ตอนที่แล้วChapter 36 Lycanthrope (Part 2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 38 The Secluded Village (Part 1)

Chapter 37 Lycanthrope (Part 3)


Chapter 37 Lycanthrope (Part 3)

“ตายเพราะมนุษย์?”

ใบหน้าของบิดาตกตะลึงด้วยความสงสัย

จากผู้คนในตระกูลจะได้ยินเสียงขำของผู้ชายน้อยๆ.

เฮลกิไม่สนใจและพูด

“ผมไม่รู้ว่าพวกมันมีกี่คนเรายังไม่ทันได้เห็นหน้าและสามคนก็ตายแทบจะในทันที ผมขอโทษบิดา.”

เสียงหัวเราะลางที่อยู่ข้างหลังของเขาหยุดทันที

ในที่นี้ไม่มีผู้ชายสักคนที่ชอบเฮลกิ เป็นเพราะภายในตระกูลผู้ชายทุกคนต้องแข่งขันกันเพื่อผู้หญิง

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาปฏิเสธความแข็งแกร่งของเขา.

ถ้าเฮลกิไม่มีแม่แต่โอกาสที่ตจะต่อสู้และเสียพี่น้องไป มันจะเป็นปัญหา หากยังคงเยาะเย้ยความไร้ความสามารถ.

สามคนตาย แต่ไม่มีใครเห็นใบหน้าของฝ่ายตรงข้าม มีบางอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นที่นี่

“แกไม่ได้เห็นหน้า? ข้อมูลไม่เพียงพอ.”

จากคำพูดของบิดา เขามองไปยังศพ

“นั่นคือเหตุผลที่ผมเอาร่างน้องชายมาด้วย”

เขาพลิกตัวศพและแสดงให้เห็นถึงด้านหลัง

“บางอย่างเล็กๆที่ติดอยู่ในลำตัว มนุษย์ใช้อาวุธแปลกที่กำหนดไปยังเป้าหมายได้จากระยะไกล.”

“ตรวจสอบร่างนั่น”

“ครับ.”

เฮลกิตรวจสอบศพของน้องชาย เขาวางมือไปตรงบาดแผลพุพองรอบ จากนั้นก็มีบางสิ่งอยู่ในมือของเฮลกิ.

เขาเอามันออกและแสดงให้บิดาเห็น มันเป็นโลหะเล็กๆที่กำลังกลิ้งอยู่

“แกจะบอกว่าสิ่งเล็กๆนี้บินเร็วกว่าลม?”

“ครับ บิดา”

“มันต้องเป็นอาวุธอันตราย.”

“ผมไม่แน่ใจ แต่ผมเดาว่ามันคงเป็นการเรียกสปิริต.”

เกิดความเงียบในกลุ่มพวกเขา.

อาวุธที่ไม่รู้จักซึ่งฆ่าน้องชายเฮลกิในทันทีและยังมีการเรียกสปิริตอีก.

คนที่เข้ามาในดินแดนของเขาในเวลานี้ไม่สามารถดูแคลนพวกเขาได้.

“ก่อนอื่นเราไม่รู้ว่ามนุษย์พวกนี้เป็นใครและมีกี่คน.”

“บิดาผมจะออกไปหาเอง!”

เสียงสดใสกล่าวออกมา ไลแคนที่มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม

‘เจสัน?’

ใบหน้าเฮลกิกลายเป็นบิดเบี้ยว

เจสันเป็นคนที่มักจะแข่งกับเฮลกิเป็นส่วนใหญ่ในพี่น้องต่างแม่

เมื่อเห็นการกลับมาอย่างล้มเหลวของเฮลกิ เจสันจึงใช้เหตุการณ์นี้ออกมาอาสาอย่างรวดเร็ว มันเป็นกลยุทธ์กดดันเฮลกิอย่างชัดเจน.

“ตามนั้น.”

บิดาดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจกับงานนี้.

“ขอบคุณ! ผมจะทำให้ดี!”

เจสันกล่าวออกมาอย่างร่าเริง พี่น้องต่างแม่เดินตามเจสันไป.

‘นี่ไม่ดี.’

การแสดงออกของเฮลกิกลายเป็นมืดมน

ในตระกูลพ่อของเขาอยู่เหนือสุด ไลแคนปกติจะอยู่ตรงกลางระหว่างฝ่ายมารดาและสร้างกลุ่มขึ้นมา

จนถึงตอนนี้เฮลกิและพี่น้องทุกคนที่เกิดจากมารดาภรรยาคนแรกของบิดาเขา มาเรีย พวกเขามีพลังมากแต่ด้วยเหตุการณ์นี้ทุกคนยกเว้นเฮลกิเสียชีวิตหมดแล้ว.

จากด้านบนทั้งหมด พี่น้องทั้ง7คนมาจากภรรยาคนที่ 3 เฮร่า.

ถ้าพวกเขาประสบความสำเร็จในภารกิจนี้พวกเขาอาจจะใช้โอกาสนี้ทำให้เจสันเข้าสู่ตำแหน่งที่2.

แน่นอนว่าความแข็งแกร่งส่วนบุคคลมีความสำคัญมากกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่หากเทียบกับเฮลกิ เจสันก็ไม่ด้อยนัก ถ้าเกิดการต่อสู้เฮลกิต้องเตรียมพร้อมกับความตายที่เป็นไปได้ที่จะก้าวข้ามแม่น้ำไม่หวนกลับ

‘แต่มันก็ไม่แน่ เจสันเป็นคนใจร้อนเขาอาจจะทำให้งานนี้เสียหายได้’

แม้ว่าพวกเขาจะทำไม่สำเร็จอย่าๆน้อยๆพวกเขาก็สอดแนมได้ พวกเขาก็แค่เข้าไปในระยะมองเห็น.

แต่หลังจากที่เขาสอดแนมแล้วเขาอาจจะโจมตีมนุษย์ด้วยความโลภ?

ภาพการต่อสู้กลับของมนุษย์และการโจมตีที่ทรงพลังราวกับภัยบัติของธรรมชาติ.

สำหรับตระกูลโดยรวมแล้วการสูญเสียสมาชิกไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่กับเฮลกิการตายของคู่แข่งคือสิ่งที่ดี.

‘ฉันคิดว่าฉันควรจะหวังให้เจสันตาย.’

เฮลกิคิดว่าเจสันอาจจะเสี่ยงเนื่องจากความชะล่าใจ.

***

“ฮ่าๆๆ นายได้เห็นใบหน้าที่มืดมิดของเฮลกิไหม?”

“มันดูเหมือนกับหมากินขี้เลย.”

พี่น้องเจสันพูดเสียงขึ้นจมูก.

“การที่ตายเพราะมนุษย์ เขาน่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องน่าอับอาย อืมมม เขาอาจจะเดินไม่ไหวและมาถึงขีดจำกัดแล้ว.”

เจสันนินทาเฮลกิมากขึ้นและพี่น้องของเขาก็เข้าคู่กันอย่างมาก

บิดาได้ตั้งกฎไว้เมื่อ26ปีที่แล้ว.

จากกฎของบิดาที่ผ่านมาอย่างยาวนานเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก.

การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงของการเติบโตของตระกูล.

ในประวัติศาสตร์ของตระกูลไลแคนไม่เคยมีบิดาแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่มีใครสามารถท้าทายบิดาได้.

ไม่ใช่แค่นั้น แต่บิดายังห้ามไม่ให้มีการจัดอันดับที่ไม่จำเป็นในตระกูล

การท้าทายและการต่อสู้ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุเท่าไร ดังนั้นผู้ชายในตระกูลไม่ได้ลดลงจากการตายเป็น แต่กลับมีตัวเลขเพิ่มขึ้นมากมาย

บิดายังหาอาหารได้โดยไม่ต้องออกไปล่า นั่นเป็นการกระทำที่โดดเด่นมาก โดยไม่ต้องออกไปดูลาดเลาเท่าไรตามที่ต่างๆกระนั้นการล่าก็เป็นไปได้ง่ายเป็นอย่างมาก.

เมื่ออาหารอุดมสมบูรณ์การเติบโตของตระกูลก็มากขึ้น ตระกูลเคยมีไม่ถึง20คน แต่ตอนนี้มีคนที่แข็งแกร่งกว่า 100 คน

ตอนแรกมีความไม่พอใจกับการบริหารแปลกๆของพ่อ แต่ตอนนี้มีแต่คนสรรเสริญเขา พวกเขากล่าวว่าเขาได้นำความมั่งคั่งมาให้กับตระกูลสีเงิน.

แต่ความขัดแย้งภายในยังคงมีอยู่

และพี่น้องของเจสันเป็นตัวอย่างที่สำคัญ.

‘ไลแคนคิดเสมอถึงความแข็งแกร่ง! อันดับตัดสินใจจากความแข็งแกร่ง การจูบตูดพ่อและเพิ่มระดับเป็นสิ่งที่ผิด!’

เจสันรู้สึกสมเพชเฮลกิ

เขาไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของเขาน้อยกว่าเฮลกิ

แต่ความฉลาดและปัญญาของเขาทำให้เขาทำตามคำสั่งของบิดาได้อย่างไม่บกพร่องและเจสันก็ไม่สามารถที่ทำได้ ด้วยเหตุนี้ลำดับภายในตระกูลของเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากตามหลังเฮลกิ

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้

‘ตอนนี้เป็นโอกาส.’

การปกครองของบิดาผิดพลาด

จำนวนคนในตระกูลเพิ่มขึ้น แต่ผู้ชายที่ตายจากความกล้าหาญน้อยลง.

เนื่องจากไม่ค่อยได้มีการล่า ความรู้สึกของเขาจึงลดลง และนำไปสู่การสูญเสียเมื่อสู้กับมนุษย์.

ความคิดของเจสันเป็นแบบนี้

‘เราต้องย้อนกลับไปในแบบเดิม ฉันจะทำอย่างนั้น.’

แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีเจตนาท้าทายบิดา เพราะเขาแข็งแกร่งมาก.

แต่เขาก็ยังต้องต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา เฮลกิ

ไม่ว่าบิดาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ต่องเสื่อมไปตามกาลเวลา! ถ้าเขาแซงเฮลกิได้ผู้นำคนต่อไปจะเป็นเขา.

“เราจะจัดการคนที่เข้ามาในดินแดนของเรา.”

“ห๊ะ?”

“นายต้องการลบพวกเขา?”

พี่น้องของเจสันตกใจจากความคิดของเขา.

“เจสัน คำสั่งคือการสอดแนม บิดาไม่ได้บอกว่าเราต้องสู้.”

“ช่าย.”

“และสิ่งที่มนุษย์มีอาวุธแปลกๆที่อันตรายอีก มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราประมาทและเร่งโจมตี?”

“แม้แต่พี่น้องของเฮลกิก็ยังต้องตาย”

“พี่น้องเฮลกิคืออะไร?”

เจสันเริ่มโกรธพี่น้องของเขามากขึ้น.

“นายกำลังบอกว่า เพราะพี่น้องเฮลกิทำไม่ได้เราเลยทำไม่ได้?!”

“ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้บอกแบบนั้น…”

“แกไอ้ขี้ขลาด!”

“อัค…! อัค…!”

เจสันคว้าคอพี่น้องของเขาและกำมันแน่น.

“ฟังให้ดี! เราจะล่ามนุษย์ทั้งหมดที่ฆ่าพี่น้องของเฮลกิอย่างไรความปราณี เมื่อเรากลับมาหลังจากทำสำเร็จบิดาจะวางใจเรามากกว่าเฮลกิ และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงความคิดเล็กน้อย เขาจะตระหนักรู้ได้ว่าพวกเราแข็งแกร่งน้อยเกินไป!”

“แค่กๆ…! อ่า โอเค…!”

เจสันปล่อยพี่น้องของเขาลงก่อนที่จะเดินต่อไปอย่างรวดเร็ว.

“ไปกัน อย่างแรกเราต้องได้กลิ่นมนุษย์ก่อน”

***

‘นี่ทำไม่ได้.’

ผมแทบจะนอนไม่หลับเพราะความกังวลดังนั้นผมจึงตัดสินใจจะตอบโต้.

“งั้นก็เปลี่ยนจากตอนดึกเป็นตอนเช้า.”

ผมบอกต่อเพื่อนร่วมทีม.

ทุกคนงง ผมเลยอธิบาย.

“ธรรมชาติของไลแคนแล้วเป็นสัตว์กลางคืน มันจึงมีโอกาสสูงที่เขาจะโจมตีในเวลากลางคืน นอกเหนือจากตอนกลางคืนคือตอนที่เรานอนหลับและพื้นในการมองเห็นของเรามีจำกัด.”

“คุณบอกว่าเราควรจะนอนตอนนี้.”

ผมหยักหน้าจากคำพูดของคังชอย

“ใช่ ถ้าเรานอนในส่วนที่สว่างที่สุดในตอนเช้า มันจะเป็นประโยชน์ต่อยามที่เฝ้ามากกว่ากลางคืนและในตอนกลางคืนเราสามารถเรียกซิลและเคลื่อนไหวไปได้เรื่อยๆ.”

“เป็นความคิดที่ดี.”

“ผมเห็นด้วย.”

แฮซูลและจุนโฮเห็นด้วย

จุนชอยพยักหน้าตกลงที่จะทำแบบนั้น

เราทำอาหารเช้าง่ายๆและเคลื่อนไหวเมื่อตอนพระอาทิตย์ตกและนอนเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นตรงหัว.

เรานอนหลับใต้ร่มไม้และเนื่องจากเรานอนไม่หลับเพราะความวิตกจากตอนกลางคืนมันเลยทำให้เรานอนง่ายมากๆแม้ว่าจะเป็นตอนกลางคืน.

ไม่จำเป็นต้องก่อกองไฟและยังมีนกสองตัวหินอีกหนึ่งก้อน ตอนนี้เราไม่กลัวไลแคนตอนเช้าหรือหวาดกล้วอะไรสักอย่าง.

แต่เมื่อถึงเวลาที่ดวงอาทิตย์ตกเราก็เริ่มเคลื่อนไหว เราต้องลำบากเล็กน้อยจากการมองเห็นที่จำกัดและยังเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่ผมอธิบายอะไรบางอย่างผมเลยจัดให้จุนชอยเดินหน้า ด้วยความแข็งแกร่งทางกายปานกลางเลเวล 1 และการควบคุมออร่า เลเวล 5 เป็นการดีที่สุดที่จะให้จุนชอยเดินไปข้างหน้าแม้ในเวลากลางคืนการต่อสู้ก็ต้องอาศัยประสาทสัมผัสทั้ง 5.

หลังจากนั้นจุนโฮและแฮซูก็ตามลำดับและผมก็อยู่ท้ายขบวน

จุนชอยเตือนให้เรารู้ถึงก้อนหินที่ยื่นออกมามันทำให้เราเดินทางได้ง่ายมากขึ้น.

ผมมักจะเรียกซิลออกมาสอดแนมทุกๆ 1.2 กิโลเมตร.

‘ไม่มีทางที่เราจะผ่านไปง่ายแบบนี้ มันต้องมาแกแค้นเราแน่นอน.’

พวกมันคงไม่เกิดการกลัวที่จะโดนโจมตีด้วยปืนหรอกนะ ไม่งั้นการสอบก็จะง่ายขึ้น?

‘เมื่อคือไม่มีการโจมตีของศัตรู เป็นหลักฐานว่าพวกมันระวังตัว พวกมันอาจจะคิดอย่างรอบคอบ.’

เอาเรื่องจริงก็คือการยิงปืนของผมแม่นยำมาก พวกมันคงไม่เห็นอาวุธแบบนั้น ดังนั้นพวกมันจึงน่าจะตื่นตระหนกมาก

ถ้าเป็นแบบนั้นคงจะไม่มีการโจมตีครั้งใหญ่อย่างแน่นอน

‘ตอนนี้ พวกเขาต้องมาสอดแนม.’

หมาป่าเป็นสัตว์ที่ฉลาด และมันยิ่งฉลาดมากขึ้นเมื่อมันเป็นไลแคนที่มีสติปัญญาเท่ากับมนุษย์.

สำหรับตอนนี้มันอาจจะทำหน้าที่ส่งข้อมูลบางอย่างหลังจากสอดแนมเรา

พวกมันต้องหาทางที่จะรู้ได้ว่าเรามีกี่คนและอาวุธแบบไหนที่มีการโจมตีแปลกๆ.

อาวุธระยะไกลที่ยิงพวกมันอยากรู้ก็คือ Mosin-Nagant’s การโจมตีจะเกิดขึ้นหลังจากที่มันรู้อย่างแน่นอนแล้ว.

ถ้าเป็นแบบนั้นเราไม่สามารถให้ข้อมูลแบบนี้ง่ายดายนัก

เราต้องขัดจังหวะการสอดแนมของพวกมัน.

‘เอาหล่ะ.’

ผมคิดจะสร้างกับดัก

“ซิล”

-เมี๊ยว?

“มีกลิ่นใหม่ๆที่ใกล้เคียงกับพวกเราและสามารถซ่อนกลิ่นร่างกายได้หรือไม่?”

-เมี๊ยว!

ซิลพยักหน้า.

“ได้โปรดเอามาให้ผม.”

ซิลบินออกไป.

มันอาจจะผ่านไปสัก 5 นาที?

ซิลกลับมาพร้อมกับพวงอะไรสักอย่าง ผมเอามันเข้ามาใกล้กับจมูดและดม มันมีกลิ่นฉุนและอึนๆเล็กน้อย

‘มันจะได้’

ผมทำตามแผนของผมต่อ.

“ซิลคุณลบกลิ่นของพวกเราสัก 20 นาที? และทำให้กลิ่นของเราไม่ได้โผล่ที่อื่นที่เราผ่าน.”

-เมี๊ยว.

ซิลพยักหน้าด้วยความเข้าใจ.

จากนั้นซิลก็เอาพืชที่ออกจากมือของผมไป

“ใน20นาที แผนก็คือเราจะถูสิ่งนี้ลงในเสื้อผ้าของคุณ.”

“มันเป็นแผนอะไร?”

แฮซูถาม ผมตอบ

“พวกสารเลวนั่นอาจจะตามเราผ่านกลิ่น พวกมันจะรู้จำนวนของเราและระยะทางโดยใช้กลิ่นของพวกเขา.”

“คุณต้องการลบกลิ่นพวกเราเพื่อกวนใจพวกมัน?”

จุนโฮพูด.

“มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะไม่ใช่กลิ่น แต่ถ้ากลิ่นของพวกเราหายไปไอ้ห่านั่นอาจรู้สึกหหงุดหงิดเล็กน้อย”

ผมยิ้มและพูดต่อ.

“เนื่องจากมันยากที่จะบอกด้วยกลิ่น พวกมันจะต้องเข้ามาใกล้และจะต้องเห็นด้วยตัวตาของมันเอง แล้วมาลองจับพวกมันทั้งหมดกัน.”

0 0 โหวต
Article Rating
8 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด