ตอนที่แล้ว36. Exp Continues to Rise (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป38. Slam. Charge.

37. Exp Continues to Rise (4)


37. Exp Continues to Rise (4)

สิ่งน่ารักเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ในที่สุดก็เผยให้เห็น.

แก่นอเวค.

“ตอนนี้ฉันพึ่งจะเลเวล63 เพราะงั้นฉันจึงมีแค่สกิลเดียวที่เกินเลเวล90.”

“งั้นจะบอกว่าไง? เนื่องจากยังเลเวลอยู่ที่63 มันเลยเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสกิลเลเวล100?”

“แน่นอน ที่เห็นได้ ชัดเลยคือมานามีจำกัด และค่าประสบการณ์ในการเพิ่มเลเวลสกิลก็เป็นเรื่องใหญ่.”

“อืม...ฮยองผมคิดว่าผมได้เห็นสิ่งตลกที่คุณได้แสดงออกมาให้เห็น.”

“มันคืออะไร?”

จุงโฮเบิกตากว้างขณะที่เขาหยิบก้อนหิน

เขากระพริบตาปริบๆเมื่อเห็นแก่นอเวค3ก้อน

เป็นเวลามากกว่า3เดือน ผมใช้เวลาอย่างน้อย12ชั่วโมงต่อวันหรือไม่เกิน18ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก.

ถึงแม่จะทำแบบนั้นผมก็ได้ แค่แก่นอเวคแค่สองก้อน

แต่แค่เจอมิมิค ผมกลับได้ถึง3

จุนโฮดูเหมือนกับว่าจะไม่สามารถปิดปากได้อีกนาน

จุนโฮบอกว่าเขาเคยได้แก่นอเวคเพียงครั้งเดียวจากการล่า.

แต่เขาต้องแบ่งกำไรกับคนอื่นๆ อีก 8 คน

การบัญทึกการแบ่งกำไรของคน9คนนั้น แสดงให้เห็นว่าทุกคนยังเป็นอเวคระดับต่ำ.

จุนโฮยังคงพูดต่อ.

“ฉันยังตกใจมาก จริงๆ.”

“ฮยอง ผมเกือบจะกลัวเมื่อเปิดเป้ทหารนั่น.”

“คุณไม่มีสกิล1หรือ2สกิลที่อยู่ใใกล้เลเวล100?”

“แน่นอน มันมีไม่มากนัก.”

‘มีสกิลมากมายที่จะถูกอเวค’ นั่นคือความจริง.

“นั่นเยี่ยมมาก คุณจะได้ต้องใช้แก่นอเวคเร็วๆนี้.”

“ถึงอย่างนั้นคุณต้องไปคนเดียว ฮยอง มันมีมาไม่บ่อยนัก เมื่อคุณได้เลเวลสกิล100แล้ว ผมจะรอคุณได้อย่างไร?”

“ผมจะบอกว่าคุณควรจะได้รับหนังสือสกิลเนื่องจากว่ามันใช้ได้เฉพาะนักรบเท่านั้น แต่นี่ไม่ใช่”

“ผมควรจะให้อาหารหมาไหม?”

“ใช่ นั่นคือสิ่งที่ฉันไม่ควรได้รับแม้ว่ามันจะเป็นอาหารของหมาก็ตาม ฉันเคยใช้ชีวิตโดนการอ่านผู้คนและรักษาความภาคภูมิใจของฉัน อย่าทำให้ฉันไข้วเขว่ต่อไป.”

“ปากแข็ง.”

“ใช่! งั้นมาเริ่มใหม่ ฮยองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน? แล้วไหนจะของเหล่านั้น.”

จุงโฮลูบจมูกด้วยนิ้วและหาอุปกรณ์ที่อยู่ใต้หินเลือด

นิสัยเล็กๆน้อยเหล่านี้ไม่สามารถทำให้ผมเกลียดเขาได้

ผมก็เข้าร่วมหากับจุนโฮ

“ดูเหมือนว่าของเหล่านี้จะไร้ประโยชน์?”

“ทำไม? คุณไม่มีแหวนมานา หยุดใช้แหวนหัวกระโหลก แหวนและสร้อยคอของนายเพื่อให้นายได้มีมานาเพียงพอ”

“ไม่สวย ผมมีสิ่งที่ต้องการมากกว่านั้น ดังนั้นผมจะขอบคุณคุณ ถ้าคุณให้ผมใส่.”

“เสียงแบบนี้เหมือนกับพวกนิสัยเสียมาก นายไม่ต้องของเหล่านี้?”

“ใช่ หินเลือดและของเหล่านี้ผมกำลังจะไปขายและผมจะให้คุณครึ่งนึง ถ้าคุณไม่พบสิ่งที่คุณพอใจ.”

“นายนี่เหมือนกับคนทำฟาร์มฟักทอง ขอบคุณ!”(ฟักทองขายได้ราคาดีที่เมืองนอก/ไรต์)

ไอเทมที่ได้จากการล่ากับจุนโฮเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง

แก่นอเวค3ก้อน หนังสือสกิล หินเลือด และแรร์รองเท้าไททันอีก.

มันคงเป็นไปไม่ได้หากไม่มีมิมิก

นี่เป็นครั้งแรกที่จุนโฮได้เห็นมิมิกหลังจากที่เขาเป็นอเวคมาหลายปี

ผมรู้สึกราวกับว่าลิ้นที่ยาวยืดของมิมิกจะมาให้ผมเห็นในเร็วๆนี้อีก

* * *

จำนวนที่ใช้การอัญเชิญ‘ร่างจำแลงของมารร้าย’ เพิ่มขึ้นสองเท่า.

เมื่อมันมีเลเวลถึง100

เนื่องคูลดาวน์ของมันต้องใช้เวลา 60 นาที มันเป็นอะไรที่ผมรำคาญมาก

ต้องขอบคุณมันมากๆ ที่ผมไม่ได้ค่าประสบการณ์แค่สกิลเดียวเท่านั้นหลังจากเรียกมันออกมา

ศัตรูที่โดนสกิลของตัวที่ถูกอัญเชิญมาก็ได้ค่าประสบการณ์เหมือนกัน

เรด บูล เยลโล่ นี่คือชื่อของพวกมัน

ส่วนตัวแล้วผมชอบบูลมากกว่าเนื่องจากเขาใช้เวทย์น้ำแข็ง.

มันมีเพียงแค่ตัวเดียว แต่อีกหน่อยมันจะมีสองตัว.

ผมมีเพียงฟร์อสออบเพียงท่าเดียวเท่านั้นที่เป็นสกิลน้ำแข็ง ผมต้องการเวทย์เหล่านี้อีกเพื่อที่จะชะลอไม่ให้ศัตรูของฆ่าศึกเคลื่อนไหวเร็วมากนัก

ด้วยจุดนี้ บลูจึงได้เข้ามาแทนที่ช่องว่างของมัน

ร่างจำแลงที่สูงกว่า4เมตรได้แสดงการทำลายอย่างน่าทึ่ง

ในเลเวล100 มันทำให้มอนเตอร์เคลื่อนที่ช้าลงถึง18ตัวเมื่ออยู่ใกล้ๆมัน.

มันเหมือนกับออร่าแช่เแข็ง

ร่างจำแรงไม่เพียงแต่โจมตีด้วยเวทย์มนต์เท่านั้น

มือแต่ละข้างถือดาบยักษ์

มันมีลักษณะเหมือนกับมีดทำกับข้าว

การโจมตีทั้งเวทย์มนต์และกายภาพล้วนแล้วแต่ทำให้ติดสถานะแช่แข็ง ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่มมากแค่ไหนมันก็จะถูกแช่ทุกครั้งที่โจมตี

การโจมตีด้วยดาบเป็นการโจมตีทางกายภาพ แต่มันก็มีผลโจมตีที่รุนแรง

ทุกครั้งที่ร่างจำแลงเหวี่ยงดาบท้องฟ้าก็แยกออก

ลองคิดว่ามันเป็นมอนเตอร์

ร่างจำแลงไม่ต่างไปกับพวกกึ่งอมตะ

ไฟช๊อคและกราวิตี้เลเซอร์ มันทำให้เกิดผลไฟไหม้.

ผมสามารถวางโล่และปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระด้วยเวทยมนตร์

อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องมีการดูแลให้ดีขึ้น

ในดันเจี้ยนหากมีการโจมตีทางกายภาพเพียงอย่างเดียวมันจะเห็นได้ชัดว่าไร้ประโยชน์

นอกจากนี้ตัวที่ถูกอัญเชิญจะโจมตีจนกว่าพลังชีวิตของมันหมดลง

ซึ่งหมายความว่าเมื่อผมอัญเชิญพวกเขาแล้วผมสามารถใช้เวทย์มนต์ได้อย่างอิสระด้วยมือทั้งสองข้าง

หลังจากที่อัญเชิญครั้งแรกและจบการล่าพร้อมกับมัน…

ผมมีความกังวลว่า ‘ฉันจะเอาเจ้ายักษ์เหล่านี้ไปรอบๆได้อย่างไร?’

ด้วยแรงโจมตีและขนาดของมัน ผู้คนอาจจะเปิดว่าพอลทัลระเบิด.

แต่ผมก็พบว่าคุณสามารถลดขนาดของร่างจำแลงไปจนถึงขนาดที่พวกคุณใส่กระเป๋าได้.

นั่นคือเวลาที่ผมต้องการ

พวกมันก็จะกลายเป็นโปเกมอนของผม

ขนาดของพวกมันเหลือเพียงนิ้วเดียว ดูท่าพวกมันจะน่ารักกว่าที่คิด.

จากการใช้ร่างจำแรงมารร้าย ผมจึงได้รู้ศักยภาพของคลาสซัมม่อน

การได้เลเวลของสกิลที่รวดเร็ว,พลังจากการทำล้ายล้าง,ความสามารถในการเอาตัวรอดและความน่ารัก

ผมการเป็นคนโลภที่อยากจะได้สกิลแรงค์สูงๆเยอะๆ

* * *

เป็นเวลาครึ่งเดือนนับตั้งแต่ผมได้ล่ากับจุนโฮ.

ผมได้เรียน ‘ภูเขาน้ำแข็ง’ และ ‘เรียกดาวตก’.

ทั้งสองมีแรงค์อยู่ที่ A+ ความสามารถที่รุนแรงและราคา

แต่จากหินเลือดแรงค์Bจำนวนมากและของที่ได้รับจากมิมิก มันทำให้ผมมีรายได้เกินกว่าที่ผมจะจินตนาการไว้อีก

ด้วยเงินทั้งหมดที่เก็บไว้รวมกับการล่าในครึ่งเดือนทำให้ผมได้มันมา.

เมื่อผมได้รับแก่นอเวคอีกครั้งผมจะเอาไปขาย ผมคิดว่าผมยากที่จะซื้อสกิลได้อีกครั้ง

แม้ว่าจะเห็นว่าการเติบโตของผมไปได้เร็ว แต่ผมก็สูญเสียมากเช่นกันเมื่อคิดถึงอนาคต.

ผมอาจจะหารายได้มากขึ้น และสักวันผมอาจจะป่วย.

แต่ไม่ว่าคุณจะมีเงินมากแค่ไหนคุณก็ไม่อาจจะซื้อแก่นอเวคได้

ผมรู้ได้เพียงแค่มองไปที่ยูนจุงซันที่ทำงานให้กับอิลซัง

ผมใช้แก่นอเวคกับโล่สะท้อน

เมื่อเทียบกับโล่อื่นๆโล่สะท้อนก็ยิ่งดีกว่า

มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสสะท้อนและความเสียหายที่มากขึ้น

ส่วนที่เหลืออีก2ชิ้นแน่นอนว่าผมใช้มันไปกับสกิลแรงค์A+

ตอนแรกแผนของผมคือการซื้อ ธารน้ำแข็ง เนื่องจากมันสร้างความเสียหายมากกว่าที่ผมคิด

มันมีผลกระทบแช่แข็งที่ไม่อาจควบคุมจากระยะAOE

แต่ผมก็ได้ตัวที่มีความสามารถแช่แข็งได้จากร่างจำแรงมารร้ายที่ควบคุมได้

แน่นอนว่าจากการอัญเชิญมันเป็นแบบสุ่ม มีโอกาศที่ บูลจะไม่ออกมา.

แต่การล่ามันก็เร็วขึ้นผมต้องการสกิลที่แข็งแกร่งก่อน นั่นคือทางเลือกของผม

จากสกิลทั้งหมดที่ผมได้เรียนรู้มานี้ ไม่มีใครมีเวลาทำได้เท่าผม

แต่ทั้งภูเขาน้ำแข็งและเรียกดาวตกทั้งสองสามารถใช้ได้เพียงอย่างเดียว

ที่เลเวล1 ทั้งสองสกิลต้องใช้เวลา5นาทีในการร่าย

และคูลดาวน์ทั้งสองก็ใช้เวลา5นาที

ดังนั้นมันจึงใช้เวลาทั้งหมด10นาทีใรการใช้ได้หนึ่งครั้ง

โชคดีที่ทั้งสองสกิลเมื่อเลเวลครบทุก20 คูลดาวน์จะลดลง10%

ดังนั้นหากว่าผมสามารถอเวคมันได้เมื่อถึงเลเวล100ผมจะสวามารถใช้พวกมันได้อย่างไม่มีจำกัด

มันจะใช้ได้กับผมเท่านนั้น

ด้วยเลเวล1ใช้มานา4,000 เมื่อเลเวลเพิ่มมากขึ้นการใช้มานาจะน้อยลง

เฉพาะนักเวทย์ที่ใส่แต้มทั้งลงไปที่สถานะมานาจนกว่าจะถึงเลเวล160ถึงจะสามารถใช้มันได้

อเวคทั่วๆไป อย่าลืม ว่าอเวคทั้งหมายเหล่านี้ ยังมีน้อยคนนักที่จะมีเลเวลเกิน100

เพื่อทดสอบการทำลายของสกิลเหล่านี้ผมเข้าดันเจี้ยนหลังจากเรียนมันมาแล้ว

นับตั้งแต่ที่ผมได้รองเท้าไททันความเร็วในการเคลื่อนที่ของผมก็เพิ่มขึ้นมากกว่า2เท่า.

การวิ่งไปถึงปลายดันเจี้ยนใช้เวลาไม่เกิน5นาที

มันเป็นการเพิ่มระดับจากรองเท้าวิ่งเร็วที่ใช้เวลากว่า10นาที

เมื่อถึงปลายดันเจี้ยนกับมอนเตอร์10ตัวที่ผมลากมาเพื่อใช้สกิล

จากสิ่งที่ผมได้จากการPVP ของกิลด์ สกิลทั้งสองนี่ดูเหมือนจะนำมาใช้เพื่อการทำลายล้างอย่างเดียวเท่านั้น

การทดสอบแรกคือการเรียกดาวตก

เหนือกลุ่มมอนเตอร์มีดาวตกที่ถูกเผาไหม้ออกมา

นากาพิษถูกทำลายทันทีเนื่องจากมีการป้องกันที่อ่อนแอ

ซากศพสลายหายไปไม่เห็นแม้แต่ส่วนเดียวแม้กระทั้งขี้เถ้า

หลังจากที่ดาวตก ตกลงมามันยังมีแรงระเบิดเกิดขึ้นหลังจากที่มันตกลงมาอีก

สกิลต่อไป ภูเขาน้ำแข็ง

กริฟฟินที่บินอยู่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือรอยชีดข่วนใดๆ.

อย่างไรก็ตาม.

ภูเขาน้ำแข็งก็พุ่งทะลุออกมจากพื้นดินและกลืนมันไปทั้งตัว

โดยไม่ต้องใช้การโจมตีสุดท้าย พวกมันถูกขังอยู่ในภูเขาน้ำแข็งและกลายเป็นไก่แช่แข็งทันที

ภายในของภูเขาน้ำแข็งยังแยกออกจากกันและแช่ทุกอย่าง.

เกือบจะเหมือนกับจิ๊กซอร์หรือลูกบากศ์ของรูบิค

ภายใน5วิแรกกริฟฟอน4ตัวถูกฉีกเป็นชิ้นๆจนผมจำพวกมันไม่ได้

แค่สกิลเลเวล1.

แต่ความเสียหายของมันทำให้ผมประหลาดใจ

ตั้งแต่ที่มันหมดคูลดาวน์ผมก็โยนมันออกไปอีกครั้งเพื่อที่จะให้เลเวลมันขึ้นให้ไวที่สุด อย่างไรก็ตามผมก็ต้องมั่นใจว่ามันจะต้องเลเวลเพิ่มอย่างรวดเร็ว

เข้าดันเจี้ยนอีกรอบผมก็ร่ายเวทย์ทั้งสองอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน.

สกิลทั้งสองที่อยู่ในระดับเดียวกัน

อย่างไรก็ตามสกิลทักสองก็เตือนว่าพวกมันเป็นขั้วตรงกันข้ามและทำความเสีบหายเป็น0กับมอนเตอร์

ถ้าโยนบัฟและดีบัฟใส่ศัตรู มันจะไม่ทำอะไรมากกับเวทย์มนตร์เหล่านี้ นั่นคือถ้ากลุ่มมอนเตอร์ในดันเจี้ยนยังไม่ได้รับดีบัฟ

“การใช้ดาวตกและภูเขาน้ำแข็งในแต่ละมือยังคงเพิ่มประสบการณ์หรือไม่? หรือไม่ก็?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด