ตอนที่แล้วAST บทที่ 137 - ความสุขจากใจจริงท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 139 - ระดับที่ 3 ของดินแดนหยกยุพราชอมตะ

AST บทที่ 138 - รักษาสภาพร่างกายที่ไม่มีผู้ใดรักษาได้


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 138 - รักษาสภาพร่างกายที่ไม่มีผู้ใดรักษาได้

ข้าควรจะทำต่อไปอีกหรือไม่?

สภาพจิตใจของชิงสุ่ยในตอนนี้รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหมิงเยวี่ยกล่าวออกมาว่า เธอจะไม่แต่งงานที่แล้ว และถ้าหากชิงสุ่ยยังคงปฎิเสธเธอ มันคงเทียบเท่ากับการดูถูก

แม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่ใช่สุภาพบุรุษแต่เขาก็ไม่ใช่คนใสสื่อ เขาเป็นเพียงชายที่ยืดติดกับสัญชาตญาณ ขณะนั้นชิงสุ่ยจึงรีบโอบกอดหมิงเยวี่ยและตัดสินใจว่าเขาจะไม่ละทิ้งเธอ

ผ้าห่มและเสื้อคลุมถูกปลดออก เหลือเพียงชุดชั้นในเพียงสิ่งเดียวที่กันระหว่างเธอกับชิงสุ่ย

"ชิงสุ่ย อย่ามองนะ!!!"หมิงเยวี่ยส่ายหน้าอย่างเขิลอาย เธอรับรู้ได้ถึงสายตาอันเร้าร้อนที่ชิงสุ่ยกำลังออกร่างกายของเธอ

ชิงสุ่ยค่อยๆอุ้มหมิงเยวี่ยวางลงบนเตียง

ความงดงามของเธอเปรียบแสงจันทราที่ส่องสง่าไร้ที่สิ้นสุด ชิงสุ่ยวางตัวอยู่บนร่างของหมิงเยวียและค่อยๆกดร่างกายเธอเอาไว้บนเตียง

เสียงอันคร่ำครวญและเสียงลมหายใจที่ปลอบประโลมกันสะท้อนออกมาในคืนที่เงียบสงบ ใบหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของหมิงเยวี่ยถูกสวมหน้ากากแห่งราคะ เสน่ห์และความงามที่ปรากฏไม่อาจอธิบายเป็นคำพรรณาใดๆบ้าง

…………………………..

"หมิงเยวีย เจ้ารู้สึกเสียใจบ้างไหม?"ชิงสุ่ยกอดเธออยู่บนเตียงและถามข้างหูเธอเบาๆ

"ข้าไม่เคยเสียใจเลย ตราบใดที่เป็นเจ้าแล้ว ข้าก็ไม่เสียใจเลย!!!"หมิงเยวี่ยตอบอย่างอ่อนโยน

"หลังจากนี้เจ้าคือผู้หญิงของข้า ตอนนี้ ข้าได้มีภรรยาที่งดงามและลูกสาวที่น่ารักอีกด้วย"ชิงสุ่ยมองดูทุกการกระทำ และมองเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักของหมิงเยวียในขณะที่กล่าวอย่างจริงจัง

"ชิงสุ่ยนี่มันดูเหมือนไม่ยุติธรรมกับเจ้าเลย"หมิงเยวี่ยเก้อโหลวพูดด้วยท่าทางที่ข่มขื่น เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นเป็นหญิงม่ายและลูกสาวของเธอก็ยังไม่มีความสัมพันธ์ใดๆเลยกลับชิงสุ่ย

"เจ้าอย่าได้กล่าวเรื่องความเป็นธรรมอีกเลย ตราบใดที่ข้าเต็มใจ อวี้ช่างก็จะถือว่าเป็นลูกสาวในสายเลือดของข้า"ชิงสุ่ยเธอมองเข้าไปในดวงตางดงามของหมิงเยวี่ยขณะกล่าวออกมาด้วยความตั้งใจ

หลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่ค่อนทางคล้ายกับ "คำสารภาพรัก" จากชิงสุ่ย ความอบอุ่นแพร่กระจายเข้าไปในหัวใจของหมิงเยวี่ย น้ำตาแห่งความรักไหลออกจากดวงตาอันงดงามของเธอ

"ชิงสุ่ยทำไมเจ้าถึงดีกับข้ามากเช่นนี้? ทำไม? ทำไมเจ้าถึงดีกับข้า?"หมิงเยวี่ยนวดศีรษะของเธอในอ้อมกอดของชิงสุ่ยการที่เธอกล่าว

"ท่านพ่อ!!!"

อวี้ช่างน้อยได้ตื่นขึ้น ชิงสุ่ยรีบไปอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยมานอนตรงกลางระหว่างเราสองคน ครอบครัวที่แสนสุขจ้องมองแสงจันทร์ที่อยู่ภายนอก ภาพนี้ทำให้หมิงเยวี่ยรู้สึกทั้งมีความสุขและเศร้าโศกอยู่ภายในใจ

นับตั้งแต่ที่เขาได้รับดินแดนหยกยุพราชอมตะ นี่เป็นวันแรกที่ชิงสุ่ยไม่ได้เข้าไปฝึกซ้อม ชิงสุ่ยยังคงจ้องมองเส้นขอบฟ้าไกล นึกคิดในหลายอย่าง

ระหว่างการฝึกฝนตอนเช้าตรู่ ชิงสุ่ยไม่อาจสงบจิตใจลงได้ ในความคิดของเขานั้นใบหน้าของหมิงเยวี่ยปรากฏขึ้นพร้อมกับใบหน้าอันเยือกเย็นขิงสือฉิงจวง

ในระหว่างมื้อเช้า ทุกคนต่าง รู้สึกถึงสายตาที่เปลี่ยนไปของหมิงเยวี่ยเก้อโหลว หน้าตาของเธอนั้นดูดีขึ้นอย่างมาก

"พี่สาวหมิงเยวี่ย วันนี้ท่านช่างดูงดงามเหลือเกิน"ชิงเป่ยกล่าวอย่างมีความสุข

คำพูดของชิงเป่ยทำให้ทุกคนในตระกูลชิงหันไปมองชิงสุ่ยอย่างไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ไม่ได้แสดงอาการใดๆออกมา พร้อมทั้งเล่นอย่างมีความสุขอยู่กับอวี้ช่างน้อย

คู่สามีภรรยาชิงจือและเฟิงเย่เฟ่ยต่างก็จ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาที่ผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่เฟ่ยสายตาของเธอนั้นส่องเป็นประกายในขณะที่จ้องมองชิงสุ่ย

ชิงสุ่ย ไร้ซึ่งกังวลและการตอบสนองขณะที่เขายังคงกินอาหารเช้าอย่างสงบ หลังจากมื้อเช้า ภายใต้ความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนในตระกูลชิง ชิงสุ่ยจึงตัดสินใจพาอวี้ช่างน้อยออกไปเดินเล่นตามตรอกซอกซอยในเมือง

"พี่ชายสุ่ย ข้าจะไปเดินเล่นกับท่าน "

"พี่ชายสุ่ย รอข้าด้วย"

ชิงสุ่ย "......................."

ในตอนแรก เขาแค่เพียงอยากจะพาอวี้ช่างน้อยออกมาเพียงคนเดียว แต่ใครจะคิดว่าครอบครัวของเขาจะออกมาด้วย

ชิงสุ่ยจ้องมองชิงหยูที่กำลังวิ่งไปข้างหน้า และชนกับเหล่าผู้คนที่มั่งคั่งที่อยู่ในทางเดินของเขา แต่เมื่อเขาเจอคนที่ยากจน เขาก็จะแสดงอาการสุภาพและใจดีออกมา หรือแม้กระทั่งช่วยหญิงชราข้ามถนน

ชิงสุ่ยไร้คำพูดใดๆ เขาไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดชิงหยูถึงได้รังเกียจคนที่มั่งคั่งมากขนาดนี้

ชิงสุ่ยตัดสินใจมาเดินเล่นกับอวี้ช่างในวันนี้ทั้งวัน และจะกลับไปยังศูนย์รักษาวิทยายุทธในวันพรุ่งนี้ และเขาได้ตัดสินใจแล้วว่าในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เขาจะเดินทางไปยังนิกายกระบี่นภาพร้อมกับเหวินเหรินอูซวง

"ท่านหมอ รอก่อน!!!"

ชิงสุ่ยหันหลังกลับไป หลังจากได้ยินเสียงที่คุ้นเคย มันคงไม่ใช่นายน้อยนุ่มที่ขาดธาตุหยางในร่างกาย? หรือเป็นคนที่เคยขัดจังหวะการสนทนาระหว่างเขากับอูซวง?

" หรือว่าเขาจะยอมรับข้อเสนอของข้า? โสม 1000 ปีและบัวหิมะ 1000 ปี?"ชิงสุ่ยใจสั่นเต้นน้อย ภาษีนำเขานั้นยังคงความสงบเอาไว้ขณะที่มอง ชายหนุ่มคนนั้น

"ท่านหมอ ข้าได้ทำตามความต้องการของท่าน ในเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ข้าได้นำซึ่งของทั้งหมดมาให้ท่านตามที่ต้องการ โปรดรับไปดูเถิด"

ชิงสุ่ยมองดูการแสดงออกทีบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นผ่านตาของชายหนุ่ม ในขณะที่เขาส่ายหัว เหตุใดเขาจึงมีความมั่นใจมากขนาดนี้ทั้งๆที่ ของที่เขาเรียกร้องทั้งหมดนั้นมันมีราคาแพง?

"ไปรอข้าที่ศูนย์รักษาวิทยายุทธ"

ชิงสุ่ยฝากอวี้ช่างน้อยไว้กับชิงเป่ยและกลุ่มคนที่เหลือ ขณะที่เขาเดินกลับไปยังศูนย์รักษาวิทยายุทธ เมื่อเขามาถึงชายคนดังกล่าวก็มารอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว เมื่อเขามองเห็นการมาถึงของชิงสุ่ย รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

"นี่คือสมุนไพรที่ท่านขอ และนี้ก็คือด้านของมันที่มีอายุมากกว่า 1500 ปี ท่านได้โปรดรับไปตรวจสอบเถิด"

ชิงสุ่ยยิ้มขณะที่เขาเปิดกล้องที่อัดแน่นไปด้วยพลังปราณจิตวิญญาณ โสม 1000 ปีสีม่วงหนาขนาดพอๆกับท่อนแขน แล้วยังมีดอกบัวหิมะ 1000 ปี ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสมุนไพรคุณภาพสูง ชิงสุ่ยยิ้มและเก็บกล่องนั้นเอาไว้

"ไปที่ชั้น 2!!!"

"ทำไมเจ้าถึงคิดว่าค่าสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของเจ้าได้ ในเมื่อผู้คนมากมายต่างบอกเจ้าว่ามันไม่สามารถรักษาได้?"ด้วยความสามารถในการรวบรวมจัดหาสมุนไพรได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ชิงสุ่ยคาดคิดไว้ว่าภูมิหลังของนายน้อยคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาและอาจเทียบเท่ากับนิยายกระบี่นภา

"ข้าก็ไม่รู้หรอก แต่ถ้าได้ใช้จ่ายทรัพยากรและเงินตราจำนวนมากในการหาหมอนับไม่ถ้วนเพื่อรักษาข้า ข้ารู้สึกได้ถึงบางอย่างตั้งแต่ที่พวกเราได้พบกัน แต่แม้มันจะล้มเหลวอีกครั้งมันก็ไม่มีอะไรจะเสีย"นายน้อยคนนั้นตอบอย่างข่มขื่น

ชิงสุ่ยรู้สึกชื่นชอบในความตรงไปตรงมาของรุ่นเยาว์คนนี้

"ถอดเสื้อผ้าออก"ชิงสุ่ยดึงเข็มสีทอง 9 เล่มที่ส่องประกายสดใสๆออกมา

"เจ้ารู้ใช่ไหมว่าความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่ข้าต้องเผชิญเกิดจากสิ่งใดกันแน่?"นายน้อยคนนั้นถามด้วยความประหลาดใจ

"ร่างกายของเจ้าขาดธาตุหยางมันยิ่งทำให้เจ้าไม่อาจร่วมรักกับเหล่าสตรีได้"ชิงสุ่ยตอบหน่อยน้อยคนนั้นที่กำลังแสดงท่าทีเขินอาย

" เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องอาย ตราบเท่าที่เจ้าต้องการรักษา โปรดเชื่อมั่นในตัวข้า!"หลังจากที่ชิงสุ่ยได้มองดูบุคลิกของนายน้อยคนนี้ เขาก็รู้สึกชอบ ทั้งมีความเด็ดขาด มีความเป็นผู้ใหญ่ และไม่หยิ่งยโส ชิงสุ่ยเองก็หวังว่าเขาจะได้เป็นเพื่อนกับชายคนนี้ ชายที่มีคุณสมบัติน่าชื่นชม

ดวงตาที่มองเห็นความหวังประกายขึ้นและจ้องมองไปยังชิงสุ่ย เขาเชื่ออย่างแท้จริงว่าชิงสุ่ยจะต้องมีวิธีรักษาอาการป่วยของเขา

เขาฝังเข็มอย่างรวดเร็วเข้าไปในจุด ซิ่นอวี้(หลัง) เสินอวี้(หลัง) มิ่งเหมิน(หลัง) จื้อซื่อ(หลัง) ชี่ไห่(ทอง) และจุดเหว่ยกง(หลัง)ที่อยู่บนร่างกายของชายหนุ่ม

จุดชีพจรทั้งหมดเหล่านี้เชื่อมต่อกับ  5 อวัยวะแกนกลางและ 6 อวัยวะภายใน ซึ่งหากมันถูกกระทำจะส่งผลทำให้ร่างกายสูญเสียความสมดุล อย่างไรก็ตามเมื่อผนวกเข็มทองคำและเปลวเพลิงบรรเทาอาการแรกเริ่ม ก็สามารถฟื้นคืนรากฐานแห่งวิญญาณและพลังปราณ รวมทั้งความชื้นและความร้อนภายในร่างกายมนุษย์ได้

ธาตุหยางที่สูญเสียไป เกิดจากการทำงานของไตที่ผิดพลาด โชคดีที่มีไปเพียงข้างเดียวเท่านั้นที่เกิดความเสียหาย  เขาจึงใช้ประโยชน์สูงสุดจากพลังปราณของเคล็ดวิชากายาบรรพกาล ในการฟื้นฟูกู้คืนอวัยวะภายใน และทะลวงช่องลมปราณต่างๆ อีกครั้งฟื้นคืนกระดูกและกล้ามเนื้อ และยังเข้าบำรุงฟื้นฟูจุดตันเถียนอีกด้วย

นายน้อยคนนั้นเริ่มเจ็บปวดทรมานจนแทบทนไม่ได้ ร่างกายของเขาในทุกส่วนเริ่มร้อนลุ่มดังไฟสุมทรวง เม็ดเหงื่อขนาดใหญ่เริ่มไหลออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร่างกายของเขานั้นราวกับนอนจมอยู่ในบ่อเหงื่อ

ทันใดนั้นมือที่เคยเย็นเริ่มกลับมาอุ่น เลือดลมเริ่มสูบฉีดอีกครั้ง ล่องลอยความตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนสายตา

นายน้อยคนมันรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเริ่มกลับมาอีกครั้ง น้ําตาก็เริ่มไหลอาบแก้ม น้ำตาเหล่านี้คือน้ำตาแห่งความสุข!!!

ทุกครั้งที่นายน้อยคนนี้มองเห็นร่องรอยความสิ้นหวังในสายตาพ่อแม่ของเขา เขามักจะตำหนิตัวเองอยู่เสมอเหตุใดเขาจึงไม่เท่าเทียมกับผู้อื่น ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่เขาจำยอมต้องปล่อยมือหญิงสาวที่เขารัก

ปล่อยพวกเธอไป และการคนเศร้า และยอมรับความเจ็บปวดทั้งหมดไว้ที่ตัวเอง

ชิงสุ่ยค่อยๆถอนเข็มทองคำออกอย่างช้าๆ

 

*****รูปประกอบแม่งใช้เลย 555555*******

0 0 โหวต
Article Rating
13 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด