ตอนที่แล้วAST บทที่ 147 – ความสำเร็จของยาฟื้นฟูขนาดเล็ก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 149 - ใครกันช่างกล้าหยิ่งยโสนัก

AST บทที่ 148 – รูปลักษณ์ดุจพยัคฆ์และหัวใจของผู้หญิง


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechniqu

บทที่ 148 – รูปลักษณ์ดุจพยัคฆ์และหัวใจของผู้หญิง

เนื่องจากเขาสามารถกลั่นยาฟื้นฟูขนาดเล็กได้สำเร็จ เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการรักษาตนเอง เป็นครั้งแรกที่เขากลั่นยาในระดับสามได้และทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก เพื่อให้สามารถประสบความสำเร็จในการทำครั้งแรก ต้องขอบคุณผลงานของหม้อกลั่นเหล็กทองคำประกายเพลิง!

เมื่อมองไปที่หม้อกลั่นเหล็กทองคำประกายเพลิง มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะคิดถึงห่าวหยุน ลิ่วลี่ แต่มันแย่มากที่จิตใจของเขาก็เดินกลับไปที่เหวินเหรินอูซวงอีกครั้ง" ข้าเป็นคนโลภหรือแค่ฝันกลางวัน? ผู้ที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยทั่วโลกในเก้าทวีปส่วนใหญ่มีภรรยาและนางสนมหลายคน คนธรรมดาสามัญเท่านั้นที่จะติดอยู่กับการรักเดียวใจเดียว ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการมีภรรยาหลายคนหรือนางสนม แต่พวกเขาแค่ไม่ได้มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้น! "

"อำนาจ อำนาจถือเป็นสิ่งสำคัญ?"

ชิงสุ่ยกินยาฟื้นฟูขนาดเล็กลงไปสองเม็ดและนั่งไขว่ห้างลงในทันทีพร้อมทั้งเริ่มต้นเข้าสู่เคล็ดเสริมกายาบรรพกาลอย่างรวดเร็ว!

เกิดการเผาไหม้และไหลเวียนของลมปราณ ลุกขึ้นจากจุดตันเถียนของเขา มันไม่ได้เป็นความรู้สึกสบายหรืออึดอัด ชิงสุ่ยค่อยๆหยุดลงเมื่อการเผาไหม้ของลมปราณถูกดูดซึมโดยเคล็ดเสริมกายาบรรพกาล!

ชิงสุ่ยรู้สึกว่าความสามารถของเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และการไหลเวียนของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลดูเหมือนจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้มากขึ้นและทำให้รู้สึกสบายขึ้นทั่วตัว ชิงสุ่ยเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง... ถึงความเร็วและความแข็งแกร่งของเขา!

หลังจากการฝึกฝนจบลงครึ่งวันผ่านไปแล้ว ยาฟื้นฟูขนาดเล็กเหมาะสำหรับคนที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับผู้ฝึกตนเทวะซียนเทียนเป็นอย่างน้อย มิฉะนั้นไม่เพียงแต่จะสูญเสียหนึ่งในโอกาสของการใช้ความสามารถของยาแล้ว ความสามรถของคนผู้นั้นก็จะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก!

เขาจัดเก็บยาที่เหลืออีกสี่เม็ดไว้ในขวดกระเบื้องลายครามที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ ชิงสุ่ยมองไปที่ส่วนผสมที่เหลือ เขาใช้ความคิดบางอย่างและตัดสินใจที่จะกลั่นยขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นอกเหนือไปจากก่อนหน้านี้สี่เม็ด ตอนนี้มันมีทั้งหมดสิบเม็ดและเขาแบ่งมันเก็บไว้เป็นคู่ ๆ !

"ความพยายามทั้งสองครั้งนั้นประสบความสำเร็จ อัตราความสำเร็จของข้าสำหรับการปรุงยานั้นสูงมาก? หรือว่าเพียงแค่อัตราความสำเร็จในการปรุงยาในโลกของเก้าทวีปต่ำเกินไป" ชิงสุ่ยไม่เข้าใจจริงๆแต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขา เขาจึงเลิกคิดมากเกินไป!

การกลั่นยาฟื้นฟูขนาดเล็กทำให้เขาต้องใช้ไปกว่าครึ่งหนึ่งของเวลาว่างของเขา หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการกลั่นยาฟื้นฟูขนาดเล็ก อารมณ์ของชิงสุ่ยก็เริ่มดีขึ้นเล็กน้อยและเขาใช้เวลาที่เหลือของเขาเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากเคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์ 9 อสูร รูปลักษณ์พยัคฆ์!

พยัคฆ์เป็นราชาแห่งป่า ในชีวิตก่อนหน้านี้พยัคฆ์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในสี่ของสัตว์สวรรค์ในสมัยโบราณ!

มังกรขยับตัวพร้อมกับเมฆขณะที่พยัคฆ์ขยับไปตามลม พยัคฆ์เน้นการแสดงตัวตนของมัน มันจะใช้กลิ่นอายของมันเพื่อเอาชนะคนอื่นๆ !

ชิงสุ่ยเห็นว่ารูปลักษณ์พยัคฆ์มีเทคนิคการแยกแยะพลังงานแบบพิเศษ "พยัคฆ์คำราม" เมื่อมีการเรียนรู้อย่างเต็มรูปแบบหากได้ปลดปล่อยพลังออกไปพร้อมกับเสียงคำรามของพยัคฆ์ มันก็จะก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนของจิตใจและจิตวิญญาณ!

ลักษณะสำคัญคือ การเน้นรูปลักษณ์ของกำปั้นและเจตจำนงของจิตวิญญาณ โดยใช้จังหวะของการออกแรงและใช้ลมปราณเพื่อเพิ่มความแกร่งแรง รูปลักษณ์พยัคฆ์เน้นหนักไปที่การมีความรุนแรงดุร้ายและเจตจำนงที่จะบดขยี้ให้ราบคาบ!

เหตุผลที่ชิงสุ่ยตัดสินใจที่จะใช้รูปลักษณ์พยัคฆ์ของเคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์ 9 อสูร เนื่องจากมันใช้เพียงมือของเขาเท่านั้น เพราะชิงสุ่ยนั้นได้รับการฝึกฝนหมัดอสูรสันโดษมาอยู่แล้ว ถ้าเขาใช้เทคนิคกำปั้นแบบอื่นๆแล้วมันจะง่ายต่อการเข้าใจเว้นเสียแต่ว่ามันเป็นหนึ่งในทักษะหรือเทคนิคที่ลึกลับสุดๆเช่นนี้!

หลังจากฝึกฝน "พยัคฆ์แผดคำราม" เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วเขาได้ฝึกฝนทักษะการฟันกระบี่รวมกับเทคนิคกวางย่างก้าว ทั้งแบบแยกต่างหากและพยายามที่จะฝึกร่วมและเสริมทักษะเหล่านี้เข้าด้วยกัน!

เวลาไม่เคยรอใคร เขาอยู่ฝึกฝนจนหมดเวลาในดินแดนหยกยุพราชอมตะ!

เขาเดินไปที่หน้าต่างและมองออกไปที่แสงไฟบนถนน มีหลายคนที่ชอบสถานรื่นเริงยามค่ำคืนและยังไม่ถึงเวลาที่พวกเขาจะมุ่งหน้ากลับบ้าน!

* (ทุกครั้งที่ชิงสุ่ยถูกขับออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ จะผ่านไปจนถึงช่วงเวลาประมาณ 23.00 นาฬิกา)

ชิงสุ่ยผู้ไม่รู้สึกง่วงนอนเปิดประตูและเห็นว่าไฟในห้องของหมิงเยวี่ยเก้อโหลวยังคงสว่างอยู่ จากนั้นห้องของชิงสุ่ยทั้งห้องก็เกิดความสว่างขึ้น เนื่องจากพวกเขาใช้หินแสงสว่างมันจะยังคงมีแสงอ่อนๆคงอยู่แม้ว่าพวกเขาจะนอนหลับก็ตาม แต่หากพวกเขามีเรื่องสำคัญในการติดต่อกัน พวกมันก็จะทำการเพิ่มความสว่างของหินมากขึ้น!

เขาเดินไปที่ประตูห้องของหมิงเยวี่ยเก้อโหลวและสัมผัสมันอย่างหุนหันพลันแล่น เขาต้องแปลกใจเมื่อประตูเปิดออกและชิงสุ่ยตกตะลึงเมื่อมองผ่านช่องว่างที่ประตูห้องหมิงเยวี่ยเก้อโหลว นางกำลังนอนอยู่ที่ขอบเตียงหลับไปพร้อมๆกับเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่นอนอยู่ข้างๆนางในขณะที่หลับลึก

สภาพอากาศแปรปรวนและชิงสุ่ยเห็นว่าหมิงเยวี่ยเก้อโหลวไม่มีแม้แต่ผ้าห่มและรูปร่างอันสง่างามของนางก็ได้ขดตัวขึ้นมาพร้อมกับกอดแขนไว้แน่นใกล้กับหน้าอก

เขาผลักประตูออกอย่างค่อยๆ ชิงสุ่ยเดินช้าๆและค่อยๆเพื่อไปห่มให้แก่นาง!

คิ้วของหมิงเยวี่ยเก้อโหลวกำลังแนบชิดติดกันราวกับว่านางกำลังฝันร้าย ดวงตาของนางปิดสนิทและใบหน้าของนางแลดูซีดลงเล็กน้อย!

"คืนลูกสาวของข้ามาเจ้าอสูรร้าย!" หมิงเยวี่ยเก้อโหลวกำลังพูดในขณะที่นางหลับและปรากฏน้ำตาหยดลงมาจากดวงตาที่ปิดสนิทของนาง!

"หมิงเยวี่ยตื่น....! ไม่มีใครสามารถเอสลูกสาวของพวกเราไปได้" ชิงสุ่ยคว้าแขนของนางมาและพูดช้าๆไปที่หูนาง!

หมิงเยวี่ยเก้อโหลวเปิดดวงตาของนางขึ้นซึ่งมีใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยเมื่อเห็นชิงสุ่ย นางตกใจก่อนที่นางจะดึงแขนกลับอย่างช้าๆเพื่อให้ค่อยๆเช็ดน้ำตาของนางอ

เกิดอะไรขึ้น หมิงเยวี่ย? เจ้าฝันร้ายเช่นนั้นหรือ?" ชิงสุ่ยกล่าวเบาๆ

"สิ่งชั่วร้ายนั่นพุ่งตรงไปยังลูกสาวของข้า ข้ากลัว!" หมิงเยวี่ยมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็กๆคนนั้นที่หลับสนิท

อย่าคิดมากเกินไปพี่สาวหมิงเยวี่ย รอบๆตัวท่านไม่มีใครจะสามารถคิดแม้แต่จะกลั่นแกล้งท่านและลูกสาวของเราได้ในอนาคต ร่าเริงและมีความสุขมากเข้าไว้!" ชิงสุ่ยกล่าว

"มันสายไปแล้วล่ะ" หมิงเยวี่ยเก้อโหลวกล่าวด้วยท่าทางที่ไม่สบายใจเล็กน้อย

หลังจากเรื่องทั้งหมดก็ถือว่าช้ามาก ที่ชิงสุ่ยปรากฏตัวในห้องของนาง หัวใจนางเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อยถึงแม้ว่าทั้งสองคนนี้จะเคยมีความสัมพันธ์ทางกายภาพกันมาแล้ว

"สามีของท่านคิดถึงท่าน ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?" ชิงสุ่ยมองหน้าอันเขินอายของหมิงเยวี่ยเก้อโหลวและรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา การที่เขาสามารถกลั่นยาฟื้นฟูขนาดเล็กได้มันไม่ได้ช่วยลดปัญหาใดๆเลยที่เขามีกับเหวินเหรินอูซวง!

"อืมมม...." หมิงเยวี่ยเก้อโหลวไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับชิงสุ่ย เขาหมายถึงอะไรที่เขาคิดถึงนาง เรียกตัวเองว่าสามีของนางและถามนางว่าไม่เป็นไรใช่หรือไม่... ทั้งสองคนมีสัมพันธ์กัน คนส่วนใหญ่จะนึกถึงการกระทำดังกล่าวเมื่อได้ยินคำนี้และเขาก็จะขอความยินยอมจากนางในตอนท้าย...

ชิงสุ่ยค่อยๆเอียงคางของหมิงเยวี่ยเก้อโหลวและมองไปที่การแสดงออกที่มีเสน่ห์และเขินอายเช่นเดียวกับริมฝีปากที่สวยงามซึ่งเป็นเหมือนกลีบดอกไม้ เขาจูบลงบนริมฝีปากของนางและเริ่มดูดดื่มอย่างจริงจัง!

เขาอาจจะรู้สึกอึดอัดใจกับความพยายามในครั้งแรก แต่เป็นที่คุ้นเคยกันดีเมื่อมันเป็นครั้งสองขึ้นไป การจูบของชิงสุ่ยในตอนนี้เป็นเหมือนกับการเดินเล่นในสวนและเขายังสามารถเพิ่มเทคนิคบางอย่างได้ลงไปได้!

ชิงสุ่ยค่อยๆจูบอย่างดูดดื่มและละโมบ มือของเขาไม่ได้ถูกทิ้งให้ว่าง ในขณะที่พวกเขาขึ้นสู่ยอดเขาอันงดงามที่มีสีชมพูระเรื่ออันรู้สึกถึงความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมและเป็นรูปธรรมซึ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดใจภายในมือ เขาเริ่มข่มขู่คุกคามไข่มุกที่สร้างขึ้นสองอันบนยอดเขา และค่อยๆไล่เลียงลงไปยังเนินหลุมลึกด้านล่างของยอดเขาพร้อมทั้งเข้าไปทำการสำรวจอย่างถีถ้วนหมดจดและได้พบเข้ากับบ่อน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ที่พรั่งพรูหลั่งไหลเอ่อล้นออกมาถ่วมบริเวณปากหลุมโดยรอบ ตลอดทุกการกระทำดังกล่าว มันทำให้หมิงเยวี่ยเก้อโหลวประหนึ่งพบกับความร้อนแรงของแสงแห่งดวงอาทิตย์อัสดงและปรากฎเสียงอันแผ่วเบา “อ... อ... อะ... อ๊าาาา” แต่แฝงไปด้วยความเย้ายวนพร้อมกับร่างที่ค่อยๆดิ้นด้วยความเสียวซ่าน!

เสื้อผ้าที่คนสองคนค่อยๆถอดออก ความงามยั่วยวนของผิวสีขาวอันนุ่มนวลและยิ่งนุ่มนวลในการสัมผัสราวกับว่ามันเต็มไปด้วยความชุ่มชื่น ขาเรียวและยาวของนางก็น่าหลงใหลเช่นกัน! เขาคว้าจับไปที่เอวของนาง

เมื่อได้เห็นความงดงามสุดหาผู้ใดเปรียบของร่างที่เพรียวบาง ชิงสุ่ยอาจรู้สึกว่าตัวเองกำลังกลืนกินบางสิ่ง!

ขณะที่ชิงสุ่ยก็กลัวว่าพวกเขาจะทำให้เด็กหญิงตัวเล็กๆตื่นขึ้น เขาก็ยกร่างที่เปลือยเปล่าของหมิงเยวี่ยเก้อโหลวขึ้นไปด้านบนของอาวุธที่มีชีวิตชีวาและตั้งอกตั้งใจสูงของเขา...

เสียงระทึกและร้องไห้ที่เย้ายวนค่อยๆดังขึ้น ชิงสุ่ยกอดเข่าของนางเอาไว้ขณะที่หมิงเยวี่ยเก้อโหลวก็ห่อมือไว้รอบคอของชิงสุ่ย ชิงสุ่ยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่สายตาของเขาไม่กระพริบตาและยังคงอยู่บนใบหน้าอันงดงามของหมิงเยวี่ยเก้อโหลวที่มีเสน่ห์เย้ายวน ชิงสุ่ยไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองได้และเขาต้องการที่จะกลืนกินหมิงเยวี่ยเก้อโหลว เขาไม่อาจจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไว้ได้มากนัก เขาปล่อยนางลงยืนบนพื้นและจับขาข้างหนึ่งของนางยกสูงขึ้นเสียดฟ้าพร้อมกับนำมืออีกข้างบีบรัดเนินยอดเขาอย่างรวบตึงและหนักแน่น ด้านหมิงเยวี่ยเก้อโหลวก็ใช้สองมือของตนเองค้ำจุนร่างกายให้ทรงตัวเอาไว้ พลันชิงสุ่ยก็ระเบิดอารมณ์ที่ราวกับความเกรี้ยวกราดที่ไม่มีที่สิ้นสุดพร้อมอาวุธคู่ใจบุกทะลวงไปยังหมิงเยวี่ยเก้อโหลวอย่างไม่หยุดพักหรือเหน็ดเหนื่อย......

ห้องเงียบสงบกลับคืนสู่สภาพเดิมขณะที่ชิงสุ่ยจับหมิงเยวี่ยเก้อโหลวเอาไว้ในอ้อมแขนขณะที่พวกเขานอนลงบนเตียงนอนปกคลุมด้วยผ้านวมที่นุ่มละมุน ชิงสุ่ยชอบความรู้สึกเมื่อหมิงเยวี่ยเก้อโหลวนอนเปลือยกายอยู่บนหน้าอกของเขา บางครั้งเขาเคยล้อเลียนนางด้วยการพูดเรื่องตลกสกปรกซึ่งทำให้นางบ่นด้วยความละอาย แต่ก็ทำให้นางหัวเราะเบาๆอย่างไม่อาจจะหยุดยั้ง!

"เจ้ามีอะไรบางอย่างในใจของเจ้าหรือไม่?" หมิงเยวี่ยเก้อโหลวจับลงไปตรงบริเวณหน้าอกของชิงสุ่ยเมื่อพูด!

"หมิงเยวี่ย ท่านคิดว่าผู้หญิงยินดีที่จะแบ่งปันผู้ชายกับผู้หญิงคนอื่นๆหรือไม่?" ชิงสุ่ยอยากรู้ว่าผู้หญิงคิดอย่างไร!

หมิงเยวี่ยเก้อโหลวยิ้มและมองไปที่ชิงสุ่ย" ชิงสุ่ยแทบจะไม่มีผู้ใดที่มีความสามารถทั่วโลกในเก้าทวีปที่จะมีผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น ในทางกลับกันผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดมาก พวกเขาชอบที่จะอิจฉาเพื่อไขว่คว้าบางสิ่ง ถ้าผู้ชายไม่มีผู้หญิงก็หมายความว่าเขาไม่มีความสามารถ ผู้ที่มีความสามารถจะมีผู้หญิงเป็นจำนวนมากในเวลาอันไม่นาน จริงๆแล้วมีผู้หญิงหลายคนที่อยากจะแบ่งปันคนที่โดดเด่นกับคนอื่นแทนที่จะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของพวกเขาไปกับชายที่ไร้ประโยชน์และคนธรรมดา แน่นอนว่ายังมีข้อยกเว้น!"

เมื่อได้ฟังคำพูดของหมิงเยวี่ยเก้อโหลว ดวงตาของชิงสุ่ยมีร่องรอยของการตัดสินใจที่มองเห็นได้ผ่านสายตาที่ชัดเจนของเขา!

0 0 โหวต
Article Rating
9 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด