ตอนที่แล้วตอนที่ 144 – อันตราย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 146 – ชัยชนะ

ตอนที่ 145 – เส้นชีพจรโลหิตคนแคระ


ตอนที่ 145 – เส้นชีพจรโลหิตคนแคระ

 

“ระวังตัวด้วย นั่นคือเส้นชีพจรโลหิตคนแคระ!” น้ำเสียงอุทานของมู่เหลยที่ดังมาจากเบื้องหลังมีอาการสั่นอย่างตื่นตระหนกมาก

เส้นชีพจรโลหิตคนแคระ...ช่างเป็นชื่อที่ประหลาดนัก...

สายตาถังเทียนจ้องเขม็งไปยังฮวาซา ความรู้สึกอันตรายค่อยๆเพิ่มขึ้น

ฮวาซายกยิ้มบางเบา “ช่างตาถึงนัก!”

ด้วยร่างขนาดเล็กของฮวาซาคล้ายกลับกลายเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิง ใบหน้าที่น่ากลัวและน่าเกลียดกลายเป็นประณีตและหล่อเหลา กล้ามเนื้อที่ปูดโปนหายไป และแทนที่ด้วยรูปทรงที่สมส่วนแม้ว่ามันจะดูเปราะบาง แต่ไม่ว่าอย่างไร ถังเทียนก็มิสามารถเชื่อมโยงกับฮวาซาที่หล่อเหลาและฮวาซาที่เป็นดั่งอสูรก่อนหน้าได้เลย

มือที่ผอมแห้งหยิบพลองขึ้นมาอย่างชำนาญ พลองเขี้ยวหมาป่าสองหัวยาวมากกว่าหนึ่งเมตรแปดสิบแทบจะสูงสองเท่าในความสูงของฮวาซาตอนนี้ แต่พลองที่หนักถึงหกร้อยจินดูราวกับขนนกภายในมือของฮวาซา

ฉากเบื้องหน้าสายตาพวกเขา มันต่างเป็นสิ่งผิดปกติ ช่างไม่เข้ากันเลย แต่มิมีผู้ใดที่หัวร่อออกมา แม้กระทั่งถังเทียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาวเมื่อข้อมืออันผอมแห้งของฮวาซาพลิก พลองขนาดใหญ่ก็หมุนภายในมือเขาราวกับกังหัน

ร่างอันผอมแห้งและรอยยิ้มบางเบาบนใบหน้าฮวาซา มันต่างเต็มไปด้วยพลังที่น่าทึ่ง

ถังเทียนตั้งกระบวนท่าป้องกันและมิกล้าที่จะประมาท จู่ๆภาพเบื้องหน้าเขาก็เลือนลางและฮวาซาก็พลันหายไป

วูบ!

ปรากฏร่างเลือนลางที่จู่ๆก็โผล่ขึ้นมาภายในสายตาของถังเทียน

ม่านตาของถังเทียนพลันหดวูบ!

รวดเร็วยิ่งนัก!

ในช่วงเวลาที่ตกใจเขาไม่สามารถที่จะตอบสนองได้ทันเวลาและเพียงป้องกันตนเองด้วยแขนทั้งสองไขว้กั้นไว้ที่ช่วงอกของเขาเท่านั้น

เปรี้ยง!

ถังเทียนรู้สึกราวกับเขาถูกวิ่งกระแทกโดยอสูรกาย สายตาของเขาพลันมืดดับและร่างของเขาก็ปลิวกระเด็น!

ภายในอากาศ ฮวาซาที่ผอมแห้งเอียงตัวเล็กน้อยและลงพื้นด้วยรอยยิ้มบางเบาบนใบหน้า พลองเขี้ยวหมาป่าสองหัวภายในมือยังคงหมุนวนราวกับกังหันยักษ์ภายในมือเขา

“เป็นเช่นไรบ้าง? พลังมันรุนแรงกว่าก่อนหน้าใช่หรือไม่?”

เสียงฮวาซาดังเข้าไปในหูถังเทียน ถังเทียนที่ฟุบอยู่บนพื้นก็พยายามที่จะลุกขึ้นมา เขาจ้องมองไปยังฮวาซาอย่างดุเดือนเผ็ดร้อน หยดโลหิตไหลลงมาจากมุมปากของเขา

จากการโจมตีเมื่อครู่นี้ เขาได้รับบาดเจ็บแล้ว!

ถังเทียนปาดโลหิตที่ปากของเขาอย่างลวกๆ สายตาจับจ้องไปยังฮวาซาและเค้นสมองคิดหาวิธีทาง

พลังของฮวาซาแข็งแกร่งขึ้นถึงสองเท่ากว่าก่อนหน้าและนั่นคืออันตรายยิ่งขึ้น ถึงขนาดที่ความเร็วบุรุษผู้นี้กลายเป็นน่าตกใจมากยิ่งขึ้น สัญชาตญาณที่เขาภูมิใจนักหนากลับไร้ประโยชน์เมื่อเจอการโจมตีเมื่อครู่นี้

ถึงกำลังล้วนของเขาจะไม่พอทำให้หนาวสั่นจนถึงกระดูก แต่ถ้ารวมกับพลังและความเร็วตอนนี้ มันก็ยิ่งเพิ่มอันตรายขึ้นมากกว่าฮวาซาก่อนหน้านี้นัก

เส้นชีพจรโลหิตคนแคระ….

ชื่อที่ไม่เคยได้ยินและแปลก แต่มันทำให้ถังเทียนตระหนักได้ถึงเป็นครั้งแรกถึงพลังที่แท้จริงของเส้นชีพจรโลหิต

ช่างแข็งแกร่งนัก!

ข้าจะสู้เช่นไรดี?

ถังเทียนมองไปยังฮวาซาด้วยสีหน้าหมองคล้ำและครุ่นคิดอย่างรวดเร็วในใจ

แน่นอนว่าฮวาซาไม่มีทางปล่อยให้ถังเทียนค่อยๆขบคิดอยู่แล้ว

สายตาถังเทียนพลันเลือนลางอีกครา มันเป็นเช่นเดียวกับเมื่อครู่นี้ แทบจะในทันที ถังเทียนเพียงมีเวลาแค่ตั้งท่าป้องกันเท่านั้น ราวกับกำลังอันน่าหวาดหวั่นกระแทกไปยังแขนเขาอย่างรุนแรงและตัวเขาก็ปลิวกระเด็นราวกับกระสอบทราย!

ช่วงเวลาเดียวกับที่ถังเทียนปลิวกระเด็นออกไป ร่างของฮวาซาก็หายไปอีกครา

ช่วงเวลาต่อมา เขาก็โผล่มาที่ด้านข้างถังเทียน วาดยกพลองเขี้ยวหมาป่าสองหัวและกระแทกไปที่ท้องถังเทียนอย่างรุนแรง

แม้ว่าถังเทียนจะพยายามหลบในนาทีสุดท้าย เขายังมิสามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ เขาราวกับหุ่นที่ถูกเขวี้ยงไปในอากาศ แม้ว่าเขาจะถูกปกป้องจากชุดเกราะ ถังเทียนยังคงได้รับบาดเจ็บ ภายในลำคอของเขาขมฝาดและโลหิตก็พุ่งขึ้นมาเต็มปากแทบจะกระอักออกมา

ถังเทียนรู้ถึงสถานการณ์ที่วิกฤต การโจมตีของฮวาซาจะต้องมาอีกแน่และไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้

ขณะที่ถังเทียนกำลังลอยไป ฝืนกลืนโลหิตที่พุ่งออกมาจากลำคอของเขาและขดตัวราวกับลูกบอลและพลันคำรามเสียงต่ำ “นูกยูง!”

พรึบ!

นกยูงด้านหลังของเขาก็พลันเหยียดขยายหากของมันราวกับนกยูงสยายผงาดหางของมัน

พลองบดขยี้พื้นอย่างรุนแรงก่อเกิดแรงลมรุนแรงจากการกระแทก

หลังของถังเทียนเจ็บปวดอย่างยิ่ง ราวกับร่างของเขาถูกกระแทกโดยอุกกาบาตกระแทกไปยังพื้นหินพร้อมกับเสียงกรีดร้อง

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ทหารแอบสังเกตการต่อสู้อย่างเงียบๆ เขาได้เห็นถึงช่วงเวลาที่น่าอดสูของถังเทียนทั้งหมด เส้นชีพจรโลหิตคนแคระของฮวาซาได้ทำให้เขาประหลาดใจเช่นกัน ย้อนกลับไปยังยุคของเขา พลังที่ซ้อนเร้นมันยังด้อยอย่างมากเมื่อเทียบกับปัจจุบันตอนนี้ รูปแบบกระบวนการของพลัง มันมีหลายรูปแบบนักที่เขามิคุ้นเคยกับมัน

อำนาจของเส้นชีพจรโลหิตคนแคระมันทำให้เขาประหลาดใจและตกใจ

แน่นอนว่าเขามิได้ยื่นมือเข้ายุ่งเกี่ยว แม้ว่าถังเทียนคล้ายจะดูน่าอดสูและอาจจะตายได้ทุกเมื่อ เขายังคงเฝ้ารอ พนันถึงการพลิกกลับของถังเทียน

ถังเทียนเป็นเด็กที่มีความหวังมากที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา แต่ถังเทียนเห็นได้ชัดว่าเขามิได้รู้ถึงศักยภาพที่เขามีมากมายเพียงใด

ซึ่งนั่นเป็นดั่งหยกล้ำค่าที่น่าตกใจ

แต่มันก็เป็นดั่งเช่นอัจฉริยะคนอื่น ศักยภาพทั้งหมดของเขามันจะต้องถูกค้นพบและบีบคั้นออกมา ก่อนที่พวกเขาจะสามารถเพิ่มความสามารถพวกเขาได้ มิเช่นนั้น ศักยภาพของพวกเขามันจะหลับใหลอย่างเงียบๆอยู่ข้างในไปตลอดกาล

ทหารเป็นครูฝึก เขาเห็นพรสวรรค์มามากมาย เห็นบุคคลที่สิ้นเปลืองเวลาและพรสวรรค์ของเขาและกลายเป็นนำไปสู่วิถีชีวิตดั่งเช่นคนธรรมดา

การจะเปลี่ยนศักยภาพให้เป็นความสามารถ มันจะต้องผ่านความล้มเหลวที่เจ็บปวดและความพยายามเสมอ ปราศจากสิ่งเหล่านี้ ศักยภาพมันก็เป็นได้เพียงแค่ศักยภาพ

ในตอนนี้กระบวนการเหล่านั้นมันไม่ใช่สิ่งจดจำได้สำหรับทหาร มันมีรูปแบบหลากหลายที่ไม่รู้จัก แต่ถ้ากล่าวถึงว่าจะพัฒนาศักยภาพได้เช่นไร มันเป็นสิ่งที่เขาเชี่ยวชาญมัน

ด้วยสายตาของทหาร เขาพบว่ามีรูปแบบไม่กี่อย่างที่ถังเทียนสามารถใช้และพัฒนามัน แต่เขามิมีความต้องการที่จะบอกกล่าวถังเทียน

เพราะเนื่องจากเขาเป็นบุรุษที่มีความมั่นใจมิยอมรับความพ่ายแพ้และเกลียดชังความล้มเหลว เป็นบุรุษที่มีความทะเยอทะยาน แม้ว่าเขาจะมีปัญหาเขาก็จะไม่ท้อถอย มิมีวันหยุดตะเกียกตะกาย มิมีวันละความพยายาม

นอกจากนี้ บุรุษผู้นี้มิได้ขาดสัญชาตญาณแห่งการต่อสู้ แม้ว่าเขาในยามปกติจะมิค่อยน่าเชื่อถือ แต่เมื่อยามเขาอยู่ในการต่อสู้ ถังเทียนจะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ปราดเปรียว

ความสามารถถังเทียนตอนนี้ยังคงมิเพียงพอ แต่พวกมันก็เริ่มที่จะเติบโตขึ้น

แต่มันก็ยังคงไม่เพียงพอ...

เด็กน้อย ถ้าเจ้าสามารถหาหนทางพบได้ เจ้าจะสามารถบรรลุชนะได้ เจ้าสามารถที่จะแกร่งไปยิ่งขึ้น!

ทหารภาวนาอยู่ภายในใจเงียบๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างลึกซึ้ง

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ถังเทียนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกโจมตีฝ่ายเดียวอย่างสิ้นเชิง ฮวาซารวดเร็วกว่าเขานัก การโจมตีก็รุนแรง พวกมันต่างทำให้เขาลำบาก เขาทำได้แต่เพียงขดตัวราวกับเม่นและอดกลั้นต่อการโจมตี

ตั้งแต่ที่ฮวาซากระตุ้นใช้งานเส้นชีพจรโลหิตคนแคระของเขา ถังเทียนมิมีโอกาสที่จะโจมตี การโจมตีของอวาซาราวกับพายุคลั่งที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างน่ากลัว ทำให้เขามิมีเวลาที่จะได้พักหรือกระทั่งออกกระบวนท่า

ผู้ชมต่างมีสีหน้าซีดเผือด ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้ถึงความสามารถของห้าสิบอันดับแรกของดาวเฟยหลินแล้ว….

การต่อสู้กลายเป็นมีบุคคลโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว ถังเทียนราวกับลูกบอลยางที่ถูกเตะไปมา ฮวาซาเพียงลอยชายไปมา พลองขนาดใหญ่ถือราวกับไร้น้ำหนัก โบกสะบัดราวกับตบแมลงวัน

มันเป็นความเร็วที่ยากจะมองทัน ฮวาซารวดเร็วราวกับภูติผีปรากฏตัวด้านข้างถังเทียนให้ตกใจอยู่เสมอ ถังเทียนที่ดวงตาสว่างวาบอยู่หลายคราแต่มิมีโอกาสที่จะโจมตี

กับผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ พวกเขามิสามารถคาดถึงเลยว่าจะต่อต้านพวกเขาเช่นไร

ทรงพลังนัก!

แต่มิมีผู้ใดสังเกตเห็น โดยไม่รู้เลยว่า ถังเทียนทนทานมาจนยี่สิบกระบวนท่าแล้ว! เกราะสีน้ำเงินเลือนลางของนกยูงถูกทำลายจนยากจะจดจำได้ พลังแต่ละการโจมตีน่ากลัวยิ่งและมันถูกส่งออกไปทำลายจนขนนกแตกกระจายไปทั่ว

ถังเทียนตกอยู่ในความสิ้นหวัง แต่ละการโจมตี ยามเมื่อกระแทกมาบนตัวเขา มันทำให้เขารู้สึกราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แน่นอนว่าเขารู้ถ้าหากเขาสูญเสียกำลังใจไป เขาจะต้องกลายเป็นไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย

มิมีผู้ใดรู้เลยว่าแม้จะตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต ถังเทียนยังคงมิได้ยอมแพ้

มิใช่ว่าเขามิได้ยอมแพ้กับการถูกทุบตี แต่มันคือเขามิได้ยอมแพ้ที่จะได้รับชัยชนะเช่นกัน!

ภายในใจเขายังคงกระหายในชัยชนะ แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่วิกฤต

มันจะต้องมีโอกาส! มันจะต้องมีช่องว่าง! มันจะต้องมีความหวัง!

ทหารพยายามอดกลั้นอย่างยิ่งเพื่อให้สงบ เขาเชื่อว่าถังเทียนจะมิมีวันยอมแพ้ แน่นอนว่าฮวาซาก็มิมีความปรานี การโจมตีราวกับคลื่นโหมกระหน่ำมิหยุดยั้ง

มองดูจากชุดเกราะนกยูงที่เริ่มน่าเกลียด ทหารรู้เลยว่า ชุดเกราะนกยูงแทบจะถึงขีดจำกัดของมันแล้ว

ถ้าหากชุดเกราะนกยูงแตกกระจายไปก่อนที่ถังเทียนจะคิดแผนการได้ หลังจากนั้นมันจะต้องเป็นหายนะอย่างแท้จริง!

ร่างของถังเทียนแน่นอนว่ามิอาจต้านทานการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ได้

นัยน์ตาของทหารปรากฏแวววิตกกังวลและประหม่า

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ยี่สิบกระบวนท่าต่อเนื่อง แต่ละคราทำให้ถังเทียนเจ็บปวดอย่างมาก เขาขดร่างและอดกลั้นมันอย่างยิ่ง หลังจากยี่สิบกระบวนท่า ถังเทียนมิได้อดกลั้นอย่างเปล่าประโยชน์ เขาสังเกตเห็นถึงจุดอ่อนในวิชาของฮวาซา

พลังและความเร็วของฮวาซาอยู่ในสภาวะที่น่าทึ่ง แต่วิชาของเขามันด้อยมากกว่าความเร็วและพลังของเขา

ความพยายามของเขายังคงไม่เพียงพอ วิชาที่เขาฝึกฝนคงเป็นวิชาค้อน แต่การใช้ปราณแท้จริงมันมิค่อยถูกหลัก...

เมื่อเทียบกับพลังและความเร็วที่น่าตระหนก วิชาของเขากลับด้อยอย่างมาก ถ้าวิชาของฮวาซากล้าแกร่ง การต่อสู้ในครานี้ ถังเทียนก็มิอาจมีโอกาสที่จะชนะได้เลย

มีวิชาที่ด้อย จะใช้วิธีเช่นใดดีกลับจุดอ่อนนี้?

ถังเทียนบีบเค้นสมองของเขาอย่างหนัก

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!

การโจมตีที่หลังของเขามิได้เชื่องช้าลง แต่สายตาของเขาที่โค้งปิดลงอยู่พลันเปิดขึ้น เขามีความคิดแล้ว

กระบวนท่ายี่สิบห้า กระบวนท่ายี่สิบหก...

เขาลอบนับการโจมตีที่หลังของเขาอย่างเงียบๆ ควบคุมลมหายใจของเขา เมื่อทันทีที่กระบวนท่าที่ยี่สิบแปดสัมผัสลงบนหลังของเขา เขาพลันเหยียดตัวออกทันที

เปรี้ยง!

พลองกระแทกลงไปบนหลังของเขาอย่างหนักหน่วง ดวงตาของเขาแทบมืดดับลง เขารู้สึกว่าหลังกำลังจะหัก แต่เขารู้ว่านี่เป็นเพียงโอกาสเดียวของเขา อดกลั้นความเจ็บปวดที่รุนแรง ร่างของเขากลายเป็นนุ่มนิ่มราวกับเส้นหมี่ เขาหยิบยืมพลังและใช้โอกาสจากแรงดีดของพลองขณะที่ขาของเขาก็เกี่ยวเอาไว้!

ความหนาวเย็นจากขาของเขาทำให้ถังเทียนรู้สึกดีใจ

เกี่ยวได้แล้ว!

ปราศจากการขบคิด เขาก็ดีดออกด้วยขาที่เกี่ยวอยู่บนพลอง เขาราวกับอสรพิษและเหวี่ยงตัวถอยไปด้านหลัง

ฮวาซาที่เห็นถังเทียนขดตัวอยู่ในที่สุดก็เปิดอ้ากว้างเขาก็รู้สึกดีใจทันที ถังเทียนที่ขดตัวราวกับลูกบอลมันป้องกันอวัยวะภายในของเขาได้อย่างดี ทำให้เขามิรู้ว่าจะโจมตีไปที่ใด

ในที่สุดเขาก็คงอดทนมิได้อีกต่อไปแล้ว ราวกับฮวาซาเห็นถังเทียนสูญเสียการป้องกันและจะต้องถูกสับเป็นเนื้อบด สายตาที่กระหายเลือดพลันลุกโชน

ทันใดนั้น สายตาเขาพลันเลือนลาง มือของเขาที่กำแน่น มีมือคว้าจับไปที่มือซ้ายเขา

จู่ๆใบหน้าถังเทียนก็ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของเขาและแสยะยิ้ม

ทั้งปากของเขาเต็มไปด้วยโลหิต

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

 

0 0 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด