ตอนที่แล้วตอนที่ 105 – มิได้พบกันนานแล้วนะ ลุงเฉียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 107 – แรงกระตุ้น

ตอนที่ 106 – ห๊ะ! นี่น่ะหรือหัวหน้าครูฝึกสอนของกองทัพ?


ตอนที่ 106 – ห๊ะ! นี่น่ะหรือหัวหน้าครูฝึกสอนของกองทัพ?

 

“โว้! ห้องนี้ใหญ่มาก!”

“โว้ โว้ โว้! ข้าชอบมัน นี่มันคือสนามฝึกระดับสูง”

ซางกวนเฉียนยิ้มไปยังถังเทียน ซางกวนเวยและซางกวนจู้ ผู้ที่ติดตามมาเบื้องหลังถังเทียนได้ยินได้ยินถังเทียนอุทานอย่างตื่นเต้นพลางยิ้มด้วยความยินดี พวกเขาต่างรู้สึกดีด้วยยิ่งขึ้น

ท่านลูกเขยแท้จริงแล้วเป็นบุคคลที่อยู่อย่างโดเดี่ยว… ท่านลูกเขยแท้จริงแล้วซื่อสัตย์… ท่านลูกเขยแท้จริงแล้วเป็นบุคคลตรงไปตรงมา...

มิว่าทั้งสองจะมองเยี่ยงไร พวกเขาก็รู้ว่าถังเทียนเป็นบุคคลยอดเยี่ยมนัก

ระหว่างทางพวกศิษย์ของตระกูลซางกวนทั้งหมดต่างมองไปยังเขาด้วยความเกรงขามและนับถือ ถังเทียนได้แสดงให้เห็นถึงพลังและความร้ายกาจในระหว่างการต่อสู้ที่น่าตกใจและสะท้านใจพวกเขา หลังจากสองปีภายใต้การนำของซางกวนเชียนฮุ่ย ตระกูลซางกวนนี้กลมเกลียวกันอย่างประหลาด

ลุงเฉียนนำถังเทียนเดินไปรอบๆก่อนที่พวกเขาจะพบสถานที่ให้นั่งลง

“ลุงเฉียน แท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ถังเทียนตัดสินใจกล่าวถามหลังจากที่เขานั่งลง

ลุงเฉียนถอนหายใจอย่างบางเบา “เรื่องมันยาวนัก พวกเราเริ่มจากจุดกำเนิดของกลุ่มดาราอมตะก่อนแล้วกัน”

ถังเทียนตกใจ เขายังคงเงียบและฟังอย่างอดทน ซางกวนเวยและซางกวนจู้ที่อยู่ด้านข้างประหลาดใจและอยากรู้ พวกเขารู้ว่ามีสองสามอย่างเกี่ยวกับตระกูลของผู้มีพระคุณและศัตรู แต่พวกเขามิคาดคิดว่าพวกเขาจะสามารถได้รับฟังย้อนไปยังในอดีต

“ราชินีอมตะรุ่นแรกพบกลุ่มดาราอมตะและได้ขยับขยายในช่วงเวลานั้น ซางกวนหง ผู้นำของตระกูลซางกวนเป็นลูกน้องที่เชื่อใจของราชินี บรรพบุรุษได้สร้างกลุ่มดาราอมตะในปัจจุบันนี้อยู่เคียงข้างของราชินี และในช่วงเวลานั้น ผู้นำของตระกูลอวี๋เป็นขุนนางคนสำคัญของราชินี ช่วงเวลานั้น แม้ว่ากลุ่มดาราอมตะจะมิได้เป็นกลุ่มดาราที่แข็งแกร่งที่สุด แต่มันก็ทรงพลัง คนนอกมิกล้าที่จะดูแคลนพวกเรา พลังของราชินีลึกล้ำและมิอาจคาดเดาได้ สมบัติดาราที่แข็งแกร่งที่สุดของภูเขากลุ่มดาราอมตะมันคือมงกุฎอมตะซึ่งอยู่ภายในมือของราชินี”

“หลังจากการตายของราชินี กลุ่มดาราอมตะเริ่มที่จะตกต่ำลง ทุกผู้คนคาดคิดว่าราชาอมตะผู้ที่เป็นลูกหลานของนางมีความสามารถไม่เพียงพอ มันก็ย่ำแย่ลงหลังจากรุ่นต่อรุ่น อย่างไรก็ตามมีน้อยคนที่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับมุงกุฎอมตะ หลังจากการตายของราชินี มงกุฎอมตะและจิตวิญญาณนักสู้ของมันก็เกิดอ่อนแอลง จนกระทั่งเมื่อร้อยปีก่อน มงกุฎอมตะก็กลายเป็นสมบัติดาราขั้นเงิน และเพียงสามสิบปีความรุ่งเรืองของมงกุฎอมตะก็กลายเป็นสมบัติขั้นทองแดง”

ถังเทียนตกตะลึง มันเป็นคราแรกที่เขาได้ยินว่าระดับของสมบัติดาราสามารถที่จะลดลงได้ด้วย ซางกวนเวยและซางกวนจู้พวกเขาทั้งสองต่างไม่เชื่อ มันเป็นคราแรกที่พวกเขาได้ยินเบื้องหลังของประวัติศาสตร์เช่นนี้

“การตกต่ำของมงกุฎอมตะมันเป็นภัยพิบัติต่อกลุ่มดาราอมตะ ระดับของสมบัติชิ้นอื่นของกลุ่มดาราอมตะก็ดิ่งลง ระดับเข็มมรกตอมตะก็เริ่มตกต่ำลงมันเป็นมรดกของตระกูลซางกวนพวกเรา พลังทั่วทั้งภูเขากลุ่มดาราอมตะต่างตกต่ำลงอย่างรวดเร็วและทุกผู้คนตกอยู่ในความหวาดกลัว เมื่อห้าปีที่แล้ว มีกลุ่มผู้คนที่ทรงพลัง มิอาจคาดคิดหัวขโมยก็บุกเขาไปพระราชวังและพยายามที่จะโมยมงกุฎอมตะ พวกมันได้ลักพาตัวราชาอมตะไป แต่พวกมันมิคาดคิดว่าพวกมันจะมิสามารถหามงกุฎอมตะพบ ตระกูลซางกวนได้ช่วยราชาเอาไว้ได้ แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดต่างแทบสูญเสียชีวิตของพวกเขา ตระกูลหวังสูญเสียอย่างเลวร้ายและถูกสังหารหมู่ ฝ่ายตรงข้ามมันเหนือเกินกว่าความกลิ้งกลอก ผู้นำตระกูลกังวลว่าคุณหนูอาจจะติดร่างแหไปด้วย ดังนั้นเมื่อห้าปีก่อน คุณหนูและข้าก็ไปยังเมืองเมฆาดาราเพื่อหลบภัย”

ถังเทียนพลันขบคิดออก สาเหตุที่เชียนฮุ่ยถึงไปยังเมืองเมฆาดารา

“ราชาอมตะหายตัวไป กลุ่มดาราอมตะต่างตกอยู่ในความวุ่นวาย ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลของเราและตระกูลอวี๋กลายเป็นต่อต้านกัน และขณะที่พลังของสมบัติดาราเริ่มตกต่ำอย่างต่อเนื่อง บุรุษหนุ่มของกลุ่มดาราอมตะที่ซึ่งมีอนาคตต่างเดินทางไปยังกลุ่มดาราที่รุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ อำนาจของภูเขากลุ่มดาราอมตะก็เสื่อมถอยอย่างยิ่ง”

ซางกวนเวยและซางกวนจู้ต่างเงียบ พวกเขาต่างรู้ถึงเรื่องการเสื่อมถอยของกลุ่มดาราอมตะ

“สิ่งนี้เพียงเกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อน การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน” ลุงเฉียนดูคล้ายตื่นเต้น

“สองปีที่ผ่านมางั้นหรือ?” ถังเทียนประหลาดใจและถามอย่างระวัง “เมื่อตอนที่เชียนฮุ่ยกลับมางั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” ลุงเฉียนเป็นสุข “เมื่อสองปีที่แล้ว จิตวิญญาณนักสู้ของสมบัติดาราอมตะเริ่มที่จะแปรเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มิได้มากมายแต่มันก็เป็นเรื่องจริง”

“หรือว่า...” ถังเทียนพลันเกิดความคิดอีกอย่าง

“ทุกผู้คนคาดเดาว่ามีบางคนที่พบมงกุฏอมตะและมันกำลังฟื้นตัว” ลุงเฉียนกล่าวอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย “และเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อตอนที่คุณหนูไปยังซากของพระราชวัง ดังนั้นมันมีข่าวลือกล่าวว่าคุณหนูได้รับมงกุฎอมตะ”

“เชียนฮุ่ยได้รับมงกุฏอมตะงั้นหรือ?” ถังเทียนตื่นเต้น “นั่นมันยอดเยี่ยมนัก!”

ซางกวนเวยและซางกวนจู้ต่างตื่นเต้นเช่นกัน มงกุฎอมตะเป็นสมบัติที่แข็งแกร่งที่สุดของภูเขากลุ่มดาราอมตะ ถ้าคุณหนูครอบครอบมันแล้วล่ะก็...

“ข้ามิมั่นใจนักว่าคุณหนูมีมันหรือไม่” ลุงเฉียนยิ้มอย่างขมขื่น “แต่คุณหนูก็แสดงได้ดีด้วยกำลังที่ยอดเยี่ยม มีข่าวลือที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ส่วนใหญ่คิดว่าคุณหนูจะต้องเป็นผู้ที่ฟื้นฟูภูเขากลุ่มดาราอมตะ ดังนั้นทุกคนและทุกตระกูลต่างมาหาพวกเรา ตระกูลอวี๋ต้องการที่จะรู้ความจริง ดังนั้นพวกเขาจะต้องวางแผนมาตลอด มันเป็นเพียงเพราะคุณหนูแข็งแกร่งเกินไป ถ้าพวกเขามาท้าทายคุณหนู พวกเขาจะต้องตายตกหมดแน่ ในสองปีนี้ คุณหนูได้คุ้มครองตระกูลซางกวน”

ซางกวนเวยและซางกวนจู้คล้ายสำนึกผิด ถ้ามันมิใช่เพราะท่านลูกเขยในวันนี้ การต่อสู้ในครานี้ตระกูลซางกวนจะต้องสูญเสียอย่างมาก ลุงเฉียนกล่าวความจริง

ซางกวนเชียนฮุ่ยต่างแบกรับภาระทั้งหมดของตระกูลซางกวน

หัวใจของถังเทียนรู้สึกละอาย ภายในจดหมายที่เชียนฮุ่ยเขียนถึงเขา นางมิเคยกล่าวถึงเรื่องพวกนี้เลย นางเพียงกล่าวถึงเรื่องที่ยางอยู่สุขสบายดีและบอกกล่าวเขาถึงทุกสิ่งที่มันดูน่าสนใจที่นางพบเจอ เขามิคาดคิดว่า...

เขากำหมัดของเขาแน่นอย่างมิได้ตั้งใจ

“เป็นไปได้ว่าผู้คนเหล่านี้คือสารเลวเมื่อห้าปีก่อน” ลุงเฉียนเคร่งขรึม “คุณหนูได้สงสัยตระกูลอวี๋ว่าสมคบคิดกับพวกมันเมื่อห้าปีก่อน ถ้าข้าคิดถูก พวกมันจะต้องตามล่ามงกุฎอมตะเป็นแน่แล้ว”

ถังเทียนสูดหายใจเข้าลึกและคลายมือของเขา เขาเงยหน้าขึ้นและเปิดเผยรอยยิ้มร่าเริง แต่ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง “อย่าได้กังวลลุงเฉียน ถ้ากลุ่มคนบัดซบพวกนี้กล้าที่จะกลับมาอีก ข้าจะทุบตีพวกมันให้เละ!”

ช่างเป็นคำกล่าวที่ดุร้ายออกมาจากนายน้อยเทียน ลุงเฉียนตกตะลึงไปชั่วครู่ นายน้อยแท้จริงแล้วมิคล้ายกับในอดีตของเขา...

ตรงกันข้ามกับซางกวนเวยและซางกวนจู้ที่ดวงตาสว่างวาบเมื่อยามที่พวกเขาได้ยิน แล้วมองไปยังถังเทียนด้วยความเกรงกลัว

ท่านลูกเขยช่างก้าวร้าวนัก...

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

กลับมายังห้องของเขา ถังเทียนขบคิดอย่างลึกซึ้ง ปราศจากเชียนฮุ่ยแล้วตระกูลซางกวนคล้ายว่าพวกเขาจะประสบปัญหาอย่างยิ่งแล้ว เขาจะต้องคิดหาทางบางอย่างแล้ว

ทันใดนั้น ท่าทางของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นประหลาด ด้วยความคิดหนึ่ง เจ้าเด็กผู้หนึ่งก็กระโดดออกมาจากคลังศาสตราวุธคนโท

หยาหยากระโดดขึ้นมาบนโต๊ะ มือเท้าเอวของนางไว้ นางขบฟันและเงยหน้าของนางขึ้น จ้องมองไปยังถังเทียนอย่างมิมีความสุข จากนั้นนางก็ยกธนูในมือเล็กๆของนางชี้ไปยังถังเทียน นางอยู่ในสภาพที่วุ่นวาย ปากของนางพ่นเสียง ‘อี้ อี้ อา อา’ ออกมาด้วยความโกรธ

[คั่นหนังสือ : บทของหยาหยา มันไม่เคยบอกเลยว่า หยาหยาเป็นผู้หญิง แต่คือดูจากชื่อแล้วก็พอรู้ว่าเป็นผู้หญิง แต่ในต้นฉบับแปลอังกฤษเขาไม่เคยที่พิมพ์แทนตัวหยาหยาเป็นผู้หญิงมาก่อนซึ่งพิมพ์แทนว่า ‘มัน’ มาตอนนี้เลยค่อนข้างงง เลยขอเปลี่ยนมาแทนตัวหยาหยาว่านางนะครับ]

เขายกแขนขึ้นราวกับเขายอมแพ้และถังเทียนก็กล่าวยอมรับ “ข้าไม่ดี ข้าได้หลงลืมเจ้าไปอย่างสิ้นเชิง”

หยาหยาในตอนนี้ยิ่งโกรธมากขึ้น ใบหน้าของเขาแดงปลั่ง นางชี้ธนูของนางไปยังถังเทียนกระทำราวกับนางกำลังโจมตีเขา

ถังเทียนมองเห็นและมีได้กล่าวคำใดก็มีแก่นจิตวิญญาณอยู่ภายในมือของเขา

หยาหยาแข็งค้างและดวงตาของนางก็สว่างวาบ ใบหน้าอันแดงปลั่งและความโกรธของนางสลายหายไป ถังเทียนก็สะบัดและแก่นจิตวิญญาณก็ถูกโยนลอยไปอย่างสวยงาม “ไปสนุกตามแต่เจ้าต้องการเลย”

หยาหยากระเด้งขึ้นจากโต๊ะและคว้าแก่นจิตวิญญาณที่ลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นนางก็วิ่งไปรอบๆกระท่อมอย่างมีความสุข

เมื่อเห็นหยาหยา ถังเทียนก็ตบไปยังหลังหัวของเขา เป็นไปได้อย่างไรที่เขาก็ลืมทหาร เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ลุงทหารจะต้องมีหนทางแน่

ลุงทหารเมื่อได้ยินสิ่งที่ถังเทียนกล่าวมาพลางส่ายหัว “เรื่องนี้มันซับซ้อนมากเกินไป ข้ามิสามารถที่จะช่วยเหลือได้ ในอดีตนั้น แผนการของกองทัพทั้งหมดได้รับการจัดการโดยหัวหน้า อาเจ๋อและที่เหลือที่เจ้าเล่ห์ต่างเป็นคนจัดการเรื่องพวกนี้”

ถังเทียนรู้สึกผิดหวังอย่างมาก มีน้ำเสียงที่ไม่ดีขณะที่เขากล่าว “เรื่องนี้ท่านก็ไม่รู้ เรื่องนั้นท่านก็ไม่รู้  ลุง ท่านรู้เรื่องอะไรบ้างกัน?

“ฝึกฝนทหาร” ลุงทหารยักไหล่แบมือของเขาทั้งสองและกล่าวอย่างลอยๆ “ข้าเป็นหัวหน้าครูฝึกสอนของกองทัพ ข้ารู้เพียงจะฝึกทหารเช่นไร”

“ฝึกฝนทหาร?” ถังเทียนตกใจ ดวงตาของเขาแวววาว “ถ้างั้นพวกเราสามารถช่วยเชียนฮุ่นฝึกทหารได้ใช่หรือไม่? ฮ่าฮ่า! ข้าฉลาดอย่างยิ่ง! ใช่แล้ว มันจะต้องเป็นเรื่องดีที่ฝึกฝนซางกวนเวยและซางกวนจู้เพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตระกูลซางกวน ยามเมื่อเชียนฮุ่ยกลับมา นางจะต้องรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง!”

ทหารหัวเราะเยาะ “อย่าได้ฝันกลางวัน ด้วยมาตรฐานของตระกูลซางกวน แม้ว่าพวกเขาจะฝึก พวกเขาก็เป็นได้เพียงแค่ขี้ฝุ่นของปืนใหญ่เท่านั้น”

หลังจากได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนก็เยาะเย้ยเขากลับ “ลุงทหาร ท่านทำไม่ได้หรือ? ข้าถามท่านหลายอย่างและท่านก็มิรู้เรื่องอะไรเลย ในตอนนี้ มันมีสิ่งที่ท่านสามารถกระทำได้ แต่ท่านก็มาทำเป็นจู้จี้จุกจิก ถ้าท่านไม่สามารถทำได้ก็บอกกล่าวออกมาเลย ห๊ะ! นี่น่ะหรือครูฝึกสอนของกองทัพ”

ด้วยประโยคสุดท้าย ผมของทหารก็ลุกชัน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแข็งค้าง “เจ้าเด็กสารเลว ทางที่ดีเจ้าถอนคำพูดสุดท้ายของเจ้ากลับไปซะ!”

ถังเทียนไม่ยอมถอย เขาจ้องมองไปยังทหารกล่าวด้วยน้ำเสียงแดกดัน “นี่ลุง อย่าได้ทำน่ากลัว ท่านมิใช่หัวหน้าครูฝึกสอนของกองทัพหรอกหรือ? อย่าบอกข้านะว่าท่านมอบตำแหน่งนั้นให้ตัวเอง?”

ทั้งสองต่างมองหน้ากันด้วยความโกรธราวกับพวกเขาเป็นไก่ที่กำลังจะตีกัน เช่นเดียวกับที่ไม่เต็มใจถอย

“อย่าได้คิดว่าเจ้าสามารถจะใช้วิธีอันน่ารังเกียจเช่นนี้เพื่อหลอกล่อข้าได้!” ทหารขบฟันของเขาพลางกล่าว

“ห๊ะ! หัวหน้าครูฝึกสอนของกองทัพ!” ถังเทียนเบิกตากว้างและกล่าว

คิ้วหนาของทหารกระตุก เขาตอบอย่างเย็นชา “อย่าได้มายั่วยุข้า!”

ถังเทียนยังคงเปล่งเสียงทีละคำและเยาะเย้ยเขา “โอ้! หัวหน้า.. ครูฝึก.. สอน.. ของ.. กองทัพ..!”

ทหารเดือดพล่าน ในที่สุด เขาก็ท่วมไปด้วยความชอบธรรมของเขาพลางคำราม พุ่งไปยังถังเทียน

ถังเทียนมิได้ถอย แทนที่เขากลับพุ่งไปข้างหน้า

ทั้งสองเริ่มที่จะต่อสู้กัน

ดวงตาของหยาหยาสว่างวาบ นางบ่นพึมพำอยู่ด้านข้างอย่างตื่นเต้น ใบหน้าเล็กๆของนางเต็มไปด้วยความสนุก บางครั้งนางจะกวัดแกว่งธนูของนางและโห่ร้องให้กำลังใจทั้งสองฝ่าย

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

เช้าวันต่อมา

ยามเมื่อถังเทียนออกมาจากห้องของเขาด้วยรอยฟกช้ำบนใบหน้า และถูกพบเห็นโดยซางกวนเวยและซางกวนจู้ พวกเขาทั้งสองต่างตกใจ

“ท่านลูกเขย นี่คือ..” ซางกวนจู้อดมิได้ที่จะกล่าวถาม

ถังเทียนขบฟันของเขาพลางพึมพำ “ข้าบังเอิญบาดเจ็บขณะที่ข้าฝึกฝนเมื่อวาน…”

ซางกวนเวยและซางกวนจู้ต่างอยู่ในอาการตกใจ

ถูกต้องแล้ว เขาเป็นบุรุษของเชียนฮุ่ยอย่างแท้จริง แม้ว่ายามเขาเพียงฝึกฝนเช่นปกติ เขาก็ฝึกอย่างเต็มที่! มิสงสัยเลยท่านลูกเขยถึงทรงพลังเช่นนี้!

เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองมองกลับมาที่เขาด้วยความหลงใหล ถังเทียนก็กระแอมไอเบาๆพลางกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้าขบคิดถึงเรื่องเมื่อวานนี้แล้ว ตระกูลซางกวนมิสามารถที่จะพึงพาเพียงเชียนฮุ่ยผู้เดียว ศิษย์ภายในตระกูลซางกวนจะต้องมีประโยชน์มากขึ้น”

ทั้งสองรู้สึกสำนึกผิดในทันที ท่านลูกเลยกล่าวได้ถูกต้อง!

“ดังนั้น เพื่อเพิ่มพลังของเจ้า ข้าตัดสินใจที่จะสอนเจ้าถึงวิธีการฝึกฝนของข้า” ถังเทียนกล่าวอย่างจริงจัง

ทั้งสองเงยหน้าของพวกเขาอย่างเหลือเชื่อ

ซางกวนเวยอดมิได้ที่จะกล่าว “ท่านลูกเขย นี่...”

ถังเทียนโบกแขนของเขาราวกับเขากระทำสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแก่การนับถือ “เอาล่ะ อย่าได้กล่าวอะไรอีก! ข้ากระทำสิ่งนี้เพื่อเชียนฮุ่ยจะได้ผ่อนคลาย! พวกเจ้าทั้งสองไปเรียกศิษย์คนอื่นมารวมตัวกันที่สนามฝึกซ้อม แต่ข้าขอบอกไว้ทั้งหมดก่อนเลย กระบวนการฝึกนี้ ทุกคนจะต้องเชื่อฟังคำสั่งข้า!”

ซางกวนเวยตื่นเต้นอย่างยิ่ง เพียงชั่วอึดใจ เขาก็สงบลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ “ท่านลูกเขย อย่าได้เป็นกังวล ถ้ามีผู้ใดกล้าที่จะขัดคำสั่งของท่าน ข้าจะไม่ปล่อยเขาไปแน่!”

ซางกวนจู้ก็ขึงขัง “ข้าจะมอบความตายให้เขาถ้าเขามิยอมฟังคำสั่งของท่านลูกเขย!”

เมื่อเห็นเงาร่างทั้งสองจากไป ถังเทียนก็ลูบใบหน้าอันบวมและมีรอยช้ำของเขา เขาดึงมือกลับทันที ซี๊ดดด มันช่างเจ็บปวดอย่างยิ่งจนต้องสูดอากาศอันเย็นเยียบเข้ามา

เจ้าบัดซบผู้นั้น เป็นที่แน่ใจว่าวิธีการของเขาจะต้องโหดหินเป็นแน่!

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด