ตอนที่แล้วAST บทที่ 159 – ความน่ากลัวที่คืบคลานเข้ามา, ลูกเตะพยัคฆ์คำรณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 161 -  จิตรกรรมพุทธสวรรค์โสมนัสสาทั้งสอง

AST บทที่ 160 - เคล็ดฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 160 - เคล็ดฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน

เธอยื่นมือที่ขาวนุ่มดุจหยก เพื่อเช็ดเลือดที่อยู่บริเวณมุมปากของชิงสุ่ย ซึ่งชิงสุ่ยก็พยายามที่จะหลบแต่เหวินเหรินอูซวงก็ได้ใช้แขนข้างหนึ่งกอดคอของเขาไว้

ในตอนนี้เหวินเหรินอูซวงกำลังเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าของชิงสุ่ยอย่างอ่อนโยน

"มาดูกันเถอะ ว่าชายคนนั้นตายไปหรือยัง"หลังจากที่ฟื้นพลังกลับมา ชิงสุ่ยก็พาเหวินเหรินอูซวงลุกชึ้นและเดินตรงไปยังชายหนุ่มที่เขาซัดด้วยฝาเท้าจนกระเด็นปลิวไป

ชายสารเลวคนนั้นตายไปนานแล้วหรือยัง? หน้าอกที่ถูกชิงสุ่ยเตะใส่ปรากฏเป็นช่องว่างหลุมเลือดขนาดใหญ่จุดเดียวกับหัวใจฝั่งซ้าย

ลูกเตะพยัคฆ์คำรณเพียงแค่ชื่อก็บ่งบอกถึงความรุนแรง ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจมากที่ลูกรักและการฝึกฝนเป็นไปราวกับเรื่องธรรมชาติ!!!!

" อืม!!!"

ชิงสุ่ยมองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เป็นสีเงินส่องประกายออกมาจากเสื้อผ้าที่หยาบกร้านของชายคนนั้น เขาจึงก้มตัวลงไปเพื่อหยิบมัน

"แผ่นเงิน!!!"

ชิงสุ่ยนับเป็นเงินได้ทั้งหมด 9 แผ่น แต่ละแผ่นยาว 7 นิ้ว และกว้าง 5 นิ้วและมี 8 ตัวอักษรถูกประทับตราทองคำอยู่บนด้านขวาสุดของแผ่นเงินแผ่นแรก

"ฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน"

ชิงสุ่ยนึกย้อนกลับไปตอนที่เขาโดนโจมตีจากชายคนนั้น ซึ่งระหว่างต่อสู้พลังการโจมตีของเขาพลันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในพริบตา หรือว่าชายคนนี้จะฝึกฝนฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน?"

" ชิงสุ่ย นี่คืออะไร? มันมีสิ่งใดถูกบันทึกเอาไว้บนกระดาษแผ่นเงินแผ่นนี้หรอ?"อูซวงมองไปยังแผ่นเงินด้วยความตกตะลึง สิ่งของที่มีค่าเท่านั้นที่จะได้รับการบันทึกลงบนแผ่นเงินเหล่านี้

แผ่นเงินแต่ละแผ่นไม่ได้สร้างขึ้นจากก้อนเงินธรรมดา แต่มันเป็นแก่นแท้ของเงิน เป็นเงินทั้ง 9 แผ่นนี้มีค่าพบกับเข็มทองคำทั้ง 9  ที่ชิงสุ่ยได้ครอบครองอยู่

"มันจะต้องเป็นชุดของเคล็ดวิชาอย่างแน่นอน"ชิงสุ่ยกล่าวและส่งมันให้กับอูซวงโดยไม่ลังเล

แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่มันก็ทำให้อูซวงรู้สึกอบอุ่นและมีความรู้สึกกลุ่มเครือ เธอรับมันแล้วยังคงยืนอยู่ข้างๆชิงสุ่ย แม้ว่าท่าทางของเธอจะยังคงพลิกแผ่นเงินไปมาอย่างเลื่อนลอย และความสนใจของเธอนั้นไม่ได้อยู่บนแผ่นเงินที่แวววาววับทั้ง 9 แผ่นนั้นเลย

ชิงสุ่ยเริ่มค้นร่างกายผู้ชายคนนั้น เขาก็พบกองเงิน สมุดบันทึก และแผ่นกระดาษที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหนังสัตว์

"หนังสือ!!!"ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขเพราะเขามีความรักในการอ่านหนังสือ แม้แต่อูซวงก็เข้ามาดู

เพียงแค่ชิงสุ่ยดูในหน้าแรกทั้งสองก็เกิดความงงงวย

"จิตรกรรมราชวังใบไม้ผลิ!!"

ชายหัวล้านที่มีความเป็นชายชาตรี พวกเขาทั้งหมดถูกวาดขึ้นจากเส้นวาดที่ทรงพลัง ส่วนทั้งร่างหญิงสาว ทุกลายเส้น ถูกวาดขึ้นอย่างพิถีพิถัน เป็นภาพหญิงสาวที่ทรงสง่าอย่างน่าเหลือเชื่อ

ภาพวาดแรกเป็นภาพหญิงสาวนั่งคุกเข่าอยู่บนเตียง สะโพกของเธอยกสูงขึ้นเล็กน้อย และชายอีกคนหนึ่งกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ข้างหลังเธอ หญิงสาวในภาพงดงามราวกับดอกเหมย ดวงตาที่ปิดลงครึ่งหนึ่ง และปากที่อ้าออกเล็กน้อย เธอดูมีความสุขและตื่นเต้นราวกับว่าเธอกำลังสนุกกับทุกท่วงท่า

ชิงสุ่ยมีปฎิกิริยาหลังจากที่มองภาพวาดที่เร้าอารมณ์ ซึ่งมันเป็นภาพที่ดูสมจริงมากกว่ารูปถ่ายในโลกใบก่อนของเขา ภาพที่สองเป็นภาพที่เขารู้สึกอึดอัดใจมาก ชายคนนั้นนอนอยู่บนเตียงที่สร้างขึ้นอย่างปราณีตขณะที่โฉมงามนั่งคุกเข่าลงด้วยก้นที่กลมมนและเต็งตึง พื้นที่สงวนถูกแสดงในภาพอย่างเด่นชัด โดยมือของหญิงสาวกำลังจับอวัยวะเพศที่ตั้งตระหง่านขึ้น และโฉมงามก็กำลังบรรจงดูดแท่งสวรรค์ด้วยปากเล็กๆของเธอ………

ในตอนนี้ อูซวงก็อุทานออกมาทันที "ต่ำทราม"และเธอก็หนีออกห่าง ใบหน้าของเธอแดงและใจของเธอก็เต้นระรั่ว ชิงสุ่ยเองก็หัวเราะในใจและชื่นชทรูปลักษณ์ที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอูซวง

ทั้งคู่จ้องมองภาพวาดนี้ได้สักพักหนึ่ง ชิงสุ่ยเองก็รู้สึกงุนงง ที่อูซวงช่องมองภาพนี้เป็นเวลานาน บางทีเธออาจจะคิดว่ามันยอดเยี่ยมมากก็เป็นได้

"อูซวง เจ้าคงไม่คิดว่าเรื่องเหล่านี้นั้นเป็นเรื่องไม่ดีหรอกนะ"ชิงสุ่ยกล่าวอย่างมีความสุข

อูซวงยังคงอยู่ในภาวะตกใจ แต่เธอก็เข้าใจในสิ่งที่ภาพแสดงออก

เธอคนข้างรังเกียจสิ่งที่ภาพที่ 2 แสดงออก เธอไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้าทำเช่นนั้น

แม้ว่าอูซวงจะอยู่ในหอนางโลม แต่เธอก็ไม่เคยเห็นการกระทำดังกล่าว แม้เธอจะเข้าใจเรื่องการสานสัมพันธ์ มันก็ไม่ถึงขั้นนั้นที่ผู้หญิงจะสามารถใช้ปากแทนได้

" หยุด หยุดพูดสิ่งที่น่ารังเกียจนี้สะ"อูซวงกล่าวด้วยความอายและจิตใจที่กระวนกระวาน ภาพความทรงจำที่เขาเข้ามาระหว่างที่เธอกำลังอาบน้ำก็ผุดขึ้น มันยิ่งทำให้หน้าของเธอแดงกล่ำ

อูซวงคิดว่าที่ชิงสุ่ยจ้องมองสะโพกของเธอเมื่อเช้านี้ หรือว่าเขาคิดจะเลียนแบบการกระทำของคนทั้งคู่ในภาพวาดเหล่านั้น? "ชิงสุ่ย สิ่งนี้มันช่างน่าอายยิ่งนัก!! หยุดความคิดอันโง่เขลาของเจ้าเลย!"

"เอาละ เอาล่ะ ข้าจัดเก็บหนังสือนี้ไว้ แต่ถ้าเจ้าอยากอ่าน ก็บอกข้าได้ทุกเมื่อ แล้วพวกเราจะอ่านหนังสือนี้ด้วยกัน"ชิงสุ่ยหัวเราะแล้วปิดหนังสือลง

"ไปตายซะเถอะ"อูซวงโยนแผ่นเงินกลับไปที่ชิงสุ่ย

ชิงสุ่ยไม่ค่อยจัดเก็บสิ่งของทั้งหมด เขาอยากจะเดินเล่นกับอูซวงต่อถ้าไม่ใช่ว่าคนขับรถมาทั้งสองคนรออยู่

คนตายย่อมไม่อาจพูดต่อความยาวสาวความยืดได้อีก ชิงสุ่ยจึงเริ่มขุดหลุมฝั่งศพชายคนนั้น

"อูซวง เดินทางต่อเถิด อีกไม่ไกลแล้วพวกเราก็จะเดินทางไปถึงนิกายกระบี่นภา ถ้าหากพวกเรามีสัตว์อสูรปีกบิน พวกเราคงจะเดินทางได้อย่างสะดวกสบายมากกว่านี้"ชิงสุ่ยกล่าวออกมาพร้อมกับถอนหายใจ

"เจ้าพูดถูก แต่สัตว์อสูรมีปีก มันหายากเกินไป ข้าไม่แน่ใจว่าแม้ข้าจะใช้เวลาทั้งชีวิตข้าจะได้เจอทุกวันหรือไม่" อูซวงมองดูท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ไพศาลตลอดการเดินทางทั้งคืน

ในระหว่างการเดินทาง ชิงสุ่ยยังคงอ่านเคล็ดฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้านที่ถูกบันทึกบนแผ่นกระดาษเงิน

"ข้าเข้าใจถูกแล้ว คลื่นที่ 2 จะสามารถก่อความเสียหายให้มากขึ้นกว่าเดิม"ชิงสุ่ยยังคงอ่านเนื้อหาบนแผ่นกระดาษเงินอย่างคร่าวๆ และพบขั้นตอนหลายอย่างเกี่ยวกับฝ่ามือพุทธองค์

เขารู้ว่าผู้คนมากมายบนโลกเก้าทวีปแห่งนี้ นับถือศาสนาพุทธ แต่เขาไม่แน่ใจว่าจะใช่พระพุทธเจ้าองค์เดียวกับโลกใบเก่าของเขาไหม ผู้คนมากมายเคยกล่าวถึงนิกายของพระพุทธศาสนาที่ทรงอิทธิพลอยู่ภายในทวีปตอนกลาง ซึ่งนิกายกระบี่นภาไม่อาจเทียบเท่าได้เลยแม้แต่น้อย

ชิงสุ่ยรวบรวมความคิดทั้งหมดและพยายามทำความเข้าใจเคล็ดฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน เพียงแค่ชื่อก็บ่งบอกความหมายว่ามีเคล็ดวิชาทั้ง 9 คลื่น ซึ่งแต่ละท่านนั้นจะเสริมสร้างพลังปราณโดยใช้คลื่นก่อนหน้าเป็นพื้นฐาน

ทากสามารถฝึกฝนคลื่นสะท้านแรกจนสำเร็จอย่างสมบูรณ์ ผู้ฝึกฝนจะมีพละกำลังมากขึ้นกว่าเดิม 10 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่คลื่นสะท้านที่สองจะเสริมสร้างพลังบนรากฐานของคลื่นสะท้านแรก ซึ่งหากจู่โจม พลังทั้งหมดจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกับคลื่นสะท้านแรกโดยใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น

หากฝึกฝนรูปที่ 3 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พลังความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นจากพลังรากฐาน ไปยังยึดถือความแข็งแกร่งของผู้ชาย แต่พละกำลังจากคลื่นสะท้านแรกจะเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ และคลื่นสะท้านที่ 2 จะเพิ่มขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเกิดการปะทะ คลื่นสะท้านแรกจะปลดปล่อยออกมาเป็นคลื่นสะท้านสุดท้าย ซึ่งก็หมายความว่ามันจะมีพลังที่รุนแรงที่สุด และการโจมตีจะเกิดขึ้นรวดเร็วหลายครั้งในคร่าเดียว

แล้วตั้งแต่คลื่นสะท้านที่ 4 เป็นต้นไปจนกระทั่งถึงคลื่นสะท้านที่ 9  จะไม่ได้ถูกใช้ในการเพิ่มพลังการโจมตี แต่มันก็จะเพิ่มพละกำลังให้กับผู้ใช้ 10 เปอร์เซ็นต์  จนทำให้คลื่นสะท้านแรกมีพลังมากเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์

"นี่มัน……..เคล็ดวิชานี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก!!"ชิงสุ่ยไม่อาจระงับความตื่นเต้นเขาได้

 

0 0 โหวต
Article Rating
12 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด