ตอนที่แล้วตอนที่ 30 ไล่ตามอัจฉริยะ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 32 ไล่ตามอัจฉริยะ 3

ตอนที่ 31 ไล่ตามอัจฉริยะ 2


หลังจากที่วินซ์ตัดสินใจที่จะใช้เงินเป็นจำนวนมากแล้ว วินซ์ก็ได้นำธีโอดอร์ ออกจากอาคาร Magic Society ทันที พวกร้านค้าต่างๆนั้นถูกห้ามขายบริเวณใกล้เคียงกับ Magic Society เนื่องจากมันเป็นสถาบันวิจัยสิ่งต่างๆจึงต้องเป็นความลับ

ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงรีบเดินไปขึ้นรถม้าลอยฟ้าทันที ไม่มีวิธีใดที่ดีกว่านี้ในการหลีกเลี่ยงฝูงชนในMana-vil ทันทีที่วินซ์นั่งลงที่เบาะนั่งเขาก็บอกจุดหมายปลายทางทันที “ไปที่ย่านการค้าเขตD พื้นที่27-2”

จากนั้นรถก็เริ่มเคลื่อนที่ วินซ์ได้หันไปพูดกับธีโอว่า“ ตอนนี้เธอคิดว่าเธอจะอะไรเป็นอย่างแรก?”

“….เป็นจอมเวทย์ขั้น4ให้ได้”

“แน่นอน” วินซ์พยักหน้าให้กับคำตอบของธีโอ

ขั้นนี้ถือเป็นตัวบ่งขี้ที่สำคัญที่สุด เป็นฐานความแข็งแกร่งของเหล่าจอมเวทย์

จำนวนของวงกลม(วงกลมหรือก็คือขั้นจอมเวทย์นะครับ เวลาเลื่อนขั้นก็จะมีวงกลมเพิ่มขึ้นที่เก็บเวทย์นั่นเองครับ) ไม่ได้เพิ่มแค่จำนวนพลังเวทย์เท่านั้น ยิ่งมีวงกลมหลายวง เวทมนต์นั้นจะทรงพลังขึ้นและการร่ายเวทย์จะเร็วขึ้นอีกด้วย แม้ว่าจะมีการร่ายเวทย์ที่เหมือนกัน แต่แน่นอนคนที่มีวงกลมเยอะกว่าเวทย์นั้นย่อมรุนแรงกว่า

ซิลเวียนั้นเป็นอัจฉริยะของ Blue Tower ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่แน่นอนว่าเธอเหนือกว่าเขาในการทำให้เวทมนต์สมบูรณ์แบบและทรงพลังกว่า

แต่ทว่า ธีโอนั้นโชคดีที่เขามี  ความตะกละ อยู่ด้วย หมายความว่าเขาสามารถที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างรวดเร็ว

‘ถ้าเป็นไปได้ฉันหวังว่าฉันจะไปถึงขั้นที่ 5 แต่....มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปถึงขั้นทที่5 ด้วยวิธีแค่การเพิ่มพลังเวทมนต์’

ถ้าการไปถึงขั้นที่5นั้นง่าย เช่นนั้นทุกคนที่มีเงินคงเป็นจอมเวทย์ขั้น5กันหมดแล้ว

ดังนั้นธีโดอร์ จึงไม่สามารถที่จะหวังพึ่งความตะกละได้ในส่วนนี้

ขณะนั้นวินซ์ก็มองลงไปข้างล่าง มองไปที่Mana-vil และกล่าวด้วยความมั่นใจ “ตอนนี้จะมีสินค้าที่ดีมากมายในย่านการค้า มันจะต้องมีของมากมายที่สามารถช่วยเธอได้”

***

เก๊ง! เสียงของสิ่งของกระทบกันได้ดังไปทั่วร้าน

มันถูกแขวนไว้เหนือประตูเพื่อให้สัญญาณว่ามีผู้เข้าร้านมา

หลังจากที่ได้ยินเสียงนั่น เจ้าของร้าน เฟร็ด ก็ได้รีบลุกขึ้นยืนที่เคาน์เตอร์ทันที นี่เป็นช่วงเวลาที่ยุ่งมากเนื่องจากนักท่องเที่ยวเยอะ แต่สำหรับร้านนี้นั้นก็เหมือนกับวันปกติทั่วไป เนื่องจากมันเป็นร้านสิ่งประดิษฐ์ระดับสูง ดังนั้นราคาของมันจึงแพงมาก

วันนี้มีแต่คนมาดูสินค้าเท่านั้น ไม่มีคนซื้อเลย ดังนั้นเขาจึงทำท่าทางเบื่อหน่าย “ยินดีต้อนรับ-”

อย่างไรก็ตามความเฉื่อยชาของเขานั้นหายไปทันทีเมื่อเขาได้เห็นเครื่องแต่งกายของวินซ์ ตั้งแต่ที่เฟร็ดเปิดร้านมา เขาได้เห็นจอมเวทย์มาหลายพันคน และคนที่อยู่ในชุดคลุมเช่นนี้มักจะมีกลิ่นของเงินอยู่รอบตัว

‘Red Towerและยังเป็น....ระดับปรมาจารย์ ....! เมื่อดูแล้วเขาดูเหมือนจอมเวทย์สงคราม ไม่มีอุปกรณ์เวทย์บนร่างกายของเขาและเขายังมากับลูกศิษย์?’

โดยปกติแล้วรายได้หลักของพวกเขาจะมาจาก Yellow Tower หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีกว่า(หอคอยเล่นแร่แปรธาตุ)หรือนักกินเงิน พวกเขานั้นใช้เงินถึง30%ของงบประมาณทั้งปีของอาณาจักร ในการซื้อวัตถุดิบต่างๆ

มันแพงเสียยิ่งกว่างบประมาณที่ให้ White Tower และ Blue Tower รวมกันเสียอีก

อย่างไรก็ตามครั้งนี้ถือเป็นข้อยกเว้น

“เจ้าของร้าน นำสินค้าทั้งหมดของคุณโดยไม่ต้องสนใจราคาออกมา มันไม่สำคัญหรอก แต่ฉันได้รับคำเชิญให้มางานประลองเวทมนต์”

“ครับ!ผมยินดีที่จะทำตามที่คุณพูดทันที!”

เฟร็ดรู้สึกตื่นเต้นกับการขายที่คาดไว้และรีบวิ่งเข้าไปในโกดังเก็บของเขาทันที

‘ตามที่คาดไว้ จอมเวทย์สงครามจาก Red Tower ความสามารถในการใช้จ่ายของพวกเขาแตกต่างกัน’

Red Tower นั้นเป็นหอคอยแห่งเดียวที่ไม่มีการจ่ายเงินก้อนโต ซึ่งRed Tower นั้นเปรียบได้กับศูนย์รวมของจอมเวทย์สงครามที่ใช้เวลาอยู่แต่ในสนามรบมากกว่าในห้องทำงาน

นอกเหนือจากการซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการรบแล้วพวกเขามักจะเก็บเงินอย่างเดียว หากพวกเขานั้นพอใจกับสินค้าชนิดใดละก็พวกเขาจะทุ่มเงินไม่อั้น ดังนั้นจอมเวทย์จาก Red Tower นั้นเปรียบเสมือนแขกวีไอพีของร้านอุปกรณ์เวทย์ต่างๆเลยก็ว่าได้

เฟร็ดนั้นวิ่งไปหยิบของมาด้วยความรวดเร็วและกลับมาที่เคาน์เตอร์

“ขอโทษที่ทำให้รอครับ!”

ตึก!

กล่องเหล็กที่มีอุปกรณ์เวทย์และสิ่งประดิษฐ์จำนวนมากได้ถูกวางลงบนพื้น แม้จะถูกปิดผนึกไว้ด้วยกล่องเวทมนต์แล้ว แต่ทว่าพลังเวทมนต์ที่รั่วไหลออกมาจากกล่องนั้นก็ยังดูน่ากลัวอยู่ดี ขณะที่ธีโอกำลังคิดถึงของต่างๆ กล่องก็ได้เปิดออก

เมื่อเขาได้เห็นของที่อยู่ภายในกล่องเหล็ก ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น

“โอ้..!”

ธีโอนั้นเคยสัมผัสกับสิ่งประดิษฐ์มาเป็นจำนวนมากจากพ่อค้าตลาดมืดและนั่นเป็นเหตุผลให้เขารู้ทันทีว่า ของที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นเป็นของที่อยู่ในระดับ ‘หายาก’ ทั้งหมด  ถ้าเขาดูดกลืนของทั้งหมดนี้การที่จะเลื่อนเป็นขั้น4ไม่ใช่เรื่องยากเลย

อย่างไรก็ตาม วินซ์นั้นยังคงไม่พอใจ

“เมื่อสักครู่ฉันไม่ได้บอกหรือว่าฉันไม่สนใจราคา?”

“หือ?แต่นี่เป็นสินค้าที่ดีที่สุดในร้านเราแล้ว...?”

“ไม่ มันคงมีดีกว่านี้อยู่”

วินซ์ยิ้มให้กับเฟร็ดและใช้มือเคาะลงที่เคาน์เตอร์ “ระดับ B เอามันออกมา”

“...ผมเข้าใจ” เฟร็ด พยักหน้าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด

จอมเวทย์ชั้นยอดจาก Red Tower แน่นอนว่ามีคุณสมบัติที่สามารถซื้อของชิ้นนี้ได้แน่นอน มันเป็นของที่เขาไม่ได้นำออกมาให้คนดูเลยตั้งแต่เปิดร้าน เนื่องจากเขาคิดว่าคงไม่มีใครสามารถซื้อได้ เนื่องจากราคาอันมหาศาลของมัน

กริ้ก! เจ้าของร้านได้หยิบของออกมาจากข้างใต้ของพื้นหลังเคาน์เตอร์ออกมา มันคือถุงมือสีเงิน

“ประเมินมันสิ”

“ครับ”

วินซ์กระซิบ ธีโอก็รีบทำตามทันที ธีโอจับถุงมืออย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็เรียกควมตะกละ ‘ประเมิน’

[+8 การป้องกันแห่งสายลม(เกราะ)]

[ถุงมือนี้ถูกสร้างจากโลหะผสมมิทธิล โดยช่างฝีมือคนแคระ มันมีการป้องกันที่เยี่ยมยอด แต่วิธีการที่ดีที่สุดในการใช้มันคือการผนึกเวทย์ธาตุลมลงบนถุงมือเมื่อผนึกเวทย์ลงบนถุงมือแล้วเจ้าของจะสามารถสร้างกระแสลมขึ้นได้ทันที สามารถที่จะปัดพวกศรเวทย์และกระสุนเวทย์ได้อย่างง่ายดาย ในอดีตเจ้าของถุงมือคู่นี้เคยฝ่าห่าธนูนับพันได้อย่างง่ายดาย

*ระดับของถุงมือคือ ‘ล้ำค่า’

*เมื่อกินแล้วจะได้รับพลังเวทย์จำนวนมาก

*เมื่อกินแล้วระยะเวลาในการย่อยคือ 1ชั่วโมง 45 นาที

*เมื่อกินแล้ว ความเชี่ยวชาญของเวทย์ป้องกันธาตุลมจะเพิ่มขึ้น

*เมื่อสวมใส่แล้วจะได้รับ ‘คำอวยพรแห่งสายลม’ ]

‘ระดับล้ำค่า!’

ดวงตาของธีโอเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนกเมื่อได้เห็นข้อมูล

ถุงมือนี้อยู่ในระดับเดียวกับ ‘เปลวเพลิงคำราม’ ที่ได้มาจากครอบครัวคาร์เตอร์

ธีโอดอร์นั้นไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับราคาของสิ่งของต่างๆเท่าไร แต่เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าราคาของถุงมือคู่นี้ต้องไม่ต่ำกว่า 100 เหรียญทอง มันเป็นราคาที่ครอบครัวมิลเลอร์ของเขาสามารถใช้ได้หลายปีเลยทีเดียว

“ระ-ราคาของมันละ?”

“180 เหรียญทอง แต่ผู้ที่ได้รับเชิญนั้นจะได้รับส่วนลด ดังนั้นมันจึงราคา144เหรียญทอง”

“144 เหรียญทอง….!”

ขณะที่ธีโอดอร์กำลังรู้สึกตื่นตระหนก วินซ์ก็ได้ก้าวไปข้างหน้าและหยิบกระเป๋าตังของเขาออกมา

มันไม่ใช่เหรียญทองที่เขาหยิบออกมา แต่มันเป็นทองคำแท่งที่ประทับสัญลักษณ์ของราชอาณาจักรเอาไว้ วินซ์วางทองคำแท่ง2อันลงบนเคาน์เตอร์และบอกกับเฟร็ดที่กำลังจ้องมันอย่างเลื่อนลอยว่า “ฉันต้องการทั้งหมด มีปัญหาอะไรไหม”

“เอ่อ ไม่ครับ”

“โอเคร งั้นฉันเอามันทั้งหมด”

สิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดที่มีมูลค่ารวมกันมากกว่า 200 เหรียญทองถูกกวาดใส่กระเป๋ามิติของวินซ์ทันที เฟร็ดผู้ที่ราวกับถูกรางวัลก้อนโตยืนมองพวกเขาเดินออกจากร้านไปด้วยท่าทางเหม่อลอย

“.....ฉันคงไม่ต้องมานั่งขายของเช่นนี้อีก”

จากนั้นเขาก็วางป้ายคำว่าปิดไว้ที่หน้าประตูร้านขณะที่กำลังคิดถึงการดื่มเหล้าราคาแพง

***

วินซ์และธีโอดอร์นั้นไม่ได้จบลงที่แค่เฟร็ดเท่านั้น

แม้แต่ในร้านค้าสุดหรูของMana-vil  ก็สามารถที่จะพบของระดับB ได้อีก1-2ชิ้นเลยทีเดียว หลังจากที่วินซ์เหมาร้านเฟร็ดมาแล้ว วินซ์ก็ได้ซื้อของจากร้านอื่นๆอีกมากมาย ราคาของพวกมันทั้งหมดนั้นสามารถที่จะซื้อคฤหาสน์สุดหรูในMana-vil ได้เลย

ธีโอดอร์นั้นได้มาถึงที่พักของพวกเขา และรีบหยิบสิ่งของทั้งหมดที่ซื้อมาดูทันที

‘ว้าว ทั้งหมดนี่เท่าไรกัน…?’

เขาไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลยว่าเขาจะได้เห็นของมากมายเช่นนี้ มีของบางชิ้นในกองภูเขานั้นอยู่ในระดับ ‘สมบัติ’ ขณะที่ธีโอกำลังดูสิ่งของอยู่ ความตะกละ ที่ซึ่งกำลังหลับอยู่ได้ยืดลิ้นออกมาราวกับรู้สึกได้ถึงบางอย่าง คงเป็นเพราะกลิ่นหอมของพลังเวทย์ที่ออกมาจากสิ่งประดิษฐ์จึงทำให้มันเป็นเช่นนี้

วินซ์นั้นผลักของที่อยู่ระดับ ‘หายาก’ มาให้เขา

“ให้ของที่อยู่ในระดับหายากมันกินก่อน ถ้าหากความตะกละเป็นคนละก็ นี่ก็เรียกได้ว่าอาหารเรียกน้ำย่อย”

“ผมเข้าใจครับ”

หลังจากที่เขาสูดหายใจเข้าออกอยู่หลายครั้ง ธีโอดอร์ก็ได้ยกมือซ้ายไปยังสิ่งประดิษฐ์ เขารู้ว่ามันไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะให้มันกินพร้อมกันทีเดียว แต่เขาก็ยังอดรู้สึกเสียดายไม่ได้

มันเป็นเงินจำนวนมากเลยทีเดียว

“กินซะ”

ขณะนั้น....

ลิ้นของความตะกละก็ได้พุ่งไปที่อาหารอันโอชะทันที สร้อยคอ กำไล รองเท้า มีดและชุดเกราะ ได้ถูกดูดเข้าไปในหลุมบนฝ่ามือของเขาทันที

[‘สร้อยพิสุทธิ์’ ได้ถูกกินแล้ว ได้รับพลังเวทย์จำนวนปกติ]

[ความชำนาญเวทย์ชั้น2 ‘Clean’ เพิ่มขึ้น]

[‘สนับเวทย์หิน’ได้ถูกกินแล้ว ได้รับพลังเวทย์จำนวนปกติ]

[ความเชี่ยวชาญเวทย์ขั้น3 ‘Stone skin’ ได้เพิ่มขึ้น]

[‘รองเท้าเหนียวหนึบ’ ได้ถูกกินแล้ว ได้รับพลังเวทย์จำนวนปกติ]

[เวทย๋ขั้น1.....]

[…………………]

[ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 58 นาที ในการย่อยอาหารทั้งหมด]

ปล.ป๋าวินซ์อย่างรวยฮ่าๆ

0 0 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด