ตอนที่แล้วตอนที่ 113 – ชัยชนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 115 – วิธีการของถังเทียน

ตอนที่ 114 – กำลังเสริม


ตอนที่ 114 – กำลังเสริม

 

“สหายผู้นี้ มักจะเป็นตัวปัญหามิว่าเขาจะไปที่ใด” เหลียงชิวมองไปยังถังเทียนที่อยู่บนเสาไฟแต่ไกล ด้วยความเห็นชอบและเศร้าใจ พวกเขาต่างเป็นพยานในการเติมโตของถังเทียนจากผู้ที่งมงายยุทธ์ว่าเปล่งประกายมาจนถึงวันนี้ได้เช่นไร และรู้สึกท่วมท้นไปด้วยอารมณ์

“น่าสงสารรูปโฉมของเขาไม่มากพอ” ซือหม่าเซียงซานกล่าวเสริม

“อ้า! พื้นฐานถังยังไม่ถือว่าหล่อเหลาอีกงั้นหรือ?” ดวงตาของอาโม่หลี่เบิกการในความประหลาดใจ “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าเขาหล่อเหลากัน? เมื่อเทียบกับบุรุษหนุ่มผู้ปราดเปรียวผู้นี้ แล้วเขาเพียงด้อยกว่าเล็กน้อยเท่านั้น”

“ถ้าเจ้าพบว่าเขาหล่อเหลา มันก็มากพอที่จะชี้ให้เห็นถึงปัญหาแล้ว” ซือหม่าเซียงซานส่งเสียงแหลมผ่านอากาศด้วยความเศร้าใจ

แท้จริงแล้วถังเทียนมิได้หล่อเหลา ผมสั้นคิ้วหนา มีหน้าตาราวกับเด็ก แต่มันก็มีจุดเด่นสำหรับเขาอยู่ ดวงตาของเขามิใหญ่นัก และเขาไม่ปิดบังความดื้นรั้นของเขา ยามเมื่อเขาหรี่ตา มันทำให้เขารู้สึกถึงลางร้าย

แต่ยามเมื่อเขาแสยะยิ้มอย่างโง่งม เขาชอบที่จะเบิกตากว้างและมันทำให้เขาดูตลก

สำหรับร่างของเขา มันมีความสมบูรณ์แบบ สมส่วนมาตรฐาน ทุกส่วนของเขามิมีไขมันส่วนเกินเลย

“พวกเขามากันแล้ว” หานปิงหนิงดูเย็นชา “เตรียมพร้อมได้แล้ว”

เหนือไปยังบ้านที่อยู่ห่างไกล เงาร่างอันปราดเปรียวเข้าใกล้ไปยังลานสนามอย่างรวดเร็วทีละคน

“ดูเหมือนมันจะเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงนัก” เหลียงชิวผู้มีประสบการณ์และสุขุมแลดูเศร้าหมอง

“อาฮ่า ยอดเยี่ยมนัก! พื้นฐานถังช่างฉาวโฉ่นักในตอนนี้ ข้ามิอาจขายหน้าชื่อเสียงของบุรุษหนุ่มผู้ปราดเปรียวเช่นกัน ข้าจะต้องแสดงให้พื้นฐานถังเห็นว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้เป็นเช่นไร เพื่อที่จะสามารถแข้งขันถึงชื่อเสียงกับบุรุษหนุ่มผู้ปราดเปรียวนี่...” อาโม่หลี่ยกแขนทั้งสองขึ้นด้วยความตื่นเต้น

“ไม่จำเป็นต้องสนใจท่านหัวหน้าจริงๆงั้นหรือ?” ซือหม่าเซียงซานกล่าวถามอย่างเบาบาง

หานปิงหนิงหันหัวนางมา “เจ้าสนใจงั้นหรือ?”

ซือหม่าเซียงซานแค่นเสียงหัวร่อ “แน่นอนว่าไม่”

“ไปกันเถอะ” หัวคิ้วของหานปิงหนิงโก่งลง สำรวมความสงบของนางลง ด้วยกระบี่ถือภายในมือซ้ายของนาง เอียงหลังของนางพลางกระแทกเท้าออก และนางก็คล้ายกับลูกศรที่หลุดออกจากแหล่งพุ่งออกไป

ปราศจากความลังเล คนอื่นก็ติดตามและพุ่งออกไป

เงาร่างทั้งสี่เหินไปอย่างรวดเร็วบนหลังคา

“ยากนักที่จะเห็นโฉมงามน้ำแข็งของพวกเราใจร้อนเช่นนี้” เสียงซือหม่าเซียงซานดังขึ้นมา

ชวิ้ง!

ส่วนหนึ่งของกระบี่หานปิงหนิงออกมาจากฝัก และอากาศรอบๆก็ลดต่ำลงในทันที

“เจ้าอย่าได้ยั่วยุนาง” เหลียงชิวเตือนซือหม่าเซียงซาน

อาโม่หลี่มีท่าทางที่ไร้เดียงสา และถอยห่างออกจากหานปิงหนิง เมื่อโฉมงามน้ำแข็งหานโมโหแล้ว แม้กระทั่งอาโม่หลี่ผู้ที่ชื่นชอบการต่อสู้ก็มิสามารถที่จะหนีรอดต่อการบาดเจ็บได้ นางวาดกระบี่นางอย่างเงียบแต่ละคราเล็งไปยังจุดตาย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือแม้ว่าบุคลิกของนางจะเย็นชา นางก็ดื้อรั้นอย่างผิดปกติ ยามเมื่อถูกยั่วยุ มันจะเป็นอันตรายถึงชีวิต

ซือหม่าเซียงซานหัวร่อเบาแต่ก็เล็ดลอดออกมา

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

“เขาเป็นใครกัน” ข่งอี้อวี่มองด้วยความประหลาดใจ สายตาของนางจดจ้องไปยังเสาไฟ

ความสามารถของฮั่วเหยียนกวงทำให้นางประหลาดใจ สามารถบรรลุไปยังขั้นห้าได้ด้วยวัยเท่านี้ ด้วยกระบวนท่าสังหารอันโดดเด่นของวิชารับห้า พรสวรรค์ของฮั่วเหยียนกวงและการฝึกหนักช่างโดดเด่นนัก

แต่สิ่งที่ทำให้นางยิ่งประหลาดใจมาก คือบุรุษหนุ่มแปลกหน้าที่สามารถเอาชนะฮั่วเหยียนกวงได้ หลังจากที่นางได้มาประจำการที่ภูเขากลุ่มดาราอมตะมาเป็นปี นางรู้จักหนุ่มสาวส่วนใหญ่ที่ภูเขาแห่งนี้

แต่รัศมีของฮั่วเหยียนกวงก็ถูกบดบังอย่างสิ้นเชิงโดยบุรุษหรุ่มบนเสาไฟ

ดุดัน สงบนิ่ง ดื้นรั้น...

มันเป็นคราแรกที่นางพบเห็นการต่อสู้ที่น่าสนใจของบุรุษหนุ่มเช่นนี้ เขาเสียเปรียบด้วยวิชาในมือของเขา แต่ในท้ายที่สุดเขาก็สามารถเอาชนะได้ บุรุษหนุ่มผู้นี้เขามิใช่สหายที่ธรรมดาเสียแล้ว

ข่งอี้อวี่ดูงดงามค่อนข้างดูเป็นผู้ใหญ่ การแต่งหน้าของหน้าเบาบางควบคู่กับเสื้อสีขาวที่เพิ่มความงดงามให้กับนาง

ผู้ใดจะคาดเดากันได้ว่าความสง่างามและนงคราญที่น่าตกใจเช่นนี้แท้จริงแล้วเป็นหัวหน้าสาขาภูเขากลุ่มดาราอมตะของสมาคมนักสู้แห่งแสง

ข่งอี้อวี่รู้สึกประหลาดใจ แต่ลูกน้องของนางที่อยู่รอบๆก็ประหลาดใจยิ่งกว่า เนื่องจากข่งโหยวหลินในก่อนหน้านี้พวกเขาได้โยนถังเทียนไปยังสุสานใหญ่ค่ายกองกำลังชั้นนอก และปล่อยทิ้งเขาไว้โดดเดี่ยว มิมีผู้ใดจะคาดคิดว่าพวกเขาจะเห็นถังเทียนกลับมาที่นี้อีกครั้ง

มิใช่ว่าสหายผู้นี้อยู่ที่สุสานใหญ่ค่ายกองกำลังชั้นนอกหรอกหรือ? เหตุใดเขาถึงปรากฏตัวที่นี้?

และ… ช่างมีความสามารถที่ดุดันยิ่งนัก!

พวกเขาต่างตื่นตระหนก

ข่งอี้อวี่สังเกตเห็นบางอย่างผิดแปลกในทันทีและแทบไม่กระพริบตา นางก็กล่าว “ดูเหมือนว่ามันจะมีความลับซ่อนอยู่”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูกน้องของนางก็ปากซีด ความคิดของหัวหน้าอย่างที่จะคาดเดา เจ้าอารมณ์ ยามเมื่อทุกอย่างดูคล้ายสงบ มันจะต้องมีลางสังหรณ์ร้ายๆเป็นแน่ พวกไม่กล้าที่จะซ่อนเรื่องราวจากนางและอธิบายเรื่องทั้งหมดในทันที

ข่งอี้อวี่ฟังอย่างเงียบโดยสีหน้าของนางมิได้เปลี่ยนไป

เหล่าลูกน้องก้มหัวลงต่ำ มิกล้าที่จะหายใจออกมาดังๆ และเหงื่อเม็ดอันเย็นเยียบก็ไหลลงมาอย่างมากมาย

ข่งอี้อวี่มิได้กล่าวอันใด สายตานางมองไปยังถังเทียนบนเสาไฟด้วยความสนใจที่มากยิ่งขึ้น สามารถที่จะได้รับความสนใจจากพี่ชายของนางและเขาถึงกลับพามายังภูเขากลุ่มดาราอมตะ บุรุษผู้นี้จะต้องมีบางอย่างที่พิเศษ นางรู้ได้อย่างชัดเจนว่าพี่ชายของนางผู้ที่เพิ่งถูกสังหารไปมีสายตาที่ดี...

เมื่อขบคิดถึงพี่ชายของนางแล้ว ดวงตาของนางก็ปรากฏกลิ่นอายสังหาร นางแน่นอนว่าจะต้องหาฆาตกรที่สังหารพี่ชายของนางให้ได้!

กลิ่นอายสังหารนี้ถูกยับยั้งอย่างรวดเร็วและความสนใจของนางก็จ้องไปยังถังเทียนอีกครา

แต่… เป็นพลังของเส้นชีพจรโลหิตงั้นหรือ?

ข่งอี้อวี่แอบส่ายหัวของนาง วิชาของถังเทียนเห็นได้ชัดว่ามิใช่ของวิญญานิล แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไปไกล สายตาของนางก็น่าทึ่งนัก และนางก็เห็นการต่อสู้ก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน

มันเป็นจิตวิญญาณนักสู้… จิตวิญญาณนักสู้ขั้นเงิน!

ข้างในลึกๆแล้วนางก็ตื่นตระหนกเช่นเดียวกัน นางสามารถบอกได้ว่าถังเทียนเพิ่งจะบรรลุไปยังขั้นห้า สามารถที่จะบ่มเพาะจิตวิญญาณนักสู้ขั้นเงินได้ตอนที่อยู่ในขั้นห้า...

ถ้านางมิได้เห็นด้วยตาตัวเอง นางคงจะไม่เชื่อมัน นอกจากนี้ นางรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่พี่ชายของนางจะมิเห็นจิตวิญญาณนักสู้ขั้นเงินในตัวถังเทียน นี่มันหมายความว่า ถังเทียนควรจะใช้เวลาบ่มเพาะมันในระหว่างช่วงเวลานี้

นกยูง… เดี๋ยวนะ!

ภายในดวงตาอันสงบของนางจากที่ไกล มันคล้ายจะมีบางอย่างเปล่งประกายขึ้น

ทันใดนั้นนางก็เห็นอาโม่หลี่และพรรคพวก และระลึกได้ถึงบางอย่างพลางกล่าวถาม “เจ้าบอกว่าเขามาพร้อมกับอาโม่หลี่และพรรคพวกงั้นหรือ?”

ลูกน้องของนางตระหนกและรีบเร่งกล่าวตอบ “ใช่ขอรับ! พวกเขาต่างมาจากเมืองเมฆาดารา!”

ใบหน้าอันตื่นตะลึงของข่งอี้อวี่เปิดเผยรอยยิ้มอย่างมีความสุข

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

รูปโฉมของถังเทียนในตอนนี้เป็นเรื่องที่อับอายนัก ร่างของเขาดำเป็นตอตะโกและไหม้เกรียม และชุดเกราะนกยูงอันงดงามก็แทบจำไม่ได้เลย

ยามเมื่อนกยูงฝังเข้าไปในชุด ถังเทียนรู้สึกว่าชุดเกราะบนร่างของเขาหนาวเย็น ถังเทียนหัวร่ออย่างขมขื่น ครานี้นกยูงจำเป็นใช้เวลาเพื่อจะฟื้นฟูมันอย่างสมบูรณ์

มันเป็นสิ่งที่เยี่ยมที่จะได้รับสินทรัพย์จากพวกมือเติบ

ผู้คุ้มกันด้านล่างแต่ละคนต้องการที่จะเข้ามาใกล้ แต่ต่างกังวลว่าถังเทียนจะหาโอกาสเข้าไปทำร้ายนายน้อยของพวกเขา ถังเทียนกระทำการได้สำเร็จ และเมื่อระลึกถึงว่าเหล่าสหายที่กล้าก้าวก่ายเรื่องของเชียนฮุ่ยและเขาในก่อนหน้านี้ สีหน้าของถังเทียนก็กลายเป็นมืดมน

บุรุษถังมิใช่บุคคลที่จะมาล้อเล่นด้วยได้

เจ้าคิดหรือว่าทุกคนร่วมตัวกันแล้วสู้กับข้า เจ้าจะสามารถที่จะบีบบังคับให้ข้าก้มหัวลงได้งั้นหรือ?

ช่างไร้เดียงสานัก!

เสียงก่นด่าดังออกมาอย่างต่อเนื่องจากสนามเบื้องล่าง แต่ถังเทียนทำเป็นหูทวนลม ก้มลง ดึงชิ้นส่วนเชือกและมัดนายน้อย ถังเทียนมิรู้จักเขา

ผู้คุ้มกันทั้งสองพลันพุ่งออกมาจากกลุ่มคนเบื้องหน้า ทั้งสองต่างหน้าซีด

หนึ่งคนก็เห่าหอนอย่างรุนแรง “ถังเทียน ถ้าเจ้ากล้าที่จะแตะต้องเส้นผมแม้แต่เส้นเดียวของนายน้อยของข้าล่ะก็ เจ้าจะต้องตายแน่!”

อีกคนก็ตะโกนดัง “ถังเทียน บอกข้อเสนอของเจ้ามาถ้าเจ้าต้องการ! อย่าได้รนหาที่เลย!”

ทันใดนั้น คลื่นของผู้คนก็พุ่งออกมา แต่มันเป็นลุงเฉียนที่เป็นผู้นำหน้าซางกวนเวยและศิษย์คนอื่นก็ปรากฏตัวออกมา

แต่ยามเมื่อพวกเขาวิ่งอย่างหอบมาภายในลานสนาม พวกเขาต่างตกตะลึงด้วยฉากเบื้องหน้าพวกเขา สายตาพวกเขาจ้องมองไปยังเสาไฟ มิสามารถที่จะละสายตาจากไปได้ และฝีเท้าของพวกเขาก็หยุดยั้งอย่างมิได้ตั้งใจ

พวกเขาคุ้นเคยกับเสาไฟอันนี้อย่างยิ่ง มันเป็นเพียงเสาไฟอันเล็กที่อยู่ตรงกลางลานสนามที่ให้แสงสว่างทั้งสนามในเวลากลางคืน

แต่ในตอนนี้… พวกเขาพบเห็นเส้นเชือกจากเสาไฟและแต่ละเส้นผูกติดกับตัวคนไว้

พวกเขาต่างตกตะลึง ตกตะลึงอย่างเหลือล้น!

บนเสาไฟห้อยเงาร่างจำนวนมากเกาะกลุ่มกัน แต่ละคนของพวกเขาต่างเป็นนายน้อยของตระกูลที่รู้จักกันดีในภูเขากลุ่มดาราอมตะ พวกนายน้อยที่ปกติจองหองต่างถูกห้อยราวกับเป็ดที่อยู่ในโรงเชือดในตอนนี้ ลมพัดแกว่งไปมา

ฉากนี้มัน...

ซางกวนเฉียนยากที่จะกลืนน้ำลายของเขา มันมิใช่ว่าเขามิเคยจะไม่เคยพบเห็นมาก่อน ยามเมื่อคุณหนูอยู่นางก็ใช้วิธีไร้ยางอายทำให้เขาประหลาดใจเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเทียบกับถังเทียนในตอนนี้ เขาพลันรู้สึกว่าวิธีของคุณหนูนั้นแท้จริงแล้วใจดีกว่า

ถังเทียนสังเกตเห็นลุงเฉียนและพรรคพวกมาถึง ก็โบกแขนของเขาและตะโกนเสียงดัง “ทางนี้”

ลุงเฉียนแทบจะล้มคะมำ นายน้อยเทียนท่านไม่กังวลเลยหรือว่าจะมีรู้ตัว...

ตามที่คาด สายตาของทุกคนก็เปลี่ยนไปยังพวกเขา เหล่าสายตาที่เต็มไปด้วยความก้าวร้าว ทั้งหลายต่างพร้อมที่จะลุยกันเต็มที่

ความแค้นนี้มันฝังอยู่ลึกนัก

แต่เนื่องจากที่ผลปรากฏออกมาเช่นนี้ ลุงเฉียนรู้สึกสงบแทนที่

“พวกเจ้ากำลังมองไปที่ใดกัน? ผู้ใดที่ไม่น่าไว้ใจ ข้าจะสับร่างของนายน้อยพวกเจ้า ใจเย็น แม้ว่าข้าจะมิเคยฝึกฝนวิชาดาบมาก่อน วิชาก็ข้าก็ถือว่าไม่เลวนัก”

เสียงทุ้มของถังเทียนได้ยินชัดเจนไปทั่วทั้งลานสนาม

“ต่ำทราม!”

“ไร้ยางอาย!”

“กบฏวายร้าย!”

“มาสู้กันถ้าเจ้ามีความสามารถ เจ้าเป็นวีรบุรุษเช่นใดกันแน่!”

……

ผู้คนก็กล่าวประนามในทันที พวกเขาอดมิได้ที่จะฉีกถังเทียน แต่วิธีการของถังเทียนพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ เนื่องจากมิมีผู้ใดกล้าที่จะตอแยลุงเฉียนและพรรคพวกอีกต่อไป

ในท่ามกลางความเสียใจ ซางกวนเวยและคนอื่นต่างรู้สึกเคร่งเครียดอย่างยิ่งหมดทุกคน พวกเขาปาดเหงื่ออันเย็นเยียบขณะที่พวกเขาค่อยๆเข้าไปหาถังเทียน

“วะฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้ากล่าวถูกต้อง!” ถังเทียนยื่นแขนเท้าเอว เงยหน้าพลางหัวร่อเสียงดัง

คนที่อยู่ด้านล่างรู้สึกขุ่นเคืองมากยิ่งขึ้น

ทันใดนั้น เสียงหวีดหวิวดังยาวมาแต่ไกล พลังของเส้นชีพจรมั่นคงหนาแน่น มันเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นบุคคลที่มีปราณแท้จริงที่เข้มแข็ง

“หื้ม?”

ถังเทียนมองอย่างกังวลและหันไปยังแหล่งที่มาของเสียง

ร่างสีเขียวเลือนลางกำลังเคลื่อนตัวมาด้วยความเร็วที่น่าตระหนก

แทบจะในเวลาเดียวกัน เสียงหวีดหวิวยาวอีกสามก็ดังออกมาจากสามทิศทาง ดังสะท้อนไปตามทาง

“หมิงหย่ง!” “อวิ๋นตี๋!” “ฮั่วเหยียนซาน!” “อวี๋จินหง!”

ซางกวนเฉียนรู้สึกราวกับเขาถูกโยนไปในถ้ำน้ำแข็ง และกลุ่มผู้คุ้มกันก็ต่างโห่ร้องในทันที เหล่าทั้งสี่คนนี้ต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงภายในภูเขากลุ่มดาราอมตะ รากฐานที่เข้มแข็ง เพียงแค่คนเดียวในพวกเขาก็เพียงพอแล้วที่จะข่มขู่ผู้คน และในตอนนี้ทั้งสี่ต่างปรากฏตัวที่นี้...

สีหน้าถังเทียนหมองคล้ำ การต่อสู้กับฮั่วเหยียนกวงในก่อนหน้านี้แทบหมดสิ้นปราณแท้จริงของเขา

สถานการณ์เช่นนี้ท่ามันไม่ดีแล้ว!”

“ย๊า ย๊า ย๊า ย๊า ย๊า!”

ในขณะนั้น เสียงแผดดังทะลุผ่านไปบนท้องฟ้า เสียงมันดังอย่างน่าทึ่ง เนื่องจากมันสามารถกลบเสียงหวีดหวิวแหลมยาวทั้งสีได้เลย

ทุกคนต่างตกใจ

ราวกับดาวตกทะลุผ่านท้องฟ้า ก็มีเงาร่างหนึ่งตกลงมาบ้านเรือนหลังหนึ่ง

ตูม!

โครม!

เงาร่างทะลุผ่านหลังคาไป พื้นดินสั่นอย่างรุนแรง ตัวบ้านพังทลายในทันที ฝุ่นผงปลิวไปทั่ว และชั่วครู่ต่อมา เงาร่างใหญ่ก็พยายามที่จะปีนขึ้นมาจากยุ่งเหยิง

“คิคิ... เสียงผู้ใดจะดังไปกว่าข้ากัน?”

อาโม่หลี่ผู้ที่เพิ่งปีนออกมาเปื้อนไปด้วยฝุ่น จ้องมองด้วยดวงตาที่ใหญ่โตเท่าระฆังด้วยความโกรธจ้องมองไปยังที่รอบๆ ด้วยความรู้สึกไร้สาระที่น่าขบขัน แต่มิมีผู้ใดที่หัวร่อ ขณะที่สำรวจไปยังร่างใหญ่ดั่งกระทิง ความกลัวก็ครอบงำ มันช่างดุดันนัก...

“ฟังดูช่างน่ากลัวจริง” เสียงดังขึ้นราวกับภูมิผีจากอีกทิศทางหนึ่ง น้ำเสียงบางเบาราวกับเส้นดาย แต่ดังชัดเจนให้ได้ยิน

ทุกคนต่างตื่นตระหนกด้วยสีหน้าที่แปรเปลี่ยน ผู้เชี่ยวชาญ!

มิรู้ว่าเมื่อใด ในอีกทิศทางหนึ่งบนหลังคาก็ยืนไว้ด้วยสหายผู้หนึ่งที่กำลังแย้มยิ้มอยู่

“ถังเทียน ปล่อยให้พวกเราจัดการเถอะ”

เสียงไม่แยแสของเหลียงชิวเต็มไปด้วยความมั่นใจ เท้าของเขาอยู่บนห้องใต้หลังคา ร่างของเขามิเคลื่อนไหว

กลุ่มของผู้คุ้มกันต่างสะดุ้ง ผู้เชี่ยวชาญอีกคน!

“ฮึ!”

เสียงแค่นที่เย็นชาของสตรีทำให้อุณหภูมิทั่วทั้งสนามต่างลดลงในทันที ทุกผู้คนต่างอกสั่นขวัญหนี เมื่อหันกลับไป พวกเขาก็พบเห็นหญิงสาว ราวกับแม่แบบของภูเขาน้ำแข็ง กวัดแกว่งกระบี่ด้วยกลิ่นอายสังหาร

ผู้คุ้มกันผู้ที่มีความหวังต่างตกตะลึงในทันที

เกิด… เกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด