ตอนที่แล้วตอนที่ 64 การโจมตีผู้ค้าทาส 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 66 การโจมตีผู้ค้าทาส 3

ตอนที่ 65 การโจมตีผู้ค้าทาส 2


เขตชานเมืองของเบอร์เก้น ที่ซึ่ง[Shackler] กำลังหลบซ่อนนั้นมีความซับซ้อนราวกับถ้ำมด ถ้าคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักที่นี่ พวกเขาจะหายตัวไปในเงามืดของเมืองนี้

ไหล่ของธีโอรู้สึกหนักจากอากาศที่หนักอึ้ง มีขวดไวน์หลายขวดกลิ้งอยู่บนพื้นและคราบสกปรกซึ่งอาจจะเป็นคราบเลือด ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตามธีโอก็ไม่สนใจและสงบสติลง ‘ทางด้านขวา 25 เมตร มีสามคนอยู่ด้านหลัง’

ความสามารถในการรับรู้ที่แม่นยำนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตรวจจับทางกายภารเท่านั้น มันเป็นคุณสมบัติที่เขาได้รับมาจากการที่เขาแชร์ความรู้สึกกับมิตรา ที่หลอมรวมเข้ากับพื้นดิน ความสามารถในการจับความเคลื่อนไหวและร่างกายของคนอื่นผ่านการสั่นสะเทือนนั้นมีประโยชน์อย่างมากต่อธีโอดอร์ในตอนนี้ และเขายังสามารถเห็นสิ่งที่เขาไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเหยี่ยว

มีคนร้ายสามคนที่กำลังกระซิบกันด้านหลังกำแพงนั่น ธีโอเดินขึ้นบันไดไปไม่กี่ก้าวจนกระทั่งได้ยินเสียงนั้น

“ข้าเห็นมัน!มันเป็นเอลฟ์แน่นอน!”

“แกจะบ้าหรอ ฮันส์ แกลืมกินยาหรือเปล่า?”

“แกคงจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เห็นผู้หญิงมาเลยวันแล้ว แกต้องการยืมเงินข้าไหม?ข้าคิดดอกเบี้ย2%ต่อวัน”\

“ไอพวกบ้านี่!”

เขาได้เห็นพวกทาสหนึ่งในนั้นเป็นเอลฟ์จริงๆ แต่เพื่อนร่วมงานของเขากลับไม่เชื่อเขา เขาโกรธมากและกระทึบเท้าเดินออกห่างจากจุดของเขา เขาเดินห่างออกมาและพบเจอกับธีโอในระยะหน้าแทบจะชนกัน เขาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นธีโอ แต่...

ฉึก-

เกิดรูเล็กๆขึ้นตรงกลางหน้าผากของเขาทันทีก่อนที่เขาจะสามารถพูดได้ แม้แต่จอมเวทย์ที่แข็งแกร่งเช่น เวโรนิก้า ก็ยังไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงกระสุนเวทย์ในระยะเช่นนี้ได้ ชะตากรรมของเขาสิ้นสุดทันทีเมื่อพบกับธีโอ

‘เหลืออีก2คน...ฉันจะจัดการมันให้หมด’

ธีโอชี้นิ้วไปที่ผนังกำแพงและยิงไปที่หัวของพวกมันที่เหลืออีกสองคน แสงแห่งความตายได้พุ่งใส่พวกเขา สมองของพวกเขาต่างกระจัดกระจายออกมา นี่คือจุดจบของพวกมันทั้งสาม

ไม่นานหลังจากนั้น....

ระดับของพวกมันนั้นแตกต่างเกินไปและกระสุนเวทย์นั้นโหดร้ายเกินไป

“อึก”

“อัก...”

ธีโอฆ่าทุกคนที่เขาะบ เขาเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆและฝังศพคนไปนับสิบคนตามเส้นทางจนกว่าเขาจะได้พบกับหน่วยลาดตระเว้นที่2 มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือทักษะ แต่มีนักรบคนหนึ่งสามารถสร้างรอยบนต้นแขนของธีโอได้

‘ชิ ฉันยังคงไม่มีประสบการณื มันเป็นการโจมตีที่ฉันสามารถหลบได้ถ้าฉันได้รับประสบการณ์อย่างเต็มที่จาก ลี ยองซุก’

เขารักษาบาดแผลด้วยเวทมนต์ มันเป็นเพียงเลือดไม่กี่หยดเท่านั้น แต่ก็ควรที่จะต้องระวังตัว ธีโอรีบปกปิดร่างกายของเขาทันทีและตระหนักได้ว่าเขามาถึงป้อมปราการหนึ่งแล้ว มันเป็นป้อมที่มีเอลฟ์ถูกขังอยู่สองตัว

มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากป้อมทางด้านขวา “ไม่?ทำไมถึงไม่?”

ธีโอหันไปมองทางด้านขวาทันที ดวงตาสีทองของเขาได้มองไปที่รั้วและตรวจดูสถานการ์ภายใน มีกลุ่มโจรจำนวนมากได้โต้เถียงกับนักรบ4คนที่ยืนอยู่หน้าป้อมด้วยท่าทางถมึงทึง

สัมผัสของธีโอจับระดับของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว

‘มีผู้ใช้ออร่าอยู่5คน...บางทีหน่วยข่าวกรองของWhite Tower คงพลาดอะไรบางอย่างไป มันดีกว่าที่จะเฝ้ามองสถานการณ์ก่อนที่จะเข้าไป?’

ธีโอรู้สึกเครียดมากพอที่จะเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะรับฟังการโต้แย้งนี้ก่อน

“นี่มันผิดข้อตกลง!แกไม่เห็นด้วยที่จะนำเอลฟ์สองตนนั้นมาให้กับฉันงั้นหรอ? แกไม่รู้เกี่ยวกับความเสี่ยงที่กลุ่มของแกต้องพบเจอหรือไง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะแก!”

“โปรดรออีกหน่อย หัวหน้าราคอน”

“มันผ่านมากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว!เราไม่อาจทราบได้ว่าเมื่อไหร่ที่พวกนั้นจะมาถึง!”

ธีโอหรี่ตาลงมองไปที่หัวหน้าราคอน เขาเป็นหัวหน้าของกลุ่มที่แคทนิสอยู่ บางทีเขาอาจจะตัดสินใจที่จะช่วยเหลือพวกนี้แลกกับเอลฟ์2ตนนั่น นั่นเป็นเหตุผลที่ราคอนทำข้อตกลงซึ่งปกติเขาจะไม่ยอมรับใคร ความคิดที่อยากจะครอบครองความงามของเอลฟ์ทำให้เขาลืมความกลัวในการต้องโทษประหารไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง

แต่เมื่อมันผ่านไปสักพัก เขาก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ราคอนต้องการนำตัวเอลฟ์ออกจากเมืองนี้ให้เร็วที่สุด เขารู้สึกแย่ขึ้นเมื่อคิดได้ว่ามือสังหารจากRed Tower กำลังจะมา

อย่างไรก็ตามสมาชิกของ[Shackler] กลับส่ายหัวของพวกเขาด้วยท่าทางเฉลียวฉลาด พวกเขาดูเหมือนจะคิดได้ว่ากลุ่มโจรพวกนี้จะตลบหลังพวกเขาทันทีที่พวกเขามอบเอลฟ์ให้ แต่การทำเช่นนี้จึงเป็นเรื่องน่ารำคาญเมื่อพวกโจรนี้มาหาพวกเขาหลายครั้งต่อวันเพื่อถามถึงเรื่องเอลฟ์

“บ้าจริง แค่ให้ฉันเห็นพวกเอลฟ์สักครั้งหนึ่งเถอะ!” ราคอนพยายามที่จะชักจูงพวกเขา แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาจะสามารถทำได้ คนเหล่านี้ไม่สามารถที่จะติดสินบนได้เลย คนของShackler แตกต่างจากคนของเขา

ฟิ้วว— ลมเย็นได้พัดมาระบายความร้อนในหัวของเขา

ราคอนถอนหายใจจากนั้นก็สูดดมด้วยความประหลาดใจ คิ้วของเขาขมวดแน่นเมื่อเขาได้กลิ่นเหม็นของเลือดจากลม เลือดไม่ได้มาจากคนที่อยู่ใกล้ตัวเขา มันเป็นกลิ่นที่ไม่ธรรมดา หัวหน้าโจรได้พบศัตรูแล้ว

กริ๊ก ราคอนสะบัดข้อมือของเขา มีมีด6เล่มปรากฏขึ้นพร้อมกันทันที การกระทำของเขารวดเร็วอย่างมาก เหล่านักรบได้ถอยห่างทันทีที่เห็นการกระทำอย่างกระทันหันของเขา แต่เขาได้ขว้างมีดไปในทิศทางที่เขาได้กลิ่นขอเงลือด น่าประหลาดใจอย่างมากมีดได้ถูกปาไปในตำแหน่งของธีโอดอร์!

‘ได้ไงกัน?!’ เขาได้ลบตัวตนของเขาออกไปจนหมด แต่ราคอนกลับโจมตีมาหาเขาได้อย่างถูกต้อง มีดเหล่านั้นได้พุ่งเข้าใส่รั้วของค่ายบริเวณรอบต้นขาเขา

ฟิ้ว!ปึก!ปึก! เสียงของบางอย่างที่บินผ่านลมและหลุมได้ปรากฏในต้นไม้ทันที

เมื่อรั้วได้พังตัวลง การซ่อนตัวของธีโอดอร์ก็ถูกเปิดเผย ในที่สุดยามก็ตระหนักถึงการปรากฏตัวของเขาและชักดาบขึ้นมาทันที แสงสีแดงสว่างวาบขึ้นในดวงตาของผู้ใช้ออร่า

ธีโอเคยเผชิญหน้ากับผู้ใช้ออร่ามาก่อนแล้ว “ฮู่ ช่วยไม่ได้ละนะ”

แทนที่เขาจะถอยหลังกลับ เขากลับก้าวไปด้านหน้า มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะหลบหนี แต่ถ้าเขาหลบหนีมันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับวินซ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง เหนือสิ่งอื่นใดประสบการณ์ของทั้งสองคนที่อยู่ในตัวเขาได้บอกกับเขาว่าเขาสามารถชนะได้

“อะไรกันเด็กงั้นรึ เห้ เด็กน้อย! หลงจากแม่มางั้นหรอ?”

คิ้วของธีโอดอร์กระตุกทันทีที่ได้ยินคำพูดของราคอน มันเป็นการตอบสนองต่อคำยั่วยุที่แปลกๆของเขา

‘…อืม มันรู้สึกแย่กว่าที่คิด?’ เป็นเพียงแค่คำพูดเดียว แต่มันกลับทำให้เขาอารมณ์เสีย

มันเป็นคำพูดเดียวกับที่เวโรนิก้าเรียกเขา แต่มันขึ้นอยู่กับคนที่พูด ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างใบหน้าของเวโรนิก้ากับกลุ่มโจรที่เต็มไปด้วยหนวดเครามันก็เปรียบเสมือนกลางวันกับกลางคืนเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามหัวของธีโอกลับเย็นลงด้วยความคิดนั้น นี่เป็นอะไรที่แตกต่างออกไปเมื่อเทียบกับเวโรนิก้า แม้พวกมันจะรวมกันแล้วมี9คนแต่ทว่า พวกมันไม่มีทางแข็งแกร่งไปกว่าเวโรนิก้าได้

มือขวาของธีโอดอร์ได้ขยับ ‘เปิดช่องเก็บของ อุปกรณ์#3’

ในขณะเดียวกันมือซ้ายของเขาก็ได้ดึงเสื้อคลุมสีแดงออกมา เวโรนิก้าได้มอบให้กับเขาเป็นการส่วนตัว มันมีสัญลักษณ์ของRed Tower และวงกลม5วงสลักไว้บนเสื้อคลุม

เมื่อเสื้อคลุมสีแดงได้ถูกสวมลงบนร่างกายของธีโอ ราคอนก็ได้ตาเหลือกทันทีขณะที่เขาตระหนักได้ถึงตัวตนของธีโอ “บ้าจริง มือสังหารได้ถูกส่งมาแล้ว!”

เหล่าอาญชากรในเมลเทอร์ต่างรู้จักเสื้อคลุมสีนี้กันเป็นอย่างดี บนเสื้อคลุมจะมีการลงอาคมป้องกันเอาไว้ มันไม่ใช่สิ่งของที่เด็กธรรมดาจะสามารถได้รับได้

ในที่สุดธีโอดอร์ก็ได้ตรวจสอบ ช่องการจดจำของเขา ก่อนที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้น

‘บทเพลงแห่งสงคราม

‘บทเพลงแห่งความเร็ว

‘Allegretto

จากนั้นเขาก็วิ่งไปหาพวกมันที่ขณะนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความมืดมน

***

ในช่วงเวลาเดียวกัน วินซ์ ไฮน์เดล กำลังกระโดดข้ามอาคารที่อยู่ด้านตรงข้ามกับธีโอ

หลังจากที่เขามาถึงขอบเขตขั้น6แล้ว ความสามารถทางกายภาพของวินซ์ก็เพิ่มมากขึ้น การเคลื่อนไหวของเขาไม่ได้ต่างอะไรไปกับธีโอดอร์ตอนใช้บทเพลงแห่งสงครามเลย

ฟุ้บ!

วินซ์ใช้บทเพลงแห่งสงครามขณะที่อยู่กลางอากาศและใช้เวทมนต์ในการปกป้องร่างกายของเขา  เหล่านักรบหลายคนที่อยู่บนพื้นไม่สามารถตรวจจับวินซ์ที่อยู่บนท้องฟ้าได้ นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมจอมเวทย์จึงมีบทบาทที่สำคัญในสนามรบ จอมเวทย์สามารถที่จะกวาดล้างหน่วยลาดตระเวนได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นจอมเวทย์สงครามที่มีประสบการณืจึงเป็นคนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดไม่ว่าจะในสนามรบแบบไหน

ในหมู่จอมเวทย์ระดับปรมาจารย์ วินซ์คือหนึ่งในคนที่เยี่ยมที่สุด

‘ที่นี่’ จากบนท้องฟ้า วินซ์ได้มองไปที่จุดที่แคทนิสได้ทำเครื่องหมายเอาไว้และลงไปบนพื้นโดยไม่มีเสียงแม้แต่น้อย

เขาใช้’Detect Evil’ ขณะที่เขาจ้องมองไปที่เต็นท์สีเทาที่อยู่ด้านหน้าเขา จากข้อมูลของแคทนิส มีนักรบที่มีฝีมืออย่างมากอาศัยอยู่ในเต็นท์หลังนี้ ขณะที่วินซ์กำลังคิด ประสามสัมผัสของเขาก็จับอะไรได้บางอย่าง

แต่ทว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลีกเลี่ยงมัน

ครืด! มันเร็วกว่าเสียงเสียอีก ขณะที่ใบมีดที่ปกคลุมไปด้วยออร่าสีแดงปรากฏขึ้นในอากาศ เสียงก็ได้ตามมาทีหลัง ปลายดาบshamshir พุ่งหมายตัดคอของวินซ์ เศษเลือดกระจายไปทั่วในอากาศ อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ตัดเข้าที่หลอดเลือดของเขา เนื่องจากการตอบสนองที่เพิ่มขึ้นของบทเพลงแห่งสงครามที่เขาใช้อยู่ ทำให้เขาหลบได้ทัน

อย่างไรก็ตามแทนที่เขาจะรู้สึกประหลาดใจกับการโจมตีที่ไม่คาดคิด วินซ์กลับพึมพำออกมาราวกับเขาตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง “หืม เป็นเช่นนี้เอง”

มีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากความมืดใกล้ๆเต็นท์ เขาสวมผ้าโพกหัวสีดำที่ประดับด้วยทองคำ มันช่างดูขัดกัน แต่นี่คือลักษณะของชายที่มาจากอาณาจักร ออสเต็น อาณาจักรทางตอนเหนือของทวีป

ชายคนนี้มีแขนที่ยาว และมีออร่าสีแดงอยู่รอบๆตัวเขาราวกับหมอกควัน เขามองมาที่วินซ์และระบุตัวตนของวินซ์ได้อย่างแม่นยำ

“เมลเทอร์ จอมเวทย์สงครามสินะ”

“ใช่แล้ว จานิสซารี่แห่งออสเต็น” วินซ์ตอบขณะที่สวมชุดคลุมของเขา

ชายคนนั้นรู้สึกหวาดหวั่นกับคำพูดของวินซ์มากกว่าชุดคลุมสีแดงของเขา เสียงของวินซ์ที่แสดงออกมาบ่งบอกว่าวินซ์มั่นใจในตัวตนของเขาอย่างมาก

ในขณะที่จานิสซารี่พยายามปกป้องตัวตนของเขา วินซ์ก็ได้พูดขัดเขาขณะที่เช็ดเลือดจากบาดแผลของเขา“อะไรที่ทำให้องค์กรของแกกล้าที่จะทำเช่นนี้กัน? แม้ว่าพวกแกจะประสบความสำเร็จในการขายเอลฟ์ พวกเขาก็แค่สุญเสียเงินเท่านั้น มีคนโง่ไม่มากที่จะซื้อทาสจากแกในเมลเทอร์ แกไม่ได้มาเพื่อใช้เมลเทอร์เป็นตัวกลาง แกเพียงแค่ใช้เป็นทางผ่านเท่านั้นสินะ”

“…ทำไมแกถึงคิดเช่นนั้น?” มันพูดตอบกลับภาษาของอย่างหยาบๆ แต่ความหมายก็ยังคงชัดเจน วินซ์ไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยให้ชายคนนี้รอดพ้นไปได้ แต่เขาก็ไม่ยอมให้จับง่ายๆเช่นกัน ขณะที่ชายคนนั้นก้าวถอยหลัง วินซ์ก็เดินไปด้านหน้า ขณะที่จ้องมองไปที่เต็นท์ด้านหน้าของเขาอย่างเข้าใจ

เขามั่นใจแล้วว่าการคาดเดาของเขาถูกต้อง “เอลฟ์ที่อยู่ในนั้น....เอลฟ์ชั้นสูงสินะ?”

ดวงตาของจานิสซารี่สั่นไหว

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด