ตอนที่แล้วตอนที่ 106 – ห๊ะ! นี่น่ะหรือหัวหน้าครูฝึกสอนของกองทัพ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 108 – เขย่าสุญญากาศ

ตอนที่ 107 – แรงกระตุ้น


ตอนที่ 107 – แรงกระตุ้น

 

ศิษย์ทั้งหมดของตระกูลซางกลยืนตัวตรงอยู่ที่สนามฝึกซ้อม มันเงียบกริบอย่างยิ่ง พวกเขามองไปยังใบหน้าบวมของบุรุษหนุ่มอย่างสงสัย เขาคือท่านลูกเขยในตำนานนั่นน่ะหรือ?

ลุงเฉียนก็ตกใจเช่นเดียวกัน เขาวางทุกสิ่งบนมือของเขาและรีบเร่งไป เขารู้ดีกว่าทุกคนว่ามันมีค่าเพียงใดที่จะได้รับการแนะนำจากถังเทียน เมื่อสองปีที่แล้ว ถังเทียนเป็นดั่งผู้งมงายยุทธ์ผู้ฝึกพื้นฐานวิชาการต่อสู้ แต่ในตอนนี้ ถังเทียนกลายเป็นผู้คนที่ซึ่งสามารถเอาชนะนักสู้ที่แข็งแกร่งเช่นอวี๋หมิงชิว

ลุงเฉียนกังวลว่าจะมีบางคนอาจจะมิรู้ว่าสิ่งได้ดีสำหรับพวกเขา ดังนั้นเขาต้องการที่จะออกคำสั่งอย่างเข้มงวด ให้มันเป็นดั่งเช่นการเรียน ตระกูลซางกวนถูกจัดการโดยซางกวนเชียนฮุ่ยเมื่อสองปีก่อน ในตอนนี้ แม้ว่าตระกูลซางกวนจะอ่อนแออยู่ มันเป็นถือเป็นแรงกระตุ้นสำหรับโอกาสที่จะอยู่รอด

อันที่จริงแล้ว ลุงเฉียนกังวลว่าเขามิรู้จะมีศิษย์ในตระกูลซางกวนมากเพียงใดที่ได้พบเห็นการต่อสู้ของถังเทียนที่เอาชนะอวี๋หมิงชิว ภายในคืนเดียว ข่าวเรื่องการต่อสู้อันน่าตระหนกก็แผร่ไปยังศิษย์ของตระกูลซางกวนทั้งหมด

แทบจะทุกผู้คนที่รู้ว่าพลังของท่านลูยเขยมันยอดเยี่ยมและลึกซึ้ง

หลายคนถึงกับวาดหวังไว้ว่า ถ้าหากคุณหนูและท่านลูกเขยคู่กัน แล้วผู้ใดกันที่จะสามารถเป็นศัตรูของภูเขากลุ่มดาราอมตะ?

ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ยินว่าท่านลูกเคยต้องการแนะนำพวกเขาถึงการฝึกฝนเป็นการส่วนตัว ศิษย์ทั้งหมดต่างตื่นเต้น พวกเขาต่อสู้อย่างมีความสุข ทุกคนต่างตั้งตารอคอย

อวี๋หมิงชิวเป็นบุคคลที่ดุร้ายได้เอาชนะอาเวยและต้าจู้ แต่เบื้องหน้าท่านลูกเขยแล้วมันยังคงไม่เพียงพอ

คำสั่งแรกของบทเรียนถังเทียน คือการให้ทุกผู้คนต่างแสดงวิชาการต่อสู้ของพวกเขาที่พวกเขาคุ้นเคย

“เป็นขยะกองใหญ่ชัดๆ!” ทหารสำรวจดูและกล่าวอย่างไร้ความปราณี

ถังเทียนมิได้ใส่ใจ “รอจนกว่าท่านจะเปลี่ยนขยะเป็นสมบัติ ลุงเทพ มันมิมีอะไรที่จะน่าทึ่งไปกว่าที่ท่านเป็นหัวหน้าครูฝึกของกองทัพแล้ว!”

อันที่จริง ถังเทียนรู้สึกว่าเหล่าศิษย์ต่างมิได้เลวร้ายนัก พวกเขาทั้งหมดอย่างน้อยก็อยู่ในขั้นสี่ รากฐานของพวกเขาก็มั่นคงและเข้มแข็ง และพวกเขาก็ยังเยาว์ มันสามารถเห็นได้ว่าเชียนฮุ่ยใช้ความพยายามอย่างมากที่คัดเลือกพวกเขามา

กล่าวถึงระดับขั้นแล้วมันมีหลายคนที่อยู่ในขั้นเดียวกับถังเทียน แต่ในแง่ของกำลังการต่อสู้ เขามิอาจเป็นคู่มือได้

“การฝึกฝนในวันนี้ง่ายดายอย่างยิ่ง ข้าต้องการให้แต่ละคนและทุกคนคุ้นเคยกับวิชาการต่อสู้ของตัวเจ้าเองโดยการฝึกฝนพวกมันสามพันครั้ง”

ขณะที่ถังเทียนกล่าวออกมา เหล่าผู้ชมบนสนามต่างอ้าปากค้าง มันจะเป็นไปได้งั้นหรือที่จะฝึกมันถึงสามพันครั้งในวันเดียว? มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน! มาตรฐานพวกเขาทั้งหมดคือขั้นสี่ สำหรับวิชาการต่อสู้ระดับสี่ ถ้าพวกเขาสามารถฝึกฝนมันเจ็ดถึงแปดร้อยครั้งต่อวัน มันก็ดีเพียงพอแล้ว แต่นี้มันตั้งสามพันครั้งงั้นหรือ?

สามพันครั้ง? ท่านล้อเล่นกันหรือ?

มันเกิดเสียงถกเถียงในบรรดาศิษย์ในตระกูล ทุกคนต่างมีสีหน้าไม่เชื่อ พวกเขารู้สึกว่าถังเทียนกล่าวเหลวไหล สามพันครั้ง เขาแน่ใจแล้วหรือถึงได้โอ้อวดเช่นนี้

ถังเทียนเมินสายตาเหล่านั้น น้ำเสียงเขาแปรเปลี่ยนเป็นขึงขัง “ทำไม? ผู้ใดไม่เห็นด้วย?”

ด้วยความคิดที่รวดเร็ว ซางกวนเวยยืนขึ้นอย่างรีบเร่งพลางตะโกน “เหตุใดเจ้ายังยืนนิ่งอยู่กัน? เริ่มฝึกได้แล้ว!”

ด้วยเหตุนั้นน้ำเสียงของถังเทียนก็ดังขึ้น “เจ้าทั้งสองคน ห้าพันครั้ง”

ขาของซางกวนเวยอ่อนยวบ ขณะที่ซางกวนจู้เริ่มฝึกในทันที

ถังเทียนพบเห็นว่าบางคนพยายามที่จะโกง เขาก็เยาะเย้นในทันที “สามพันครั้ง ข้ามิสนใจว่าเจ้าจะเต็มใจหรือไม่ ผู้ใดที่ทำขาดไปแม้แต่หนึ่งครั้ง เจ้าจะต้องฝึกที่นี้จนกว่าเจ้าจะทำเสร็จ อย่าได้พยายามยั่วโมโหข้า ถ้าเจ้าต้องการที่จะเกียจคร้าน เจ้าจะต้องมาถามหมัดข้านี้”

ทันใดนั้น ดวงตาของถังเทียนก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ เขาสังเกตบางคนในกลุ่มคนพยายามที่จะทำให้เรื่องขบขัน ในทันทีเขาก็ตะโกนอย่างเงียบๆด้วยความยินดี เขากำลังคิดที่จะเชือดไก่ให้ลิงดู และมันก็มีโอกาสเกิดขึ้นมาตรงเบื้องหน้าของเขา

ด้วยการกระโจน ถังเทียนก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าของศิษย์ผู้นั้น

โดยมิรอให้ศิษย์ผู้นั้นได้อธิบาย ถังเทียนก็คว้าเขาพลางแสยะยิ้ม “เจ้ากำลังคิดทำเป็นคนเกียจคร้านในตอนนี้ เจ้าเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วงั้นหรือ?!”

ปราศจากคำกล่าวอื่นอีก เขาก็ยกศิษย์ผู้นั้นขึ้น ปัง เขาก็โยนศิษย์ผู้นั้นไปยังกองหินปูน

ด้วยเสียงกรีดร้อง ศิษย์ผู้นั้นก็สลบไป!

ถังเทียนยกศิษย์ที่สลบไปอย่างเฉยเมย เขาควบคุมกำลังของเขาได้อย่างดีเยี่ยม มันคล้ายกับโยนอย่างรุนแรง แต่ในความจริงแล้ว เขาทำให้ฝ่ายตรงข้ามสลบจากความเจ็บปวด แต่เขามิได้รับบาดเจ็บอันใด

“ไปเอาถังน้ำมาและสาดน้ำปลุกเขาขึ้นมา จากนั้นก็ฝึกฝนกันต่อ”

คำกล่าวอันเย็นชาของถังเทียนทำให้ทุกคนต่างหวาดกลัว แม้กระทั่งซางกวนเวยและซางกวนจู้ก็รู้ว่ามันยากที่จะกลืนน้ำลายลงไป ท่านลูกเขยเหี้ยมโหดเกินไปแล้ว

ในตอนแรกพวกเขาต่างตื่นเต้น นี่มันคือสิ่งที่ท่านลูกเขยกล่าวถึงวิธีการฝึกฝนงั้นหรือ?

ทุกคนเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจัง เพื่อที่จะกระทำซ้ำถึงสามพันครั้ง พวกเขาคงจะมิสามารถทำได้สำเร็จ ความคิดของพวกเขาเรียบง่ายอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม พวกเขาเพียงต้องฝึกเช่นนี้ ถ้าทุกคนมิสามารถทำสำเร็จทันเวลา ท่านลูกเขยจะทุบตีพวกเขาหรือไม่?

ถังเทียนสำรวจดูเพื่อให้แน่ใจว่ามิมีผู้ใดที่พยายามจะเกียจ จากนั้นเขาก็เริ่มฝึกฝน

ยามเมื่อเขาอยู่ในสถาวะการฝึกฝน ถังเทียนลืมเลือนทุกสิ่งอย่าง

[หมัดสั่นสะเทือน] ของถังเทียนร้ายกาจมากพอแล้ว แต่ยังมิเข้าถึงแก่นแท้ของกระบวนท่าสังหาร แม้ว่ามันจะไม่เหมือนในอดีต ตราบเท่าที่เขาฝึกฝนหมัด เขาสามารถที่จะเข้าใจแก่นแท้กระบวนท่าสังหาร แต่วิธีการฝึกฝนของถังเทียนยังคงเหมือนเดิม เขามีความคิดเช่นเดิม

ปริมาณจะทำให้เกิดนความเปลี่นแปลงได้

ถังเทียนมีสมาธิ หมัดแล้วหมัดเล่าใช้ออกอย่างไม่หยุดหย่อน

เหล่าศิษย์ต่างแอบมองไปยังถังเทียนผู้ที่ซึ่งมีสมาธิอยู่ ยามเมื่อพบเห็นถังเทียนฝึกฝนพร้อมกับพวกเขา พวกเขายิ่งอยากรู้มากขึ้นและดังนั้นพวกเขาเริ่มที่จะแอบมองมากยิ่งขึ้น

[หมัดสั่นสะเทือน] มิใช่วิชาหมัดที่ไม่มีชื่อเสียง ศิษย์หลายคนรู้จักมัน แต่หมัดสั่นสะเทือนของถังเทียนมันแตกต่างไปจากสิ่งที่พวกเขารู้

สมบูรณ์แบบ! มันเป็นหมัดสั่นสะเทือนที่สมบูรณ์แบบอย่างไม่น่าเชื่อ!

นี่เป็นคราแรกที่พวกเขาพบเห็นหมัดสั่นสะเทือนที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ เหล่าศิษย์ที่เชี่ยวชาญในหมัดสั่นสะเทือนต่างหลงใหลกันหมด

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ทุกคนต่างเหนื่อยล้าอย่างยิ่ง หลายคนกระทั่งล้มไปบนพื้น

ในสภาวะของถังเทียนยังคงมิมีสัญญาณว่าจะหยุดลง

“ความทนทานของร่างกายท่านลูกเขยแข็งแรงอย่างยิ่ง!”

“สามารถที่จะฝึกฝน [หมัดสั่นสะเทือน] ถึงขั้นนี้ได้ เขาจะต้องเสียเวลาไปเป็นอย่างมาก!”

ทุกคนต่างพูดคุยกันขณะที่พวกเขาหยุดพัก

อีกสองชั่วโมงต่อมา ถังเทียนยังคงมิได้หยุด มันเห็นได้ว่าเขาใช้พลังของเขาได้อย่างดีเยี่ยมและเขาหลั่งเหงื่ออย่างมากมาย

การพูดคุยเบาลงแล้วในตอนนี้ พวกเขามองไปยังถังเทียนด้วยความเกรงขามและความนับถือ

สามชั่วโมงต่อมา ถังเทียนพากเพียรต่อไป ภายใต้เท้าของเขาเป็นแอ่งของน้ำ มันก่อเกิดมาจากหยาดเหงื่อของเขาที่หยดลงไปอย่างต่อเนื่อง ทุกหมัดมั่นคง สายตาของเขาจดจ่อมุ่งมั่งเขามิได้สนใจในสิ่งใด

ทุกคนต่างเงียบกริบในขณะนี้

ห้าชั่วโมงต่อมา ถังเทียนแทบจะหมดสิ้นกำลัง เขาก็นั่งลงและทำสมาธิ ถังเทียนวางทุกสิ่งอย่างไว้เบื้องหลังจิตใจของเขายามเมื่อเขาอยู่ในสภาวะของการฝึกฝน

ทุกคนของเหล่าศิษย์ต่างตกตะลึงกับฉากนี้

ปกติแล้วยามเมื่อพวกเขาฝึกฝน หลายคนจะโอ้อวดเกี่ยวกับการฝึกหนักของพวกเขา แต่ยามเมื่อพวกเขาเห็นถังเทียนฝึกฝนเช่นไร พวกเขาตกใจอย่างมาก มันเป็นคราแรกที่พวกเขาพบเห็นบางคนที่ทุ่มเททุกอย่างของเขาในการฝึกฝน ถูกต้องแล้ว ทุ่มเททุกสิ่งอย่างของเขา! เมื่อเทียบกับถังเทียนแล้ว การฝึกฝนของพวกเขาก็...

ซางกวนเวยและซางกวนจู้ต่างรู้สึกผิดอย่างรุนแรง

มิต้องสงสัยเลยเหตุใดท่านลูกเขยถึงทรงพลังนัก!

ความคิดนี้ปรากฏขึ้นมาภายในใจของทุกคน

มิมีผู้ใดสับสนแล้ว ทุกคนต่างเริ่มฝึกฝนอย่างเงียบๆ มันเป็นไปได้ที่จะกระทำสามพันครั้งงั้นหรือ? ถ้าพวกเขาฝึกฝนอย่างเช่นท่านลูกเขยพวกเขาจะต้องทำมันได้แน่!

แม้กระพลังอำนาจของท่านลูกเขยที่ฝึกอย่างหนัก ช่างเป็นแรงกระตุ้น เขาทุ่มเททุกอย่างของเขา แล้วสาเหตุใดที่จะทำให้พวกเขาต้องเกียจคร้านกันเล่า? เหตุผลอันใดที่พวกเขาจะต้องยอมแพ้กัน?

ภายในดวงตาของศิษย์ทุกคนต่างลุกโชติไปด้วยเปลวเพลิงซึ่งลุกลามอย่างรวดเร็ว

ถังเทียนฟื้นฟูปราณแท้จริงของเขาเสร็จแล้ว เขาก็ลืมตาของเขาขึ้นมองไปยังฉากอันมีชีวิตชีวาอย่างผิดปกติและหลงใหลฝึกฝนของเหล่าศิษย์ เขาปลื้มปิติ แต่ภายในสายตาของเขา เขาอดมิได้ที่จะกล่าวถาม “ลุงทหาร นี่มันจะได้ผลงั้นหรือ?”

“ถ้าหากข้าบอกเช่นนั้น มันก็จะต้องได้ผล” ทหารกล่าว “จดจำไว้บุรุษหนุ่ม เจ้ามิมีสิทธิ์ที่จะมาตั้งคำถามข้า!”

ถังเทียนพลันรู้สึกอับอาย หลังจากการต่อสู้ แม้ว่าทหารจะเห็นด้วยกับข้อเสนอ เขาก็เสนอเกี่ยวกับการฝึกฝนทั้งหมด ถังเทียนก็ได้ฟังทหารบอกกล่าว

“ถ้างั้นข้าจะฝึกฝนต่อแล้ว” ถังเทียนฝึกฝนต่อเมื่อเขากล่าวเช่นนั้น

ทหารสังเกตไปยังเหล่าศิษย์ที่ต่างฝึกฝนอยู่บนสนาม เขาก็มองดูอย่างภูมิใจ

แม้ว่าเหล่าศิษย์จะมีพลังที่ย่ำแย่ ในความเป็นจริง พวกเขาก็มีความตั้งใจที่ดี ทหารสามารถยอมรับเหล่ามือใหม่ที่ยังไม่ทรงพลังเช่นนี้ได้ แต่เขามิสามารถยอมรับเหล่าคนที่มิมีความตั้งใจในการต่อสู้

ทันใดนั้นทหารก็รู้สึกอยากรู้เกี่ยวกับซางกวนเชียนฮุ่ย จากเหล่าศิษย์เบื้องล่างนี้เขาสามารถมองเห็นถึงมาตรฐานที่พวกเขาสำเร็จได้ แม้ว่าซางกวนเชียนฮุ่ยมิได้ฝึกฝนทหาร ถ้าให้นางบอกกล่าวแล้ว เหล่าบุรุษหนุ่มพวกนี้ต่างชื่นชมในผู้นำน้อยของพวกเขาแล้ว

เมื่อเห็นบรรดาบุรุษหนุ่มที่มีแรงกระตุ้นเหล่านี้ ทหารก็เริ่มคิดว่าซางกวนเชียนฮุ่ยมิใช่สตรีธรรมดาเสียแล้ว!

สาเหตุที่ทหารยอมรับข้อเสนอของถังเทียน มิใช่เพราะความกังวลใจของเขา มันคือสาเหตุอื่นคือเขาต้องการเอาภาระของถังเทียนออกมา ถังเทียนและเชียนฮุ่ยท้ายสุดแล้วจะต้องเดินไปยังเส้นทางสวรรค์และไปยังที่ใดก็มิรู้ ถ้าตระกูลซางกวนมิมีความแข็งแกร่งที่จะปกป้องตัวพวกเขาเอง จากนั้นทั้งสองคงจากมาอย่างเศร้าโศกแล้ว

เมื่อมันเป็นเช่นนั้น เขาก็ควรจะจะแก้ไขปัญหานี้ให้เร็วขึ้น

มันเป็นโชคที่ดีที่เจ้าอันธิพาลบ้าเช่นถังเทียนอยู่ที่นี้ คนอื่นๆก็ได้รับแรงกระตุ้นจากเขา

จากนั้นเขาก็ไม่ต้องพูดอันใดมาก

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าถังเทียนจะทำให้เรื่องเช่นนี้ยามเมื่อเขาเพิ่งมาถึง” เหลียงชิวยกถ้วยของเขาขึ้นและจิบ “มันน่าเสียดายนักที่คุณหนูเชียนอยู่ไม่อยู่ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญนัก”

หานปิงหนิงกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าเด็กผู้นี้ฉุนเฉียวอยู่เสมอเลย”

ซือหม่าเซียงซานหยอกล้อ “ซางกวนเชียนฮุ่ยมิได้อยู่ที่นี้ ดังนั้นข้าจะเล่นกับถังเทียนก่อนแล้วกัน ข้าเฝ้ารอคอยอยู่ ข้ามิคาดคิดว่าถังเทียนสามารถจะแข็งแกร่งอย่างยิ่ง…”

หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น อาโม่หลี่ก็มองไปยังเขาอย่างแปลกๆ “เอ๊ะ เจ้ามิเคยคิดเช่นนี้เลยหรือ?”

ซือหม่าเซียงซานเงียบลง

จากนั้นอาโม่หลี่ก็กล่าวด้วยสีหน้าแปลกๆ “เอ๊ะ เจ้ามิเคยคิดเช่นนี้จริงๆงั้นหรือ! แปลกนัก! พื้นฐานถังคือบุรุษหนุ่มเทพ! มันเป็นธรรมดาสำหรับเขาที่จะแข็งแกร่งขึ้น แต่ข้า อาโม่หลี่ ก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นเดียวกัน! ข้าต้องการที่จะไปพบพื้นฐานถังอย่างเร็วที่สุด ข้าต้องการที่จะประลองกับเขาอย่างเต็มที่และดูว่าผู้ใดกันที่พัฒนาได้ยอดเยี่ยมกว่า!”

“ท่านหัวหน้าได้บอกไว้ว่าพวกเขามิสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างตามใจ” ซือหม่าเซียงซานเป็นฝ่ายค้าน

“เอ๊ะ!” จากนั้นอาโม่หลี่ก็มองอย่างแปลกๆอีกครา “เหตุใดเจ้าถึงเชื่อฟังเช่นนี้?”

ซือหม่าเซียงซานก็เงียบเสียงลงอีกครา

เมื่อเห็นซือหม่าเซียงซานถูกรังแก หานปิงหนิงและเหลียงชิวก็ยิ้มเย้ย

“ข้าต้องการไปหาพื้นฐานถัง พวกเจ้าจะมาด้วยกันหรือไม่?” อาโม่หลี่ยกมือของเขาขึ้น

“ข้าไปด้วย!” หานปิงหนิงตอบอย่างรวดเร็วและแน่วแน่

“อืม ข้าเช่นกัน ข้าตื่นเต้นอย่างยิ่งเพื่อที่จะได้พบพื้นฐานถัง” เหลียงชิวหัวร่อขณะที่เขากล่าว

จากนั้นทั้งสามก็หันไปมองยังซือหม่าเซียงซาน

ใบหน้าของซือหม่าเซียงซานบิดเบี้ยวในระหว่างที่ขบฟันของเขาพลางกล่าว “เอาล่ะ ก็ได้ ไปกันเถอะ!”

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด