ตอนที่แล้วChapter 132: Blowing Wind (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 134: Seven Sins, Twilight Blacksmith Oswen (1)

Chapter 133: Blowing Wind (2)


Chapter 133: Blowing Wind (2)


ในเวลานั้นลอร์ดลุกขึ้นยืน.

เขาสูงเป็นสองเท่าของซอมบี้ กูล.

"เป็นเวลานานแล้วตั้งแต่ที่ฉันเห็นซอมบี้ขี้แย ที่พร้อมจะไม่ทำอะไร สกิลของคุณยอดเยี่ยมไหม? ท่าทางของคุณไม่สิคุณยังเป็นซอมบี้ปกติ?”

ใบหน้าเขาแสดงออกถึงความขี้เกียจ เขาเดินลงมาค่อยๆมาหาผม.

ผมแอบซ่อนตัว แม้จะให้ความประทับใจอันป่าเถื่อนไปแล้ว แต่ปกติแล้วผมต้องเป็นแบบซอมบี้.

“การเปลี่ยนแปลง ‘สามัญ’ ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวขข้องกันกับเรื่องพวกนี้.”

ภายนอกของผมอาจจะเปลี่ยนแปลง แต่ภายในของผมไม่เคยเปลี่ยน ธรรมชาติของผมเป็นคนเข้มแข็ง การเปลี่ยนแปลงภายนอกส่วนใหญ่มีปัญหา.

ผมปลอมเป็นซอมบี้ แต่กูลมีขนาดใหญ่กว่าผมเพียงไม่กี่เซนฯ มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้.

ตัวอย่างเช่นปีกและเขา ที่ได้มาหลังจากสกิลทุจริต การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้น'จริง'มันไม่สามารถเทียบได้กับการเปลี่ยนเล็กๆน้อยๆนี้ได้.

"นั่นหมายความว่าคุณสามารถเอาชนะผมได้.”

“ถ้าคุณต้องการปกป้องสถานที่นี้ตามผมมา ผมจะปกป้องมันเอง.”

ผมยกวาธและพูดว่า.

ทหารโครงกระดูกที่เห็นการกระทำของผมรอบๆ.

“555+! ผมยอมรับในความทะเยอทะยานของคุณ. แล้วเราจะได้รู้ว่าสกิลของคุณมีแค่ไหน?หากคุณทำไม่ได้แล้วทหารโครงกระดูกจะฉีกแขนขากัน. เป็นทหารรับจ้างคนแรกที่ได้เกรียตินั้น.”

ทหารโครงกระดูก7คน.

มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตระดับต่ำ..และผมก็ฟื้นพลังของมาได้ในระดับปานกลาง.

ผมมองไปรอบๆอย่างเงียบๆมันยากที่จะกวาดล้างศัตรูที่เข้ามาทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว ผมต้องการความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ที่นี่ แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการที่จะเข้ามาแทรกเหตการณ์นี้ก็ตาม เพื่อที่จะได้แบบนั้นผมต้องร้องขอ.

จำเป็นต้องทำแบบนั้น.

"ตลกมาก”

ใน20วันที่ผานมา ผมคุ้นเคยกับดาบของเฮเลน มูน มากขั้น สถานะและพลังเวทของผมไม่แข็งแกร่งพอ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย พลังของแสงจันทร์ลดลงมันจะขึ้นอยู่กับเทคนิคแขงตัวเองและพลังที่ไม่อาจละเลยได้.

อย่างไรก็ตามการใช้เทคนิคของเขามันก็เพียงพอที่จะเอาชีวิตพวกเขาอยู่ดี.

ผมยกวาธ.

และ...

ผัวะ!

ผมกำหมัด.

ปึกกก!

ทหารโครงกระดูกไม่สามารถตามความเร็วผมทัน.

กำปั้นของผมตำไปที่ใบหน้าของทหารโครงกระดูทีละตัวๆ และมันใช้เวลาทั้งหมด20วิฯเท่านั้นในการจัดการ.

ผมละสายตาของโครงกระดูกเหล่านั้นและหันไปที่โทเรี่ยม.

“ผมมีคำถาม ลอร์ดต้องทำแบบไหนถึงจะได้เป็น?”

“...ตามหลักแล้วผู้บัญชาเป็นหัวหน้า แต่ในดินแดนอันห่างไกลคือคนที่เข้มแข็ง.”

ใบหน้าของโทเรี่ยมประหลาดใจ.

สกิลที่ผมแสดงให้เห้นในการซ้อมรบกับเจฟเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความเป็นจริงมาก ผมเหมือนกับถูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่และเขาก็ไม่สามารถโทษมาที่ผมได้.

แน่นอนว่าเจฟมีกำลังพอที่จะรับมือกับทหารโครงกระดูกได้เจ็ดคน แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้มือเปล่าล้มมันใน20วิฯ.

ผมทำได้.

ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินว่าผมมีความสามารถพอที่จะสู้กับดูลาฮัล.

ตอนนี้พวกเขาต้องเคลื่อนไหว.

"ตัดสินว่าใครเป็นลอร์ดจากความแข็งแกร่ง ผมชอบมันนะ.”

"แน่นอน เขาปกครองที่นี่มาเป็นเวลา50ปี เพื่อที่จะได้เป็นลอร์ดคุณต้องแสดงความแข็งแกร่งให้เห็น.”

โทเรี่ยมพูด.

ในอีกความหมายนึง ผมไม่สามารถถอยหลังกลับได้ ผมชอบมันมาก.

มีรอยยิ้มบนหน้าผม ผมต้องการเป็นลอร์ดและทำทัพเขาไป.

“คนไร้ความสามารถไม่มีสิทธิ์.”

“คุณสามารถจัดการลอร์ดและคนที่แข็งแกร่งที่สุด20คนของหมู่บ้านได้หรือไม่? ต่อสู้โดยไม่ฆ่า! จากนั้นเรายินดีจะตามคุณ!”

โทรเรี่ยมได้สังเกตเห็นความคิดของผมและได้ข้อเสนอแนะดังกล่าว.

อันเดธจะใช้เวลาตัดสินผม.

โทรเรี่ยมอยากจะดูมหากาพย์ที่รุนแรงเหมือนกับลม.

"มันยาก! อย่ายกตัวเองเพียงเพราะว่าเอาชนะทหารโครงกระดูกได้!”

ลอร์ดหยิบดาบใหญ่ออกมา.

มีอันเดธที่แกร่งที่สุด 20 ตนอยู่ด้วย เจฟอยู่ท่านกลางคนเหล่านั้นและเขาไม่เหมือนคนอื่นเขายิ้ม การแสดงของเขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆตั้งแต่ที่ผมเริ่มเดินเข้าไปหา...

"ผมจะจัดการพวกเขาทั้ง20คนเอง!”

อันที่จริง มีเหตุผลอยู่.

เกิดหลุมตรงกลางจากฝูงชนอย่างรวดเร็วผม มองไปทางตรงข้ามที่กำลังเดินเข้ามา.

21 vs 1.

พวกเขายังแข็งแกร่งกว่าทหารโครงกระดูก อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังสู้ผมไม่ได้.

‘มันยากในการไม่ฆ่าพวกเขา.’

ผมดึงวาธออกมาโดยไม่ลังเล.

การท้าทายคือการชนะโดนไม่ฆ่า.

ปกติแล้ว ผมจะชนะแต่...

ผมไม่รู้ว่าต้องควบคุมแรงแค่ไหนถึงจะดี.

ดูลาฮัน.

มันสูงสามเมตรและเป็นอันเดธชั้นแนวหน้า.

"ฉันไม่รู้ความตั้งใจของมาดาริในการที่จะอยากได้แผ่นดินเล็กๆนี้.”

โซมูเลมเป็นดูลาฮัสที่นำกองทัพของเขามา1000คน เขาบ่นในสิ่งที่เขาไม่ชอบ.

ผู้บัญชาการมาดาริตัดสินใจในการริบดินแดนภาคใต้ที่ง่ายแสนง่ายเหล่านี้ อย่างไรก็ตามเขาใช้การบุกอย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดทิศทางในการที่มาดาริไป.

ปัญหาคือภาคใต้ไม่ใช่สิ่งที่มีกองกำลังเดียวที่ครอบครอง.

โซมูเลมถอนหายใจขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้สถานที่เป้าหมาย

"สุดชายแดน. หืม...”

ทุกที่เหมือนกับดินแดนล้าง ฉากนั้นไม่เปลี่ยนไปในสองสามวัน ตอนนี้มันแค่ครึ่งวันกว่าเขาจะมาถึง มาดาริได้สั่งให้โซมูเลมเข้าไปประชิดเขาไม่มีทางบ่ายเบี่ยง.

"เราจะให้โอกาศยอมแพ้?”

โครงกระดูถาม.

โซมูเลมวางมือบนใบหน้าของเขาและกล่าวว่ามั่นใจ.

"เสนอ? มันไม่จำเป็น.ฉันจะต้องการจัดการความไม่พอใจเหล่านั้นให้หมด.”

กวาดศัตรูออก!

ดูเหมือนกับว่าเขาต้องการปลดปล่อยความรู้สึกของเขา.

โซมูเลมวางดาบขนาดใหญ่ของเขาบนบ่าของเขาเมื่อเขาเห็นบางสิ่งบางอย่า.

"หัวหน้าโซมูเลม มีบางอย่างกำลังเข้าใกล้.”

"ฉันเห็น."

มีคนกำลังมาทางนี้อย่างรวดเร็ว เขาวิ่งบุกเข้ามาอย่างกล้าหาญคนเดียวกับกองทัพ1000

“เขาเป็นบ้าหรอ?”

โซมูเลมพึมพำกับตัวเอง.

ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้หยุดและเข้ามาใกล้.

ทหารโครงกระดูกดึงธนูออก ลูกศรที่เคลือบด้วยยาพิษที่มีประสิทธิภาพถูกยิงพร้อม ๆ กันจากคันธนู.

แต่ ... ชายคนนั้นไม่หยุดยั้ง แต่เขาก็เริ่มเร็วขึ้น.

“เขาบ้าไปแล้ว.”

โซมูเลนหัวเราะ.

สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือเขาจะไม่ได้ช่วยให้ที่นี่ปลอดภัย.

เคร้ง! คว้าง!

ในขณะเดียวกันก็มีเสียงดังและทหารก็ถูกกวาดออกไป.

เกิดเส้นแยกออกของสิ่งมีชีวิตทั้งสองฝั่ง.

ผมเป็นคนมันเอง..

‘เร็วโครตๆ.’

มันเป็นความรู้สึกสดชื่น.

ผมใช้ดาบเพียวๆตัดผ่านพวกเขา ไม่มีการพึ่งพาสถานะของผม ผมใช้ความสามารถทางกายภาพและดาบเท่านั้น.

ผมต้องการที่จะผลักดันให้ตัวเองพ้นขีดจำกัด ปัจจุบันกล้ามเนื้อของผมกรีดร้องและทำงานมากขึ้น

‘แข็งแกร่ง.’

ฉัวะ!

กำลังของผมถูกส่งไปที่ดาบ ผมไม่รู้ว่าจะต่อสู้ได้นานเท่าไร แต่ผมไม่สนใจ.

ผลักดันตัวเองให้มากขึ้นเป็นการฝึกฝน มันเป็นความเสี่ยงในการกระทำดังกล่าว เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากขึ้น ผมพึ่งรู้หลังจากที่ได้อ่อนแออีกครั้ง.

‘ฉัน...’

ดูลาฮัน โซมูเลน!

เขาเคลื่อนร่างขนาดใหญ่และดาบที่หนักเป็นอย่างมากเข้ามา.

“นี่พวก! อย่าคิดว่าจะได้ออกไปทั้งๆที่มีชีวิต!”

ผมฆ่าพวกเขาเพียงลำพังไปกว่า200คน สถานการณ์กำลังไปสู่จุดเปลี่ยน แต่โซมูเลนก็เคลื่อนไหว.

มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันเป็นเวลาที่ค่อยนข้างเหมาะสม.

พลังของผมถูกใช้มาได้สักพักแล้ว และเขาก็เป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง ผมรู้สึกเหมือนได้รับรางวัลในการเติบโต.

'ต้องแข็งแกร่งมากขึ้น.’

เช้งงงง!

ดาบและดาบใหญ่ปะทะกัน.

และในขณะนั้น.

“อะไรรร!”

"ฆ่า!"

"ช่วยลอร์ด!”

กองทัพของผมตามมาจากเส้นทางที่ผมทำขึ้น.

โซมูเลนเป็น 1 ในคนที่แข็งแกร่งกว่าปกติแม้แต่ ดูลาฮันเขาเป็นสิ่งมีชีวิตราวๆเลเวล2.

แต่คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้.

เคร้ง!

ในการเผชิญหน้ากับการใช้กำลังเพียวๆของผม ผมถูกผลักและไถลไปกับพื้นดิน มีลูกศรที่ถูกยิงในระยะใกล้มันถูกยิงโดนขาและหน้าอกผม.

'ความคุ้นเคย.’

บาดแผลและความเจ็บปวดเหล่านี้คืออะไร สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถหยุดผมได้ ผมดึงลูกศรที่ติดอยู่ที่ตัวผมออก มันไม่ค่อยอึดอัดแต่มันก็อยู่ในระหว่างการต่อสูด.

"เพื่อท่านมาดาริ!”

โซมูเลนโหร้องในขณะที่เขายกดาบขึ้นและเรียกชื่อของมาดาริเพื่อแสดงความจงรักภักดี.

มันเหมือนกับที่แม๊กทำแบบนั้นกับผมตอนที่เขาร้องออกมาว่า‘เพื่อราชา.’โดยที่เขาคิดว่าผมเป็นราชาของเขาเพราะผมมีหัวใจ.

หัวใจที่ไม่หยุดนิ่งมันเหมือนกับธรรมชาติของผม ดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่าง ในบางช่วงเวลาหัวใจก็เต้นแรงขึ้น.

“กำจัดพวกเขา!”

ชัยชนะได้รับการยืนยัน แต่การแสดงออกของโซมูเลมยังบูดบึ้ง เขาแสดงอาการตกใจขณะที่มองลงมาที่ผม.

และเขาก็แสดงอาการตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเวลาผ่านไปมันเปลี่ยนเป็นการแสดงออกถึงความน่าสะพรึง.

“แก...!”

“อุค!”

ผมหายใจเข้าและยกวาธจากนั้นผมก็ตัดหัวของเขา เพื่อที่จะฆ่าดูลาฮันหัวเขาต้องถูกทำลาย.

“ตอนนี้ต้องการที่จะหนีซะแล้ว.”

“ฉันจะฆ่าแก!”

ฉัวะ!

หัวของเขาก็ถูกแบ่งออกเป็นสองซีก.

หลังจากนั้นผมก็ตัดร่างกายของเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม.

“อะไรววววววะ!”

“ชนะแลัว! เราชนะ!”

"เย้ ลอร์ด!”

“เย้ รัลดาล บิกิเซล!”

มีคนติดตามมาที่ผม400คนและตอนนี้รอด200คน.

อีกย่างพวกเขาก็ฆ่าคนไปไม่กี่คนเท่านั้น.

ชนะ.

"เขาทำมันคนเดียว...”

"คุณเห็นการต่อสู้กับ โซมูเลนไม๊? ฉันหงุดหงิด!”

ผมเก็บวาธในขณะที่โทเรี่ยมมาทักทาย.

"ยินดีด้วย คุณได้รับชัยชนะ.

“ต้องเปลี่ยนเสียงด้วยไม๊.”

"ลอร์ดไม่ควรจะพูดแบบนี้กับผู้ใต้บัญชาการ.”

ผมจำได้ว่าผมเคยคุยกับโทเรี่ยมในหมู่บ้าน.

“ตอนนี้ฉันคือลอร์ดจริงๆหรือ?”

"นำทางเพื่อเข้ามาสังหารคนเพียงคนเดียว เราจะไม่หนี เราจะสู้ นั่นคือ..สิ่งที่เรายอมรับ คุณรัลดาลหรือลอร์ด.”

400 คนมาชุมนุมกันที่นี่.

มีคนเฝ้ารออยู่ที่ปราสาท 100 คน พวกเขาพร้อมที่จะหลบหนีในกรณีที่สถานการณ์ไม่ดี.

ผมต้องทำมัน หลังจากตรงนี้หากไม่สามารถโจมตีข้าศึกได้ พวกเขาจะถูกฆ่า.

"ส่งข้อความไปยังผู้บัญชาการทางใต้ ยอกเขาว่ามาแทนในฐานะลอร์ด อย่างไรก็ตามลอร์ดก็ยังอยู่คนละส่วนกับผู้นำหมู่บ้าน.”

"100คนยังคงติดตามลอร์ด.”

100คนที่เหลืออยู่ในปราสาท พวกเขาเป็นผู้ติดตามของกูล พวกเขาไม่อยากให้ผมใช้แผนการของผม.

โทเรี่ยมหัวเราะขม.

"น้ำขึ้นให้รีบตัก วันนี้..ค่อนข้างเหมาะแก่การจัดการฉลอง.”

ทุกคนเหลือบมองมาที่ผม การแสดงออกของเขาไม่เลว.

"อ๊ะ มาดิริได้เรียนรู้จากการผิดพลาดในการโจมตีครั้งแรกแล้ว เมื่อผู้บัญชาการเรียนรู้เกี่ยวกับคนในภาคใต้ เขาอาจจะส่งคนที่เก่งกว่านี้เข้ามาสู้กับลอร์ดก็ได้.”

"เข้าใจแล้ว.”

ผมตอบกลับ.

ผมเหนื่อยการผักผ่อนคือสิ่งที่ผมหวังไว้สูงมาก.

ผมเดินกลับไปที่หมู่บ้าน.

โทเรี่ยมนึกขึ้นได้และพูด

“...ลมเริ่มพัดพามา ลมที่จะทำให้ทุกคนสามารถผักผ่อนได้.”

0 0 โหวต
Article Rating
10 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด