ตอนที่แล้วChapter 15 สหาย (Part 2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 17 Bloodshed (Part 1)

Chapter 16 Comrades (Part 3)


Chapter 16 Comrades (Part 3)

ไฟลุกขึ้นแล้ว.

“มันจบแล้ว!”

จุนโฮมีความสุขจนเกือบจะกระโดดขึ้น.

ใบไม้,ฟางและกิ่งแห้งถูกใส่ลงไปในกองเพลิงแล้วเราก็รวมตัวกันอยู่ในฟืน ไฟหน้าถ้ำประสบความสำเร็จ

“ตอนนี้ถึงเวลาที่จะย่างกระต่าย…”

“เราควรจะย่างทั้งหมด?”

“ใช่เราจะแทงมันผ่านไม้และหมุนมันไปรอบๆ.”

“นี่มันจะดีหรอ?”

จุนโฮเอาหอกไม้ทำมือออกมา

“แน่นอน ถ้ามันไม่ดีผมจะทำให้คุณอีกเล่ม”

“Ok.”

ผมแทงหอกผ่านร่างของกระต่ายและวางมันไว้เหรือกองไฟ

ผมวานแฮซูเมื่อเธอหันมา

“คุณผู้หญิงแฮซูครับ โปรดย่างมันเพื่อเราด้วย”

“…. Ok”

แฮซูจับหอกและย่างกระต่าย ผมพูดกับเธอย่างเงียบๆ

“ถ้าคุณมีส่วนร่วมอะไรแบบนี่มากขึ้นคุณก็จะได้คาม่ามากขึ้น คุณแฮซู คุณมีข้อเสียหลายเรื่องดังนั้นลองทำสิ่งนี้ดู.”

ผมพูดต่อไปด้วยเสียงต่ำๆ

“ได้รับคาม่าและฝึกฝนมันให้ดียิ่งขึ้นโกชางจะได้ทำอะไรคุณไม่ได้.”

“ขอบคุณมากๆ”

เธอแสดงความขอบคุณอย่างนอบน้อม

ในตอนนี้เปลวไฟขึ้นมาถึงใบหน้าของเธอ มันเป็นเรื่องยากที่จะเห็นมันผ่านไฟ(ไม่เห็นหน้าสาวที่อยู่ตรงข้ามกองเพลิง)

ดูตรงๆแล้วแม้ว่าเธอจะไม่ได้แต่งหน้าและนี่คือหน้าสดของเธอ แต่ใบหน้าของเธอช่างเปล่าเปลี่ยว

ผิวขาวและบอบบาง ผมสั้นของเธอเข้ากับใบหน้าที่เพียวบาง ความสูงของเธอคล้ายกับฮยอนจีคือ165ซม.และขาเล็กที่เข้ากันกับกางเกงออกกำลังกายน่าประทับใจ

‘นี่คือเหตุผลที่ทำให้โกซางน้ำลายไหล.’

แม้กระทั่งซังชอยยังงงงวยแต่โกซางเป็นคนหยาบ การที่เขาไม่สนใจเรื่องใดๆทำให้มีการเกิดปะทะกันขึ้น พูดตรงๆด้วยความคิดที่ไร้ยางอายของเขา เป็นที่แนนนอนแล้วว่าเขาจะยังคงคุกคามแฮซูอยู่.

‘ตอนนี้ฉันจะปกป้องเธอ.’

ซังชอยไม่สนใจ จุนโฮเป็นคนใจดี แต่อ่อนแอเพื่อ เพื่อที่ผมจะสามารถออกไปได้ เรามีแนวโน้มว่ามันจะเป็นคนละทาง

กลิ่นเนื้อย่างที่น่าอร่อยแพร่กระจายไปทั่วแฮซูหมุนช้าและย่างกระต่ายที่ตอนนี้ทั้งตัวของมันเกือบจะสุกได้ที่แล้ว

“มันสุกทั่วหรือยัง?”

“ผมก็คิดอย่างนั้น.”

“งั้นตอนนี้ผมจะลองหั่นมัน”

แฮซูเอาร่างกระต่ายออกจากกองไฟ ผมใช้ซิลเพื่อทำการตัดกระต่ายทั้งหมดเป็นห้าส่วนเท่าๆกัน จริงๆแล้วเราไม่มีมีด ผมต้องพึ่งซิลแม้แต่เรื่องเล็กๆ.

เนื้อกระต่ายค่อนข้างมีรสชาติที่ดี มันร้อนเกินไปที่จะจับด้วยมือเปล่าและมันก็ไม่มีเครื่องปรุงรสด้วยซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมไม่สนใจ ผมตั้งหน้าตั้งตากินมันในขณะที่ท้องว่าง.

“อ้า ช่างอ่อนนุ่มจริงๆ.”

ปาร์คโกซางพูดออกมา ชายคนนี้ไม่ได้ทำอะไรและน่าจะปล่อยให้อดตายแหะ?

“นี่ไอตูด ไปจับมันมาอีกหนึ่งตัวคิดว่าแค่นี้มันจะพอเรอๆ!?”

อ่า ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ผมเอาลูกอมออกมาอีกชิ้นนึงและโยนไปให้โกซาง

“โอ้? นี่มันคืออะไร?”

“คุณมองมันไม่ออก?”

“แกได้รับสิ่งนี้มากจากที่ไหน! แกสามารถเอามันมาที่นี่ได้?”

“ความจริงแล้วมันไม่สามารถทำได้ แต่นี่บอกได้ว่าคงเป็นเพราะบริการพอเศษมั้ง?”

“แม้งเอ้ย! แม้แต่บุหรี่ฉันยังไม่สามารถเอามันมาได้ นี่มันเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไง!”

แต่หลังจากที่ลูกอมเข้าไปในปากของเขา เขาก็ไม่พูดอะไรอีก นี่คงเป็นราคาความน่ารำคาญของเขา.

ผมแบ่งลูกอมไปให้คนอื่นๆ.

“ขอบคุณพี่.”

“ขอบคุณ.”

จุนโฮและแฮซูเอ่ยปากขอบคุณ ผมควรจะหนีไปกับพวกเขาพร้อมกับสองคนนั้นในตอนกลางคืนดีไหมนะ?

มื้อค่ำได้จบลงแล้ว.

“เราจะเป็นต้องมีการเฝ้ายาม.”

ก่อนที่จะนอนผมพูดถึงมัน

“ยามเหี้ยอะไรอีก.”

สิ่งนี่ แน่นอนว่า ต้องเป็นโกชางที่พูด.

“เราต้องคอยดูแลกองไฟและอันตรายจากการถูกโจมตี ผมคิดว่าเราสามารถเปลี่ยนกันเป็นเวลา1ชั่วโมง20นาทีได้ จะเป็นอะไรไหมกับการที่ผมตัดสินใจไป?”

ผมตั้งใจถามกับซังชอย เขาพยักหน้าและโกซางไม่สามารถบ่นมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้.

การแบ่งกันเฝ้ายามคือ.

แฮซู,จุนโฮ,ผม,ซังชอยและโกงซาง การที่โกซางเป็นยามคนสุดท้ายเป็นการตัดสินใจที่ลำบากมาก แต่มันเป็นบังเอิญกับสิ่งนี้หลังจากที่ผมคิดมาก.

เขาอาจจะไม่ตื่นขึ้นหรือแม้แต่จะลืมตา นั่นเป็นเหตุผลที่ผมให้ซังชอยก่อนหน้าเขา ถ้าเป็นซังชอยไปปลุกเขา เขาก็จะทำอะไรไม่ได้ และจะตื่นขึ้นมาถูกมั๊ย?

นอกจากนี้ความกังวลที่ว่าจะมีคนเป็นยามก่อนเวลาจะหมดไปเมื่อเขาเป็นคนสุดท้าย ด้วยวิธีการนี้เขาจะไม่สามารถบ่นเกี่ยวกับปัญหาของมันได้

เริ่มด้วยแฮซูที่เฝ้าหน้าถ้ำด้วยไฟ ส่วนที่เหลือของเราก็พร้อมที่จะนอนอยู่ข้างในถ้ำ พวกเราส่วนใหญ่พลิกตัวกลับไปกลับมาเพราะความอึดอัด ผมทำให้หนังกระต่ายที่เต็มไปด้วยฟางด้วยกระต่ายที่ผมล่าและทำมันเองกับมือเพราะอย่างนั้นมันจึงเป็นสิทธิของผมคนเดียวเท่านั้นที่จะได้รับ.

ต้องขอบคุณการแต่งตัวที่เตรียมพร้อมของผม ผมสามารถทนต่ออากาศหนาวในตอนกลางคืนได้.

และหลังจากนั้นการสอบวันแรกครั้งที่สองก็จบลง

***

“ตื่น”

เจ้าของเสียงที่ปลุกเป็นของซังชอย

“อ่า.”

ผมครางออกมาจากความเมื่อยล้าและตื่นขึ้นจากการนอนหลับของผม ผมเรียกกระดานของผมเพื่อตรวจสอบเวลาและมันยังไม่แม้แต่จะถึง40นาทีหลังจากที่ผมเป็นยาม.

“เกิดอะไรขึ้น?”

“มีไอ้ชั่วนั่นอยู่ที่นี่.”

ด้วยคำพูเเหล่านั้น ผมตื่นเต็มที่ และคนอื่นๆก็ตกใจและใช้อาวุธของพวกเขา

“ซิล,อาวุธ,สวมใส่.”

หลังจากคิดว่าผมจะมีการต่อสู้ผมก็บอกซิล

“ซิล มีศัตรูอยู่ใกล้ๆนี่ไหม?”

-เมี๊ยว.

ซิลพยักหน้า.

“พวกเขามีลักษณะเหมือนกับลิงที่มีขนสีแดง?”

-เมี๊ยว.

เป็นอีกครั้งที่ซิลพยักหน้า

“มันเป็นไอ้ชั่วพวกนั่นจริงๆ.”

ปาร์คโกซางคว้าดาบแน่น.

ซิลเขียนเลข21บนดิน.

“21ตัว?”

“พวกมันมีมากเกิน!”

หลังจากรู้ข่าวว่าฝ่ายตรงข้ามมี21ตัวจุนโฮแสดงออกทางใบหน้าในจณะที่แฮซูกำหอกแน่นและหน้าซีดตัวสั่นเหมือนกับต้นไม้ที่โดนพายุ.

“เยี่ยม ตราบเท่าที่เรายังป้องกันที่หน้าถ้ำได้ ก็พวกให้พวกมันเข้ามาได้เลย.”

โกซางพูดอย่างมั่นใจและผมก็ไม่มีข้อปฎิเสธคำพูดของเขา.

“ไม่ เราต้องระวังไฟ.”

“ห๊ะ?”

“พวกมันเข้ามาโจมตีในเวลากลางคืน ดังนั้นมันต้องมั่นใจว่ามันสามารถมองเห็นได้ในความืด สิ่งที่พวกมันต้องการทำเป็นอย่างแรก…”

ผมกำลังจะบอกว่าให้ไปรวมกันที่กองไฟก่อน

“เจี๊ยกๆๆ!”

“เจี๊ยกๆๆ!”

ลิงแดงโยนหินออกจากพุ่มไม้ และหินก็ไปกระทบกองไฟทำให้กองไฟแตกและเถ้าถ่านกระจายออกไปรอบๆ.

ถ้ากองไฟกับลง เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ!

ผมรีบหยิบกระสุนปืนและนำมันมาใส่ไว้ในลำกล้อง.

“ซิลเล้งให้ผมด้วย.”

-เมี๊ยว!

ผมประทับท้ายปืนไว้ที่ไหล่และเหนี่ยวไกยิง.

กิ๊ก ปัง!

“เคี๊ยย!”

เมื่อลูกปืนถูกยิงออกไปก็มีการแตกฮือกันของลิงแดงออกมาจากป่า คอ,หัวหรือหัวใจถูกยิง เพราะว่าซิลตั้งใจเล็งไปที่มัน.

ผมยังใส่ลูกกระสุนและยิงมันไปอย่างรวดเร็ว ผมมีซิลดังนั้นไม่จำเป็นต้องต้องเล็งเอง.

กิ๊ก ปัง!

“คี๊ยกก!”

ทุกครั้งที่ปืนเวทย์มนตร์ยิงออกไปจะมีเสียงร้องออกมาจากป่า.

“หว่าา…”

จุนโฮตกอยู่ในความหวาดกลัว

“แกยิงโดนพวกมันได้ยังไงทั้งๆที่ไม่เห็นมัน?”

โกชางพูดอย่างไม่น่าเชื่อ

ผมฆ่าพวกมันไปหกตัวแล้ว

“เจี๊ยกก!”

“เคี๊ยกกก!”

ความโกรธดังก้องไปทั้งป่า ลิงแดงที่ควงขวานหินไม่สามารถป้องกันตัวเองได้แต่กรีดร้อง

ลิงแดงทั้ง15ตัวกรูเข้ามาเหมือนกับคลื่น.

“ผมจะช่วยจากด้านหลัง!”

ผมตะโกน คนแรกที่กระโดดออกถ้ำมาคือซังชอย

ผมคิดว่าเขากำลังก้าวนำไปข้างหน้าพร้อมกับคนอื่น แต่เมื่อเขามุ่งหน้าไปเขาก็กางฝ่ามือออก.

แบ๊ก!

มีเพียงแค่เสียงเดียว.

ลิงแดงที่โดนผ่ามือของเขา หัวของมันสามารถหมุนได้180องศา มันเป็นเสียงที่ผมได้ยินเหมือนกับเสียงกระดูกแตกจากตำแหน่งที่ผมยืนอยู่.

“เจี๊ยกกก!”

จากนั้นไอ้พวกสารเลวนั่นต่างพยายามขว้างขวานหินของมันมาหาพวกเรา สายตาของพวกมันทำให้เรารู้สึกหดหู่.

แบ๊ก!

ลิงแดงได้โจมตีอีกครั้ง แต่กำปั้นของซังชอยก็กระทบเข้ากับปลายคางของมันก่อนที่ซังชอยจะบิดตัวไปอีกข้างเพื่อคว้าขาลิงและโยนมันเข้าไปหาพวกของมัน ลิงที่ถูกโยนก็ไปชนกับตัวอื่นๆ.

‘โลกนี้มันมันอะไรเนี่ย!’

มันไม่ได้ถูกโยนไปด้วยความแข็งแรง เขาย่อตัวและใช้ความแรงให้น้อยที่สุดในการโยนลิง นั่นคือศิลปะของบูกันซาน.

เขาแข็งแกร่งมัน มันรู้สึกเหมือนกับว่าซังชอยคนเดียวก็สามารถจัดการพวกมันทั้งหกได้

‘ฉันไม่สามารถอยู่เฉยๆและเป็นผู้ชมต่อไปได้.’

หลังจากที่ใส่กระสุนแล้วผมก็เหนี่ยวไก.

ติ๊ก ปัง!

จากนั้นหัวของลิงก็ระเบิดและมีน้ำพุพุ่งออกมา

นอกจากปืนที่อยู่ด้านบนแล้วส่วนที่เหลือก็ดูการต่อสู้ของซังชอย.

จุนโฮเดินหน้าเครียดมาพร้อมกับโล่และหอกที่กำแน่น.

“ถ้าฉันต้องการคาม่า ฉันต้องสู้!”

โกซางตะโกนและวิ่งไปข้างหน้า.

“อึก อึก…!”

มีแค่แฮซูเท่านั้นที่ตกอยู่ในความหวาดกลัวและไม่สามารถทำอะไรได้.

การต่อสู้จบอย่างรวดเร็ว

ผมฆ่าไป 9.

จุนโฮต่อสู้อย่างหนัก แต่มันก็จบลงด้วยการฆ่าไปแค่หนึ่งหรือสองเท่านั้น โกซางเหวี่ยงดาบอย่างบ้าคลั่ง แต่เมื่อเทียบกับความควบคุมของที่ไม่ดีเขาแล้วเขาฆ่าไปได้แค่1และบาดเจ็บอีก.

ส่วนที่เหลือเป็นของซังชอยทั้งหมด เกือบจะเป็นคนเดียวที่ฆ่าพวกมันด้วยการโจมตีที่สมบูรณ์.

“เคี๊ย!”

“เจี๊ยก!”

ลิงที่เหลืออีกสองตัวได้วิ่งหนีด้วยความหวาดกล้ว ผมตระโกนบอกซิล

“ซิล! ตัวหัวพวกมันให้หมด!”

-เมี๊ยว!

ซิลบินออกไปเร็วพอๆกับการยิง ความตายของพวกมันได้แผดเสียงร้องไปทั้งป่า.

ดังนั้นการต่อสู้นี้จบลงด้วยชัยชนะของพวกเรา

Hi everyone. This chapter marks the end of the free raws available. From now on, I will need to start buying the chapters. I will also be changing the schedule. Please consider sponsoring a chapter as well. Thanks!

0 0 โหวต
Article Rating
9 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด