ตอนที่แล้วLSG- บทที่ 94 ความรู้สึกของเทพธิดา (อ่านฟรีวันที่7ตุลา)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปLSG- บทที่ 97 พิษที่น่ารำคาญ (อ่านฟรีวันที่11ตุลา)

LSG- บทที่ 96 เกิดอะไรขึ้นกับท่าน? (อ่านฟรีวันที่9ตุลา)


LSG บทที่ 96

แปลไทยโดย : SwordGod

เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?

มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไม่กี่วันมานี้เมื่อมันตื่นขึ้นมา

ตกเย็น หลงเชี่ยนหลี่ จะมาปรากฏตัวในกระท่อมเล็กๆของมันโดยไม่มีเสียง และพูดคุยเรื่องยาและการปรุงยา แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นผู้บ่มเพาะ ซูหยุน ถามเกี่ยวกับ ลมปราณวิญญาณลึกล้ำ หลงเชี่ยนหลี่ ก็ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านั้น (but Long Xian Li had no answers to those questions.)

ในชีวิตก่อนหน้านี้ซูหยุนไม่สามารถฝึกฝนได้เป็นเพราะพรสวรรค์ของมัน แต่มันได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างจาก นิกายที่นับถือมาร การบ่มเพาะศักดิ์สิทธิ์ลึกซึ้งมักจะขึ้นอยู่กับตัวเองที่จะคิดออก แม้จะมี ศิลานิรันดร์ ช่วยมันก็ขาดการแนะนำ ด้วยคำแนะนำจาก หลงเชี่ยนหลี่ มันจึงได้รู้แจ้ง (With the guidance from Long Xian Li, he was enlightened : ตกลงว่าหลงเชี่ยนหลี่ได้แนะนำหรือไม่ได้แนะนำครับพี่เอาให้แน่ผมงง)

มีบางอย่างคลุมเครือระหว่างทั้งสองคน

เมื่อถึงเที่ยงคืน หลงเชี่ยนหลี่ ก็จะออกไปโดยไม่มีเสียง

ซูหยุน รู้ว่านางอาจไปสืบข่าว เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง

แม้หลายวันมานี้มันพยายามทดสอบนาง และมันใจว่า หลงเชี่ยนหลี่ ไม่เคยสงสัยในตัวมัน แต่มันก็ยังกังวลอยู่

นั่นเป็นเพราะ ชิงเอ๋อ

เมื่อมันปรากฏตัวเพื่องช่วย ชิงเอ๋อ ที่ สำนักวิชาดาราม่วง มีฝูงชนมากมาย แม้เหตุการณ์ที่เกิดจะยุ่งเหยิงวุ่นวายหลายคนอาจจะไม่ได้สังเกตุเห็น แต่ตระกูลซูที่ได้รับการช่วยเหลือรู้เห็น แต่ชิงเอ๋อก็ดูแลเรื่องนี้ดีในตระกูลซู หากหลงเชี่ยนหลี่กล้ำกลายชิงเอ๋อนางอาจจะสงสัยอีกครั้ง

ไม่เป็นไรตราบเท่าที่มันไม่ยอมรับว่ามันคือ เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง การซ่อน ศิลานิรันดร์และผลึกสวรรค์ สมควรทำอย่างยิ่ง

ซูหยุนถอนหายใจตามความคิด

แม้ว่า หลงเชี่ยนหลี่ จะแนะนำมันในการฝึกฝน ลมปราณวิญญาณลึกล้ำ แต่มีหลายสิ่งที่มันทำไม่ได้เมื่องนางยังอยู่ไกล้ๆ หลังจากมันเป็น เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง หากปล่อยแมวออกจากถุง มันต้องใช้เวลากว่ามันจะกลับมา

แต่ดูเหมือนว่า หลงเชี่ยนหลี่ จะสนใจยานี้จึงไม่สะดวกที่จะขับไล่นาง เมื่อพูดถึงพลัง นางสมารถบีบบังคับมันด้วยมือเพียงข้างเดียว แม้ว่ามันจะใช้ ผลึกสวรรค์ มันก็ยากที่เอาชนะนางได้

ทุกๆวันเมื่อมันฝึกฝนโดยใช้ยาระดับการบ่มเพาะของมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก การทลวงเข้าสู่ขั้นที่ 6 เป็นเรื่องง่ายจนผิดปกติ

ดวงอาทิตย์กำลังตก

ฟึบ!

เสียงอ่อนโยนดังขึ้นในกระท่อม

ปากกาจิตวิญญาณในมือของซูหยุนเริ่มลอยขึ้น

"เจ้าทำอะไร?

หลงเชี่ยนหลี่ หันมาพร้อมดวงตาที่สวยงามของนางและจ้องมองที่กระดาษบนโต๊ะ

"เขียนรายการส่วนผสม"

 

“เสร็จแล้ว!”

มันโยนปากกาวิญญาณออกไปและหยิบกระดาษวิญญาณขึ้นมาเพื่อดู

"รายการส่วนผสม?"

"มันคือส่วนผสมของอะไร? ไหนให้ข้าดูหน่อย!"

"ท่านไม่รู้เรื่องหรอก!"

"มีอะไรในโลกนี้ที่ข้าไม่รู้?"

ซูหยุนเหลือบมองนางด้วยนัยน์ตาที่น่าสงสัยผ่านรายการไป

หลงเชี่ยนหลี่ คว้ารายการไปสบัดมันเล็กน้อยก่อนที่จะวางไว้ข้างหน้าดวงตาของนาง ไม่นานคิ้วเรียวบางของนางก็ยกขึ้น

หลังจากนั้นไม่นาน หลงเชี่ยนหลี่ ก็เปิดปากของนางและถามอย่างคับข้องใจ "สิ่งเหล่านี้ล่ะ?"

"ส่วนผสม!"

ซูหยุนหัวเราะ: "ข้าตั้งใจที่จะปลูกฝังยาที่ท่านไม่เคยเห็นหรือเคยได้ยินมาก่อน แต่ตอนนี้ข้ายังขาดส่วนผสม ที่ตระกูลซูนี้ไม่มีและต้องออกไปจากเมืองเพื่อซื้อ! "

"แล้วทำไมเจ้าถึงยังยืนอยู่ที่นี่?" หลงเชี่ยนหลี่ ไม่เข้าใจ

"เพราะการบ่มเพาะยาจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวเป็นอย่างมาก  ข้าไม่มีเวลาที่จะออกจากตระกูลซูดังนั้นข้าต้องการให้ท่านช่วยข้า! "

หลังจากได้ยิน ใบหน้าของหลงเชี่ยนหลี่ก็หงุดหงิดขึ้นมา "เจ้ากล้าส่งข้าไปทำธุระได้หรอ?"

ในขณะที่ทั้งซูหยุนกับหลงเชี่ยนหลี่ใช้เวลาสองสามวันที่ผ่านมาในการพูดคุยกันเกี่ยวกับยาและการบ่มเพาะความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามีความเป็นเอกลักษณ์ แต่สิ่งนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร หลงเชี่ยนหลี่ คือผู้อาวุโสที่สามของ สำนักกระบี่เซียน และสถานะของนางก็เป็นที่นับถือ นี่เป็นสิ่งที่ซูหยุนม่สามารถเทียบนางได้

"อะฮ้า! ท่านยังคงรักษาสถานะของท่านให้เป็นผู้อาวุโสที่สามของ สำนักกระบี่เซี ที่นี่? " ซูหยุนถาม

หลงเชี่ยนหลี่ยังคงนิ่งอยู่เงียบ ๆ แต่นางยังคงเก็บอารมณ์ฉุนเฉียวของนางไว้ก่อจะหันหลังโอดครวญอย่างเย็นชาก่อนจะหันจากไป

วันนี้นางออกไปแต่เช้า อาจเป็นเพราะซูหยุนทำให้นางขุ่นใจ แต่มันไม่สนใจเรื่องนี้ มันต้องการทำอะไร มันจะต้องทำมัน

วันอันเงียบสงบเช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ

สองสามวันถัดมา หลงเชี่ยนหลี่ ไม่ได้แวะเวียนมา ทำให้ซูหยุนรู้สึกเหงาเล็กน้อย ซินเยี่ย กับ ซิงหยาง ทั้งคู่ถูกส่งไปประจำตระกูลไม่มีใครว่ามาพูดคุยกับมันได้

แต่ความเงียบนี้ก็พังทลายอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทำให้เกิดความวุ่นวายเดินทางเข้าถึงหูของซูหยุน

ชิงเอ๋อ กับ ไป๋เอี้ยนซาน โต้เถียงกันการออกเดินทางในเดือนเจ็ด

เจ็ดเดือนต่อจากนี้ทวีปทางใต้และภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งหมดจะมีการชุมนุมใหญ่ การชุมนุมครั้งนี้สามปีมีหนึ่งครั้ง นิกายทั้งหมดจะรวมตัวกันเพื่อสร้างการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้

ชิงเอ๋อ ถูกถามอย่างร้อนแรงถกเถียงกับ ไป๋เอี้ยนซาน แต่ถูกปฏิเสธโดยนาง ชิงเอ๋อ ไม่ยอมแพ้ นางขับเคี่ยวผ่านไปทำให้ ไป๋เอี้ยนซาน ยอมอลุ่มอล่วย แต่อนิจจานางถูกผู้นำตระกูลซูหยุดไว้โย ซูลี่หยง ด้วยเหตุนี้ ชิงเอ๋อ จึงถูกกักบริเวณ

ในขณะที่ข่าวแพร่กระจายมา ซูหยุนเกิดความสงสัยขึ้นในใจ ชองเอ๋อ ระวังตัวอยู่เสมอ ครั้งนี้ทำไมนางถึงประมาท? มันกลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น มันจึกไปพบกับผู้นำตระกูลซู

ผู้นำสูงสุดไม่ใช่คนแปลกหน้าของซูหยุน หลังจากติดต่อซินเยี่ยและซิงหยางแล้วทั้งคู่ก็วางแผนว่าจะให้มันค่อยๆเข้าสู่สถานที่

ปรากฏสถานที่ขนาดเล็ก

หญิงสาวสองคนถือกระบี่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูของสถานที่เล็ก ๆ

ในตอนกลางคืน ซูหยุนเหลือบมองคนรับใช้หญิงสองคนที่เฝ้าสถานที่เล็ก ๆ ที่ประตู มันหันซ้ายแลขวาสังเกตุสภาพแวดล้อมรอบตัวมันและสังเกตเห็นการป้องกันสำหรับสถานที่ตั้งขนาดเล็กนี้ไม่เข้มงวดและอื่น ๆมันปีนกำแพงและเดินตรงไป

ชิงเอ๋อมีจิตใจอ่อนโยนและเงียบๆ สำหรับซูหยุนนางจะเชื่อฟันผู้นำสูงสุด ซูลี่หยง ไม่คิดว่านางจะหนีเขาไม่ได้วางยามเข้มงวดนัก

ซูหยุนเข้ามาในสถานที่เล็ก ๆ อย่างระมัดระวังและเดินเข้าไปในบ้าน

ฟึบ!

ประตูเปิดออกเล็กน้อย

ใคร ??

มีเสียงดังออกมาพร้อมกับเสียง วิ้ง ของกระบี่ล้ำค่าถูกชักออกมาจากฝักส่องแสงแพรวพราวในที่มืด

"ชิงเอ๋อ นี่ข้าเอง!"

ซูหยุนเดินตรงไปและกระซิบ

ในบ้านที่มืดมิด ชิงเอ๋อ สวมชุมจอมดาบมือข้างหนึ่งถือกระบี่ล้ำค่า นางตกใจเมื่อเห็นซูหยุนเข้ามา "นาย ... นายน้อยทำไมท่านถึงมาที่นี่?"

"ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้นำกักบริเวณและขังเจ้าไว้ที่นี่พอข้าทราบข่าวข้าก็รีบมา!"

ซูหยุนอธิบาย

ชิงเอ๋อได้ยินคำอธิบายของมันและรู้สึกถึงความอบอุ่นในหัวใจของนาง

นับตั้งแต่เหตุการณ์ที่นายน้อยถูกคนเข้ามาทำร้ายในบ้านตั้งแต่นั้นมาเขาก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว เขาไม่ได้สร้างปัญหาใด ๆ อีกและเขาก็รู้จักเป็นห่วงคนอื่น

นายท่าน นายหญิง ท่านรับรู้รึไม่ท่านเห็นรึไม่?

ชิงเอ๋อ ยิ้มอยู่ในความคิดของนาง "นายน้อย ข้าสบายดี"

เมื่อเห็นหญิงสาวอ่อนโยนปลอดภัยในหัวใจของมันก็โล่งอก

"ชิงเอ๋อ เจ้าไม่เคยวุ่นวายกับใคร ทำไมเจ้าถึงได้บ่มบ่ามแบบนี้ หรือว่าเวลานี้ ไป๋เอี้ยนซาน มาระรานเจ้า? นี่เป็นเพราะอะไร? "

ซูหยุนถาม

ชิงเอ๋อ ถอนหายใจ "นายน้อย ชิงเอ๋อ ถูกบังคับ!"

"ถูกบังคับอะไร? ทำไมเจ้าพูดแบบนั้น?"

"ไป๋เอี้ยนซาน มาที่ ตระกูลซู ในฐานะตัวแทน สำนักกระบี่เซียน โดยมีเจตนาที่จะตรวจสอบ เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง พวกเขาได้ยินมาว่า เทพกระบี่ไร้สรรพสื่ง ช่วยคนของตระกูลซู และคิดว่า เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ตระกูลซู! ดังนั้นมันจึงมีข้อพิพาท แม้ว่า ไป๋เอี้ยนซาน ไม่ได้เปิดปากของ นาง แต่คนของ สำนักกระบี่เซียน ได้สอบถามข้าอย่างไม่ลดละเกี่ยวกับ เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง นอกจากนั้นพวกเขายังคอยสอดแนมข้า ดังนั้นข้าจึงท้าทาย ไป๋เอี้ยนซาน ด้วยความโกรธเคียง ท่านผู้นำเลยจับข้ากักบริเวณไว้ วิธีนี้จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น! "

"นั้นคือทั้งหมดหรอ?"

ชิงเอ๋อ ส่ายหัว "ค่ะ นายน้อย ชิงเอ๋อ ไม่กล้าปิดบังท่าน เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้สงบ แต่ในทางกลับกัน เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง ได้ช่วยชีวิตข้าไว้หนหนึ่ง ชิงเอ๋อ ไม่อยากหักหลังเขา แม้ว่าไป๋เอี้ยนซษนจะยกเลิกงานแต่งของนางกับนายน้อย แต่นั่นสร้างความอัปยศแก่นายน้อย เป็นเรื่องยากที่นายน้อยจะกลับมาที่ตระกูลซู หากนางไม่ตอบรับการต่อสู้มันก็ดี แต่หากนางยอมรับคำเชิญจากข้าแล้ว ชิงเอ๋อ จะทวงความยุติธรรมให้กับนายน้อย

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ซูหยุนก็เต็มไปด้วยความขอบคุณ

การพูดถึงเจตนารมณ์มันไม่สามารถแข่งกับ ชิงเอ๋อ ได้ การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตามนางก็หวังอย่างนั้น

"แต่ ... ไป๋เอี้ยนซาน ปฏิเสธคำเชิญของข้าที่โต้แย้งกัน!" ชิงเอ๋อ ถอนหายใจอีกครั้งและกล่าวว่า "ผู้หญิงคนนี้เย่อหยิ่งและอวดดี นางไม่เคยถามเกี่ยวกับคนที่มีอำนาจต่ำกว่านาง การเผชิญหน้ากับข้าและการโต้งแย้งบางเรื่องนางไม่เคยเข้าใจ ข้ากลัวว่านางจะมองข้าว่าเป็นคนที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะสู้กับนางได้ "

 

ซูหยุนหัวเราะเบา ๆ "อย่าไปสนใจนาง นางจองหองตั้งแต่เกิดแล้ว แต่เจ้าจะต้องยืนด้วยเท้าของเจ้า ที่นี่ยังมี ท่านผู้นำ ใส่ใจกับสิ่งที่ทำทุกวันวางแผนแต่ละขั้นตอนแล้วค่อยลงมือ ระวังตัวเสมอ! "

ชิงเอ๋อได้ยินและรู้สึกตกใจ "นะ ... นายน้อยนี่ไม่ใช่คำพูดของข้าที่บอกท่านเสมอ ... ?"

"อ่ะ ... อ่ะ..ใช่มั้ง? ข้าต้องเคยได้ยินมันมาหลายครั้งแล้ว " ซูหยุนหัวเราะอย่างอายๆ ก่อนหน้านี้ซูหยุนสร้างปัญหาทุกอย่างในบ้านและชิงเอ๋อจะพูดในสิ่งเดียวกันกับเขาเสมอ

ชิงเอ่อ ไม่ได้พูดอะไร แต่นางได้วิเคราะห์ซูหยุน อย่างรอบคอบด้วยดวงตาอันสดใสของนาง หลังจากนั้นเป็นเวลานานนางก็ถอนหายใจ "นายน้อยข้าไม่รุ้ว่าทำไม แต่ชิงเอ่อรู้สึกว่าท่านไม่ใช่นายน้อยที่ข้ารู้จัก ... มีบางอย่าง ... เกิดขึ้นหรอ?"

ซูหยุนรู้สึกประหลาดใจที่ ชิงเอ๋อ รู้สึกได้ยังไง นับตั้งแต่ที่มันตื่นขึ้นมามันไม่เคยกลับไปหาว่ามันเป็นใคร นางรู้สึกได้ยังไง? แต่ถ้ามันอธิบายถึงการกลับชาติมาเกิดและการเดินทางข้ามเวลานางอาจจะไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงและจะสับสนได้ ต้องรอจนกว่านางจะรอดพ้นจาก ตระกูลซู ก่อนที่มันจะบอกทุกสิ่งทุกอย่างกับนาง

"ชิงเอ่อ ข้าจะพูดอะไรบางอย่างที่ข้าจะทำในอนาคต ข้าจะพาเจ้าออกไปจากตระกูลซู! "

ซูหยุนถอนหายใจและกล่าวว่า

"ออกไปจากตระกูลซูหรอ?"

ชิงเอ๋อ ส่ายหัว "นายน้อยทำไมท่านถึงคิดเช่นนี้? ไม่ต้องพูดถึงเหตุผลที่เราจะออกจากตระกูลซู แต่เกี่ยวกับพลังอำนาจที่อยู่ในมือของพวกเขาและอิทธิพลของตระกูลซู นี่เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจินตนาการได้ ถ้าเราออกไปตอนนี้เราจะถูกสังหารและจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตได้ "

ซูหยุนยังคงนิ่งเงียบ แต่เขาก็ยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ "ตราบใดที่เจ้าปลอดภัยแล้วข้าจะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างได้"

ด้วยเหตุนี้ซูหยุนจึงยืนขึ้นและจากสถานที่เล็กๆนี้ไป

เมื่อมองไปที่เงาของนายน้อยที่กำลังออกไป ชิงเอ๋อ รู้สึกหวาดกลัว "มีอะไรผิดปกติกับ นายน้อย?"

.........

เมื่อเขากลับถึงบ้านก็ล่วงเข้ามายามเที่ยงคืน มีบางอย่างที่รบกวนจิตใจของซูหยุนและมันก็ไม่ได้พัก จากนั้นมันก็นั่งลงเพื่อบ่มเพาะ

เป็นไปได้มากที่หลงเชี่ยนหลี่จะไม่แวะเข้ามาในช่วงกลางคืน เพื่อให้เขาสามารถใช้เวลาในการบ่มเพาะ เคล็ดวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่ง นี้

กระบี่บินอย่างรวดเร็วกระแทกกันอย่างสับสนอลหม่านลมปราณแหลมคมเหมือนมีดหั่นทุกอย่างที่มันสัมผัส

ท้องฟ้าเริ่มวาดด้วยสีขาว ซูหยุน ฝีเท้าออกจากหลังเขาอย่างเหนื่อยหอบ

เมื่อเขากลับเข้าไปในกระท่อมเล็ก ๆ เขานั่งลงเพื่อประคบประหงมตัวเอง แต่ในทันทีเสียงดัง ฟิ้ว ร่อนลงมา ตามด้วยของฝีเท้า ตุบๆ ดังมาจากด้านหลังใบหูของมัน

ซูหยุนเปิดตาและมองไปเห็น หลงเชี่ยนหลี่ หายใจแผ่วเบาเหงื่อไหลเล็กน้อยและนางก็ยืนข้างๆมัน

มีกลิ่นหอมไหลเข้ามาเตะจมูกของมัน มันเป็นกลิ่นที่ทำให้หลงไหล

"เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?" เมื่อมองดู หลงเชี่ยนหลี่ ซูหยุน ก็หัวเราะ: "ท่านเทพธิดา การบ่มเพาะของท่านสูงส่ง แต่ท่านดูเหมือนเพิ่งไปฟัดกับใครมายังไงอย่างนั้น ท่านหมดแรงแล้วหรือไง? "

หลงเชี่ยนหลี่ เก็บความเงียบของนางไว้และถอนหายใจเบา ๆ นางเหลือบมองมันและนำเอาส่วนผสมจากแหวนมิติของนางบนนิ้วของนางและวางไว้บนโต๊ะอย่างน่าเบื่อ

ซูหยุนมองและตกตะลึง

แปลไทยโดย : SwordGod

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด