ตอนที่แล้วตอนที่ 097 – การฟื้นตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 099 – ความกดดัน

ตอนที่ 098 – กำแพงเปลวเพลิงนกยูง


ตอนที่ 098 – กำแพงเปลวเพลิงนกยูง

 

ถังเทียนเหินอย่างสุดกำลังราวกับกระสุน เสียงลมหวีดหวิวดังภายในหูของเขา เปลวเพลิงภายในดวงตาของเขาสั่นไหวบางเบาตามความเร็วของเสียง

กลิ่นอายสังหารของเขาทะลวงผ่านไปยังท้องฟ้า บุรุษหนุ่มภายในท้องฟ้าเหยียดร่างของเขาออก ราวกับเขาลำแสงอันร้อนแรงของดวงตะวันแผดเผาจนเขาเหยียดออก

เอ้อร์จู้ที่อยู่เบื้องล่างผงะถอยอย่างตื่นตระหนก ใบหน้าของเขาซีดขาว ยามเมื่อเขามองขึ้นไปข้างบนและมองไปยังดวงตาของร่างที่อยู่เหนือข้างบน มันเป็นความกลัวที่เขาพบเห็น ความโอหังอันแกร่งกล้าที่เขาเผยออก ในช่วงเวลานั้นก็รู้สึกพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

ถังเทียนผู้ซึ่งอยู่ภายในอากาศ จดจ่อไปยังเอ้อร์จู้ ขณะที่คู่ต่อสู้เบื้องล่างของเขา ด้วยสายตาของเขา มิมีความประหลาดใจ และมิได้เคลื่อนไหว ทำให้ถังเทียนราวกับเป็นนักล่าผู้มากประสบการณ์

มีดบินหกเล่มเริ่มพุ่งไปด้วยรังสีสีทอง ตัดผ่านอากาศจนกระทั่งบรรลุถึงด้านหลังของถังเทียน เมื่อเห็นว่าเอ้อร์จู้กำลังตกอยู่ในอันตราย เสี่ยวลู่ก็เคลื่อนไหวออกปราศจากความยับยั้งชังใจ ปราณแท้จริงถ่ายเทไปยังมีดบิน และรังสีมีดสีทองก็พุ่งออกจากตัวมีด วิถีการบินของมันราวกับราวกับกิ่งก้านต้นไม้ที่ถูกพัดโดยลมจึงเหินไปแบบเส้นโค้ง

เส้นสายสีทองอันกวัดแกว่งทั้งหก ตัดผ่านเส้นทางของพวกมันภายในอากาศ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้วยลักษณะที่แปลกประหลาด ความเร็วของพวกมันราวกับอัสนีบาต

มิมีผู้ใดสังเกตเห็นที่มุมมีสตรีชุดดำที่ง้างธนูจนสุด หน้ากากอันเยือกเย็นเปิดเผยดวงตาของนาง กลิ่นอายสังหารของนางเข้มข้นราวกับหัวเข็ม

ง้างธนูจนสุดสาย ศรทองแดงอันหนักแน่นถูกดึงไปด้านหลัง!

ศรทองแดงอันหนักแน่นนี้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากศรทองแดงที่นางยิงออกไปก่อนหน้า ตัวศรขนาดใหญ่เท่ากับหัวแม่มือ ขนนกของศรถูกแยกออกเป็นสามส่วนจากสองส่วน ปลายศรเย็นเยียบราบเรียบที่เปล่งประกายด้วยแสงที่สามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัว

นางมีไหวพริบและกลับกลอก นางในตอนแรกติดพันอยู่กับจิ่งเหา หลบหลีกอย่างต่อเนื่องโดยที่มิได้กระทำอันใด และแม้แต่จิ่งเหาก็มิได้รู้เลยว่าธนูภายในมือของนางมันมิใช่ของสามัญธรรมดา

สมบัติดาราขั้นทองแดงจากกลุ่มดาราธนู มันมีนามว่า [ธนูมรกต]!

[คั่นหนังสือ : 青(ชิง) = ดำ,เขียว และ น้ำเงิน แต่ดูจากรังสีธนูที่เป็นเขียวมะนาวแล้วผมขอใช้เป็น สีเขียวมรกตแทนนะครับ จึงเป็น ธนูมรกต!]

ธนูนี้มีลูกศรที่แตกต่างกันสามแบบ ศรทองแดงอันหนักแน่นคือหนึ่งในพวกมัน ศรทองแดงธรรมดามิสามารถที่จะปลดปล่อยพลังอันแท้จริงของธนูมรกตได้ และมีเพียงลูกศรพิเศษสามแบบที่สามารถดึงเอาพลังที่แท้จริงของสมบัติดาราให้แสดงออกได้อย่างครบถ้วน

ปราณแท้จริงถ่ายเทไปยังศรทองแดงอันหนักแน่น และเส้นสายของรังสีสีเขียวก็ปรากฏผ่านมาราวกับอัสนีบาตจากหางศรไปถึงปลายศร

ขณะที่ลำแสงสีเสียวเชื่อมโยงไปยังปลายของลูกศร แกร๊ก แกร๊ก! คมศรหยกสีเขียวพลันแยกออกมาจากปลายศร และก็ปลายศรอันแบนเรียบพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีแฉก

นิ้วเรียวขาวดั่งหิมะของนางปลดปล่อยศรออกจากสายธนู

ทำลาย!

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

จิ่งเหาเสียจังหวะเล็กน้อยกับรูปแบบการโจมตีอันดุร้ายของถังเทียน แม้ว่าเขาจะเคยประลองถังเทียนเขาก็รู้สึกประหลาดใจ ภายในการต่อสู้จริง การแสดงของถังเทียนเป็นอีกคราที่ได้ใจของเขา

เจ้าเด็กผู้นี้...

ทันใดนั้น กลิ่นอายสังหารอันรุนแรงก็ผ่านมาและหัวใจของเขาก็หล่นวูบ

สีหน้าของจิ่งเหาแปรเปลี่ยน เขาลืมเลือนเกี่ยวกับสตรีชุดดำตำแหน่งม้าแห่งวิญญาณนิลไปแล้ว

บัดซบ!

จากหางตาของเขา เขาพบเห็นลำแสงศรสีเขียว มันได้หายไปกลางอากาศ เห็นได้ชัดว่าเป้าเป็นคือถังเทียน

จิ่งเหาปราศจากความลังเลและสนใจเรื่องอื่นใด เขาตะโกน “มงกุฎเหนือ!”

มงกุฎบนด้ามกระบี่เรืองแสงขึ้นและในเวลาเดียวกันกระบี่มุงกุฎเหนือของจิ่งเหาก็ทะลวงออกไป!

ลำแสงสีขาววูบวาบออกมาจากกระบี่และมันก็หายไปในทันที

ปัง!

ลำแสงสีขาวของกระบี่และลำแสงสีเขียวของลูกศรปะทะกัน

ราวกับลั่นกลองรบ โลหิตของทุกผู้คนต่างเดือดพล่าน สตรีชุดดำครวญคราง จิ่งเหาใช้ออกกระบี่สุดกำลังของเขา นางเห็นได้ชัดว่ามิได้ผลอันใดจากมัน แต่… ดวงตาของนางก็สว่างวาบ

จิ่งเหาถอนหายใจ ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับถังเทียน เขาคงจะเศร้าใจ และในขณะนั้น ยามเมื่อลำแสงของลูกศรและกระบี่สัมผัสกัน คมดาบสีเขียวเล็กๆทั้งสองก็โผล่ออกมาโดยพลัน พวกมันจะต้องเป็นรูปแบบของปราณแท้จริงเป็นแน่

คมดาบเล็กๆทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็นแสงลูกศรเล็กๆสองเส้นกลางอากาศ ความเร็วของพวกมันเพิ่มขึ้นขณะที่พวกมันปะปนกับมีดบินสีทองทั้งหกอย่างลับๆ!

ถังเทียนผู้ที่ซึ่งอยู่กลางอากาศมิสามารถหลีกเลี่ยงได้!

สีหน้าของจิ่งเหาเปลี่ยนแปลงอีกครา เขามิคาดคิดว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะช่างมากแผนการนัก

ถังเทียนตกอยู่ในอันตรายแล้ว!

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ถังเทียนเพียงพลันรู้สึกถึงอันตราย พุ่งตรงอย่างแน่นหนามาที่ตัวเขา และอันตรายอันรุนแรงนี้ทำให้ขนของเขาลุกชัน เกิดเสียงระเบิดจากเบื้องหลังเขา และเขาก็พ่นลมหายใจ เขาคาดคิดว่าอันตรายได้หายไปแล้ว แต่เขามิคาดคิดว่า มันพลันกลายเป็นกลิ่นอายสังหารที่อ่อนแอและเยือกเย็น

ถังเทียนสั่นสะท้าน

พลังของพี่ใหญ่จิ่งเหา เขารู้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับมัน ถ้าพี่ใหญ่จิ่งเหามิอาจจะปัดป้องมันได้...

เขาอยู่ภายในอากาศ และโดยปกติแล้วมิอาจจะหยิบยืมพลังได้

ตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง….

ความเชื่อมั่นเดิมของความสำเร็จในการโจมตีของเขาถูกทำลายโดยคู่ต่อสู้ อารมณ์ของบุคคลธรรมดาอาจจะหวาดกลัวและท้อใจอย่างยิ่ง แต่สำหรับถังเทียนแล้ว เขามิได้เสียสมาธิแม้แต่นิดเดียว แม้ว่ากลิ่นอายสังหารจะอ่อนลง ถังเทียนก็มิได้ชะล่าใจ สัญชาตญาณของเขาบอกทำให้เขาว่ากลิ่นอายสังหารอันเบาบางมันซ่อนเร้นไว้ด้วยอันตรายร้ายแรง

จะกระทำเช่นไรดี?

ถังเทียนขบคิดอย่างหนัก ภายใต้อันตรายมากมาย จิตวิญญาณนักสู้ขั้นเงินภายในตัวเขาคล้ายจะสัมผัสได้ถึงอันตราย เนื่องจากมันกลับเป็นพลุ่งพล่านอย่างผิดปกติ

ด้วยความประหลาดใจ ความคิดอันเลือนลางก็เชื่อมต่อไปยังจิตวิญญาณนักสู้ขั้นเงินของเขา

หื้ม… นี่มัน?

ถังเทียนเบิกตากว้างขณะที่สีหน้าของเขาเปิดเผยถึงความสุข นี่มัน...

จิตวิญญาณนักสู้ขั้นเงินแผ่ขยายโชติช่วง ความคิดอันเลือนลางเริ่มที่จะแปรเปลี่ยนเป็นชัดเจน

ชุดเกราะนกยูงสีน้ำเงินปรากฏมาจากร่างของเขา ชุดเกราะขนนกสีครามประณีตก่อตัวอย่างฉับพลัน คลื่นแห่งความสดใสเปล่งปลั่ง ก่อให้เกิดเปลวเพลิงสีเขียวภายใต้ชุดเกราะขนนก ปราณอันรุนแรงยิ่งใหญ่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ชุดเกราะขนนกบนด้านหลังของถังเทียนจุดประกายด้วยเปลวเพลิงสีเขียว เขาค่อยๆถูกยกลอยขึ้นจากพื้นและจากนั้น เขาก็ลอยอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆ

ผู้คนทั้งหมดที่เห็นฉากนี้พวกเขาอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง

ถังเทียนเหินบินผ่านไปด้วยความเร็วของอัสนีบาต ชุดเกราะขนนกสีน้ำเงินนี้กะเทาะออกทำให้เป็นภาพมายา มันขัดแย้งกับฉากนี้ที่เกิดขึ้นเบื้่องหน้าพวกเขา

มิรู้ว่าเมื่อใดนกยูงสีน้ำเงินก็ปีนขึ้นไปอยู่ที่หัวไหล่ของถังเทียน มันหันหัวของมัน สายตาอันเย็นเยียบของมันเต็มไปด้วยความยโส บนหน้าผากของมันดูสะดุดตาด้วยขนสีแดง

เปลวเพลิงสีเขียวที่ลอยอยู่รอบๆหางนกยูงแผ่ขยายขึ้นและสีเข้มขึ้น ทันใดนั้น ลำแสงสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาจากชิ้นส่วนชุดเกราะขนนก ตรงไปยังอีกส่วนของขนนก ภายในชั่วพริบตา มันก็มีรัศมีแสงมากมายก่อเกิดเป็นกำแพงของแสงสีน้ำเงิน บนกำแพงของแสงเปลวเพลิงสีเขียวสาดแสงราวกับมันเป็นนกยูงที่กำลังสยายปีก

กำแพงเพลิงนกยูง

มิรู้ว่าด้วยเหตุใด การเคลื่อนไหวนี้พลันปรากฏขึ้นมาภายในใจของถังเทียน

ฉากงดงามนี้ช่างน่าตื่นตาตื่นใจ มันทำให้ทุกคนตกตะลึง

“อาวุโสหนง…” จิ่งเหาพึมพำ เขามองไปยังกำแพงแสงสีน้ำเงินอย่างเลือนลอย และมองไปยังนกยูงที่ยโสบนหัวไหล่ของถังเทียน ทันใดนั้น เขาก็คิดรายละเอียดเกี่ยวกับนกยูงสีน้ำเงิน ตามข้อมูลยามเมื่อที่ผู้อาวุโสหนงได้รับมัน ชุดเกราะนกยูงสีน้ำเงินเป็นเพียงสมบัติขั้นทองแดงธรรมดา แต่ผู้อาวุโสหนงใช้หงาดเหงื่่อและเลือดเนื้ออันมากมายและจัดการเปลี่ยนโฉมให้มันกลายเป็นสมบัติขั้นทองแดงที่แข็งแกร่งที่สุด

จิตวิญญาณนักสู้หล่อหลอมกลายเป็นสมบัติดาราโดยผู้อาวุโสหนงก่อนที่เขาจะตาย มันก็คือนกยูงตัวนี้...

มิรู้สาเหตุใดเมื่อเห็นนกยูงที่ยโสและเย็นชานี้ จิ่งเหาพลันมองอย่างคลุมเคลือว่ามันก้มหน้าและห่อเหี่ยว แต่เจืองจางไปด้วยความภูมิใจและสายตาอันแหลมคมของชายชราผู้นั้น

นามของกรงเล็บเคียวเพลิงปีศาจ มันนามที่น่ากลัวมาจนถึงทุกวันนี้...

ช่วงเวลานั้น นกยูงเป็นที่ภาคภูมิใจเช่นเดียวกับตอนนี้...

จิ่งเหาจิตใจเลือนลอย

ดวงตาของสตรีชุดดำเต็มไปด้วยความตกใจ นางจ้องมองไปยังนกยูงที่ยโสและเย็นชาบนหัวไหล่ของถังเทียน ราวกับนางเห็นปีศาจในฝันร้ายของนาง

นั่นมันคือ… นกยูงสีน้ำเงิน!

นามอันงดงามนั้นเชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับนามอันดุร้ายและป่าเถื่อน กรงเล็บปีศาจ!

มิใช่ว่าบุรุษตายไปนานแล้วหรือ? หรือว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้สืบทอดมรดกของกรงเล็บปีศาจ… เหตุใดข้าถึงมิรู้เรื่องราวเลย…

มือและเท้าของนางเย็นยะเยียบ

ปุ ปุ ปุ!

เสียงของแสงดังให้ยินอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ลำแสงสีทองทั้งหกและศรหยกมรกตอันประณีตเล็กๆทั้งสองเข้าสู่กำแพงเปลวเพลิงนกยูง

กำแผงเปลวเพลิงนกยูงหดเล็กหดกลับและม้วนตัว และเป็นอีกคราที่มุ่งเข้าไปด้านหลังของถังเทียน ถังเทียนครวญคราง และร่างของเขาก็กลายเป็นรวดเร็ว กำแพงเปลวเพลิงนกยูงก่อตัวก่อนที่จะปิดกั้นลำแสงพลังทั้งแปด นกยูงสีน้ำเงินสามารถเพียงปกป้องนายของมันภายใต้สถานการณ์วิกฤติได้เท่านั้น แต่การดูแลของถังเทียนมันยังไม่เพียงพอ พลังของมันยังห่างไกลจากสภาวะที่เฟื่องฟู

มันมีเศษพลังสามสาย ที่เจาะทะลวงภายในร่างของถังเทียน มันแหลมคมและรุนแรง และพลังอีกสองสายมืดมัวอย่างแปลกประหลาดและเย็นเยียบ พลังของมีดบินถูกแปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วโดยกายากระเรียนภายในร่างของถังเทียน ขณะที่พลังที่มืดมัวและเย็นเยียบทั้งสองมิสามารถที่จะแปรเปลี่ยนได้อย่างสิ้นเชิงโดยกายากระเรียน

มันเป็นคราแรกที่กายากระเรียนมิสามารถดูดซับพลังได้ และเส้นชีพจรก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถังเทียนตกตะลึง นกยูงหัวไหล่ของเขาดูท้อใจและอีกครามันก็เข้าสู่ชุดเกราะขนนก ปกป้องการโจมตี มันเห็นได้ชัดเจนว่ามันใช้พลังของมันอย่างมาก

ถังเทียนมิได้หยุดยั้งและแม้แต่หยิบยืมพลัง และความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นมากราวกับเขาถูกยิงออกมาจากปืนใหญ่ เหินไปยังเอ้อร์จู้

“เตาหลอม!”

เสียงคำรามปานสายฟ้าฟาดดังมาจากถังเทียนผู้ที่ซึ่งเกือบตายตก

เปลวเพลิงบนสนับมือเตาหลอมแปรเปลี่ยนเป็นรูปโปร่งใสสีเขียวอย่างรวดเร็ว ปราณอันมืดมัวก็เพิ่มขึ้น

เอ้อร์จู้ได้ตั้งกระบวนท่าป้องกันอย่างจริงจัง ปราณแท้จริงขั้นสี่พุ่งเข้าสู่พลั่วจันทร์เสี้ยวของเขา ขณะที่เลือดสดๆกระอักออกมาจากปากของเขา เขารู้ว่าถ้าเขามิใช้ออกสุดกำลัง เขาจะต้องตายเป็นแน่ ความกลัวบนใบหน้าของเขาทั้งหมดหายไป และแทนที่ด้วยความกระเสือกกระสน

“ฆ่า!” เอ้อร์จู้กราดเกรี้ยวขณะที่เขาฟาดพลั่วจันทร์เสี้ยวของเขาลง ปรากฏลำแสงสีเรืองอันแวววาวขณะที่เขาฟันไปบนท้องฟ้า

ถังเทียนผู้ที่ซึ่งอยู่บนอากาศ ราวกับอินทรีย์ที่จับจ้องเหยื่อของมัน ด้วยเสียงอันน่ากลัว เขาชกหมัดออก

หมัดนั่นปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีเขียวโปร่งใส นำพาระลอกคลื่นมากมาย หมัดกวัดแกว่งผ่านนำให้เกิดเสียงแตกร้าวของอากาศ

ลำแสงสีเขียวและสีเหลืองปะทะกันอย่างดัง!

ทุกสิ่งต่างพังทลายและผุพังลง!

เอ้อร์จู้ผงะถอยหลัง ดวงตา จมูก ปากของเขาโลหิตต่างหลั่งไหลออกมา

การโจมตีสวนกลับของคู่ต่อสู้ขณะที่อยู่หน้าประตูแห่งความตาย! ขณะที่ถังเทียนมิได้มีความสุขกลับมัน ปราณแท้จริงปฐพีธาตุของคู่ต่อสู้มันไม่ใช่คู่มือของกายากระเรียน มันแปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว การต่อสู้จนถึงจุดนี้ ความบ้าบิ่นของถังเทียนน่าประทับใจ เขากระตุ้นปราณแท้จริงของเขาอย่างหนักหน่วง ราวกับหนอนไช่เข้าไปในร่างของเอ้อร์จู้

ฝ่ามือมีดดวงเดือนเจ้าเล่ห์และรุนแรง

เอ้อร์จู้พยายามที่จะขัดขวางรอยประทับทั้งสองนี้ แต่ใต้สีข้างของเขารอยประทับที่กระแทกถูกแล้ว และเขาก็เจ็บปวดทรมานในทันที

ปรากฏกลิ่นอายสังหารภายในดวงตาของถังเทียน ราวกับปีศาจที่เยื้องย่างเข้าใกล้เอ้อร์จู้

ขาทั้งสองของเขาเตะออกอย่างรุนแรงราวกับพายุฝนอันโหมกระหน่ำ และเอ้อร์จู้ผู้ที่เจ็บปวดจากอาการบาดเจ็บสาหัสก็ถูกกำราบโดยสิ้นเชิง เงยตัวขึ้นพยายามที่จะประคองตัวเองขึ้นมา ลำแสงสีแดงเล็กๆเท่าเม็ดฝนพลันสว่างวาบขึ้นระหว่างขาของเขา

เอ้อร์จู้ผงะถอยหลังด้วยความประหลาดใจ ปราศจากสนใจสิ่งใด เขาก็ยื่นฝ่ามือของเขาออกปัดป้องไปข้างหน้า

ฝ่ามือของเขาถูกทะลวงผ่านอย่างรวดเร็วในทันทีโดยแสงสีแดง

ร่างของเอ้อร์จู้แข็งค้าง บนใบหน้าของเขาปรากฏดวงตาที่จ้องเขม็ง ลำคอของเขามีลำแสงสีแดงไหลผ่านออกมาจากปากของเขา

ดัชนีเผด็จการกราดเกรี้ยว!

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด