ตอนที่แล้วตอนนี้ 122 – นักสู้ขั้นเส้นทางสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 124 – คำแนะนำของทหาร

ตอนที่ 123 – จดหมายของเชียนฮุ่ย


ตอนที่ 123 – จดหมายของเชียนฮุ่ย

 

“เด็กน้อยอย่าได้อารมณ์เสียไป ต้าจิวขึ้นชื่อเรื่องการบี้อย่างมาก หมายความว่าการบี้แบนจนเป็นดั่งมหาสมุทรได้เลย ดังนั้นเจ้าอย่าได้อารมณ์เสียไป ข้ารู้ว่าความรู้สึกนี้มันน่ากลัว แต่เด็กทุกคนที่ต้องเติบโตเป็นบุรุษจะต้องประสบความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน...”

ในระหว่างทหารผู้ใจแคบบ่นพึมพำ ใบหน้าของถังเทียนก็ดำทะมึน เขานิ่งเงียบพลางเดินไปข้างหน้า

ต้าจิวก็คือรูปปั้นทองแดงหมายเลขเก้า จุดที่น่าหนักใจของสหายผู้นี้คือร่างกายที่ใหญ่โตเกือบจะเท่าภูเขาย่อมๆ แม้กระทั่งถังเทียนผู้ที่มีความแข็งแรงของแขนก็ยังยากที่จะบิดพลิกมันได้ และจุดที่มีปัญหามากที่สุดก็คือมันชอบที่จะกระโดดขึ้นสูงก่อนที่จะนั่งลง

ถังเทียนได้ประสบพบเจอกับมันตรงๆมาเมื่อครู่นี้เอง

เขาอดทนเป็นเวลานานอยู่ภายในตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถที่จะหาวิธีผ่านมันไปได้เลย เขาจำไม่ได้แล้วว่ากี่รอบที่เข้ามาในนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีใดแท้ แม้กระทั่งความได้เปรียบเขาก็มีโอกาสเพียงชั่วครู่และเขาก็จมลงอยู่ในทะเลรูปปั้นทองแดงหลังจากนั้นไม่นาน

รูปปั้นหมายเลขหนึ่งมีความสามารถการต่อสู้ระยะประชิด เขาจะไม่ขัดหัวทองแดงของเขาได้หรือไม่? เขาจะไม่ใช้มันเพื่อทำให้คนอื่นแสบตาได้หรือไม่...?

รูปปั้นทองแดงแฝดสามที่มีแขนมากมายและอาวุธหลายชิดคือหมายเลขสี่ ห้า และหก จะเอาชนะพวกแฝดสามนี้ได้ยังไงกัน...

รูปปั้นทองแดงหมายเลขสิบเอ็ดผอมบางราวกับไม้ไผ่ มันเป็นดั่งมือกระบี่ที่หลุดโลก ใช้กระบี่งั้นหรือ? เจ้าน่าจะใช้กระบี่คู่มากกว่าจะได้เข้ากับหมายเลขของเจ้า….

สหายทั้งสิบแปดนี้พวกเขาเป็นดั่งทีมฟุตบอลที่มีตัวสำรองถึงเจ็ดคน

สิ่งที่ทำให้ถังเทียนต้องขบกัดฟันคือ รูปปั้นทั้งสิบแปดนี้มันไม่เป็นดั่งผู้เชี่ยวชาญเลย วิธีของพวกมันที่ใช้กลับเลือกเอาแต่ที่ต่ำช้าหรือไม่มีแม้แต่กระทั่งที่น่านับถืออย่างเช่นการต่อสู้ตัวต่อตัว และแน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่ได้ดูน่าเกรงขามเลย

ชั่วช้า ไร้ยางอาย และเจ้าเล่ห์...

พวกมันก็เป็นแค่พวกสิบแปดมงกุฎ!

กลยุทธ์ที่พวกมันใช้มีแต่กลุ้มรุมอย่างหมาหมู่

ถังเทียนกัดฟัน เขาต้องถูกทรมานทุกวันโดยสหายพวกนี้ เขาไม่กล้าที่จะคิดว่าการเกณฑ์ทหารของกองทัพกางเขนใต้แท้จริงจะต้องผ่านตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์แห่งนี้ด้วย เหล่าสหายในอดีตพวกนั้นจะน่าสงสารเพียงใดกันเชียว...

เหตุใดกองทัพกางเขนใต้ที่ถูกทำลายล้างไปแล้วยังมีสถานที่บัดซบเช่นนี้เหลืออยู่อีก...

รอข้าก่อนเถอะเจ้าพวกสิบแปดมงกุฎ… ข้าจะต้องอัดพวกเจ้าให้เละเป็นเศษเหล็กเลย…

ถังเทียนที่มุ่งมั่นกลับไปยังสนามฝึกซ้อม เขามองสำรวจไปรอบๆอย่างไม่เป็นมิตร บรรยากาศรอบๆต่างลดลงอย่างรวดเร็ว

ซางกวนเวยและซางกวนจู้ทั้งสองก็รู้สึกสั่นสะท้านและตื่นตระหนกและเสียงตะโกนของพวกเขาก็เบามาก ช่างน่าสงสารนักการฝึกของพวกเขาไม่ได้ช่วยให้เขาปลอดภัยจากอันตรายได้เลย

“พวกเจ้าสองคนมานี้ ให้ข้าดูหน่อยว่าความคืบหน้าในสองวันนี้ที่เจ้าทำได้เสียหน่อย” ถังเทียนกล่าวอย่างน่ากลัว

พวกเขาทั้งสองหน้าหมองคล้ำฉับพลัน

ชั่วครู่ต่อมา ทั้งสองก็นอนกองปรากฏอยู่ภายในสนามฝึกซ้อม ถังเทียนก็ได้จากไปอย่างพึงพอใจหลังจากที่เขาได้ปลดปล่อยความขัดข้องของเขา

สหายทั้งสองนี้มีการพัฒนาที่ดี...

แต่ความรู้สึกที่ดีนี้มัน...

อืม...ตัดสินใจแล้ว! พรุ่งนี้จะต้องมาอีก

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

“ลุงเฉียนกำลังตามหาข้าอยู่งั้นหรือ?” ถังเทียนกระโดดขึ้นไปบนระเบียง เนื่องจากระเบียงนี้มันเป็นจุดสูงที่สุดภายในตระกูลซางกวนซึ่งเป็นที่ที่ใช้สำหรับสอดส่องได้ทั่วทั้งคฤหาสน์

เมื่อลุงเฉียนพบเห็นถังเทียนก็ยกยิ้มอันอบอุ่นกระจายพาดอยู่บนใบหน้าของเขา

ไม่รู้เพราะเหตุใดนายน้อยเทียนถึงได้เติบโตมาได้น่าตกใจเช่นนี้กัน...

“หลายวันมานี้ลำบากนายน้อยเทียนแล้วขอรับ”

เมื่อลุงเฉียนได้เห็นถังเทียนฝึกอย่างหนักทุกวัน ถังเทียนก็ได้ทำให้ตนเองเป็นตัวอย่างภายในสนามฝึกซ้อม การฝึกฝนของเขาเพียงคนเดียวก็มากกว่าคนอื่นทั้งหมดแล้ว มิเคยลดน้อยลง ถ้าหากมิใช่เพราะการกระตุ้นของนายน้อยเทียนแล้วล่ะก็ เหล่าสหายตัวน้อยพวกนี้จะมาฝึกหนักกันได้เยี่ยงไร?

แม้กระทั่งนายน้อยเทียนก็ยังใช้เวลามากมายทุกวันเพื่อแนะนำพวกเขา

เมื่อลุงเฉียนได้เห็นความคืบหน้าของเหล่ารุ่นเยาว์ภายในตระกูลซางกวนแค่เพียงสองเดือนเหล่ารุ่นเยาว์ก็ต่างมีการพัฒนาเหมือนกันทั้งหมด

สำตระกูลต่างๆแล้วความคืบหน้าเช่นนี้มันเรียกว่า ‘ก้าวข้ามขอบเขตที่ยิ่งใหญ่’

ในทางตรงข้ามถังเทียนก็ไม่ได้อวดเก่ง และเขาคงจะตกใจถ้าลุงเฉียนรู้ว่าการฝึกฝนเหล่านี้มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เขาฝึกฝนอย่างแท้จริง

หลายวันมานี้เขาฝึกฝนอย่างรุนแรงจนเขาแทบที่จะลืมวันเวลาไปเลย

เขาโบกมือของเขา “ลุงเฉียนอย่าทำตัวเป็นเจ้าระเบียบมากเลย”

ลุงเฉียนก็พยักหน้ารับและท่าทางของเขาก็กลายเป็นจริงจัง “ตอนที่คุณหนูจากไป นางได้กล่าวเอาไว้ว่าถ้าหากนางมิได้กลับมาภายในสองเดือนนี้ ตัวข้าจะเป็นคนพาท่านไปยังห้องของนางขอรับ”

รอยยิ้มของถังเทียนสลายหายไปพลางขมวดคิ้ว “ห้องของนาง?”

“ขอรับ” ลุงเฉียนพลันรู้สึกเคร่งเครียดเมื่อเห็นถังเทียนขมวดคิ้ว

“พาข้าไปที่นั่นเถอะ” ถังเทียนไม่มีแม้แต่ความลังเลใจ

“ได้เลยขอรับ”

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

นี่เป็นคราแรกที่ถังเทียนเข้ามาภายในห้องของเชียนฮุ่ย.

ห้องของเชียนฮุ่ยมีขนาดใหญ่กลางห้องวางไว้ด้วยโต๊ะและมันคล้ายเหมือนจะกว้างขวางมาก กำแพงทั้งสี่ด้านต่างเต็มไปด้วยชั้นตำรา แต่ละชั้นเต็มไปด้วยตำรามากมาย ตำราหลายเล่มสีซีดเหลืองและฉีกขาดบ่งบอกได้ทันทีว่าพวกมันดูเก่ามาก

ช่างเป็นสถานที่น่าอึดอัดนัก...

ถังเทียนกลืนน้ำลาย สำหรับคนหนุ่มที่เรียบง่ายและเลือดร้อนสถานที่แห่งนี้ก็เหมือนเป็นสถานที่ซึ่งทำให้เขาหงุดหงิดได้ง่ายเลย

โชคดีนักที่ปัญญาของเชียนฮุ่ยเฉลียวฉลาด...

ถังเทียนคิดว่าที่เชียนฮุ่ยให้เขามาในห้องของนาง นี่หมายความว่านางจะต้องทิ้งอะไรบางอย่างไว้ภายในเป็นแน่

เชียนฮุ่ยรู้ว่าเขามิใช่คนฉลาด นางจะต้องไม่ซ่อนสิ่งของลับตามากเกินไป

ถังเทียนก็สำรวจไปยังรอบๆ หื้ม? สายตาของเขาจ้องไปยังชั้นตำราที่มีรอยประทับอยู่ สายตาของถังเทียนก็พลันสว่างวาบ กลุ่มดารากางเขนใต้!

เกี่ยวกับการหมกมุ่นเรื่องกลุ่มดารากางเขนใต้ของถังเทียน มีเพียงเชียนฮุ่ยที่รู้ดี

ถังเทียนก็พบเจอจดหมายของเชียนฮุ่ยที่ทิ้งไว้ให้เขา มันเป็นไปตามที่คาดไว้หลังจากที่เขาได้เดินไปที่ชั้นตำรา

“พี่ใหญ่เทียน ถ้าหากท่านกำลังอ่านจดหมายนี้อยู่ นั่นหมายความว่าข้าไปสืบหาร่องรอยของกลุ่มดารากางเขนใต้แล้ว ในช่วงสองสีนี้ ข้าได้แอบสืบสวนข้อมูลที่เกี่ยวข้องแผ่นป้ายดารากางเขนใต้อย่างลับๆ กลุ่มดารากางเขนใต้เป็นกลุ่มดาราที่เล็กที่สุดที่มนุษย์ได้ค้นพบ นอกเหนือจากนั้นมันก็แทบจะไม่มีข้อมูลอันใดอีก กลุ่มดาราอมตะตกต่ำเป็นเวลานานเกินไปและอยู่ห่างไกลจากจุดศูนย์กลางของโลกมากนัก ดังนั้นมันจะมีข้อมูลที่น้อยนิด ข้าได้แต่ฝากความหวังไว้กับตำราโบราณที่อธิบายที่เรื่องสมบัติ หวังอย่างยิ่งว่าข้าจะสามารถได้เบาะแสจากพวกมัน”

ถังเทียนมองไปยังลายมือที่สวยงามของเชียนฮุ่ยและรู้สึกประทับใจ เขาอดคิดมิได้ว่าความพยายามแค่ไหนที่เชียนฮุ่ยใช้มันเพื่อช่วยเหลือในการสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับแผ่นป้ายดารากางเขนใต้นี้

“ในที่สุดภายในตำราโบราณข้าก็ค้นพบเบาะแสบางอย่าง กลุ่มดารากางเขนใต้เคยสร้างกองทัพอันแข็งแกร่งนามว่ากองทัพกางเขนใต้ ในช่วงยุคสมัยสามกองทัพยิ่งใหญ่ พวกเขาเป็นหนึ่งในกองกำลังทั้งสามที่แข็งแกร่งที่สุด และในการรบครั้งสุดท้ายระหว่างกองทัพแมงป่องและกองทัพอสรพิษ กองทัพแมงป่องก็ได้ชัยและเริ่มก่อตั้งราชวงศ์แมงป่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตกใจคือหลังจากนั้นความพ่ายแพ้ของกองทัพกางเขนใต้ กลุ่มดารากางเขนใต้ก็หายเงียบไปเลยและไม่กี่พันปีต่อมา ก็ไม่เหลือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มดารากางเขนใต้ให้เห็นอีกแล้ว”

“ความสามารถที่มีชื่อเสียงของกองทัพกางเขนใต้คือเครื่องกลไก แม้กระทั้งวันนี้พวกมันก็ยังอยู่ในจุดสุดยอดของวิชาเครื่องกลไก พ่ายแพ้และถูกทำลายล้างเป็นเรื่องธรรมดาในอดีต จากนั้นการสืบค้นก็หมดหนทางไป จนวันหนึ่งข้าก็พลันนึกข้อสงสัยแปลกๆได้”

“ทั้งสามกองทัพต่างทรงพลังอย่างยิ่ง กองทัพแมงป่องและอสรพิษต่างอยู่ในแนวสุริยุปราคา พวกเขาแสดงตัวแล้วว่าเป็นกลุ่มดาราที่ทรงพลังที่สุด พลังของพวกเขาสุดจะหยั่งถึง แต่กองทัพกางเขนใต้เล่า? กลุ่มดารากางเขนใต้มันเป็นกลุ่มดาราที่เล็กที่สุด แต่มันก็มีความลับพิเศษอยู่ ความสามารถในวิชาเครื่องกลไกที่พวกเขาพึ่งพามัน แท้จริงแล้วมันมาจากที่ใดกัน? ผู้ใดเป็นบุคคลที่ก่อตั้งกองทัพ? ถิ่นฐานพวกเขาอยู่ที่ใดกัน?”

“ข้อสงสัยนี้มันกระตุ้นความอยากรู้ของข้า จนกระทั่งข้าพบเกี่ยวกับหัวหน้าของกองทัพนี้ เขาคือเหมิงอี้ บุคคลระดับสูงของกองทัพกางเขนใต้ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง และเมื่อเทียบกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญอันมากมายแล้ว เหมิงอี้เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่มีผู้ใดรู้แหล่งกำเนิดที่มาของเขาเลย มันไม่เหมือนกับคนอื่นที่สามารถตามรอยกลับไปได้”

ขณะที่ถังเทียนอ่านถึงส่วนนี้ เขาก็ไม่ลังเลใจที่จะกล่าวถามทหาร “นี่ลุง ท่านรู้ที่มาของหัวหน้าท่านหรือไม่?”

ทหารขมวดคิ้วและดูเหมือนว่ากำลังขบคิดอย่างหนัก ไม่นานต่อมาเขาก็สายหัว “ข้าไม่รู้เหมือนกัน ที่มาของหัวหน้าลึกลับอย่างยิ่ง ทุกคนเคยถามเขามาก่อนแต่เขาก็ไม่เคยเปิดเผยออกมา”

ถังเทียนก็ร้องตอบกลับ ‘โอ้’ และหันกลับไปอ่านต่อ ส่วนทหารก็ลอยตัวเข้ามาอ่านด้วยเช่นกัน

“ในการรวบรวมข้อมูลของกองทัพกางเขนใต้ เหมิงอี้ผู้มีที่มาอันลึกลับคนนี้มีหน้าที่สำคัญมาก ข้าจึงเริ่มค้นหาไปยังภูมิหลังของผู้นำอันลึกลบผู้นี้ แต่กองทัพกางเขนใต้อยู่ไกลจากพวกเรานัก และเบาะแสที่ถูกทิ้งไว้ก็มีเพียงน้อยนิด จนกระทั่งตำราโบราณได้อธิบายเรื่องเกี่ยวกับผู้นำคนนี้ว่าเขาได้อาศัยอยู่ลึกไปภายในกลุ่มดารากางเขนใต้”

“ลึกไปภายในกลุ่มดารากางเขนใต้?” ทหารอุอานออกมา “เป็นไปไม่ได้ พวกเราได้ตระเวนไปทุกซอกมุมส่วนลึกภายในกลุ่มดารากางเขนใต้หมดแล้ว! ไม่สิ เดี๋ยวก่อนนะ!”

ถังเทียนรีบเร่งกล่าวถาม “มีอะไรงั้นหรือ?”

ท่าทางของทหารกลายเป็นแปลกประหลาด “มันมีฐานเล็กๆอยู่ที่นั้นถูกสร้างขึ้นโดยหัวหน้า”

ทหารไม่ใช่คนโง่เขารู้จักหัวหน้าเป็นอย่างดี ด้วยส่วนเกี่ยวข้องกันนี้ทำให้เขานึกถึงปัญหามากมายภายในอดีต

“ในอดีต ทุกคนต่างคิดว่าหัวหน้าเป็นคนแปลกประหลาด แต่เมื่อเขามียศที่สูงกว่าเมื่อเขาต้องการให้สร้างมัน พวกเราก็เพียงแค่สร้างมัน! เป็นไปได้หรือไม่ว่าที่นั่นจะมีความลับซ่อนอยู่กัน?” ทหารพึมพำกับตัวเอง

ถังเทียนยังอ่านต่อไปอยู่

“กองทัพกางเขนใต้จะต้องมีภารกิจบางอย่างของพวกเขา หลังจากที่ข้าได้สืบสวนเกี่ยวกับกองทัพ ข้าก็ยิ่งมั่นใจในเรื่องนี้ เกี่ยวกับสามกองทัพยิ่งใหญ่มีเพียงแค่กองทัพกางเขนใต้เท่านั้นที่ไม่ต้องการที่จะขยายความทะเยอทะยานออกไป มันช่างแปลกประหลาดเช่นกัน”

“ลุง นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ถังเทียนเง่ยหน้าขึ้นกล่าวถาม

“ถูกต้องแล้ว กองทัพเพียงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองกลุ่มดารากางเขนใต้ และกองบัญชาการก็อยู่ที่นั้นทำให้พวกเรายากที่จะออกไปข้างนอกได้” ปิงพยักหน้า “มันมีการแบ่งเขตอยู่มากมายนัก”

“เป็นไปได้หรือไม่ว่ากลุ่มดารากางเขนใต้แท้จริงแล้วมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่?” ถังเทียนถามอย่างอยากรู้

ทหารส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้”

ถังเทียนก็ยังอ่านต่ออยู่

“พี่ใหญ่เทียน ต้นกำเนิดของแผ่นป้ายดารากางเขนใต้ฯของท่านมันไม่ใช่ธรรมดาเลย หลังจากยุคสมัยสามกองทัพยิ่งใหญ่ สมบัติของกลุ่มดารากางเขนใต้มิเคยปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งเลย ถ้าหากกองทัพรักษากลุ่มดาราเปรียบเสมือนฐานแล้วล่ะก็ งั้นแผ่นป้ายมันจะต้องเป็นหนึ่งในสมบัติสำคัญที่สุดของพวกเขาอย่างแน่นอน มันเป็นไปได้สูงที่มันอาจจะเป็นกุญแจไปยังกองทัพ หลังจากที่ถูกทำลายล้างไปแล้ว ทรัพย์สินของกองทัพทั้งหมดต่างหายไปไม่เหลือและมันยังคงเป็นปริศนามาจนถึงวันนี้”

“ข้าสงสัยว่าคุณลุงอาจจะเคยเข้าไปภายในกลุ่มดารากางเขนใต้ในอดีตหรือมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพ เมื่อข้าค้นพบร่องรอยแยกของกลุ่มดารากางเขนใต้ แต่ท่านไม่สามารถที่จะมาเองได้ ถ้าท่านอ่านจดหมายนี้ ข้าอาจจะประสบปัญหาบางอย่าง ด้านหลังของจดหมายเป็นแผนที่จากภูเขากลุ่มดาราอมตะไปจนถึงกลุ่มดารากางเขนใต้ บางส่วนของมันอาจจะไม่ถูกต้อง พี่ใหญ่เทียนสามารถใช้มันแค่เพียงอ้างอิงเท่านั้น”

“ข้ารู้ พี่ใหญ่เทียน ว่าท่านจะต้องมาหาข้า แต่มิว่าจะเป็นเรื่องอะไรโปรดระวังตัวเองด้วย”

จดหมายก็จบลงตรงนั้น

“ค่ายทหารเกณฑ์อยู่ที่ใดกัน? มิใช่มันอยู่ที่กลุ่มดารากางเขนใต้หรอกหรือ?” ถังเทียนกล่าวถามทหาร

“ถูกต้องมันก็อยู๋ที่กลุ่มดารากางเขนใต้” ทหารก็ส่ายหัว “แต่มันแตกต่างจากค่ายทหารเกณฑ์นัก กลุ่มดารากางเขนใต้มีดาวเคราะห์อยู่สี่ดวง แต่เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้เพราะทั่วทั้งดาวเคราะห์มันถูกปิดผนึกไปด้วยหมอกกาลเวลาสีเทา”

“ถ้างั้นพวกเราก็ควรใช้เส้นทางธรรมดา!”  ถังเทียนแน่วแน่

[คั่นหนังสือ : ศูนย์บัญชาการหรือค่ายทหารเกณฑ์ก็คือสถานที่เดียวกันนะครับ พอดีตอนนี้เป็นผู้แปลอังกฤษอีกท่าน ศัพท์มันเปลี่ยนไปทำให้ผมอาจจะเผลอพิมพ์เปลี่ยนไปด้วย]

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด