ตอนที่แล้วAST บทที่ 195 - หิมะแรกของปี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 197 – ไม่อาจต่อต้านได้

AST บทที่ 196 – ไม่อาจลืมเจ้าได้ วิทยายุทธ์เลียนแบบสัตว์อสูรเก้าชนิด


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 196 – ไม่อาจลืมเจ้าได้ วิทยายุทธ์เลียนแบบสัตว์อสูรเก้าชนิด

ไม่นานหญิงสาวทั้งก็กลับมา แต่รูปร่างที่คุ้นเคยของอูซวงไม่ก็ไม่ได้ปรากฏออกมา ชิงสุ่ยได้แค่สงสัยและมึนงงเล็กน้อย!

ชิงสุ่ย ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่จิตใจของเขาได้จมดิ่งลึกลงไปในก้นเบื้องของห้วงหัวใจอีกครั้ง เขาได้แค่สงสัยและอยากรู้คำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น

"ผู้พิทักษ์อูซวง กล่าวว่า นางยุ่งเกินกว่าที่จะมาหาผู้อาวุโสชิงสุ่ยได้  และนางกล่าวว่าผู้อาวุโสชิงสุ่ยไม่ต้องมาหานางอีกหลังจากนี้”

ชิงสุ่ยรู้สึกสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก แต่เดิมเขามาจากพื้นที่ชนบท และเขาไม่มีแม้แต่เงินทองหรือพละกำลัง ไร้ซึ้งพรสวรรค์หรือสิ่งที่มีค่าใดที่สามารถแสดงให้ประจักษ์ได้ เขาจึงรู้สึกด้อยค่าตลอดเวลา และไม่หารกล้าในการแข่งขันกับผู้อื่น เขาไม่กล้าคิดที่ครอบครองหญิงสาวที่สูงส่ง และเลอค่า ชิงสุ่ยได้หลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านั้นมาโดยตลอด และเขาไม่รู้วิธีที่จะดึงดูดพวกเธอให้อยู่กับเขาเพราะเขารู้สึกว่าความรักมิอาจฝืนใจใครได้

ก่อนเขาชีวิตจะเปลี่ยนไป เขาเป็นคนไร้ค้า เขาใจเสาะและรู้สึกด้อยค่า ก่อนจะมาเป็นเขาในทุกวันนี้ แม้ตอนนี้เขายังขาดความมั่นใจในเรื่องอิสตรี แต่เขาก็ได้เคารพตัวเองมากขึ้น

เขาไม่มีความเข้าใจในเรื่องอิสตรี ถึงจะมีคนบอกว่าเขาเป็นผู้เชียวชาญก็ตาม แม้ความแข็งแกร่งของชิงสุ่ยยากที่จะหาผู้ใดเทียบได้ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็มักที่จะหันหลังให้กับการต่อสู้ และจะไม่ใช้กำลังในการฝืนใจผู้ใด เขาเชื่อว่ารักนั้นเกิดขึ้นมาจากความรู้สึกในจิตใจ และปล่อยจิตใจทำหน้าที่ของมัน เช่นเดียวที่เขาปฏิบัติกับ เก้อโหล่ว และฉิงจวง

เมื่อมีบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นคนๆนั้นอาจส่งผลต่อความคิดและการตัดสินใจของอีกคน ชิงสุ่ยกำลังคิดว่าเป็นไปได้ว่าอูซวง ได้มีใจให้กับคนอื่น จากการเดินทางมานิกายกระบี่นภา ที่นี้มีแต่ผู้ชายที่อยู่ขั้นปราณเทวะเทียนเซียนจำนวนมาก ซึ่งเป็นคนที่โด่งดัง หล่อเหลา และความเก่งกาจ

คนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง จะเป็นคนอ่อนแอมากในเรื่องของความรักอย่างชิงสุ่ยได้ตั้งคำถามขึ้นในใจเขา เขายืนอยู่ที่นั่นด้วยความสับสน คนในที่นั้นไม่กล้าที่จะทักเขาและมองชิงสุ่ยเหมือนไม่มีตัวตนอยู่

หลังจากนั้นเขายืนอยู่เป็นเวลานาน คำถามมากมายในปรากฏขึ้นในใจเขา เขาคิดว่าทำไมเธอถึงไม่บอกเขาอย่างตรงไปตรงมา ? หรือเธอไม่ได้ต้องการที่จะเห็นเขา มันมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร ? ถ้าเธอพบคนอื่นที่เธอชอบ เธอก็แค่บอกเขา เขาเพียงแค่หยอกล้อ และจะแกล้งเธอครั้งสุดท้ายเท่านั้น

เขาได้หัวเราะกับตัวเอง จากนั้นเขาหันหลังกลับ พร้อมที่จะลบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธออกไปเขาออกมาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับไป ขณะนี้เขารู้สึกแพ้อย่างสิ้นเชิง

"นางลืมข้าแล้วใช่หรือไม่ ? ข้ารับมันไม่ได้ " ชิงสุ่ยยื่นอยุ่อย่างนิ่งๆ ก่อนที่เขาจะกลับออกไป จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยข้างหน้าเขา

ชิงสุ่ยยกหัวของเขาขึ้นอย่างมีความสุข และเห็น อูซวง มองมาที่เขาอย่างขมขื่น เขาเดินไปหาเธอและกอดเธอไว้แน่น ราวกับว่าเธอเป็นคนที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเขา ราวกับว่าเขากลัวเธออาจจะหายตัวไปอีกครั้ง

"เมื่อวานข้าพยายามอย่างดีที่สุดที่จะลืมเจ้าทั้งคืน แต่ข้าไม่สามารถทำมันได้  " อูซวงกอดที่คอของชิงสุ่ยและพูดอย่างเบาๆ

ในตอนนี้ด้วยความสุขชิงสุ่ยไม่สามารถกล่าวอะไรออกไป เขารู้สึกเหมือนได้รับสิ่งที่มีค่าที่เคยสูญเสียไปกลับมา เขากอดเธอไว้แน่น ราวกับว่าเขาต้องการที่จะให้เธอมาสิ่งอยู่บนกายเขา เขาไม่ได้มีความคิดที่สกปรกแต่อย่างใดในตอนนี้

"ชิงสุ่ย เจ้ากำลังรั้งข้าไว้อยู่นะ”เหวินเหริน อูซวง กล่าวอย่างโมโหที่หูของชิงซุ่ย

ชิงสุ่ยคลายกอดลง และจดจ่ออยู่กับใบหน้าที่มีความโดดเด่น “เมื่อข้าเหนื่อยข้าจะปล่อยเจ้าไป ไม่สำคัญว่าข้าจะทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหน ข้าจะเคารพทุกสิ่งทุกการตัดสินใจของเจ้า ข้าต้องการเจ้าในชีวิตของข้า แม้ว่าเจ้าจะไม่ชอบข้า ข้าก็ไม่อยากปล่อยให้เจ้าไป แต่ข้าก็ไม่อยากเห็นเจ้าไม่มีความสุขเช่นกัน”

เธอกอดคอของชิงซุ่ยไว้และฟังสิ่งที่ชิงสุ่ยกล่าวออกมา ความโกรธของเธอได้จางหายไปช้าๆ เธอแหงนหน้าขึ้น เพื่อมองดวงตาที่จริงจังของเขา

“ชิงสุ่ย!”

ชิงสุ่ยตกใจ และมองไปยังใบหน้าอูซงวงมันช่างสวยงามมาก มันช่างเย้ายวน เขาดึงสติตัวเองกลับมา

"ข้าอยากจะจูบเจ้า"

ชิงสุ่ยมองไปที่ความงามบนใบหน้า ดวงตาของเขากำลังหลงใหลอย่างไม่มีที่สินสุด หูของเขาดับสนิท เขาจำได้ว่าเขาพลาดให้โอกาสที่จะจูบสือฉิงจวงเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้

ชิงสุ่ยก้มหัวของเขาลงไป บรรจงจูบอย่างริมฝีปากอย่างเร่าร้อน เขารู้สึกถึงความหวานและความละมุน เขาได้ลิ้มรสริมฝีปากอันอ่อนโยน และอวบอิ่มไว้ในปากของเธอและดูดมันอย่างเบา ๆ

อูซวง รู้แค่เพียงว่าต้องกอดคอของชิงซุ่ยไว้อย่างแน่นเท่านั้น หน้าอันงดงามของเธอกลายเป็นสีแดงเข้มและเธอยังคงปิดปากไว้แน่นจนชิงสุ่ยไม่สามารถจูบผ่านฟันของเธอเข้าไปได้ ความรู้สึกนี้ยังคงเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาชื่นชมใบหน้าที่น่าหลงใหลและแดงกล่ำขณะที่เขามองผิวสวยอย่างใกล้ชิด เธอมีความงามที่สามารถสามารถทำให้เมืองล่มสลายได้

เขาได้จูบลงบนแก้มหน้าผาก และจมูกที่โด่งและสวยงาม มือหนึ่งของเขาก็เลื้อยขึ้นไป และคว้าเอาสิ่งที่กลมๆแสนทะลึ่ง และบั้นท้ายที่เด้งของเธอ

“อ๊า !”

แผนชั่วร้ายของ ชิงซุ่ยได้ผลและเขาก็จูบริมฝีปากที่แสนหวานนั้นอีกครั้ง ลิ้นของเขาห่อหุ้มด้วยลิ้นของอูซวง เขาดูดน้ำในปากของเธอ แต่เขามีโอกาสที่จะทำมันแค่ชั่วคราวเท่านั้น ร่างกายของอูซวงได้สั่นขึ้น และ ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงคลื่นแห่งความเจ็บปวดบนลิ้นของเขา

"ข้ารู้สึกตกใจที่เจ้าสัมผัส ...ของข้า ข้าตื่นตระหนกเกินไป"อูซวงกล่าวด้วยความรู้สึกผิดและมองไปที่ ชิงสุ่ยผู้ซึ่งยิ้มอย่างขมขื่นและมีเลือดอยู่ที่มุมปาก

"นี้ใช่ครั้งแรกที่ข้าไม่ได้เลือดออก" ชิงสุ่ยฝืนยิ้ม และเช็ดเลือดที่ปากของเขาออก

เห็นได้ชัดว่าอูซวงอาศัยอยู่ที่หอนางโลมเป็นเวลานาน ดังนั้นเธอจึงรู้จักสิ่งต่างๆเหล่านี้ดี เมื่อเธอได้ยิน ชิงซุ่ยหยอกล้อเธอ เธอได้แต่กล่าวว่า "ข้าไม่ได้กัดเจ้าไม่หนักพอหรือ? เห็นเจ้ายังสามารถพูดต่อไปได้อย่างไม่สะทกสะท้าน "

ชิงสุ่ยมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น และกอดอีกครั้งบรรจงจูบริมฝีปากที่สวยงามของเธอ เธอร้องไห้ออกมาเล็กน้อย แต่คราวนี้มันง่ายกว่าที่จะเอาลิ้นเข้าไปในปากของเธอ และเขาได้ดูดลิ้นเล็กๆของเธอไว้ในปากของเขา จากนั้นด้วยความหวาดกลัวเขาได้ถอนลิ้นออก แต่ชิงสุ่ยยังไม่ได้ยอมแพ้ ชิงสุ่ยยื่นลิ้นเข้าไปในปากเธออีกครั้ง เพื่อดูดลิ้นของเธอ เขาได้หลบและดูดสลับไปมาอีกหลายครั้ง

"ถ้าข้าไม่ได้มาที่นี่ เจ้าจะทิ้งให้ข้าไปแบบนี้ใช่ไหม และไม่เคยพยายามตามหาข้าอีกใช่มั้ย" อูซวงจับลงบนมือของชิงซุ่ยและเดินช้าๆท่ามกลางหิมะ

"ข้าไม่รู้ ข้าคิดแค่ว่าจะรีบวิ่งเข้าไปในหุบเขาจรู้ชิงเพื่อจะได้เห็นเจ้าเมื่อครู่นี้ และข้าก็คิดว่าเจ้าเจอคนอื่นที่ดีกว่าข้า และข้ารู้สึกว่าข้าไม่สามารถรั้งตัวเจ้าได้ " ชิงสุ่ยกล่าว และปฏิบัติต่อเธอดั่งเจ้าหญิงทำให้เธอรู้สึกวิเศษ อย่างไรก็ตามเธอได้ผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดของชิงสุ่ย

"หลังจากที่เจ้าทำกับข้าเช่นนี้ ข้าจะมีทางเลือกอื่นอีกหรือ ? แม้ว่าข้าจะไม่เลือกเจ้า ข้าก็จะไม่เลือกใครเช่นกัน ก่อนหน้านี้ข้ารู้สึกว่าเจ้าอยู่ในกำมือ ภายในอำนาจของข้า อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ข้ายังเห็นเจ้าเป็นแค่เด็กอยู่ ต่อมาข้าพบว่าเจ้าเติบโตขึ้นและเป็นผู้ใหญ่มากพอ ข้ามีความสุขจริงๆ แต่จำนวนผู้หญิงของเจ้าก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน " อูซวง กล่าว

"บางครั้งสิ่งเหล่านี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของข้า มนุษย์ต้องปรับตัวไม่ตามสถานการณ์ อูซวงข้าจริงจังกับเจ้า แต่ข้าก็ไม่สามารถทิ้งคนอื่นได้ ข้าขอให้เจ้าเป็นคนสุดท้าย ข้ารู้ว่าข้าโลภมาก" ชิงซุ่ยกล่าวอย่างไร้ประโยชน์ เขาไม่ต้องการที่จะยอมแพ้กับเรื่อง    ฉิงจวง เก้อโหลว หรือ อูซวง

"เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ไม่นั้นเจ้าจะเสียใจในภายหลง ผู้ชายที่มีความสามารถจะไม่มีทางขาดผู้หญิง เจ้าจะมีผู้หญิงมากมายในอนาคต เจ้าไม่เสียใจหรอ " อูซวงพูดอย่างพิกล

ชิงซุ่ยส่ายหัว "มีเพียงผู้หญิงโง่อย่างเจ้าเท่านั้นที่จะตกหลุมรักข้า"

ในวันแรกของเทศกาลปีใหม่ ชิงซุ่ยใช้เวลากับอูซวงได้กำลังเดินชมวิวในบริเวณภูเขา ในช่วงเวลานั้น ชิงซุ่ยได้จูบไปที่อูซวง เป็นสิบๆครั้งทำให้เธอรู้สึกเขินอาย

เมื่อชิงซุ่ยรู้เกี่ยวกับความรู้สึกของอูซวงความสัมพันธ์ของพวกเขาก็มั่นคงยิ่งขึ้น มือของเขายังได้รับประโยชน์มากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเอวและก้นที่โค้งสวยงามของเธอ แต่เธอปล่อยให้มือของชิงซุ่ยทำมันอย่างง่ายดาย

"เจ้ายังคงจะสัมผัสมันอีกหรือ ?" อูซวงมองไปที่มือที่กำลังลูบก้นของนาง

เมื่อเขากลับมายังหุบเขาหมอกเมฆ เวลาหนึ่งวันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขารีบกินทานอาหารกับอีเย่ เจี้ยนเก้อ และเด็กหญิงตัวน้อย ๆ ชิงซุ่ยกลับมาที่ห้องของเขาและเดินไปสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะ ชิงสุ่ยผู้ซึ่งประสบความสำเร็จในทักษะกวางย่างก้าว และ รูปแบบพยัคฆ์  และตอนนี้เขาพร้อมที่จะเรียนรู้รูปแบบหมีจากทักษะเลียนแบบสัตว์อสูรเก้าชนิดแล้ว!

รูปแบบหมีเป็นรูปแบบที่ทรงพลัง และมั่นคง มีการใช้พลังเป็นสิ่งสำคัญ มันช่างทักษะที่เฉียบขาด แต่เป็นทักษะที่ใช้พละกำลังเพื่อชัยชนะ ท่าตบแบบหมี, การเคลื่อนไหวแบบหมี, ความรวดเร็วแบบหมี และ ท่าทุ่มแบบหมี!

ในทำนองเดียวกันรูปแบบหมีมีรูปแบบมีวิธีที่ไม่ซ้ำกันของตัวมันเอง ทักษะไหวเวียนของพลังปราณเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ชิงซุ่ยประหลาดใจ ทักษะไหวเวียนของพลังปราณนั้น มันมีความแข็งแกร่งอย่างมาก การเข้าถึงความสำเร็จขั้นแรก อาจช่วยเพิ่มพลังให้กับหนึ่งพันจินที สามพันจินสำหรับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และหมื่นจินสำหรับความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม ชิงสุ่ยรู้ว่ามันยากที่จะทำให้มันอยู่ในระดับเดียวกับ รูปแบบพยัคฆ์และทักษะกวางย่างก้าว

 

รูปแบบหมี เป็นรูปแบบดูเหมือนเงอะงะ แต่ทรงพลัง มันดูแข็งแรงและดุร้าย นี่เป็นเพราะทักษะไหวเวียนของพลังปราณ และผลของทักษะนี้จะสัมพันธ์กับการคลื่นไหวพื้นฐาน เช่น ท่าตบแบบหมี, การเคลื่อนไหวแบบหมี, ความรวดเร็วแบบหมี และ ท่าทุ่มแบบหมี! ทักษะเหล่านั้นบวกกับการเคลื่อนไหวของพลังปราณทำให้ผู้ฝึกเข้าถึงแก่นสำคัญของรูปแบบหมีได้

ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวของทักษะนี้คือมีความเร็วที่ต่ำ เนื่องจากจุดประสงค์เพื่อสะสมพละกำลังและความมั่นคง รูปแบบนี้เทียบได้เหมือนกัยภูเขาที่ตั้งอยู่อย่างมันคง

หากเขาสามารถเข้าถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของรูปแบบหมี ด้วยความยอดเยี่ยมของรูปแบบหมีรวมถึงทักษะต่างๆจะทำให้ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และถ้าเขาใช้เคล็ดเสริมกายาบรรพกาลควบคู่ไปด้วย จะทำให้เขาสามารถชนะได้แม้ว่าเขาจะต่อสู้กับคนอื่นจะแข็งแกร่งกว่าเขา ทักษะเหล่านี้สามารถผสมผสานกับปราณเทวะเทียนเซียนของเขาได้เป็นอย่างดี

ทุกอย่างเริ่มยากเมื่อเขาพยายามที่ใช้การไหวเวียนของพลังปราณของรูปแบบหมี มันยากที่จะเข้าใจและแปลกมากๆ ที่ชิงสุ่ยพบว่ารูปแบบหมีนั้นยากกว่า ทักษะกวางย่างก้าวหรือรูปแบบพยัคฆ์เสียอีก

ชิงสุ่ยสันนิษฐานว่าในอนาคต จะมีทักษะที่ยากยิ่งกว่าหรับรูปแบบอื่นๆของทักษะเลียนแบบสัตว์อสูรเก้าชนิด โดยความสามารถของทักษะการเลียนแบบสัตว์เก้าชนิดนี้ได้ทำให้เขาเกิดความประทับใจอย่างมาก ชิงสุ่ยรู้สึกดีใจที่ได้สัมผัสกับความสามารถที่น่าเกรงขามของทักษะอื่น ด้วยมันทำให้เขาสามารถใช้ทักษะการต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เขาพยายามฝึกมันอีกครั้ง และอีกครั้ง เขาค่อยๆเริ่มย้ายพลังปราณลงไปในส่วนต่างๆของร่างกายของเขา การหมุนวนของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาล ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสัญชาตญาณในร่างกายของเขาไปแล้ว มันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทักษะอื่นๆ มันจะเปรียบเหมือนอาวุธประจำกายของเขา

เขาฝึกซ้อมปราณเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยความช่วยเหลือของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาล ชิงสุ่ยสามารถปรับสภาพของร่างกายให้ทำงานน้อยลงเพื่อรักษาสุขภาพไว้ อย่างไรก็ตามหลังจากสิบวันความก้าวหน้าของเขาเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เขายังแทบจะไม่สามารถใช้เทคนิคนี้ไหลผ่านพลังปรานผ่านร่างกายได้ ชิงสุ่ยรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากำลังแบกรับน้ำหนักมากกว่าหมื่นจิน  ราวกับมันได้ออกมาจากร่างกายทุกส่วนของตัวเองทำให้เขารู้สึกดีมาก ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ชิงสุ่ยรู้ว่าตอนนี้เขาประสบความสำเร็จในขั้นตอนแรกของของรูปแบบหมี  ชิงสุ่ยมีความสุขมาก รูปแบบหมี มันเป็นทักษะที่เรียบง่ายอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถเรียนรู้ทักษะสังหารที่แข็งแกร่งจนมาถึงความสำเร็จขั้นแรก

ชิงสุ่ยได้พยายามสริมทักษะพยัคฆ์คำรามลงไป ในแบบรูปแบบหมี หรือใช้รูปแบบพยัคฆ์ ในขณะที่ใช้รูปแบบหมี แต่มันกับไม่ประสบความสำเร็จสักครั้ง อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยเชื่อว่าเขาสามารถรวมทั้งสองได้ในอนาคต เป็นเช่นนั้นจนกระทั่งชิงสุ่ยได้ออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ

ในวันที่สองของปีใหม่ที่นิกายกระบี่นภา อากาศได้หนาวเย็นกว่าวันก่อนๆ หิมะเริ่มตกอีกครั้งหลังจากที่มันหยุดไปเมื่อวานนี้ เกล็ดหิมะมีขนาดที่ใหญ่และสวยงาม

ชิงสุ่ยใช้รูปแบบหมีที่แสนงุ่มง่ามอยู่กลางหิมะ แต่มันก็ดีกว่าก่อนหน้านี้ที่เขาเริ่มฝึกแรกๆ ชิงสุ่ยแอบแสดงความยินดีกับตัวเอง !

"ฮ่า ฮ่า ท่านแม่ดูท่านพ่อซิ ! เขาดูคล้ายหมีดำเลย "

เสียงหัวเราะและการพูดคุยของ อีเย่ เจี้ยนเก้อ มากกว่าปกติ ชิงสุ่ยมองไปที่ทั้งสองเทพธิดาที่สวยงามและชีวิตชีวา

"หลวน หลวน ในตอนนี้เจ้าจำเป็นต้องเรียนรู้ทักษะหมีดำนี้" ชิงซุ่ยหัวเราะและยกเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ไว้ในอ้อมแขนของเขา

"ข้าไม่อยากเรียนไม่อยากเรียน! มันน่าเกลียดมาก! " หลวน หลวน ส่ายหัวและตะโกนว่าเธอจะไม่เรียนรู้มัน!

ชิงสุ่ยไม่กลัวว่าเด็กหญิงจะไม่ได้เรียนรู้ทักษะนี้ของเขา เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยๆคนนี้ได้ฝึกฝนรูปแบบหมี เธอจะไม่รู้ว่าท่าทางที่แสดงออกมาเป็นแบบไหน คนที่อยู่ข้างๆเธอเท่านั้นที่จะได้เห็นได้มัน

"ได้ๆ พวกเราจะไม่เรียนมัน! พวกเราจะไม่เรียน !" ชิงสุ่ยจูบแก้มที่สวยงามเหมือนแอปเปิ้ลของเด็กน้อย !

เมื่อ หลวนหลวนได้ยินว่าเธอไม่จำเป็นต้องเรียนมันนี้ เธอก็เริ่มยิ้มอย่างมีความสุขและแทะเล็บของชิงสุ่ยทันที การหัวเราะของเธอทำให้ อีเย่ เจี้ยนเก้อไม่สามารถระงับเสียงหัวเราะของดธอได้

"เทพธิดา ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ มันจะดีถ้าเจ้าจะเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างจากข้า ? " ชิงสุ่ยถูจมูกของเขาและพูดอย่างอายๆ

จากคำพูดของชิงสุ่ยทำให้ อีเย่ เจี้ยนเก้อประหลาดใจ จากนั้นนางก็ยิ้มและพูดว่า "แน่นอนเจ้าไม่สามารถเก็บความลับไว้กับตัวเจ้าเองได้หรอก !"

"ทำไมข้าถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ? สำหรับท่าน ข้าสามารถจะให้ได้ทุกๆอย่างแม้มากกว่าที่ข้ามีเลย" ชิงซุ่ยหัวเราะเบา ๆ

เมื่ออีเย่ เจี้ยนเก้อได้ยินคำพูดของชิงสุ่ย รอยยิ้มของเธอปรากฏขึ้นมาชัดขึ้น แต่เธอรู้สึกมีความสุขภายในใจของเธอ

0 0 โหวต
Article Rating
9 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด