ตอนที่แล้วAST บทที่ 115 - ขั้นที่ 4 แห่งเคล็ดวิชากายาบรรพกาล (จบภาคปฐมบท)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 117 - ระดับเทวะเซียนเทียน

ภาคตำนานแห่งเมืองร้อยไมล์ ผู้ไร้พ่ายและอิสรภาพ บทที่ 116 - กระแสคลื่นสวรรค์ขั้นที่ 4 ที่น่าประหลาดใจ


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique/

ภาคตำนานแห่งเมืองร้อยไมล์ ผู้ไร้พ่ายและอิสรภาพ

บทที่ 116 - กระแสคลื่นสวรรค์ขั้นที่ 4 ที่น่าประหลาดใจ

ชิงสุ่ยไม่รู้เลยว่าเวลานั้นผ่านไปยาวนานแค่ไหนก่อนที่เขาจะฟื้นตัวขึ้น สิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้ก็คือความก้าวหน้าที่เขาได้บรรลุ และสายตาของหมูป่าอสูรโลหะทองคำที่กำลังจ้องมองเขาด้วยความหิวกระหาย

เมื่อเขาตื่นขึ้น เขารีบตรวจสอบบริเวณรอบรอบอย่างรวดเร็ว แต่ก็พบกับความจริงที่ว่าหมูป่าอสูรโลหะทองคำได้หายตัวไป แล้วก็พบว่าเขานั้นตื่นขึ้นมาบนบริเวณพื้นที่เต็มไปด้วยก้อนกรวด ก่อนที่เขาจะเป็นลม เขาได้ถูกโจมตี 2-3 ครั้งโดยหมูป่าอสูรโลหะทองคำ และเมื่อเขาตกอยู่ในสภาพอิดโรยและบาดเจ็บสาหัส เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังความแข็งแกร่งที่กำลังครอบงำร่างกายของเขา

"ทำไมข้ายังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าข้าจะบรรลุในพลัง แต่เจ้าหมูป่าอสูรโลหะทองคำมันควรสังหารข้าได้อย่างง่ายดาย ตอนที่ข้านั้นสูญเสียสติสัมปชัญญะ"ชิงสุ่ยเต็มไปด้วยความสงสัย

"ช่างมันเถอะ ข้าไม่ควรคิดมากในเรื่องนี้ อย่างน้อยข้าก็โชคดีที่สามารถรอดพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ได้ ดี แถมข้ายังสามารถทะลวงผ่านอุปสรรคของข้าไปได้อีกด้วย"ชิงสุ่ยยังคงตกอยู่ในอารมณ์ที่มีความสุข เขาเคยฝันซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกค่ำคืนถึงชีวิตใหม่ที่เปลี่ยนไปหลังจากทะลวงผ่านระดับพลัง แต่เขาก็ยังคงผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดความปรารถนาของเขาก็มาถึง!!!

เมื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งที่พัฒนา เขาค่อยๆหลับตาลงเพื่อเริ่มเรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวเขาเอง ชิงสุ่ยเริ่มเคลื่อนไหวร่างกาย และพบว่าความเร็วของเขานั้นสูงขึ้นมากกว่าตอนที่เขากินผลเสริมความว่องไว!!!

"ฮ่าๆๆๆๆๆ"ชิงสุ่ยหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขณะที่เขาค่อยๆเคลื่อนไหวมือเขา และปล่อยหมัดออกไป ก้อนหินขนาดใหญ่ประมาณ 40 ลูกบาศก์เมตรถูกบีบอัดเป็นเศษเล็กเศษน้อยและกระจายออกอย่างรุนแรงในทุกทิศทาง

"ตูม!!!!!!"

เสียงที่ดังขึ้นมาพร้อมกับเศษฝุ่นที่กระจายออก ชิงสุ่ยก็ยังคงหัวเราะเสียงดังออกมา!!!!

"ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าทำไมมันถึงยากมาก กว่าข้าจะบรรลุได้ ข้าต้องติดอยู่ที่เดิมเป็นเวลากว่า 7 ปี โดยที่ไม่อาจก้าวข้ามมันไป ในที่สุดข้าก็รู้สักทีว่า กระแสคลื่นสวรรค์ขั้นที่ 4 นั้นแข็งแกร่งเพียงใด"ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่ากระแสคลื่นพลังสวรรค์ ขั้นที่ 4  ของเคล็ดวิชากายาบรรพกาล นั้นมีความแข็งแกร่งกว่ากระแสคลื่นพลังสวรรค์ครั้งที่ 3 ถึง 10 เท่า

"มันไม่น่าแปลกใจเลย ที่กระแสคลื่นสวรรค์ขั้นที่ 4  และขั้นที่ 7  เป็นจุดยกระดับความสำคัญที่แข็งแกร่งที่สุด" ชิงสุ่ยรับรู้ถึงพลังที่ระเบิดออกมาจากภายใน สถานที่เขาโคจรพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาล

การที่เขาสามารถยกระดับตัวเอง ขึ้นไปอยู่ในขั้นที่ 4 นั้นก็หมายความว่า ตอนนี้เคล็ดวิชากายาบรรพกาลของเขานั้นได้ก้าวเข้าสู่ระยะกลาง และเขาก็คิดว่าถ้าหากจากขั้นที่ 6  ก้าวเข้าสู่ขั้นที่ 7  มันคงแข็งแกร่งขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 เท่าเป็นแน่

ในตอนที่เขาติดอยู่ในระดับขั้นที่ 3  พลังหมัดของเขานั้นเมื่อปลดปล่อยด้วยพลังที่สูงที่สุดจะมีพละกำลังประมาณ  20000 จิน  แต่หินที่เขาได้ทำลายไปนั้นจำเป็นจะต้องใช้พลังมากกว่า 20000 จิน อย่างแน่นอน

เมื่อชิงสุ่ยสัมผัสเข้าไปในจุดตันเถียนของเขา เขาก็ตระหนักได้ว่า"หมอก"ที่เคยอยู่ในจุดตันเถียนของเขานั้นได้หายไป แต่ภายในกลับปรากฏเป็นของเหลวสีทองขนาดเท่าเม็ดถั่ว

"ของเหลวในจุดตันเถียน"

ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ในตอนนี้หมอกที่เคยอยู่ในสถานะก๊าซได้ควบแน่นและแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งของที่อยู่ในสถานะของเหลว นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้ความสามารถของเขานั้นเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า เขาไม่อาจประเมินสิ่งของล้ำค่าขนาดเท่าเมล็ดถั่วเหลืองนี้ได้ เพราะมันบรรจุไปด้วยพลังที่น่ากลัว

ชิงสุ่ยตระหนักได้ว่า ถ้าในอนาคตหากเขายังคงหมั่นฝึกฝนยังหนัก และเพิ่มพูนความสามารถ ของเหลวสีทองจะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนอัดแน่นภายในจุดตันเถียน เพียงแค่คิดชิงสุ่ยก็ไม่อาจจินตนาการถึงความน่ากลัวในพลังที่เขาจะได้รับ

เคล็ดวิชากายาบรรพกาลที่พัฒนาขึ้น ยังช่วยเสริมสร้างกระดูก ขยายช่องลมปราณ และเพิ่มพูนเส้นเลือดต่างๆ อีกทั้งยังปรับแต่งผิวพรรณและกายเนื้อทั้งหมดของเขา

"หือออ เหตุใดข้าถึงจะกลิ่นแปลกๆ"ชิงสุ่ยเริ่มตระหนักได้ว่าร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก ร่างกายของเขานั้นถูกปกคลุมไปด้วยชั้นไขมันสีเทาเข้ม และในทุกๆครั้งที่เขาได้บรรลุในพลังเหมือนว่าสิ่งนี้จะออกมาทุกครั้ง และทุกครั้งที่สิ่งสกปรกถูกขับออกมาจำนวนมาก เขาจะพบว่าร่างกายของเขานั้นถูกปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

หลังจากเต็มอิ่มไปด้วยความสุข ชิงสุ่ยรีบดึงน้ำจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ หมอชำระล้างร่างกาย

"ให้ตายเถอะ"

เมื่อมองไปยังผิวพรรณของเขาหลังจากการทำความสะอาดชั้นไขมัน เขาก็พบว่าบาดแผลของเขานั้นหายสนิท และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นจะไดไปเลย สร้อยคอหินจันทราที่เขาได้รับจากอีเย่เจี้ยนเก้อยังคงอยู่ที่คอของเขาและมันยังเปล่งแสงสีฟ้าอ่อน เมื่อสังเกตเขาก็พบว่ามันมีเพียงรอยแตกเล็กน้อยภายในหินจันทรา

"หรือมันจะต้องเพราะหมูป่าอสูรโลหะทองคำ?" แต่เขาก็เลิกคิดไปทันที อย่างน้อยตอนนี้เขาก็สามารถรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ได้

หลังจากที่เข้าสู่กระแสขึ้นสวรรค์ขั้นที่ 4  แม้ว่ากล้ามเนื้อที่กระชับและแข็งแรงจะหายไป แต่ผิวพรรณของเขานั้นก็เปลี่ยนเป็นสีขาวหยก และเพิ่มเสน่ห์ความชายชาตรีขึ้นมาอีกเล็กน้อย แม้ร่างกายของเขาจะดูไม่แข็งแรงมาก แต่มันยังปรากฏร่องรอยของกล้ามเนื้อ ชิงสุ่ยก็ตะหนักได้ดีเพราะภายใต้ร่างกายนี้ยังคงมีพลังที่น่ากลัวแฝงอยู่

ในตอนนี้ ชิงสุ่ยหวังว่าจะได้เจอกับหมูป่าอสูรโลหะทองคำอีกครั้ง ด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้น ชิงสุ่ยมีความมั่นใจอย่างมากถ้าหากเขาเพลี่ยงพรำเขาก็สามารถหลบหนีออกมาได้ หรือเขาอาจจะเอาชนะ และทำให้มันเชื่อฟังเขา โดยอาศัยพลังที่ได้รับมาใหม่  ในความคิดเขาตอนนี้เขากำลังต้องการให้สัตว์กลายพันธุ์มาเป็นพาหนะของเขา แต่อย่างไรก็ตาม ชิงสุ่ยก็รู้ดีว่ามันเกือบสิ้นหวังแล้วที่เขาจะได้เจอกับหมูป่าอสูรโลหะทองคำอีกครั้ง

ตั้งแต่ก็ออกมาในตอนเที่ยง ตอนนี้ก็เป็นเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เขาก็คิดกังวลถึงแม่ และน้องๆของเขา เขาจึงรีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับเมฆและสายน้ำ

ในขณะที่วิ่งผ่านเส้นทางอันคดเคี้ยว ในที่สุดเขาก็มาถึงด้านนอกหุบเขาหมูป่า  และเห็นรถขนของ กระทิงเหล็ก ชิงสุ่ยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อน ความมืดจะเกิดขึ้นช้ากว่าปกติ  แม้ว่าดวงอาทิตย์จะตกดินแล้ว แต่มันก็ยังคงแสงสีส้มน้ำตาล

เมื่อชิงสุ่ยปรากฏตัว ชิงอี้และน้องๆของเขา เริ่มร้องไห้ด้วยความปิติยินดี แล้ววิ่งไปหาเขายังมีความสุข

เมื่อเห็นว่าชิงสุ่ยปลอดภัย คนที่เหลือก็รู้สึกโล่งใจ "เห้อ มันแย่หน่อยนะ ที่หมูป่าทองคำหนีไปได้ ถ้าไม่เช่นนั้นข้าคงจะจับมันมาเป็นพาหนะลากรถของเรา"

ชิงสุ่ยพูดเรื่องตลกจนทำให้ชิงอี้ถึงกับพูดไม่ออก มันก็คงมีเพียงลูกชายของเธอคนเดียวเท่านั้นที่กล้าจับสัตว์กลายพันธุ์มาเพื่อเป็นพาหนะลากรถ ส่วนที่เขาบอกว่า "ปล่อยให้มันหนีไปได้" ชิงอี้กลับรู้สึกโชคดีที่ชิงสุ่ยหลบหนีจากมันว่าได้

"รีบขึ้นรถกันเถอะ เราจะต้องออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ข้าเองก็ยังไม่อยากเจอกับสัตว์กลายพันธ์ุตัวนั้นอีก" ชิงอี้สั่งให้คนที่เหลือทั้งหมดขึ้นรถและเดินทางออกอย่างรวดเร็ว

หลังจากทุกคนกลับขึ้นรถขนส่ง บรรยากาศก็กลับมาคึกคัก ชิงสุ่ยยิ้มให้กับทุกคนก่อนที่จะเริ่มหลับตาลง เขาต้องการที่จะตามหาทักษะที่ได้รับเพิ่ม หลังจากที่เขาได้บรรลุในพลังใหม่

ชิงสุ่ยยังคงจ้องมองสัญลักษณ์ 2 รูปที่มีลักษณะสีทอง

"ศิลปะการทำอาหาร"

"วิถีชีวิตแห่งการบ่มเพาะ"

ชิงสุ่ยตอนนี้รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก แต่ก่อนเขาไม่เคยสนใจศิลปะการทำอาหารแต่อย่างใดเลย และหลังจากที่เขาได้ชิมเนื้อปลาสีดำและเนื้อเต่าที่เติบโตขึ้นภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ความคิดต่างๆเขาก็เปลี่ยนไป ถ้าหากเขาได้เรียนรู้ศิลปะการทำอาหารจนถึงขั้นสูงสุด ความอร่อยที่จะได้รับก็คงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เพียงแค่คิดชิงสุ่ยก็รู้สึกตื่นเต้น

อาหารและการสานสัมพันธ์เป็นธรรมชาติของบุรุษ

ชิงสุ่ยที่กำลังจ้องมองภาพศิลปะการทำอาหารอยู่นั้น ก็ปรากฏสัญลักษณ์สีทองขึ้นในจิตใจ มันมีสูตรอาหารกว่า 500 สูตรปรากฏขึ้น ซึ่งแต่ละชื่อนั้นฟังดูดีเป็นอย่างมาก เช่น

นกนางแอ่นกลืนกินหงส์เพลิง

บ๋วยหิมะแดง

ใบไม้ผลิซ่อนเร้น จันทราเหน็บหนาว

ไข่กิเลน

ปลาเทวะ

หมูย่างทองคำ

ตับมังกร

หางหงส์เพลิงและเนื้อเตานึ่งพันปี นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อยอีกมากมาย

ชิงสุ่ยยังคงอ่านต่อไป และสิ่งที่อยู่ด้านล่างสุดก็สร้างความสนใจให้กับเขา

วิธีการทำอาหารที่ดีย่อมมีรูปลักษณ์ที่ดี รสชาติอาหารย่อมพึ่งพาส่วนผสม เครื่องปรุงเสกเช่นเดียวกับระดับความร้อน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กัน ชิงสุ่ยยังคงอ่านต่อและหวังว่าเขาจะได้รับสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด

วิธีการสร้างเครื่องปรุงสำหรับเนื้อ

วิธีการสร้างเครื่องปรุงสำหรับอาหารทะเล

วิธีการสร้างเครื่องปรุงสำหรับอาหารมังสวิรัติ

วิธีการสร้างเครื่องปรุงสำหรับผักป่า

วิธีการสร้างเครื่องปรุงสำหรับซุป

วิธีการสร้างเครื่องปรุงสำหรับเนื้อตุ๋น

วิธีการสร้างเครื่องปรุงพิเศษสำหรับปรับมังกรและหางนกหงส์เพลิง ซึ่งอยู่ในหมวดหมู่เครื่องปรุงที่เหมาะสมสำหรับสัตว์ในตำนาน เพียงแค่เห็นชิงสุ่ยก็พูดไม่ออก "..................."

ส่วนผสมสำหรับสร้างเครื่องปรุงนั้นส่วนใหญ่หาไม่ยากนัก แต่มันมีความหลากหลายมากเกินไป

ชิงสุ่ยถูจมูกของเขา และค้นพบว่าผู้คนในยุคบรรพกาล ต้องมีพลังที่ยิ่งใหญ่มาก  ถึงขนาดสามารถสรรสร้างอาหารเช่น ตับมังกร หางนกหงส์เพลิง และไข่กิเลน ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาหารในโลกใบก่อนของเขานั้นไม่อาจเทียบได้เลย แต่เขาคิดว่ามันคงเป็นเพียงชื่อของจานอาหารเหล่านี้เท่านั้น เพราะในโลกใบก่อน ชื่ออาหารเช่น เส้นเครามังกร(ขนมไหมฟ้า)

เมื่อมองดูส่วนประกอบ เขาก็พบว่ามีส่วนประกอบหลักหลายอย่างที่ไม่อาจจะหาได้มันทำให้เขารู้สึกปวดหัวเล็กน้อย "ข้าจะไปหาผงอัณฑะมังกรได้จากที่ไหน?"

"ดูเหมือนว่าข้าคงต้องหาส่วนผสมอื่นทดแทน เพื่อสรรสร้างเครื่องปรุงให้ใกล้เคียงกับมาตรฐานเหล่านี้"

 

 

********นอกจากจะเป็นหมอแล้ว สงสัยจะได้เป็นยอดกุ๊กแดนมังกรแน่นอน 55555*****

*******นี้ชื่ออาหารจริงๆใช้ไหม ใครจะกล้ากินเนี้ย***********

 

0 0 โหวต
Article Rating
9 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด