ตอนที่แล้วตอนที่ 081 – พยัคฆ์เขี้ยวดาบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 083 – สัญญาจิตวิญญาณนักสู้

ตอนที่ 082 – เป้าหมายใหม่!


ตอนที่ 082 – เป้าหมายใหม่!

 

ยามเมื่อทหารไปหาถังเทียน และหลังจากที่เขาเห็นการเคลื่อนไหวที่คมชัดและกระฉับกระเฉงของถังเทียน เขาก็ตกใจเล็กน้อย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกล่าวได้ว่านีมันเป็นคราแรกที่เด็กหนุ่มผู้นี้ได้เล่นกับสิ่งนี้

สำรวมความสงบเรียบร้อยเขาก็กระแอมไอออกมา “เอาล่ะ เด็กหนุ่ม หยุดเถอะ!”

ถังเทียนก็หยุดเคลื่อนไหว

“โว้ โว้ โว้! ลุงทหาร ท่านมีสิ่งของดีเช่นนี้และท่านยังจะซ่อนพวกมันไว้ในที่นี่ การกระทำของท่านมันไม่ดีนัก! แต่ก็ยอดเยี่ยม! ข้ากล้าที่จะยืนยันได้เลยว่า ข้าสามารถที่จะกำจัดผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าได้อย่างดี!” น้ำเสียงของถังเทียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดังออกมาจากพยัคฆ์เขี้ยวดาบ

“เจ้านะหรือที่เทียบได้เท่ากับผู้เชี่ยวชาญขั้นห้า?” ทหารเยาะเย้ย

ถังเทียนรู้สึกไม่เต็มใจที่จะเปิดพยัคห์เขี้ยวดาบ เขาก็เดินออกมาจากมันและมองไปยังทหารด้วยความต้องการบางอย่าง “ลุงทหาร ท่านโปรดมอบพยัคฆ์เขี้ยวดาบให้ข้าเถอะ?”

“ไม่มีปัญหา” ทหารโบกมือของเขาไปด้านหน้า “ทั่วสถานที่แห่งนี้เป็นของเจ้า”

“ทั่วสถานที่แห่งนี้เป็นของข้า…” มันราวกับตัวเขาโดนอัสนีบาตผ่าลง ถังเทียนมองไปรอบๆอย่างว่างเปล่า เขาราวกับเป็นกระต่ายที่พลันตระหนักรู้ว่าทั่วทั้งโลกนี้มันมีแต่กระต่าย

“เอาล่ะ อย่าได้ไร้เดียงสาไปนัก เพียงแค่สิ่งของโบราณไม่กี่อย่างมันก็ทำให้เจ้าสูญเสียความสงบนิ่งแล้วงั้นหรือ” ทหารหน้าบึ้ง คิ้วของเขาที่ดูราวกับมันวาดลงไปยามเมื่อมันขยับมันก็น่าขันอย่างยิ่ง

“สิ่งของโบราณ? ไร้สาระน่า! พยัคฆ์เขี้ยวดาบมันแข็งแกร่งมากกว่าเหล่าสมบัติขั้นทองแดงซะอีก!” ถังเทียนเห็นได้ชัดว่าไม่ชอบในมุมมองของทหาร และโต้เถียงอย่างดัง

“งั้นพวกเราพ่ายแพ้ในช่วงปีนั้นได้เยี่ยงไร?” ทหารแบมือของเขา “ตัวข้าเองก็มีประสบการณ์และผ่านสงครามมา ข้ารู้อย่างชัดเจนมากกว่าเจ้า”

ถังเทียนแปรเปลี่ยนเป็นแห้งเหี่ยวแต่เขายังคงยืนกราน “มันเป็นเครื่องกลไกที่แข็งแกร่ง มันสามารถเอาชนะเหล่าสมบัติขั้นทองแดงได้อย่างแน่นอน!”

ทหารถอนหายใจ “มันล้าสมัยแล้ว เชื่อข้าเถอะ เจ้าอาจจะรู้สึกว่ามันทรงพลังในตอนนี้ เนื่องจากความรู้ของเจ้ามันยังคงน้อยอยู่ ยกตัวอย่างเช่นพยัคฆ์เขี้ยวดาบนี้ เจ้าอาจจะรู้สึกว่ามันแข็งแกร่ง แต่ให้ข้าบอกเจ้า ยามเมื่อเจ้าเข้าไปสู่การต่อสู้ที่แท้จริง หินดาราขั้นหนึ่งห้าก้อน มันเพียงสามารถที่จะต่อสู้ได้เพียงครึ่งชั่วโมง”

“ครึ่งชั่วโมง?” ถังเทียนงุนงง

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งใดกันที่เจ้าสามารถทำได้ในครึ่งชั่วโมงในระหว่างสงคราม? หนึ่งการโจมตี!” ทหารยกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว “หลังจากนั้นเจ้าจะต้องปีนออกมาจากกระป๋องทองแดงอันนี้ เจ้าไม่แม้แต่ที่มีหนทางที่จะแปรเปลี่ยนหินดาราเพิ่มขึ้น เนื่งอจากมันต้องใช้เวลาสิบสองชั่วโมงที่จะทำให้มันเย็นลง ก่อนที่มันจะสามารถกลับเข้าไปภายในการต่อสู้ได้อีกครา มันไม่สามารถเทียบได้กับชุดเกราะนกยูงสีน้ำเงินบนร่างของเจ้า ซึ่งเจ้ายังไม่ได้ใช้ศักยภาพที่แท้จริงของมัน แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่สิ่งนี้”

“งั้นมันคือสิ่งใด?” ถังเทียนถาม

“มันคือ ‘การพึ่งพา’ หลายคนต่างพึ่งพาพวกมันมากเกินไป แต่ไม่เต็มใจที่จะทำให้ตัวพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น” ทหารมีท่าทางที่เคร่งขรึมที่ยากจะพบเห็น “ถังเทียน เจ้าจะต้องจดจำไว้ว่า ไม่ว่าความแข็งแกร่งของสมบัติหรือศาสตราวุธมีเท่าใด พวกมันก็ไม่มีประโยชน์ไปมากกว่าพลังของเจ้าเอง หมัดของเจ้า ปราณแท้จริงของเจ้า วิชาการต่อสู้ของเจ้าและร่างกายของเจ้า พวกมันต่างเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดอย่างแท้จริงที่เจ้ามี แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้มีสมบัติหรือศาสตราวุธ เจ้ายังสามารถที่จะต่อสู้ด้วยความเด็ดเดี่ยวได้! อย่าได้พึ่งพากับอำนาจภายนอกไม่ว่าพวกมันจะทรงพลังเพียงใดก็ตาม! มิว่ายามใดหรือสิ่งใด เพิ่มพลังของตัวเจ้าเองคือสิ่งพื้นฐาฯที่สุดที่เจ้าควรจะต้องรู้ไว้”

ถังเทียนจ้องมองไปยังทหารด้วยใบหน้าที่แปลกประหลาด “มิใช่ว่ามันควรจะเป็นเช่นนั้นตั้งแต่แรกเริ่มงั้นหรือ?”

ทหารเหนื่อยใจราวกับเขามิเห็นมัน เขาพึมพำ “แน่นอนว่า เพื่อปลดปล่อยพลังของศาสตราวุธอย่างเพียงพอนั่นคือนักสู้ที่มีคุณภาพสมบัติและนั่นก็จะต้องการพื้นฐานการครอบครองของศาสตราวุธ สิ่งที่ข้าได้กล่าวนั่นคือพยัคฆ์เขี้ยวดาบไม่เทียบได้กับชุดเกราะนกยูงสีน้ำเงินของเจ้า มันไม่ได้เป็นขยะ เนื่องจากชุดเกราะนกยูงสีน้ำเงินคือจิตวิญญาณนักสู้ ขณะที่พยัคฆ์เขี้ยวดาบไม่ใช่ ศาสตราวุธที่ฉลาดเมื่อเทียบกับศาสตราวุธที่แข็งแกร่งแล้วมันมีความโดดเด่นกว่ามาก แต่เหล่าสมบัติโดยส่วนตัวข้าก็มีความเข้าใจมันเพียงน้อยนิด เพื่อให้บุคคลโบราณเช่นข้าทดลองและเข้าใจเหล่าผู้คนมันจะต้องใช้เวลา แต่ข้าสามารถบอกเจ้าได้ว่าอย่าได้เดินตามเส้นทางเก่าที่พวกเราได้เดินมา มันได้พิสูจน์แล้วว่ามันไม่ถูกต้อง ข้าหวาดกลัวว่ามันอาจจะยังคงดูแข็งแกร่งจนกระทั่งวันนี้”

“นี่ลุง” ถังเทียนขัดคำอธิบายอันมากมายของทหาร

“หื้ม?”

“ท่านบอกกล่าวว่าทั้งหมดนี้เป็นของข้างั้นหรือ?” ถังเทียนยื่นนิ้วของเขาออกแสดงท่าทาง

“ถูกต้อง มีอันใดงั้นหรือ?” ทหารไม่รู้จะตอบเช่นไร

ถังเทียนเต็มไปด้วยความดีใจและพุ่งไปยังศาสตราวุธเครื่องกลไกในทันที แตะตรงนู้นแตะตรงนั้นทีอยู่ชั่วครู่ แม้กระทั่งหยาหยาก็มิเข้าใจในความตื่นเต้นของเขา มันก็ติดตามเข้าขึ้นๆลงๆ

“โว้ โว้ โว้ พวกมันทั้งหมดนี้เป็นของข้า! ฮ่าฮ่า! ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”

“ขุนพลทองแดง! ลุย!”

“บุรุษหนุ่มเทพ ศาสตราวุธเครื่องกลไกเทพ!”

ความตื่นเต้นของถังเทียนโห่ร้องดังไประหว่างศาสตราวุธเครื่องกลไก

“เอาล่ะ ไปรับเอาฐานทัพมาเถอะ” ทหารกล่าวอย่างช่วยไม่ได้

“เยี่ยม เยี่ยม!” ดวงตาของถังเทียนสว่างวาบในทันทีและเขาก็วิ่งเพื่อไปรับฐานทัพของกองทัพกางเขนใต้ มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากที่เขาแทบจะเก็บมันไปฝัน!

ด้วยสีหน้าที่ช่วยไม่ได้ของทหาร ก็นำถังเทียนไปยังตำแหน่งตราลักษณ์ “เอาล่ะ กดฝ่ามือของเจ้าไปยังสิ่งนี้

ถังเทียนก็ ‘โอ้’ ตอบรับ และกดมันยังตำแหน่งดังกล่าวด้วยฝ่ามือของเขา

รอยประทับ 十 บนฝ่ามือของเขาก็สว่างวาบ และลำแสงสว่างจากฝ่ามือของถังเทียนก็เข้าไปสู่ตราลักษณ์

ตูม!

พื้นดินสั่นสะเทือนและวงแหวนแสงก็สว่างวาบรอบถังเทียน ปกคลุมตัวเขาเอาไว้

ตามที่คาดไว้...

ทหารมิได้เคลื่อนไหวหรือทำเสียงอันใด แต่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้ ครอบครัวของถังเทียนพวกเขาแท้จริงเป็นผู้ใดกันแน่? ความสัมพันธ์เช่นใดกันที่เขามีต่อกองทัพกางเขนใต้นี้?

หลังจากที่แสงสว่างหายไป ถังเทียนก็ยังคงรู้สึกสับสนเล็กน้อย “แค่นี้?”

“แล้วเจ้าต้องการอันใดอีก?” ทหารกรอกตาของเขา “เอาล่ะ ไปกันเถอะ พวกเราจะต้องกลับไป ข้าได้พบแก่นจิตวิญญาณและเหล็กจิตวิญญาณหยกแล้ว พวกเราช่างโชคดีที่คลังศาสตราวุธมันยังคงมีเก็บไว้อยู่”

“พวกเราจะจากไปจากที่นี่เช่นนี้หรือ?” ถังเทียนเบิกตากว้าง เขามิยินยอมที่จะจากไปในตอนนี้ “งั้นข้าจะเอาพยัคห์เขี้ยวดาบไปด้วย”

“คลังศาสตราวุธคนโทของเจ้าใส่มันได้งั้นหรือ?” ทหารมองไปยังถังเทียน

“มันไม่สามารถใส่ได้…” ถังเทียนกลับกลายเป็นยิ่งไม่ยินยอม “ข้าจะสวมใส่มันออกไป!”

“หลังจากนั้นก็จะถูกปล้นชิงโดยผู้คนอื่นงั้นหรือ?” ทหารหัวร่อเย็นชา “นี่มันไม่ใช่เพียงกลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ ถ้าเจ้ากล้าที่จะนำมันออกไปข้างนอก มันแน่นอนว่าจะต้องมีผู้คนที่มาสังหารและปล้นชิงเจ้าเพื่อศาสตราวุธเครื่องกลไก อย่าได้หวังพึ่งพาข้า ข้าก็เป็นเพียงครูฝึกสอน ความสามารถการต่อสู้ของข้าก็สามัญธรรมดาอย่างยิ่ง”

ความเสียใจปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของถังเทียน แต่เขารู้ว่าทหารกล่าวถูกต้อง กลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์นำพากลุ่มผู้คนมาหาเขา ถ้ามันเป็นพยัคฆ์เขี้ยวดาบนี้ งั้นเขาคำนวณเอาไว้ว่าเขาคงไม่สามารถเดินออกไปได้เป็นแน่

ถังเทียนรู้สึกอารมณ์เสียอย่างยิ่ง มันราวกับว่า ‘โว้ สวรรค์ทิ้งขนมเปี๊ยะชิ้นใหญ่มาให้ โว้ มันช่างหอมกรุ่นยิ่งนัก โว้ ช่างยอดเยี่ยม โว้ ข้าไม่สามารถกินมันได้…’

ทหารได้เสกหีบขึ้นมาจากที่ใดก็มิรู้ราวกับพ่อมด และผลักไปยังถังเทียน

“มันคือสิ่งใดกัน?” ถังเทียนกล่าวถามอย่างเกรี้ยวกราด

“โอ้ เมื่อครู่ข้าได้จัดการกับดักทั้งหมดแล้ว ข้าก็สะดุดกับศพสองสามร่างแถวนั้น ผ่านมาหลายปี จำนวนผู้คนที่เข้ามาก็ค่อนข้างน้อย” ทหารหยอกล้อเล่น “เหล่าสหายสองสามคนนี้ที่ติดตามพวกเรามาภายในนี้ก็ตายตกเช่นกัน น่าเศร้านัก ร่างของพวกเขาไม่มีสิ่งใดมาก ถ้ามันมีสิ่งใดมากมาย เจ้าจะต้องตรวจดูพวกมันด้วยตัวเอง ใส่สิ่งนี้เข้าไปภายในคลังศาสตราวุธของเจ้าซะ”

ถือว่ามันเป็นโชคในคราเคราะห์ละกัน ถังเทียนปลอบใจตัวเอง แต่เขาก็มิได้เปิดและตรวจดู

จิตใจของเขายังคงติดอยู่กับพยัคฆ์เขี้ยวดาบ เขาหลงใหลอย่างจริงจังกับศาสตราวุธเครื่องกลไก

“ไปกันเถอะ” ทหารนำทางและลอยไปยังทางเข้า

ถังเทียนติดตามอยู่เบื้องหลัง

“นี่ ลุง ในที่สุดท่านก็ทนไม่ได้งั้นหรือจึงวาดใบหน้าให้ตัวเอง...”

“…..”

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

เมื่อพวกเขาทั้งสองรีบเร่งกลับมายังร้านค้ายันต์ไซ่เหล่น ร้านที่ถูกทำลายยุ่งเหยิงก็ปรับโฉมใหม่

แพนด้าดอกไม้ขาวดำทั้งสาม ราวกับเป็นทารก ทำงานอย่างขยัน พวกเขาสวมใส่ชุดทำงาน หมวกป้องกัน ‘ปึง ปึง ปัง ปัง’ ทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนและไม่แม้แต่จะเงยหน้าของพวกเขาขึ้นมามองถังเทียน

เมื่อเห็นฉากนี้ มิว่าเขาจะมองเช่นไร ถังเทียนก็รู้สึกได้ว่ามันต้องมีเหตุการณ์แปลกๆที่เขาไม่สามารถอธิบายได้ เขาอดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม “ไซ่เหล่ย ท่านทำอันใดกับพวกเขากัน?”

ยามเมื่อพวกเขาได้ยินคำถามนี้ แพนด้าทั้งสามผู้ที่ซึ่งทำงานอย่างไม่คิดชีวิตก็สั่นสะท้าน

ไซ่เหล่ยก็มิได้เงยขึ้นมามองถังเทียนเช่นเดียวกันพลางกล่าวถาม “เจ้าได้นำแก่นจิตวิญญาณและเหล็กจิตวิญญาณหยกมาหรือไม่?”

“พวกเรานำมันมาทั้งหมด” ทหารกล่าว ยื่นแก่นจิตวิญญาณและเหล็กจิตวิญญาณหยกไปให้ไซ่เหล่ย

ไซ่เหล่ยรับมันมาและหลังจากตรวจสอบชั่วครู่ นางก็กล่าวอย่างพึงพอใจ “ไม่เลว! นี่หมายความว่ามีทุกสิ่งอย่างแล้ว อืม ข้าเสร็จสิ้นขั้นแรกแล้ว เอาล่ะ เจ้าทั้งสองไปได้แล้ว อย่าได้รบกวนข้าขณะที่ข้าทำงาน เจ้าสามารถมาใหม่ภายในห้าวันและรับสิ่งของไป”

ยามเมื่อนางกล่าวเสร็จสิ้น นางก็ก้มหัวของนางและจดจ่ออยู่กับงานของนาง

ถังเทียนประหลาดใจ เขามิคาดคิดว่าสตรีผู้นั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นอีกบุคคลหนึ่งทั้งหมดยามเมื่อนางเริ่มต้นทำงาน

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

กลับไปยังค่ายทหารเกณฑ์ ถังเทียนก็เริ่มฝึกฝนอย่างดุเดือดในทันที

มันต้องใช้เพียงห้าวันสำหรับถังเทียนที่จะเริ่มวัฐจักรแห่งความเพียรต่อไป ทหารตระหนักได้ว่าถังเทียนใส่ใจเป็นอย่างยิ่งมากว่าก่อนหน้านี้ วิธีการที่เขาฝึกฝนราวกับเขามิได้สนใจในชีวิตของเขาเลย เขาเริ่มต้นฝึกฝนวิชาท่าเท้าและขณะที่เขาไม่มีพื้นฐานวิชาที่เขาได้ฝึกฝนมา ดังนั้นเขาจึงเริ่้มจากพื้นฐานสำคัญของพื้นฐานวิชาท่าเท้า เขามิได้รู้ว่ามันมีทางลัด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจที่จะฝึกพื้นฐานวิชาการต่อสู้ที่เขาไม่ได้เคยฝึกฝนมันมาก่อน

ภายในใจของถังเทียนมีความกระตือรือร้น นอกเหนือจากตามหาเชียนฮุ่ย และตามหาสารเลวผู้นั้น ในตอนนี้ถังเทียนก็มีเป้าหมายใหม่ภายในหัวใจของเขา

เพื่อที่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!

มีเพียงกลับกลายเป็นแข็งแกร่งขึ้น เขาจึงสามารถที่จะมีเหตุผลพอที่จะอาละวาดกับสารเลวตัวนั้น

ถังเทียนไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม แต่เขารู้สึกได้ว่า ‘มันเป็นภาระก้อนหินอันใหญ่’ ทำให้เขาพลุ่งพล่านไปด้วยความกราดเกรี้ยว เพิ่มความกระหายของเขา และเพิ่มการเคลื่อนไหวของเขา

สิ่งที่ทหารได้กล่าวไว้ เขาเพียงแค่ฟังไว้ แต่เขามิได้เห็นด้วยกับทหารทั้งหมด เนื่องจากเขามีวิธีการและหนทางของเขาเอง

แต่ก่อนหน้านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการฝึกฝนตัวเองให้กลับกลายเป็นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

สิบวันของการฝึกแห่งความเพียรผ่านไปภายในชั่วพริบตา แรงกระตุ้นของถังเทียนสำหรับเป้าหมายใหม่ มันเป็นดังพลังงานที่มากขึ้น ทุกคราที่เขาเหนื่อยล้า เขาจะขบคิดถึงสหายและร่างของเขาก็รู้สึกราวกับมีเปลวเพลิงลุกโชติภายใน

บางครา เขารู้สึกว่าเขาเกิดมาเพื่อเข้ากันกับเหล่าศาสตราวุธเครื่องกลไก!

แต่ทหารก็ยังคงกล่าวถูกต้อง ในปัจจุบันตัวเขายังคงอ่อนแอ! เขาไม่เพียงแต่ที่จะสามารถเปิดเผยศักยภาพที่แท้จริงของพยัคฆ์เขี้ยวดาบได้ เขาก็ไม่สามารถปกป้องมันได้เช่นเดียวกัน หากไม่สามารถที่จะปกป้องศาสตราวุธของตัวเองได้ ถังเทียนก็มิอาจที่จะทนทานได้

แม้ว่าทหารจะประหลาดใจกับความดื้อรั้นของถังเทียน เขาก็ไม่ได้พูดอันใดมาก เขาคาดเดาความคิดของถังเทียนได้อย่างง่ายดาย ในความจริงความดื้อรั้นของถังเทียน มิว่าเขาจะทำสิ่งใด มันจะเปิดเผยบนใบหน้าของเขา มิว่าสิ่งใดที่เขาคิดเกี่ยวกับตัวถังเทียนมันห่างไกลจากความจริงอย่างมาก

แต่ทหารก็เห็นโอกาสภายในความดื้อรั้นของถังเทียนเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้กล่าวคำใด แม้ว่ามันจะอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ และเด็กหนุ่มผู้ที่ซึ่งสามารถฝึกฝนพื้นฐานวิชาการต่อสู้มาห้าปีด้วยตัวเองนั้น ยามเมื่อเขาได้กำหนดเป้าหมายของเขาแล้ว แม้แต่กระทั่งวัวห้าตัวมาฉุดลากเขาออกห่างจากเป้าหมายของเขาก็ทำไม่ได้

ทหารมิได้มีความกังวลเลย สัญชาตญาณการต่อสู้ของถังเทียนทรงพลังอย่างยิ่ง ยามเมื่อเขาติดอยู่ในระหว่างการต่อสู้ เขาคงจะเข้าใจสาเหตุได้อย่างรวดเร็ว

ความจริงมันจะพิสูจน์ทุกสิ่งอย่าง

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด