ตอนที่แล้วตอนที่ 1 กำไลสีดำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 นกยักษ์

ตอนที่ 2 กระท่อมน้อย


ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่มึนหัวเเละหน้ามืดมาก เเต่ก็พอที่จะเดินไปไหนมาไหนได้อยู่จึงลุกขึ้นมา ตอนที่ลุกขึ้นมาฉันก็พยายามขยี้ตาเพื่อที่จะให้มันมองเห็นได้ชัดขึ้น เเต่เมื่อฉันลองมองไปรอบๆดีๆก็พบว่าฉันอยู่ที่ใดสักเเห่งหนึ่ง เเละฉันไม่รู้ด้วยว่าที่นี่คือที่ไหนฉันลุกออกมาจากเตียงเเต่เหมือนกับว่ามันจะเเข็งมากเลยนะ . . . เอ๋นี่ไม่ใช่เตียงของฉันนี่นามันเป็นเตียงไม้ที่เเข็งๆไปเลย เเล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้กันล่ะเท่าที่จำได้ฉันก็อยู่ที่บ้านของฉันไม่ใช่หรอ เมื่อฉันลุกขึ้นมาได้ฉันก็ลองเดินออกไปจากห้องนี้ดูเผื่อจะหาถามคนเเถวนี้ได้ เเต่เมื่อเปิดประตูออกมาก็พบว่ามีเเต่สีเขียว สีเขียวที่ว่าคือมันเป็นป่าที่รกล้างเอามากๆเลย ฉันชักจะไม่เเน่ใจเเล้วสิว่าฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน ฉันเดินออกมาจากบ้านหลังนี้เเล้วลองมาดูที่บ้าน. .  . มันไม่ใช่บ้านนี่นามันเป็นเหมือนกระท่อมซะมากกว่า ฉันรีบเดินออกมาจากที่นี่เผื่อว่าคนที่จับฉันมาที่นี่จะกลับมา เดินไปเรื่อยๆน่าจะออกจากป่าได้นะ ป่านี้อาจจะไม่ลึกมากไม่น่าจะหลงทางได้หรอก ฉันว่าเดินไปข้างหน้าก็น่าจะมีถนนขนาดใหญ่อยู่เเน่นอนเลย ในระหว่างที่เดินตามทางอยู่ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทิ่มที่ขาของฉันมันจึงทำให้ฉันหยุดเดินเเล้วดูที่เท้าของฉันในทันที

"โอ๊ย" ฉันลองยกเท้าขึ้นมาดูว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเห็นได้เลยมีไม้ทิ่มที่เท้าของฉันมันทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุดเลย ฉันพยายามที่จะเช็ดเลือดออกเเล้วเลือดออกเล่าเเต่ก็ไม่สามารถหยุดเลือดที่ไหลออกมาได้เลยเเม้เเต่น้อย ตอนนี้ฉันต้องรีบออกไปจากที่นี่เเล้วล่ะไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอันตรายกับเท้าของฉันได้ ชุดก็ยังเป็นชุดนอนอีกเพราะเท่าที่จำได้คือฉันกำลังจะนอนก็เลยไม่ได้ใส่ลองเท้ามาด้วยน่ะสิ ฉันเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งไปโผล่อยู่ที่ไหนสักเเห่งหนึ่ง ฉันมองไปที่ข้างหน้าก็พบกับผู้ชายกับผู้หญิงสองคน คนหนึ่งกำลังจัดไม่กับอีกคนหนึ่งกำลังสักผ้าที่เเม่น้ำ เห็นเเบบนั้นเเล้วทำให้ฉันดีใจมากฉันจึงรีบวิ่งไปหาพวกเขาในทันที เมื่อไปถึงสีหน้าของพวกเขาดูเปลี่ยนไปจากที่ยิ้มๆกลายเป็นหน้าตาตื่นตกใจเเทน

“อุ้ยตายเเล้วเธอออกมาได้อย่างไรกัน ที่นี่มันอันตรายมากเลยนะรู้หรือเปล่า ดีเเล้วที่ไม่เป็นอะไรมาก”

พวกเขาเองหรอที่พาฉันมาที่นี่ ฉันเริ่มถอยห่างออกจากพวกเขาเเต่ว่าดูเหมือนพวกเขาจะเป็นห่วงฉันมากกว่าที่จะทำร้ายฉันนะ

"อย่าพึ่งไปสิใจเย็นๆก่อนพวกเราไม่ทำอะไรเธอหรอกนะ พวกเราเป็นคนช่วยเธอตอนที่เธอสลบอยู่เอง ฉะนั้นอย่าเข้าไปในป่าอีกเลยดีกว่าคอยพวกกลับบ้านของพวกเราด้วยกัน ในป่ามันไม่ได้มีเเค่เรานะมันมีสัตว์ที่อันตรายอยู่มากมายเลย"

สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นได้พูดขึ้นมาทำให้ฉันคิดเเล้วคิดอีกว่าจะเอาเช่นไรดี ถ้าเกิดเข้าไปหาเธอเเล้วเธอโกหกเราขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ หรือว่าถ้าฉันได้เข้าไปในป่าเเล้วเกิดมีสัตว์อันตรายอย่างที่เธอว่าจะทำเช่นไรอีก ฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ. . . ?!

“นี่เท้าของเธอเลือดออกนี่ฉันคิดว่าเธอน่าจะมาทำเเผลก่อนนะก่อนที่มันจะติดเชื้อ หรือว่าเธอโดนดอก Flowerblood ทิ่งที่เท้ากัน ถ้าเธอไม่ทำเเผลตอนนี้เลือดของเธอจำไหลออกหมดตัวเลยนะ มาทำเเผลก่อนดีกว่าฉันว่า ”

สิ่งที่เธอพูดทำให้ฉันมองไปที่เท้าของฉันในทันที มันเป็นดอกไม้ชนิดอะไรกันทำไมฉันถึงไม่รู้จักเลยล่ะ ฉันจะทำยังไงดีฉันคิดเเล้วคิดอีก. . .โอเคเอาเเบบนี้ก็ได้ฉันจะเชื่อใจผู้หญิงคนนี้สักครั้งหนึ่ง ฉันเดินไปหาเธอก่อนที่เธอจะพาฉันเดินไปที่เเม่น้ำ

"หย่อนเท้าลงไปล้างในน้ำเลยจ๊ะ ล้างเสร็จก็บอกฉันนะฉันจะได้ให้สมุนไพรมาปิดเเผลอีกครั้งหนึ่ง"

ฉันพยักหน้าก่อนที่จะเริ่มล้างเเผลของตัวเองในทันที เมื่อล้างเเผลเสร็จเรียบร้อยฉันก็หันไปหาผู้หญิงคนนี้

"เสร็จเเล้วค่ะ" ฉันบอกตามที่เธอให้ฉันบอก เเล้วเธอก็ยื่นใบอะไรบางอย่างให้กับฉันเป็นเหมือนใบไม้เลย ซึ่งถูกบดเอาไว้เเล้วเหมือนกับว่าพึ่งจะบดไปเมื่อตะกี้นี้

"เอาสิเอาอันนี้ไปใช้นะมันเป็นใบสต๊อบบรีดดิ้ง เอาไว้ห้ามเลือดสำหรับคนที่เลือดไม่ยอมหยุดไหลน่ะจะ"

ฉันควรจะรับมาดีไหมถ้าเกิดมันเป็นพิษมากกว่าล่ะ เเบบเอาไปปิดเเผลเเล้วมันบวมเป่งระเบิดขึ้นมาทำยังไง เเล้วฉันก็ไม่รู้จักสมุนไพรพวกนี้เสียด้วยสิ

"ไม่ไว้ใจฉันหรอ. . .งั้นเดี๋ยวฉันจะทำให้เธอดูนะ พ่อมานี้หน่อยสิฉันจะทำให้เขาดูว่าวิธีทำมันทำเช่นไร เขาจะได้ไว้ใจพวกเรายังไงล่ะพ่อเอ๊ย"

เธอได้เรียกผู้ชายที่กำลังตัดไม้ให้เดินมาหาเธอ เมื่อเขาได้ยินเขาได้ปล่อยขวานของเขาลงในทันทีเเล้วก็วิ่งมาหาเธอ

"จ๊าที่รักพ่อกำลังจะไปหาเเม่เเล้วจ๊า" เสียงเเบบนี้สงสัยคงจะเกรงใจภรรยามากเพราะทำตามทุกอย่างที่เธอบอกหรือเธอสั่ง ( เท่าที่ตาเห็น )

"พ่อมีเเผลอยู่ตรงไหนหรือเปล่า เอาเเผลที่มันเลือดออกอยู่นะไม่ใช่เเผลที่หายเเล้ว"

เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้นเขาพยายามหาเเผลที่มันสดเเละพึ่งโดนมาใหม่ๆ หาไปสักพักก็พบว่าที่เเขนขวาของเขานั้นมีเศษไมที่ทิ่มอยู่ทำให้เป็นเเผลขนาดกลางๆไม่ใหญ่มากเเละไม่น่ากลัวจนเกิดไป เมื่อเอากิ่งไม้ที่ทิ่มเเขนของเขาออกเลือดก็ไหลออกมาไม่หยุดเลยทำให้ฉันตกใจเป็นอย่างมาก !!!

"นี่มันกิ่งไม้มีพิษนี่นา คุณนี่ไม่ดูอะไรเลยนะถ้าฉันไม่ถามคุณฉันก็คงไม่รู้ใช่ไหมว่าคุณโดนไม้มีพิษทิ่มที่เเขนของคุณ เอาเเขนมาฉันจะห้ามเลือดให้ก่อน"

พูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาเลยอะ เป็นฉันคงจะช็อกที่เห็นเเบบนั้น น่ากลัวจะตายไปเลือดไหลออกมาขนาดนี้ ฉันเหลือบมองบ้างปิดตาบ้างเพราะมันค่อนข้างที่จะน่ากลัวสำหรับฉัน เธอใช้ใบไบไม้ที่เธอได้บดละเอียดก่อนที่เธอจะเอาไปประกบกับเเผลของชายคนนั้น จากที่เลือดกำลังไหลอยู่สักพักเลือดก็หยุดไหล มันห้ามเลือดได้จริงๆด้วยสินะดีจังเลย งั้นฉันก็คงสามารรถเชื่อคนทั้งสองได้สินะ

"มันสามารถช่วยห้ามเลือดได้จริงๆเห็นไหม เธอก็รีบใช้มันเสียก่อนที่เลือดจะหมดตัวนะ ส่วนฉันขอทำเเผลให้สามีก่อนไม่งั้นเขาคงได้ตายก่อนเธอเป็นอันเเน่"

เมื่อเธอพูดจบเธอก็หันไปทำเเผลให้กับสามีของเธอ ส่วนฉันก็นั่งมองสมุนไพรที่เธอให้มาสักพักก่อนจะเอาไปประคบกับเเผลที่เท้าของฉัน เลือดมันออกไม่หยุดในช่วงเเรกๆที่ฉันประกบมันเข้าไปกับเเผล เเต่สักพักหนึ่งมันก็เริ่มไม่ไหลออกมาทำให้ฉันรู้สึกโอเคมากขึ้น เเถมมันยังเย็นเท้าด้วยนะดีจังเลยอะ ในตอนที่เธอทำเเผลให้สามีของเธอเสร็จเธอก็หันมาหาฉันเเล้วยิ้มให้ก่อนจะมาจับที่เท้าของฉัน

"ให้ฉันทำเเผลให้เธอก่อนเถอะนะ" ฉันพยักหน้าให้กับเธอก่อนที่เธอจะจับเท้าของฉันโดยไม่หยี๋หรือรังเกียจ

ฉันเลย ใช่สิ! ฉันควรจะถามเธอหน่อยว่าฉันมาที่นี่ได้อย่างไรกันเเล้วเธอพาฉันมาที่นี่ได้ยังไง

“ฉันอยากจะถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ. . . คือว่าฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันหรอคะ เเล้วพวกคุณเจอฉันอยู่ตรงจุดไหนกัน ???”

"พวกเราเจอเธออยู่เเถวนี้เเหละจ๊ะ ตอนที่เห็นครั้งเเรกฉันก็เห็นว่าเธอนอนสลบอยู่ตรงหินก้อนนู้นข้างกับเเม่น้ำ เห็นว่ามันไม่ดีเเล้วฉันก็เลยให้สามีของฉันอุ้มเธอไปที่บ้านจะได้ไม่โดนสัตว์อันตรายทำร้ายเธอน่ะจะ ตอนเเรกๆฉันก็อุส่าให้ลูกชายของฉันเฝ้าเธอเอาไว้เเล้วเเท้ๆ เเต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นพวกไม่ค่อยฟังใครก็เลยไม่ได้เฝ้าเธอเอาไว้เลย ต้องขอโทษเธอจริงๆด้วยนะจ๊ะที่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวเเบบนั้น"

สิ่งที่เธอพูดทำให้ฉันเข้าใจมากขึ้นว่าพวกเขาเป็นคนดีไม่ได้คิดร้ายอะไรกับฉันเลย อาจจะไม่เชื่อหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นเเต่พวกเขาก็ช่วยชีวิตของฉันเอาไว้นี่นา เมื่อเธอทำเเผลให้ฉันเสร็จเธอก็จับขาของฉันวางไว้อย่างเบามือ เธอมองไปข้างบนเหมือนมองอะไรสักอย่างก่อนจะชู้มือขึ้นเเล้วก็ทำสองนิ้งขึ้นมา

"เอาเป็นว่าตอนนี้พวกเรารีบกลับไปที่บ้านนกันดีกว่านะ ตอนนี้มันก็มืดมากเเล้วฉันว่าพวกเรากลับไปทานอาหารเย็นกันก่อนเสียดีกว่านะจ๊ะ เอาล่ะพ่อหยิบฟืนกลับบ้านมาด้วยนะฉันจะพาหนูคนนี้ไปที่บ้านของพวกเรากันก่อน"

จากนั้นเธอก็จับฉันให้ลุกขึ้นก่อนที่เธอจะเริ่มพยุงฉันไปที่บ้านของเธอ ฟ้าเริ่มที่จะมืดลงในตอนนี้ พวกเราสองคนได้ไปถึงที่กระท่อมที่ฉันได้ออกมา นี่คือบ้านของเธออย่างนั้นหรอ ??? จากนั้นเธอก็เดินไปที่ตู้ไม้เเล้วก็เปิดตู้ออกมาหาอะไรสักอย่างหนึ่งก่อนจะดึงมันออกมา

“เอาอันนี้ไปใส่ก่อนนะฉันไม่รู้ว่าหุ่นเธอเท้าไหร่เเต่ว่าฉันคิดว่าอันนี้เธอน่าจะใส่ได้น่ะจะ ถ้าเกิดใส่เเบบนี้ฉันคิดว่ามันคงจะดูเเปลกตาสำหรับพวกเราเกินไป ห้องเเต่งตัวอยู่ตรงนู้นจ๊ะเชิญไปเปลี่ยนได้ตามสบายเลยไม่มีใครดูได้อย่างเเน่นอน”

ฉันยิ้มให้กับเธอก่อนที่ฉันจะรับชุดที่เธอส่งมาให้กับฉัน พอมองดีๆเเล้วฉันรู้สึกว่าชุดนี้เหมือนกับชุดเอิ่มนิยายที่ฉันได้อ่านมาเลย เเบบจะเป็นชุดของชาวบ้านสมัยก่อนอะไรเเบบนั้นน่ะ เเต่ฉันก็ไม่ได้เอะใจอะไรอาจจะเป็นการเเต่งตัวของพวกเขาก็ได้นี่นะ ฉันเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าซึ่งมันมืดมากเลย มันมืดมากจริงๆ. . . อยู่ๆไฟก็ได้สว่างขึ้นมาสงสัยเธอจะจุดเทียนให้กับฉันล่ะมั้ง จากนั้นฉันก็เเต่งตัวจนกระทั่งเเต่่งตัวเสร็จเเล้วเดินออกมาจากห้องเเต่งตัว เมื่อเดินออกมาจากห้องเเต่งตัวฉันก็หันหลังไปปิดประตูเเล้วก็หันหลังกลับมา ตอนนั้นทำให้ฉันตกใจเป็นอย่างมากเพราะว่าฉันเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเงาลางๆ

"ว๊ากผี ผีเเน่ๆเลยผีๆ!!" ฉันตะโกนออกมาเพราะตกใจมากที่เห็นเเบบนั้น เเต่เเล้วเด็กคนนั้นก็พูดขึ้นมา

“คุณแม่บอกให้หนูมาชวนพี่ไปกินข้าวค่ะตามหนูมาด้วยนะคะ อาหารเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วค่ะ”

คุณพระไอ้เราก็นึกว่าเป็นผีที่ไหนได้เป็นเด็กกผู้หญิงนี่เอง เล่นเอาซะตกใจหมดเลยนึกว่าเป็นผีจริงๆนะเมื่อตะกี้นี้อะ ฉันถอนหายใจเบาๆก่อนจะยิ้มให้กับเด็กผู้หญิงคนนั้น เเต่ดูเหมือนว่าหน้าของเธอจะไม่มีสีหน้าที่เปลียนไปจากเดิมเลย เหมือนหน้าคนหมดอารมณ์อยู่ตลอดเวลา ฉันเดินตามเด็กคนนี้ไปจนถึงบ้านอีกหลังหนึ่งอันนี้จะดูใหญ่กว่ากระท่อมน้อยอันนี้นิดนึง เมื่อเธอได้เปิดประตูเข้าไปก็พบกับคุณผู้ชายเเละคุณผู้หญิง กับเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งที่นั่งหน้าบูดอยู่ตรงโต๊ะทานอาหาร

“ฮ่า ฮ่า มาเเล้วอย่างนั้นหรอ ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะฉันลืมเเนะนำตัวให้เธอได้รู้จักเลย ฉันมีชื่อว่าเจียมจี ส่วนภรรยาของฉันมีชื่อว่าเหมยลี่ ลูกทั้งสองคนของฉันมีชื่อว่าเฟิงฟางกับหมิงหลิง  เมื่อรู้จักครอบครัวของพวกเราครบกันหมดทุกคนเเล้ว เเล้วเธอล่ะมีชื่อว่าอะไรอย่างนั้นหรือ ??”

ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจังเลยนะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันเเบบนี้ ส่วนฉันล่ะยุ่งกันหมดทำงานทำการจนไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาเเบบนี้เลย

“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเช่นกันค่ะ ฉันมีชื่อว่ามะลิยังไงก็ต้องขอบคุณทุกๆคนด้วยนะคะที่ช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ ถ้าเกิดพวกคุณไม่ช่วยฉันเอาไว้ฉันคงจะเเย่เเน่ๆเลยล่ะค่ะ”

พวกเขายิ้มให้กับฉัน เวลาผ่านไปได้ไม่กี่วิอยู่ๆท้องฉันก็ร้องออกมา //คอก แคก// น่าอายจังเลยทำไมถึงมาร้องตอนนี้ในเวลาแบบนี้ด้วย เสียมารยาทชะมัดเลยนะเราเนี่ย

“ดูเหมือนว่ามะลิคงจะหิวมากเลยสินะ ยังไม่ได้ทานอะไรมาเลยนี่นางั้นก็ทางอาหารกันก่อนดีกว่าเนอะค่อยคุยกันใหม่”

พวกเราพากันกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยเเน่นอนอาหารที่อยู่บนโต๊ะฉันก็ฟาดเรียบเหมือนกัน มันอร่อยจริงๆนะเพราะฉันไม่ได้กินอะไรเลยตั้งเเต่ฟื้นขึ้นมาอยู่ที่นี่ เมื่อพวกเราได้รับประทานอาหารกันเสร็จ คุณเหมยก็ได้เก็บจานเก็บชามเเล้วเดินออกไปข้างนอก สงสัยเธอกำลังจะไปล้างจานยังไงฉันก็ตามไปช่วยเธอดีกว่า

“ให้หนูช่วยถือของนะคะ” ฉันบอกเธอไปเเต่ดูเหมือนว่าเธอไม่อยากให้ฉันทำมันเลย

"ไม่เป็นอะไรหรอกจ๊ะฉันทำได้ยังไงเธอก็ไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะจ๊ะจะได้มีเเรงยังไงล่ะ"

สงสัยเธอจะเกรงใจฉันเพราะเห็นว่าฉันเป็นเเขกเลยไม่อยากให้ฉันมาทำอะไรเเบบนี้สินะ เเต่ยังไงฉันก็เป็นคนที่เธอช่วยชีวิตเอาไว้นะ ถ้าฉันไม่ทำมันก็คงจะเสียมารยาทเอามากๆเลย

"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะไม่ต้องเกรงใจฉัน ฉันอยากจะช่วยคุณเหมยค่ะให้ฉันช่วยเถอะนะคะ"

เธอเงียบลงก่อนที่จะพยักหน้าให้กับฉัน ฉันรีบจานของเธอมานิดหน่อยก่อนที่เธอจะพาเธอไปที่บ่อน้ำขนาดใหญ่ เเล้วพวกเราสองคนก็เริ่มนั่งล้างจานกัน ในระหว่างที่พวกเราสองคนนั่งล้างจานกันอยู่นั้น คุณเหมยก็พูดขึ้นมา

“เเล้วคุณมะลิจำได้หรือเปล่าว่ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน ???”

เธอถามฉันขึ้นมามันก็ทำให้ฉันคิดนะว่าฉันมาที่นี่ได้อย่างไร ฉันคิดอยู่เเบบนั้นสักพักเเต่ก็คิดไม่ออกเลยเเม้เเต่น้อย

"ฉันก็ไม่เเน่ใจเหมือนกันนะคะ พอตื่นขึ้นมาฉันก็นอนอยู่บนเตียงไม้เลย"

คุณเหมยทำหน้าเเปลกๆก่อนที่จะล้างจานต่อ ฉันอยากจะรู้นะว่าที่นี่ที่ไหนงั้นฉันก็เอาเวลานี้ไปถามคุณเหมยดูก็เเล้วกัน

"คุณเหมยคะขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ คือว่าที่นี่ที่ไหนหรอคะอยู่เเถวไหนกันทำไมถึงมีเเต่ป่าเเบบนี้ล่ะคะ"

เผื่อว่ามันจะอยู่ไม่ไกลจากบ้านของฉันมากนักฉันจึงอาจจะเดินผ่านป่าออกไปที่บ้านฉันก็ได้ ฉันก็เลยลองถามคุณเหมยดู

“ที่นี่คือเมือง กงจิ้น เมืองแห่งความเจริญที่มีแต่คนเจริญก้าวหน้าเป็นเมืองที่ทุกคนใฝ่ฝันว่าจะอยู่กันน่ะ เเต่ว่าพวกฉันย้ายมาอยู่ที่นอกกำเเพงเมืองกันเพราะว่ามันเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น ช่างมันเถอะนะเเล้วเธอล่ะจำได้หรือเปล่าว่าเธออยู่ที่ไหนมาก่อน”

อะไรคือเมืองกงจิ้นทำไมชื่อเหมือนของประเทศจีนเลย ฉันเริ่มไม่เเน่ใจเเล้วล่ะว่ามันยังไงกันเเน่

"อยู่ประเทศไทยค่ะอยู่ที่ขอนเเก่น เเล้วกงจิ้นมันอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยกันคะ"

ฉันอยากจะรู้เหมือนกันเผื่อว่าฉันจะไม่รู้จักจังหวัดกงจิ้นก็ได้ อาจจะมีจริงๆก็ได้นะจังหวัดนี้

"เอิ่ม . . . ทำไมฉันไม่รู้จักประเทศไทยมาก่อนเลย เเล้วไอ้ขอนเเก่นนี่มันคืออะไรกันอย่างนั้นหรอ กงจิ้นเป็นเมืองๆเดียวนะไม่ใช่เมืองของประเทศไทยน่ะจะ เธอเเปลกๆดีเนอะอาจจะเป็นเพราะว่าสมองกระทบกระเทือนก็ได้ตอนนี้อย่างพึ่งคิดอะไรมากเลยเดี๋ยวจะปวดหัวเอาเปล่าๆ"

หมายความว่า่ยังไงที่ว่าไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย ฉันเริ่มงงไปหมดเเล้วฉันไม่รู้ว่าฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน

"เอาล่ะล้างจานกันเสร็จเรียบร้อยเเล้วกลับบ้านกันดีกว่าเถอะนะ จะได้พักผ่อนกันยังไงล่ะ"

ฉันพยักหน้าให้กับคุณเหมยก่อนที่พวกเราจะพากันยกจานเเล้วกลับไปที่บ้านของคุณเหมยในทันที เเต่ตอนที่กำลังจะเดินข้ามไปที่บ้านของคุณเหมยก็พบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนคุยกับคุณจีเจียมอยู่ ฉันมองชุดที่พวกเขาใส่มันดูเหมือนชุดเกราะในสมัยก่อนมากๆเลย เเถมถือมีดถือหอกกันมาดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้

“เเกเคยเห็นผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า ถ้าเห็นก็ฝากเอาตัวเธอมาด้วยนะเพราะว่าเธอคือผู้ต้องหาที่เราต้องการตัวด่วนที่สุดในตอนนี้”

เขาหยิบกระดาษขึ้นมายื่นให้กับคุณจีเจียมฉันมองไม่เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร เเล้วที่ว่าเป็นผู้ต้องหานั่นอีก เมื่อคนกลุ่มนั้นได้พูดตบพวกเขาก็เดินออกไปจากที่นี่พร้อมกับขึ้นม้าไป

“พวกเราออกไปกันเถอะนะฉันอยากจะรู้ว่าใครรคือผู้ต้องหาคนในเมืองจึงต้องออกมาตามถึงนอกกำเเพงเช่นนี้”

พวกเราพากันเดินออกมาจากพุ่มไม้เเล้วเดินข้ามไปที่กระท่อมกัน เมื่อคุณจีเจียมเห็นฉันหน้าของเขาดูจริงจังเป็นอย่างมาก เขาจับเเขนของคุณเหมยไปเเล้วก็เดินออกห่างจากฉันไป เหมือนกับว่าเขากำลังคุยอะไรกันอยู่ เมื่อคุยจบคุณเหมยได้เดินมาหาฉันเเล้วก็จับที่เเขนของฉันเอาไว้เเน่นมาก หน้าของคุณเหมยดูเศร้ามากเลยนะ

"คือว่าฉันต้องขอโทษจริงๆนะฉันไม่มีทางเลือกมากเเล้วตอนนี้ ผู้หญิงที่เขาต้องการตัวก็คือ . . . เธอนั่นเเหละเเต่ฉันเชื่อว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธอเเน่นอน อย่างไรก็ตามเธอต้องเข้าไปในตัวเมืองตอนนี้เลย ถ้าเกิดปล่อยไว้นานกว่านี้อาจจะเป็นอันตรายกับตัวเธอได้ ยังไงก็อย่าว่าฉันเลยนะ"

ฉันอย่างนั้นหรอผู้ต้องหาที่เขาต้องการตัว เเล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะพวกเขารู้ได้อย่างไรว่าฉันมาอยู่ที่นี่ หรือว่า. . . ฉันมองไปที่เด็กผู้ชายคนนั้นในตอนที่เขาไม่อยู่ต้องใช่เเน่ๆเลย เขาน่าจะเป็นคนบอกคนพวกนั้นว่าฉันมาอยู่ที่นี่

"โอเคค่ะฉันจะยอมไปให้นะคะ เเล้วฉันจะไปยังไง??"

สิ่งที่ฉันพูดทำให้คุณเหมยถอนหายใจออกยาวๆเเล้วยิ้มให้กับฉัน

"ฉันเรียกรถม้าไว้ให้เธอเเล้ว ยังไงก็ขอบใจนะที่ทำตามที่ฉันบอก ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะไม่่ทำอะไรเธออย่างเเน่นอน"

รถม้าฉันไม่เคยขึ้นเลยนะรถม้าได้เลื่อนเข้ามาหาฉัน ก่อนที่ฉันจะเดินขึ้นมันไปเเล้วรถก็เริ่มเคลื่อนที่ไป ฉันมองออกไปข้างนอกก็เห็นว่าคุนเหมยกำลังโบกมือลาฉันอยู่ ฉันยิ้มให้พวกเขาทุกคนก่อนที่จะปิดผ้าลง จะไปที่ใดอย่างไรก็ช่างมันเถอะสงสัยเราคงจะต้องเจออะไรอีกมากมายเลยสินะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด