัวเอง เธอรู้ว่าถูกมองอยู่ เลยพูดตัดบทขึ้นมาว่า “เจี๋ยจะไม่เป็นไรงั้นเหรอ ? พวกเรายังไม่เห็นเขาเลย”

เจิ้งรู้ว่าหลานพยายามที่จะเปลี่ยนเรื่อง เขาจึงตอบแบบไม่ใส่ใจนัก “น่าจะปลอดภัย เขาแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มของพวกเราอีกทั้งเขายังมีปืนดีเซิร์ท อีเกิ้ล ลูกกระสุนไม่จำกัด ให้ตายสิ. ถ้าผมรอดไปได้ ผมจะแลกมาไว้ใช้เองซักกระบอก.”

อิริยาบทการแตะหน้าผากหลาน น่าจะเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวของเธอ เพราะเธอมีหน้าผากที่ค่อนข้างใหญ่กว่าคนทั่วไป

“100 คะแนนสามารถเอามาอัพพลังได้ 1 ใน 10 ส่วน ถ้าหากฉันรอดไปได้ ฉันจะถามเจี๋ยเกี่ยวกับรายละเอียดในการแลกเปลี่ยนอย่างจริงจัง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยเรื่องนี้ นายควรมีสมาธิในการคุ้มกันพวกเรา.” เธอยิ้มให้เจิ้ง

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องนี้ได้ก่อนใครที่ FB: www.facebook.com/IDTR8 หรือพิมพ์ค้นหา นิยายแปล: เกมส์สยองต้องไม่ตาย

***จากตอนปัจจุบันในเพจ เรานำไปแล้ว 150ตอนนะค้า***

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด