ตอนที่แล้วChapter 22 Murder (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 24 Evaluation (Part 2)

Chapter 23 Evaluation (Part 1)


Chapter 23 Evaluation (Part 1)

[แก้ไขชื่อ ตอนแรกผม อ่านชื่อของ จุนโฮ ผิดครับ พึ่งมาสังเกตตัวEnd มันกลายเป็น ยูนโฮ]

“ฮยอง!”

ยูนโฮเห็นผมและได้แสดงความยินดีมาก จุนชอยก็มาด้วยดูเหมือนว่าเขาจะตื่นขึ้นเพราะเสียงปืน.

ยูนโฮเห็นแฮซูที่เดินตามหลังออกมาและผมก็เห็นใบหน้าที่ของเขาแข็งทื่อ.

ตอนนี้ผมสามารถมองใบหน้าของเธอได้หลังจากมีแสงจากกองไฟ

‘อ่า แม่ง.’

หน้าของเธอปูดบวมอย่างน่ากลัว เธอถูกทำร้ายโดยโกซาง ไอ้เหี้ยนั่น!

ผมก้มลงพร้อมกับความเดือดดาลและพูด

“เราถูกทำร้ายโดยลิงแดงตอนที่เราเดินทางมา โชคดีที่เราจัดการพวกมันได้ แต่น่าเศร้าที่โกซางไม่อาจทำได้.”

“…”

ความเงียบเกิดขึ้นกับพวกเรา

แฮซูที่มีใบหน้าอย่างข่มขื่น เสียงปืน การตายของโกซาง ยูนโฮและจุนชอยไม่มีทางรู้ว่ามันหมายถึงอะไร

“นอกจากนี้เรามาพักผ่อนกันเถอะ กินอะไรมาบ้างหรือยัง?”

“อูวว ไม่ ยังเลย.”

ยูนโฮตอบตะกุกตะกัก ผมเอาส่วนที่เหลือของกระต่ายอีกครึ่งตัวในกระเป๋าของผมออกมา

“เอาหล่ะ ตอนนี้เราก็มากินกัน เราจะล่าและหาอะไรกินในวันพรุ่งนี้”

“ว้าว ขอบคุณ”

“มิสแฮซูเข้ามากินด้วยกัน”

“ได้…”

แฮซูนั่งข้างผมและใช้เวลาไปกับก้อนเนื้อของกระต่าย.

“นี่.”

ผมโยนมันให้จุนชอยด้วยเขารับมันและถามผม

“คุณไปทำอะไรมาตอนคุณออกไป?”

“ผมประสบความสำเร็จในการฆ่าหัวหน้าของพวกมัน จากที่เห็นไม่มีตัวไหนออกตามล่าพวกเรา ผมไม่คิดว่าเราต้องกังวลเรื่องลิงแดงอีกต่อไป.”

“ว้าว ฮยอง คุณนี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!”

“คุณหมายความว่าไงที่น่าเหลือเชื่อ ต้องขอบคุณซิล.”

“แต่มันก็ยัง คุณคิดได้อย่างไรว่าต้องไปคนเดียวและฆ่ามัน? มันน่าทึ่งเป็นอย่างมาก คุณจะได้รับคาม่ามากมายเมื่อการสอบจบลง.”

“ใช่ ขอบคุณ อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้เมื่อแดดส่องเราจะเคลื่อนที่ไปยังที่ปลอดภัย ใช้เวลาที่เหลือทำใจให้สงบ.”

“โอเคร.”

เรากินอาหารเสร็จแล้วก็กลับไปนอน

“ผมจะเฝ้ายามเองเพราะว่าผมนอนไม่หลับ พวกคุณควรจะนอนหลับทั้งหมด.”

“ฮยองคุณต้องเหนื่อยมากแน่ๆ.”

“มันโอเค มันเป็นเพราะว่าผมนอนไม่หลับ.”

“งั้นผมจะไปนอน ถ้าคุณเหนื่อยคุณก็มาปลุกผมได้เลย.”

“แน่นอน”

ทุกคนนอนหลับและผมก็คิดถึงตัวเองในหัวอย่างเงียบๆ

‘ฉันมั่นใจว่าเขาตาย.’

ผมมั่นใจว่าเขาตายแล้ว เพราะว่าผมเห็นคอของเขามีเลือดพุ่งและล้มลง.

ผมไม่มีความกล้าหาญและไม่ได้ตรวจสอบร่างกายของโกชาง ผมแค่พาแฮซูกลับมาที่นี่

…ผมฆ่าคน.

ศพของคนที่พึ่งตายควรจะอยู่ตรงนั้น มันจะไม่มีใครสนใจและอยู่ตรงนั้นตลอดไป ใครจะรู้ว่ามันอาจจะเป็นลิงแดงหรือสัตว์ตัวอื่นที่มาหามันและกินมันเข้าไป.

และชีวิตของชายที่ชื่อปาร์คโกซางก็มาจบลงที่มือของผม

ผมมองไปที่มือขวา

มันสั่น.

ความรู้สึกหลังจากเหนี่ยวไกยังไม่.

ผมรู้สึกอึกอัดที่คิดถึงความรู้สึกเหล่านั้นและมันยังไม่หายไปจากความทรงจำของผม.

ผมไม่ได้ทำอะไรผิด

เขามันสมควรตาย เขาเป็นคนที่ผมปล่อยไว้ไม่ได้ ถ้าเขามีชีวิตอยู่เขาต้องมาแก้แค้นผมแน่นอน ถ้าเขาให้ความสำคัญกับชีวิตของเขา เขาคงไม่พยายามที่จะข่มขืนเพือนร่วมกลุ่มในระหว่างการสอบและความเป็นความตาย.

เขาเป็นไอ้สารเลวที่พยายามทำทุกอย่างที่เขาพอใจ ถ้าเพื่อเพียงวัตถุประสงค์ที่ก้าวหน้าในการสอบผมไม่สามารถปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ได้.

‘ใช่ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด.’

ผมคิดอยู่ในหัวแต่ภายในใจแตกต่าง.

ผมจำได้ว่าเสียงของโกซางหวาดกลัวในตัวผม

เขาทำ.

แม้แต่พวกขยะก็ยังเหมือนกับมนุษย์ เขายังไม่อยากตาย เขาต้องการที่จะชีวิตอยู่ คนอย่างนั้นที่ผมจบชีวิต ผมเหนี่ยวไกด้วยมือของผม…

ผมกำหมัดแน่น

การสั่นยังไม่หายไป

“คุณสบายดี?”

เสียงของแฮซูทำให้ผมกลับมาอยู่ในความวุ่นวายของผม เธอมองมาที่ผมด้วยสายตาวิตกกังวล

“ใช่ ผมไม่เป็นไร.”

เธอลุกจากที่นั่งและมานั่งข้างๆผม.

เธอกุมมือของผมด้วยมือทั้งสองข้างของเธอ.

มีความอบอุ่นบางอย่างเกิดขึ้น.

แสงไฟที่ส่องไปบนใบหน้าของเธอที่บวมยังไม่หาย มันทำให้หัวใจผมเจ็บ เขาทำร้ายผู้หญิงคนนึงได้อย่างไร ผมทำดีแล้วที่ฆ่าเขา ผมช่วยผู้หญิงคนนึงไว้.

“ขอบคุณจริงๆ.”

“ไม่ต้องกังวล.”

“และฉันขอโทษ มันเป็นเพราะฉัน…”

“ไม่ มันไม่ใช่แบบนั้น ผมคิดว่าผมจะฆ่าเขาเหมือนกัน ผมไม่สามารถทำได้เพราะว่าผมไม่มีความกล้าหาญ ผมเจอความกล้าหาญจากคุณเพียงคนเดียว.”

ผมจับมือของเธอไว้และทำให้การสั่นของผมหายไป.

เราอยู่แบบนั้นอยู่สักพักพร้อมกับจับมือ ใช้มือเพื่อแลกเปลี่ยนความร้อนของเราอยู่ชั่วเวลาหนึ่งจนผมเกือบจะรู้สึกแปลกๆเหมือนกับหิมะในใจของผมอุ่นขึ้น.

“คุณต้องการไปหรอ?”

“ที่ไหน?”

“ที่เขา.”

ผมตกใจกับคำพูดของเธอ

“มัน..ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่จะไปดูศพ.”

“ไม่ มันเป็นความผิดของฉัน ฉันคิดว่ามันจะเลวร้ายมากที่จะเดินไปดูและมันไม่มีศพ.”

เธอยังพูดต่อด้วยเสียงสั่นๆ

“เขาตายแล้วจริงๆ ร่างกายของเขายังอยู่หรือเปล่า ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่เขาจะต้องวางแผนแก้แค้น...ความคิดเหล่านี้ไม่ได้หายไป คุณด้วยใช่มั๊ย?”

“… ใช่.”

“ไปกันเถอะ ตรวจสอบให้แน่ใจและฝังเขาให้ถูกต้อง ฉันกลัวที่จะไปคนเดียว แต่ฉันคิดว่าฉันจะโอเคถ้าคุณไปกับฉัน.”

เธอพูดถูกต้อง

ผมไม่อาจที่จะลืมโกซางไปได้ ผมต้องตอกตะปูปิดฝาโลงให้แน่หนา.

“ตกลง งั้นเราไปกันเถอะ แต่เราจะเอาอันไหนขุดหลุม?”

“ผมไม่แน่นใจ อือ มันคงไม่เวิร์ค?”

เธอโชว์ดาบของโกซางให้ผมดู

“หืม มันยังอยู่แม้ว่าเจ้าของจะตายแล้ว.”

“ฉันรู้.”

“คุณลองพูด ‘ยกเลิกอาวุธ’สิ?”

“ยกเลิกอาวุธ?”

จากนั้น,

พับ! ดาบก็หายตัวไป

ผมและเธอต่างก็ประหลาดใจทั้งคู่

“มันหายไป”

“ตอนนี้ลองพูดว่า ‘สวมใส่.”

“สวมใส่.”

ขณะที่เธอพูดดาบก็ปรากฎมาที่มือขวาของแฮซู ตาของแฮซูเปิดกว้างและพูด

“มันไมมันทำตามคำสั่งของฉัน?”

“ผมก็ไม่มั่นใจ…. ว่าอะไร…”

ในขณะนั้น ผมก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทันที.

‘ส่งอาวุธให้แฮซู’

นั่นแหละ!ย้อนกลับไปแล้วโกซางส่งดาบให้แฮซูและส่งต่อความเป็นเจ้าของ.

ผมอธิบานเรื่องนี้กับแฮซู

“งั้นตอนนี้มันก็เป็นของฉันแล้ว?”

“ใช่ คุณไม่มีอาวุธ มันไม่ได้เป็นเหตุบังเอิญ.”

“ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะสามารถใช้สิ่งนี้ได้หรือไม่ มันหนักมาก ทำไมคุณหรือยูนโฮไม่ใช้มันแทน…”

“แต่มันก็แค่ตอนนี้เท่านั้น ตอนนี้มันอาจจะใช้งานยาก แต่เมื่อคุณได้รับการเสริมพลังกายของคุณคุณจะสามารถใช้มันได้”

เราไปที่โกซางตาย

เรายังคงมองเห็นศพของเขาได้

เขานอนราบไปกับพื้นพร้อมกับเลือด มีการแสดงออกทางสีหน้าของเขาและมีรูสีแดงที่คอเขา

ผมไม่มั่นใจกับการเจอร่างของเขา แต่ตอนนี้ผมไม่ได้กล้วอย่างที่ผมคิด

‘มิสแฮซูมันเป็นสิ่งที่ดีที่เราได้มาเจอกัน.’

ถ้าผมอยู่คนเดียวผมอาจจะหนีไปและเผชิญกับความทรงจำที่น่ากลัวตลอดไป

“งั้นมาเริ่มกันเถอะ ผมจะไปก่อน.”

“ตกลง.”

ผมเอาดาบจากเธอและทำการขุดแบบง่ายๆ ผมยังคงใช้ดาบขุดดินและเต็มไปด้วยความสกปรก.

ผลันกันกับแฮซูเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นที่ละน้อยเราก็ดันร่างของโกซางเข้าไปในหลุมและฝังเขาไว้

ผมใช้ซิลทำป้ายหลุมศพจากไม้ที่หนาๆ ผมเขียชื่อ ปาร์คโกซาง ไว้ด้านบนของหลุมศพ

“มันไม่มีทางเลือกอื่น มีชีวิตต่อไปข้างหน้า.”

ผมพูดคำง่ายๆเหล่านั้นและใช้เวลาเงียบอยู่ครู่หนึ่ง มีอะไรที่จะเล่าถึงเขาบ้าง? แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะพูด โชคร้ายนั่นคือสิ่งที่เขาทำเอง

แฮซูปิดตาของเธอและใช่เวลาอยู่ในความเงียบสักครู่ ผมรอโดยไม่พูดจนกว่าเธอจะทำเสร็จ.

“ตอนนี้มันไม่มีแล้ว.”

เธอเปิดตาของเธอและยิ้มกว้าง ผมคิดกับตัวเองว่าแม้ว่าเธอจะมีรอยช้ำบนใบหน้าของเธอแค่รอยยิ้มของเธอก็น่าสนใจมากทีเดียว

เรามุ่งหน้ากลับไปที่กองไฟ เรานั่งข้างกันและกันและแบ่งปันเรื่องราวทุกอย่าง.

เราแลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกัน และเธอก็เป็นเด็กที่โตมมาในครอบครัวที่ร่ำรวยและมีความสุขกับชีวิตที่สุขสบายและโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่ฉลาด.

อาจจะเป็นเพราะเหตุผลเหล่านั้น แต่เธอก็พบว่าครอบครัวของเธอมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ พี่สาวที่ทำงานกับกฎหมายและน้องสาวที่ชอบไปปาร์ตี้ กับแม่ที่น่ารักและมัวแต่วุ่นกับลูกชายของเธอ.

ดังนั้นเราจึงคุยกันจนเวลาล่วงเลยไปและเธอก็พูดแบบนี้

“จริงๆแล้วฉันมีเรื่องที่จะสารภาพ.”

“มันคืออะไร?พูดมาสิ”

“คือฉัน ฉันโกหก.”

จากคำพูด ผมยิ้ม

“คุณหมายถึงเรื่องที่คุณบอกว่าคุณมีบัฟเพิ่มพลังกายภาพเลเวล1?”

“โห คุณรู้ได้อย่างไร?”

ผมพูดในสิ่งที่เธอตกใจ

“ร่างกายของคุณอ่อนแอกว่าผมดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไม่รู้.”

“ฉันขอโทษ ฉันไม่อยากจะบอกว่าฉันเป็นภาระให้กับทีม...ไม่มีแรงแม้แต่น้อย แต่มันอาจจะเจ็บปวดกับทุกคน.”

“ไม่จำเป็นต้องคิดอย่างนั้น แค่คิดถึงความช่วยเหลือของผมในฐานะการลงทุน.”

“การลงทุน?”

“ใช่ คุณอาจจะอ่อนแอตอนนี้ แต่คุณจะได้รับคาม่าและพัฒนาทักษะของคุณและสามารถทำผลงานได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นตอนนี้ให้คิดว่าคุณเป็นแค่พนักงานชั่วคราว”

“ขอบคุณ.”

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตามคุณได้รับคาม่าเท่าไรในการสอบรอบแรก คุณมาที่นี่โดยที่ไม่มีสกิลและแม้แต่อาวุธสักอย่างเดียว มันดูแปลก”

“บอกตามตรง…”

เธอดูว้าวุ่นและเธอก้พูด

“-50.”

“…หืมม?”

“-50.”

“ถ้ามันลบ…”

“ฉันไม่ประสบความสำเร็จในการสอบครั้งแรก”

แฮซูได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ผมประหลาดใจ

เพียงแค่ถูกกดดันและเธอก็ไม่สามารถเอาชนะลิงแดงได้ แต่เธอก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้ด้วยเหมือนกัน เธอต่อต้านและวิ่งหนีและเมื่อเวลา30นาทีผ่านไปประตูสอบก็ปรากฎปละเธอก็วิ่งเข้าไป

“ผมเดาการสอบไม่ได้บอกว่าให้ฆ่า.”

“ใช่ แต่ฉันก็กลัวตลอดเวลาว่าการติดลบมีผลกระทบกับฉันแบบไหน.”

“ไม่ต้องห่วง คุณสามารถหักลบมันได้ด้วยการสอบครั้งนี้.”

“แต่มันก็ไม่มีอะไรที่ฉันได้ทำมันในการสอบครั้งนี้ด้วย ฉันจะทำอย่างไรถ้าฉันไม่แข็งแกร่งนอกจากฉันจะเป็นภาระ?”

เธอประสาทแตกและผมก็โอบไหล่ของเธอ.

“ไม่ต้องกังวลเกินไป วิธีการต่อสู้กับมันไม่ใช่เรื่องยากในการสอบ บทบาทของคุณสามารถทำได้หลายที่ เพียงแค่หาพื้นที่เหล่านั้นและได้รับคาม่ามันก็เพียงพอที่จะให้คุณได้รับสกิลและผมจะปกป้องคุณเอง.”

“ฮยอนโฮ…”

เธอดูเหมือนจะขยับและจ้องมองผม

“ฉันจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร ขอความช่วยเหลือจากคุณเสมอ…”

“ผมมีหนึ่งคำขอ ให้ผมได้ไหม?”

“ได้ ทำมันตามใจ.”

ที่เธอพูด ‘ตามใจ’ ความคิดที่สกปรกก็เข้ามาในหัวผม ผมมันสารเลว!

ผมไอแห้งๆและพูด

“แค่เรียกผมว่าโอปป้า มันก็เหมือนกับลดตัวลงเล็กน้อยจาก ฮยอนโฮ ฮยอนโฮ เฉยๆ.”

แฮซูปล่อยเสียงหัวเราะน้อยๆ

“เข้าใจแล้วฮยอนโฮ โอ้ โอปป้าคุณต้องการให้ฉันโค้งหัวด้วยไหมเมื่อฉันพูด.”

“ใช่ ผมหมายถึงแบบนั้น เค้.”

เรามองไปที่อื่นและหัวเราะด้วยความอาย

0 0 โหวต
Article Rating
8 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด