ตอนที่แล้วAST บทที่ 118 - กวางย่างก้าวจากเคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์ 9 อสูร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 120 - ความมีเสน่ห์ของอวี้เหอ

AST บทที่ 119 - ความลึกลับของเจ้าอ้วนน้อย


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 119 - ความลึกลับของเจ้าอ้วนน้อย

"ความหวังยังมีอยู่"

"เพื่อนตัวน้อย เจ้าพูดว่า เจ้าอ้วนน้อยยังสามารถรอดได้เช่นนั้นหรือ?"ชายชรามองชิงสุ่ยด้วยความประหลาดใจ

"แน่นอน ท่านผู้อาวุโส หรือว่าท่านมีปัญหาอะไร?"หลังจากที่ชิงสุ่ยได้ยินเสียงสนทนา เขาจึงถามชายชราออกไป

"เห้อ ตั้งแต่เจ้าอ้วนน้อยเกิด โชคร้ายก็ปรากฏขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า และเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตอนที่เขาอายุ 3 ขวบ แม่ของเขาก็เสียชีวิตจากอาการป่วยหนัก และเมื่อเขาอายุได้ 7 ขวบ พ่อของเขาก็ออกล่าสัตว์และถูกมียักษ์สังหาร มันกินเขาจนหมดไม่เหลือแม้แต่กระดูกไว้ทำพิธี  หลังจากนั้น พี่ชายของเขาก็พาเขามาที่นี่ และเมื่อเขาอายุ 12 ขวบ ตัวของเขาก็เกิดโรคร้ายขึ้น อาการป่วยพอขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ ในตอนที่เขาถือกำเนิดมาพระเจ้าได้ประทานพรร่างกายที่แข็งแกร่งให้เขา และมีเพียงพี่ชายของเขาเท่านั้นที่เกลี้ยกล่อมเขาได้ แต่ในครั้งนั้นอาการป่วยก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน มันแย่ลงและควบคุมเขา มันทำให้เขาสังหารพี่ชายของตัวเอง!!!"

ชิงสุ่ยคนหลายใจ ในตอนที่เขามองเห็นเจ้าอ้วนน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าเจ้าอ้วนน้อยกำลังทรมานอยู่กับโรค "โรคบ้าคลั่งครอบงำ" และเขาก็รู้ดีว่าอาการเจ็บป่วยนั้นจะโผล่ขึ้นมาโดยไม่มีใครรู้ และเขาจะเริ่มทำร้ายผู้คน

"เด็กคนนี้มีชีวิตที่ขมขื่นยิ่งนัก พวกเราไม่อาจตอบสนองความหิวกระหายของเขาได้ หลังจากที่เขาสังหารพี่ชายของเขา เขาก็ไม่กินอะไรเลย มันทำให้น้ำหนักของเขาเริ่มลดลง และในตอนนี้เขานั้นต้องการฆ่าตัวตาย สิ่งที่พวกเราทำได้นั้นคือโน้มน้าวไม่ให้เจ้าอ้วนน้อยฆ่าตัวตาย"ชายชราพูดยังข่มขื่น

ชิงสุ่ยรู้สึกสงสาร แต่ก็สงสัยเมื่อเขาได้ยินว่าเจ้าอ้วนน้อยไม่ได้กินอะไรเลยและสูญเสียน้ำหนัก แล้วไขมันที่เขาเคยมีก่อนหน้านั้นจะขนาดไหน?

"โรคบ้าคลั่งครอบงำ"คืออาการสูญเสียการควบคุมอารมณ์และความสามารถทางสติปัญญา ชิงสุ่ยคลิกตัวเจ้าอ้วนน้อยให้หมอบลงและหยิบเข้มสีทองฝังเข้าไปในจุดไป๋หุ้ย

หลังจากที่ใช้เคล็ดวิชาเบิกเนตรสวรรค์ เขาก็มองเห็นก้อนของแข็งขนาดเท่าเม็ดถั่วอยู่ภายในเส้นชีพจร มันคอยขวางกั้นเส้นลมปราณ และเมื่อใดที่เส้นลมปราณถูกขวางกั้น โรคบ้าคลั่งครอบงำก็จะถูกเปิดขึ้น

ชิงสุ่ยส่งคลื่นพลังเปลวเพลิงบรรพกาล ผ่านเค็มเพื่อนละลายก้อนที่แข็งตัว และทะลวงผ่านเส้นลมปราณให้กับเจ้าอ้วนน้อย

"น้องชาย เจ้ากำลังจะทำอะไร? ยังไงมันก็คงต้องตาย!!!"หญิงสาวคนเดิมบ่นออกมา

"ตัวข้านั้นเป็นหมอ และข้าขอบอกเลยว่าอาการเจ็บป่วยจะไม่สามารถรักษาจากภายนอกได้ เพราะมันเป็นอาการเจ็บป่วยทางจิตใจ!!!"

"ลูกวัวคงไม่กลัวเสือ" ชายวัยกลางคน แบกกระเป๋าพร้อมกล่าวด้วยความรังเกียจ เพราะเขานั้นคือหมอที่เก่งที่สุดในละแวกนี้

ชิงสุ่ยหยุดไปชั่วขณะก่อนที่เขาจะถอนเข็มออก และในเวลาเดียวกันนิวเล็กๆของเจ้าอ้วนก็ขยับ!!!

ฝูงชนมองดูด้วยความประหลาดใจในขณะที่เจ้าอ้วนน้อยค่อยๆเปิดตามองไปรอบรอบฝูงชนด้วยความงุนงง

"หมอเทวดา เขาสามารถรักษาเขาได้อย่างง่ายดาย"

"หมอเทวดา!!!!"

"หมอเทวดา!!!!"

………………………….

ไม่ทราบว่าใครเป็นคนแรกที่เริ่มเรียกคำว่า หมอเทวดา แต่หลังจากนั้นผู้คนในฝูงชนทั้งหลายต่างตะโกนพร้อมพร้อมกัน ชิงสุ่ยจึงค่อนข้างรู้สึกอายเล็กน้อย ส่วนชายวัยกลางคนๆนั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

"เจ้าอ้วนน้อย ขอบคุณหมอเทวดาคนนี้เร็ว เขาเป็นคนช่วยชีวิตเจ้า!!!"ชายชราออกคำสั่งอย่างรวดเร็วแก่เจ้าอ้วนน้อย

"ท่านเป็นคนช่วยชีวิตข้าไว้ใช่หรือไม่?"เสียงของเจ้าอ้วนน้อยทุ้มต่ำ มันเป็นเสียงที่เกิดจากภายใน และเต็มไปด้วยพลังปราณ

"ข้าคิดว่าอย่างนั้นนะ"ชิงสุ่ยยิ้มตอบอย่างอบอุ่น

สายตาของเจ้าอ้วนน้อย จ้องมองไปยังฝูงชนรอบรอบก่อนที่จะหันกลับมายังชิงสุ่ย "ขอบคุณท่านมาก ท่านช่างเป็นคนที่ดีจริงๆ"

ชิงสุ่ย"......................... "

"ข้าขอติดตามท่าน เพื่อชดใช้และตอบแทนคุณความดีที่ท่านมอบให้ข้า"คำพูดของเจ้าอ้วนน้อยทำให้ชิงสุ่ยถึงกับตกตะลึง

"ความเจ็บปวดของเจ้านั้นหายขาดแล้ว และมันจะไม่มีวันกลับมาเป็นอีก เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าและข้าไม่ได้ช่วยเจ้าเพื่อหวังสิ่งตอบแทน" ชิงสุ่ย ตอบยังขุ่นเคือง แล้วทำไมเขาจะต้องให้เจ้าอ้วนน้อยตามเขาไปทุกที่

"ก่อนที่พี่ชายถ้าจะละสังขารจากโลกนี้ไป เขาบอกกับข้าว่าจะมีชายผู้หนึ่งมาช่วยชีวิตข้าไว้และข้าจะต้องตอบแทนบุญคุณทั้งหมดและติดตามเขาไป ตัวข้านั้นแท้จริงแล้วแข็งแกร่งมากๆ ข้าสามารถทำทุกอย่างเพื่อท่านได้"เสียงอี๊ดโรยของเจ้าอ้วนน้อยเคยเห็นถึงความน่าเอ็นดู

"เจ้าอ้วนน้อยนั้นแข็งแกร่งจริงๆ เขาเคยสั่งหารวานรยักษ์ที่อยู่ในหุบเขาเคราะห์ร้าย" ชายชรากล่าวออกมา

วานรภูผายักษ์ เป็นสัตว์ดุร้ายระดับ 8 ถ้าหากเขาสามารถสังหารมันได้ นั่นก็หมายความว่าความแข็งแกร่งของเขาควรอยู่ที่ประมาณ 5000 จินเป็นอย่างน้อย และมันยิ่งทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง เพราะนี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงตั้งแต่กำเนิดและเขานั้นอาศัยเพียงร่างกายเท่านั้น

"ได้โปรดพาเขาไปด้วยเถิด พวกเราจะเป็นกังวลกว่านี้ถ้าหากเขายังคงอยู่บนเขาลูกนี้" หญิงสาวที่แต่งงานแล้วคนเดิมกล่าวคะยั้นคะยอ

ชิงสุ่ยมองดูหญิงสาวที่แต่งงานแล้วเธอนั้นมีเสน่ห์และมีความคมชัดในทุกคำพูด ก่อนหน้านี้เขาเพียงมองไปที่เธอแต่ครั้งนี้เขานั้นจะสามารถมองเธออย่างใกล้ชิด เธอนั้นเป็นคนชั้นสูง ใบหน้ารูปไข่ และดวงตาราวกับหงส์ฟ้า ผมของเธอถูกถักเปียอยู่ด้านข้างเพิ่มความเสนอให้เธอมากขึ้นอีก 30 % ยอดปกคู่ของเธอเต่งตึงจนเกือบระเบิดออกมา เอวคอดและเรียวยาวคุณสามารถอบกอดได้โดยมือข้างเดียว รูปร่างที่มีเสน่ห์ผนวกกับก้นที่กระปรี้กระเปร่า พร้อมทั้งขาเรียวยาวเหมือนผิวหยก และเครื่องแต่งกายสีชมพูที่เธอสวมใส่สร้างความปลุกใจ เธอนั้นดูเหมือนนกกะเรียนท่ามกลางฝูงไก่ ถึงแม้เธอจะมีความงามที่แท้จริง แต่คำพูดของเธอนั้นกลับรุนแรงอย่างมาก

ตอนนี้ท้องฟ้าก็ใกล้มืดลงแล้ว ดังนั้นชิงสุ่ยจึงตัดสินใจรับเจ้าอ้วนน้อยในฐานะผู้ติดตาม เส้นทเส้นทางบนถนนยังอีกยาวไกลและต้องใช้เวลา "ท่านแม่ เราพักที่นี่ก่อนเถอะ แล้วพวกเราก็ออกเดินทางกันในตอนเช้ามืด ส่วนสำหรับเจ้าอ้วน ได้โปรดให้เขาเดินทางไปพร้อมกับเราด้วยเถิด"

ชิงอี้หัวเราะขณะที่เธอพยักหน้า

หลังจากที่ผู้คนบนเขาแห่งนี้รู้จุดประสงค์การมาเยือนของชิงสุ่ย พวกเขาทั้งหลายต่างหยิบยื่นข้อเสนอการค้าสมุนไพรมากมายเพื่อแลกเปลี่ยนสานสัมพันธ์  ดังนั้นมันจึงทำให้ชิงอี้ประหยัดเวลาและลดปัญหาอย่างมาก

"ท่านหมอเทวดาตัวน้อย บ้านของข้ามีสมุนไพรอยู่ด้วย ท่านอย่าลืมมาบ้านข้าละ แล้วข้าจะยกสมุนไพรให้แก่ท่าน"หญิงสาวที่แต่งงานแล้วกระซิบบอกชิงสุ่ย มันเกิดดึงดูดความสนใจชิงสุ่ย นับตั้งแต่ที่เขาได้กระทำกับสือฉิงจวง เขาก็ไม่เคยทำมันอีก แต่ในตอนนี้หญิงสาวข้างหน้ากลับยื่นข้อเสนอมาให้เขา ถึงเขาจะรู้สึกไม่ต้องการ แต่จิตใจของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยเปลวเพลิง

"พรุ่งนี้เถิด ตอนนี้มันดึกเกินไปเสียแล้ว"ชิงสุ่ยระงับอารมณ์ของตัวเองในขณะนั้นที่เขายิ้มและตอบกลับ

หลังจากที่เจ้าอ้วนน้อยรับรู้ว่าชิงสุ่ยยินดีที่จะให้เขาติดตามไป เขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก ในตอนนี้จากการสอบถามชิงสุ่ยก็รู้แล้วว่าเจ้าอ้วนสูงถึง 2 เมตรหนัก 300 จิน และอายุเพียง 15

ในท้ายที่สุดชิงสุ่ยก็ตัดสินใจให้เจ้าอ้วนน้อยไปอยู่ที่ที่หนึ่ง หลังจากเสร็จสิ้นการซื้อขายสมุนไพรในวันพรุ่งนี้

เมื่อกลับมาถึงที่พัก เจ้าอ้วนน้อยกล่าวยังเขินอาย "ให้ข้าเตรียมอาหารให้กับท่านเถิด" แต่ชิงสุ่ยก็บอกให้เจ้าอ้วนหยุดลง เพราะก่อนที่เขาจะเดินทางมาถึง เขาได้ล่ากวางป่า 2 ตัวและตั้งใจจะกินมันเป็นอาหารค่ำ

ในระหว่างมื้ออาหาร ชิงสุ่ยก็รู้ว่าทำไมเจ้าอ้วนถึงได้ถูกเรียกว่าเจ้าอ้วนน้อย ความกระหายของเขามากกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า แต่เมื่อคิดถึงความแข็งแกร่งระดับสวรรค์ตั้งแต่กำเนิด เขาก็ได้เพียงแต่คาดหวังบางสิ่งบางอย่าง

" หลังจากที่เจ้าหายดี ข้าจะดูแลและสนับสนุนเจ้า " ชิงสุ่ยเริ่มคิดวิธีฝึกฝนเจ้าอ้วนน้อย ถ้าหากมันไม่สำเร็จ เขาก็ยังสามารถฝากฝังเจ้าอ้วนน้อยให้อยู่ในกลุ่มหมาป่ามรกตเพื่อควบคุมสติอารมณ์ของเขาอีกสัก 2-3 ปี

ในคืนนั้น ชิงสุ่ยกลับเข้าสู่ดินแดนห้วงมิติเพื่อฝึกฝนวรยุทธ์

ตอนนี้ เขาสามารถโคจรพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลได้สูงสุดถึง 50 รอบแล้ว และการฝึกก้าวขจัดวิญญาณและหมัดอสูรสันโดษก็ฝึกฝนจนสมบูรณ์แบบแล้ว

หลังจากที่ออกจากดินแดนผู้มิติ  ชิงสุ่ยก็ตัดสินใจขึ้นไปยังยอดเขา ในคืนนี้จันทราส่องแสงเป็นประกายสดใส อากาศบนเทือกเขาสดชื่นอย่างไร้ที่ติ

เขายังคงเดินเล่นอย่างสบายใจบนภูเขา ทุกย่างก้าวของชิงสุ่ยคล้ายกับแมวภูเขา ที่มีความปราดเปรียวว่องไว และเงียบสงบ

ในเวลาไม่นานหลังจากที่เขาเริ่มปีนขึ้นไปเหนือภูเขา ท่ามกลางความมืดเสียงดังก็ลอยออกมาทำให้ชิงสุ่ยถึงกับตกตะลึง เสียงเหล่านั้นเป็นเสียงเช่นเดียวกับเสียงครวญครางที่สือชิงจวงกำลังอยู่ในอาการแห่งความรัก

"ทำอะไรกันในที่แจ้ง?" จิตใจของเขาร้อนรุ่มขึ้นอีกครั้ง

"สงสัยข้าจะได้ดูการแสดงดีๆเสียแล้ว"ชิงสุ่ยรีบตรงไปยังต้นเสียง ที่อยู่ด้านหลังก้อนหินขนาดใหญ่

ภาพชายแข็งแรงและหญิงสาวรูปร่างดีปรากฏขึ้นในสายตาของชิงสุ่ย และกำลังอยู่ในท่วงท่าสาวโคบาล ชายคนนั้นกำลังดันตัวของหญิงสาวยังไม่หยุดหย่อน ในขณะที่เธอกำลังร้องด้วยความเสียงที่มีความสุข

หลังจากที่ชิงสุ่ยพยายามสังเกตลักษณะของหญิงสาวคนนั้น มันช่วยไม่ได้ที่ทำให้เขาต้องตกใจ เธอนะไม่ใช่คนอื่นไกลนอกจากหญิงสาวก่อนหน้านี้ที่ได้เชิญชวนเขาไปยังบ้านของเธอ

ในทางกลับกัน ชิงสุ่ยยังจำชายที่แข็งแรงคนนี้ได้ เขาไม่ใช่คนอื่นคนไกล เขาก็คือหมอชิตถือกระเป๋าคนนั้น

หญิงสาวคนนั้นปิดตาและกำลังหลงมัวเมาในอารมณ์แห่งความสุข ในขณะที่เธอค่อยค่อยขยับเป็นจังหวะเหนือร่างกายของชายคนนั้น

หลังจากในช่วงไม่กี่อึดใจ ชายคนนั้นก็ปลดปล่อยความสุขออกมาและทิ้งตัวของเธอออกไป ในขณะที่เธอกำลังสั่นด้วยความสุข

"ที่รัก รู้สึกดีหรือไม่ ข้านั้นย่อมต้องดีกว่าสามีเจ้าอยู่แล้ว" ชายคนนั้นหัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจในขณะที่เขากำลังบีบหน้าอกของหญิงสาวคนนั้น 2-3 ครั้ง

"ดูเหมือนเจ้าจะลืมว่า แท่งสวรรค์ของเจ้านั้น จะแข็งเพียงชั่วครู่เท่านั้น และมันก็หดตัวลงก่อนที่จะเข้าสู่ตัวข้า แล้วมันจะทำให้ข้าพึงพอใจได้อย่างไร?"หญิงสาวที่แต่งงานแล้วคนนั้นบ่นออกมา

"ฮ่าๆๆๆ ถ้าเจ้ามาเป็นคนรักของข้า ข้าจะใช้เวลาทั้งหมดสร้างความพึงพอใจให้แก่เจ้า"

"เจ้ามันน่ารำคาญ!!!!"

"มีอะไรกันท่ามกลางป่า? พูดเป็นเล่นไป ถึงขนาดกล้าแอบออกมากลางดึกเพื่อหาคนปรนเปรอ เพียงเพราะสามีไม่อาจทำให้เธอพอใจได้?"ชิงสุ่ยถอนหายใจเบา

"ที่ครั้งนึงเถิด!!"ชายคนนั้นก็กดตัวหญิงสาวลง และเริ่มแสดงท่วงท่ามิชชันนารี

"อ้า หมอหนุ่มก่อนหน้านี้ ช่างน่าสนใจเหลือเกิน"หญิงสาวครางออกมาเบาๆ

"อีนางสารเลว หลังจากข้าพอใจแล้วในตัวเจ้า ข้าจะกลับไปหาสาวหม้ายที่มาซื้อขายสมุนไพรก่อนหน้านี้ ข้าแน่ใจว่าเธอจะต้องพอใจในตัวข้า"ชายแข็งแรงคนนั้นกล่าวขึ้นในขณะที่เขายังคงกระแทกสะโพกอย่างบ้าคลั่ง

******หืออออ มันจะไปหาใครนะ คงไม่ใช่มั่งงงง******

0 0 โหวต
Article Rating
13 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด