ตอนที่แล้วChapter 25 Proposition (Part 1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 27 The Korean Arena Research Center (1) ฟรี 01-09-2017

Chapter 26 Proposition (Part 2)


Chapter 26 Proposition (Part 2)

ความแข็งแกร่งของจุนชอยไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงผมก็เหมือนกัน ถ้ามันเป็นแบบนั้นผมสามารถใช้ซิลและทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่

ถ้าเธอเป็นมันสมองของศูนย์กลางการวิจัย เธอจะไม่ทำอันตรายเช่นนี้.

-เราพบตัวตนของคุณและเรียกคุณออกจากสีฟ้าดังนั้นฉันจึงเข้าใจคุณ โปรดมั่นใจว่าสิ่งที่เราพูดจะไม่ทำให้เสียเปรียบ

“ผมเข้าใจ งั้นเราจะไปเจอกันที่สถานีชอยนัน.”

หลังจากที่เรากินอย่างรีบเร่งเราก็ไปร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ที่สุด.

จุนชอยนั่งอยู่ที่ขอบหน้าต่างและมองออกไป.

ผมนั่งลงที่โต๊ะใกล้ๆดื่มอเมริกาโน่เย็นๆและรอจีเฮ

ผมสงสัยว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน

[ฉันมาถึงสถานีชอยนั้น.]

ข้อความจากจีเฮ ผมใช้แอปฯแผนที่เพื่อบอกตำแหน่งของผมให้เธอ

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีหญิงสาวที่สวมใส่ชุดสูทสีดำอย่างเป็นทางการเดินเข้ามาในร้านกาแฟ.

‘ว้าว.’

ผมไม่ค่อยคุ้นเคยนัก ผมทึ่งกับมันมาก

เธอเป็นหญิงสาวที่สวยและมีผมสั้นซึ่งเหมาะกับสูทที่เป็นทางการมาก ขาที่ยาวของเธอและพร้อมกัยกางเกงขายาวสีขาว มันทำให้ผมนึกถึงกวาง

ทันทีที่เธอเข้ามาที่ร้านกาแฟ เธอเดินเข้ามาหาผมทันที มันเป็นการเดินที่แข็งแรงต่างจากหญิงสาวคนอื่น การเดินของเธอเหมือนับสวมรองเท้าบู๊ตที่มีระเบียบวินัยเป็นอย่างมาก.

“ยินดีที่ได้พบคุณ มิสเตอร์คิมฮยอนโฮ.”

“ครับ.”

จีเฮนั่งตรงข้ามผม

ผมจ้องและถามเธอ

“คุณเป็นทหาร?”

“คุณรู้ได้อย่างไร?”

ตาของเธอเบิกกว้างและมองไปรอบๆ

การแสดงออกของเธอเย็นชา แต่การแปลกใจของเธอช่างน่ารักจริงๆ

“หากว่าพูดไม่ผิด ท่าเดินของคุณแข็งแรงและผมของคุณสั้น มันทำให้ผมนึกถึงทหาร.”

และเธอก็กัดริมฝีปากของเธอเล็กน้อยและพึมพำเบาๆ.

“ฉันยังดูเหมือนทหาร…”

“อะไรหรอ?”

“ไม่มีอะไร อย่างไรก็ตามฉันจะไปซื้ออะไรสักอย่างและกลับมา.”

เธอรีบเดินไปที่เค้าเตอร์และสั่งซื้อกับพนักงานหญิง.

“คาราเมลมาชิโต้หนึ่ง มินต์ช๊อคโกแลตหนึ่งและวาฟเฟิลสตอร์เบอร์รี่หนึ่งเซ็ท.”

ขณะเดียวกันผมเกือบจะหัวเราะ

เธอมีบรรยากาศของทหาร แต่สั่งซื้อของหวานทั้งหมดและมันก็น่ารัก เธอพยายามหันเหความสนใจของผมโดยการทำให้ผมหัวเราะ?

ผมเหลือบไปมองที่จุนชอย เขาพยักหน้าลงเล็กน้อยนั่นแปลว่าไม่มีคนอื่น.

หลังจากเธอสั่งของเสร็จแล้วเธอก็กลับมาที่โต๊ะทันทีและเริ่มพูด.

“ฉันขอแนะนำตัวเองก่อน ฉันคือ ชาจีเฮ แห่งศูนย์วิจัยกลางอารีน่าเกาหลี ฉันมาจากกองทัพ,หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ และศูนย์วิจัยกลาง อารีน่าเกาหลี”

เธอไม่ผู้หญิงธรรมดา

“เมื่อคุณพูดว่า วิจัย มันเป็นงานประเภทไหน?”

“เราวิจัยและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดในโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับอารีน่าและการสอบ สำหรับฉัน ฉันรับผิดชอบการต่อสู้และเอาตัวรอด และฉันกำลังมองหาคนที่ได้รับการสอบและยอมเข้าร่วม แต่…”

จีเฮมองไปด้านข้างของเธอและพูด

“คนที่อยู่ข้างหน้าต่างเป็นผู้เข้าสอบทีมเดียวกับคุณ?”

“…!”

“ฉันรู้ก่อนที่ฉันจะเข้ามาในร้านกาแฟ คุณได้ตรวจสอบแล้วว่าฉันมาคนเดียวหรือไม่ เขาจะไม่เข้าร่วมพูดคุยกับเราหรอ?”

“… ผมคิดว่า.”

ตาที่แหลมคมและฉลาด.

ในที่สุดผมก็เรียกจุนชอย มาที่โต๊ะของเรา.

จีเฮถามจุนชอย

“คุณชื่ออะไร?”

“ผมจะไม่พูด.”

จุนชอยปฎิเสธที่จะเผยตัว

ในขณะที่เขาทำแบบนั้นตาของจีเฮก็เป็นประกาย

“จาการออกเสียงของคุณ หมายความว่าคุณเป็นคนจีน”

“…”

“นอกเหนือจากความสูง185ซม. ร่างกายของคุณก็กระชับและเป็นเพราะร่างกายของคุณอาจจะได้รับสกิลในการเพิ่มความสามารถทางกายภาพมา แต่ฉันคิดว่าคุณอาจจะคุ้นเคยกับศิลปะการต่อสู้แบบพิเศษ และจากที่คาดเดาได้จากความระมัดระวังตัวอย่างสุดขีดนั่นฉันสามารถที่จะหาตัวตนของคุณผ่านฐานข้อมูลตำรวจได้ในวันนี้ ฉันพูดผิดไหม?”

‘จิ๊!’

ผมประหลาดใจ ผิดตูดผมนี่ เธอเกือบจะได้มันทั้งหมด.

จุนชอยขบกรามแน่น

“คุณต้องไม่คิดว่าผมสามารถหักคอคุณได้.”

“คุณคิดจริงๆว่าฉันมาคนเดียว?”

“อะไร?”

แม้แต่จุนชอยที่ยอดเยี่ยมยังทำใบหน้าประหลาดใจ.

จากนั้นสายตาของจุนชอยก็หนาวเย็นขึ้นและทั้งสองก็ถูกจ้องมองราวกับคนตาย(ตาไม่กระพริบ/ไรต์)

จากนั้น.

“คาราเมลมัตชิโต้, มิ้นต์ช๊อคโกแลต, และตอร์เบอร์รี่เซ็ทได้แล้ว.”

“ขอโทษนะ.”

จีเฮตื่นตัวและทำท่าทีลนลาน

ทันใดนั้นบรรยากาศที่ตรึงเครียดก็หายไปทันใด

บางทีอาจจะเป็นเพราะขนมหวานมากมายเหล่านี้เลยทำให้อารมณ์ของเธอเบาบางลง.

เธอเริ่มที่จะหั่นวาฟเฟิลและพูดคุย

“ความจริงแล้วฉันมาคนเดียว”

“…”

ใบหน้าของจุนชอยว่างเปล่า ผมมั่นใจว่าผมก็เป็นเหมือนเขา

เธอดูมีความสุขหลังได้กินวาฟเฟิลเหมือนกับผู้หญิงปกติ แต่ไม่แม้แต่กระพริบตาจากการข่มขู่ของจุนชอย เธอเป็นทหารและหน่วยสืบราชการลับระดับชาติและจีเฮเธอยังเป็นผู้หญิงไม่ธรรมดา.

“ฉันไม่ชอบความตึงเครียดและการระมัดระวังแบบนี้ เราอยากให้ผู้เข้าสอบรอด.”

หืมม ผมไม่เข้าใจคำพูดเหล่านี้

แน่นอนว่าเธอไม่ได้เข้ามามีเจตนาร้าย แต่ผมแน่ใจว่าพวกเขาจะไม่สุ่มสี่สุ่มห้าให้ความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว.

หลังจากที่ผมคิดเสร็จแล้วผมก็ถามเธอ

“ขณะที่ผมกำลังรอ ผมได้ออนไลน์เข้าไป และโพสต์ทั้งหมดถูกลบแล้ว”

“ใช่เพื่อป้องกันการตื่นตระหนกของผู้คนเรากำลังทำการตรวจสอบของอารีน่าอย่างลับๆ.”

“หมดแล้วหรือยัง?”

“คุณหมายความว่าไง?”

“มันไม่ได้ใช้เวลาแค่ครึ่งวันสำหรับคุณที่จะหาผม ลบโพสต์ทั้งหมดของผม และมาหาผมอย่างเร่งด่วน ดูเหมือนว่าการวิจัยของเกาหลีจะก้าวหน้าเป็นอย่างมาก.”

“…”

“นี่เป็นสิ่งที่ผมคิด มีศูนย์วิจัยที่อื่นที่ไม่ใช่แค่เหาหลีเท่านั้น? ผมไม่รู้เหตุผลว่าทำไม แต่พวกเขาก็กำลังพยายามโน้มน้าวผู้เข้าสอบคนอื่นเหมือนกัน ผมเดาว่ามันอาจจะได้รับผลประโยชน์ที่จะได้รับจากผู้เข้าสอบหรือไม่ทั้งหมดนี่ผมก็ผิดเอง?”

“ว้าว คุณน่าเหลือเชื่อ.”

การแสดงความเย็นชาของจีเฮทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย.

“ศูนย์วิจัยของทุกประเทศกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อค้นหาผู้เข้าสอบอื่นๆ นั่นเป็นเหตุให้เราต้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มิสเตอร์คิมฮยอนโฮ คงไม่บังเอิญหรอกนะว่าคุณเป็นผู้นำทีม?”

“ใช่.”

“แน่นอน.”

เธอพยักหน้าและพูดต่อ.

“ตามที่คุณคาดมีประโยชน์ที่ได้รับจากผู้เข้าสอบ นั่นคือเหตุผลที่เราสนับสนุนอย่างสูงกับผู้เข้าสอบให้การอยู่รอดของผู้สอบ แต่เราก็ได้รับประโยชน์ที่ผู้เข้าสอบนำมาให้เรา ในหมู่ของการสนับสนุนของเรามีรางวัลเกี่ยวกับเงินด้วย.”

“และสิ่งที่เป็นประโยชน์?”

“เราเรียกมันว่าเมไจ(majeong).”

“เมไจ?”

“ทุกอย่างที่มีชีวิตและทุกสิ่งที่เคลือนไหวในอารีน่าจะอยู่ภายในร่างกายของคุณ มันเหมือนกับความเหนียวแน่นของพลังงานที่จะใช้ความสามารถของร่างกายอย่างถึงที่สุด มันถูกเปิดเผยผ่านอเมริกา.”

“และดังนั้นจึงใช้ความสามารถของผู้เข้าสอบ…”

“ใช่.”

“คุณให้การสนับสนุนและคุณยังมอบโอกาศให้ผู้เข้าสอบรอด?”

“ตัวอย่างเช่น เรามีนี้.”

จีเฮเลิกแขนเสื้อขึ้นและด้านในมันเป็นเครื่องแต่งกายที่มีสีเหมือนกับถ่านและมันคล้ายกับเวสสูท(เหมือนกับชุดดำน้ำ/ไรต์).

“มันเป็นชุดรบที่ศูนย์วิจัยของเราคิดค้นขึ้น หากไม่มีอะไรที่แข็งแกร่งบางอย่างเช่นมีดก็ไม่สามารถที่จะเจาะมันทะลุได้และยังให้ความอบอุ่นที่อย่างมากเหมาะกับการตั้งแคมป์ เนื่องจากผู้เข้าสอบสามารถเอาเข้าไปได้กับรองเท้าและเสื้อผ้า เราจึงเน้นไปที่สองอย่างนั้น.”

“อ่า…”

“ไม่เพียงแค่นั้นเรากำลังรวบรวมและวิจัยข้อมูลเกี่ยวกับอารีน่า เราได้ทำแผนที่ทั้งหมดเกี่ยวกับอารีน่าและรวมไปถึงพืชพรรณ์ต่างๆ สัตว์ท้องถิ่น รวมถึงมอนเตอร์แต่ละแห่ง”

“มันไม่ใช่คำพูดเปล่าๆ เมื่อคุณพูดว่าคุณสนับสนุน.”

“แน่นอนว่าความสำคัญของเราคือการอยู่รอดของผู้เข้าสอบและเพือนของคุณ?”

“ผมคือคังจุนชอย.”

“มิสเตอร์คังจุนชอย ตราบเท่าที่คุณไม่ได้เป็นอาชญากรที่ร้ายแรง เราสามารถมอบตัวตนใหม่พร้อมกับสัญชาติเกาหลี มันยังรวมไปถึงหนทางคุณสามารถเข้าไปใช้ชีวิตใหม่ในบ้านด้วย.”

“หืม.”

มันเป็นข้อตกลงที่หอมหวานจุนชอยพูดขึ้น

“ในฐานะที่คุณเป็นเมไจ ที่คุณจะต้องเข้าไปสอบ คุณสามารถเพิ่มรางวัลของคุณไประดับท๊อปได้ ขึ้นอยู่กับทักษะต่างๆของคุณคุณจะได้รับเงินเดือน คุณคิดว่าดีไหม? คุณคงยังไม่หายสงสัยว่าศูนย์วิจัยของเราวางแผนที่จะเป็นอันตราย?”

“ไม่ แต่นั่นแหละที่มันน่าสงสัย ฉันจะบอกว่ามันคงไม่อาจหายสงสัยได้ตามที่ฉันบอกคุณ คุณคงไม่คิดว่าฉันทำการกุศล”

“คุณสามารถได้ข้อตกลงเดียวกันกับประเทศอื่นๆ แต่เมไจเป็นพลังสำรองและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของศูนย์วิจัยในประเทศของคุณ คุณอาจจะได้รับประโยชน์อย่างอื่น แต่ฉันหวังว่าคุณจะเข้าร่วมกับเรา.”

“มันไม่ได้เหมือนกับเสียงที่ชั่วร้าย ผมจะปรึกษากับเพือนร่วมทีมของผมและตัดสินใจ.”

“งั้นก็ทำมัน ขอโทษนะ แต่คุณกลับไปอยู่บนนั้น?”

กลับ?

เธออาจจะกำลังถามว่าคุณสอบไปกี่ครั้ง

ผมยิ้มและพูดอย่างสุภาพ

“นั่นเป็นความลับ.”

จีเฮยิ้มน้อยๆ

“เซ้นของคุณดีจริงๆ ฉันหวังว่าคุณจะเข้าร่วมกับเรา ถ้าคุณยอมรับฉันจะเป็นคนรับผิดชอบทีมของคุณ.”

“ผมจะคิดมันอย่างจริงจัง.”

เราลุกขึ้นและจับมือกัน จากนั้นเธอก็นั่งเก้าอี้.

“ฉันต้องการจัดการอาหารที่ฉันสั่งก่อน…”

“โอ้ โปรดทำมัน.”

จีเฮให้ความสำคัญกับวาฟเฟิลและเค้ก.

คนแรกที่ลุกขึ้นเป็นจุนชอย

“ผมจะไปก่อน ผมจะติดต่อคุณตอนเย็น.”

“โปรดทำมัน.”

จุนชอยผละออกจากพวกเราสองคน ตอนนี้ก็เหลือผมและจีเฮที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง.

เธอดื่มด่ำของเค้กช๊อคโกแลตมิ้นต์และพูด

“มีบางอย่างที่ฉันรวบรวมหลังจากที่เฝ้าดูคุณทั้งสองคน คุณอยากรู้ไหมว่าเป็นอย่างไร?”

“แน่นอน.”

“จากที่ดูคุณยังไม่ได้พบผู้เข้าสอบคนอื่น ดังนั้นคุณจึงยังสอบไปไม่เกิน3รอบ คุณมีคนเข้าสอบ5คน คุณทั้งสองยังคงอึดอัดใจกับคนอื่นๆอีก3คนและจุนชอยอาจจะเป็นอาชญกร แต่เขามีความเชื่อมั่นในคิมฮยอนโฮ นั่นหมายความว่าเขาไม่ใช่คนเลว.”

‘แม่งงง.’

ผมประหลาดใจอย่างแท้จริง

เธอเหลือบมองและพูดต่อ

“ร่างกายของคุณอยู่ในค่าเฉลี่ย แต่คุณเป็นผู้นำคุณต้องมีอะไรบางอย่างในตัวคุณอย่างสกิลหลักเวทย์มนต์.”

“เยี่ยม สมมุติว่ามันเป็นความจริง.”

“ใช่ไหม? แน่นอนคุณไม่มีทักษะในการสู้รบ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีสกิลพิเศษอย่างเวทย์มนต์.”

“งั้นก็หยุดตรงนั้น.”

“ฮ่า ฉันเข้าใจ.”

และแล้วจีเฮก็ยิ้มออกมา.

การแสดงออกของเธอเย็นชาเหมือนกับพี่สาวผม เธอจะเป็นผู้หญิงที่น่ารักถ้าเธอแสดงรอยยิ้มที่ไม่มีใครเห็นนั่นได้.

หลังจากเสร็จสิ้นกับเซ็ทวาฟเฟิลของเธอแล้วเธอก็ลุกออกจากที่นั่ง.

“ไม่สำคัญว่าจะดึกแค่ไหน โปรดปรึกษากับทีมของคุณและตัดสินใจ ติดต่อฉันก่อนวันนี้.”

“คุณไม่รีบมากเกินไปหรอ?”

“คุณพึ่งผ่านการสอบครั้งที่2ของคุณไปนี่ งั้นคุณก็น่าจะมีเวลาเพียง15วันเท่านั้น เราต้องตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และจากนั้นก็เตรียมตัวสำหรับการสอบครั้งแต่ไป คุณใช้คาม่าของคุณหมดแล้วหรือยัง?”

“ไม่ ผมยังไม่ได้ใช่มัน…”

ผมพูดไปถึงจุดนั้นและรู้สึกตัว จีเฮยิ้มน้อยๆอีกครั้ง.

“คุณผ่านมาสองรอบแล้ว.”

‘เสียท่าอีกแล้ว!’

ผมเริ่มกลัวผู้หญิงคนนี้.

“ไม่ว่าอย่างไรทั้งหมดนั่นก็ดี หากคุณปรึกษากับเราก่อนที่จะใช้คาม่าและรับรางวัล มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการสอบครั้งต่อไป.”

“อืม ผมเข้าใจแล้ว ผมจะติดต่ดคุณในวันนี้.”

“หากคุณเห็นด้วยเราจะทำสัญญาและมันจะเป็นการดีต่อการสอบของคุณ อย่างไรก็ตามฉันรอการตัดสินใจที่ดีของคุณ.”

เราจับมือกันและออกจากคาเฟ่ ไปตามทางของเรา

หลังจากนั้นผมก็โทรหาแฮซูและจุนโฮและอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้.

ทั้งสองมีการตอบสนองอย่างตื่นเต้น

“ว้าว จริงหรอ ฮยอง? แน่นอนว่าผมจะพูดขอบคุณ! สนับสนุนเราเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในการสอบและให้เงินเรา ไม่มีเหตุผลที่จะปฎิเสธ.”

นั่นคือการตอบสนองของจุนโฮ

“คุณคิดอย่างไรฮยอนโอปป้า? ถ้าคุณเห็นด้วยฉันจะทำอะไรได้.”

นั่นคือการสอบสนองของแฮซู

จุนชอยติดต่อผมในตอนเย็นและเขาก็เห็นด้วยเหมือนกัน ดูเหมือนสิ่งที่เขาพอใจที่สุดคือสัญชาติเกาหลี.

ผมส่งข้อความไปยังจีเฮและเธอตอบกลับแทบจะในทันที

[โปรดแจ้งชื่อและที่อยู่ของสมาชิกในทีมของคุณ เราจะส่งคนคุ้มกันคุณเป็นการส่วนตัว.]

0 0 โหวต
Article Rating
7 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด