ตอนที่แล้วAST บทที่ 75 - ปลาสีดำที่มาพร้อมกับความยุ่งยาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 77 - ผู้บรรลุปราณเทวะเซียนเทียน

AST บทที่ 76 - การพบกันอีกครั้ง และ ผลประโยชน์จากอวี้เหอ


บทที่ 76 - การพบกันอีกครั้ง และ ผลประโยชน์จากอวี้เหอ

หลังจากที่บ่มเพาะภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะเสร็จสิ้น ชิงสุ่ยก็พบว่ามันเป็นเวลาเข้าใกล้ช่วงกลางดึก เขาจึงล้มตัวลงนอนบนเตียง

หลังจากที่เขาตื่นขึ้น เขาเดินตรงไปที่สนามกว้าง

เพียงเวลาไม่นาน ชิงสือที่อยู่ที่นั่นก็ตะโกนทักทายชิงสุ่ยจากระยะไกล และชิงสุ่ยทดสอบอย่างมีความสุขเหมือนกันว่า "สวัสดีตอนเช้าเช่นกัน" หลังจากนั้นเขาก็เผลอใช้เคล็ควิชาเบิกเนตรสวรรค์ต้องมองไปทางชิงสือก็ทำให้เขามองเห็นถึงอวัยวะภายในรวมถึงเส้นลมปราณต่างๆ

ในขณะที่มองดูตัวเองนั้นเขาก็พบว่าเส้นปรานต่างๆนั้นจะขยายใหญ่ขึ้นเมื่อเขาเปิดใช้งาน เคล็ดโบราณการ:เปลวเพลิงหยินหยาง!!!!

วันนี้ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจอย่างมากในความสามารถด้านการแพทย์ของเขา เขาสามารถให้การวินิจฉัยโรคต่างๆได้อย่างง่ายดาย และสามารถได้ยินถึงเสียงเต้นของชีพจรและสามารถรักษาได้หายขาดหากสามารถกำหนดปริมาณยาที่ต้องได้รับอย่างถูกต้อง

แต่อย่างไรก็ตามยังมีคนอีกมากมายที่ได้รับบาดเจ็บจากภายใน และเก็บรักษามันไว้จนเป็นเรื้อรังเช่กเช่น โรคมะเร็ง นรกเย็นๆเหล่านี้จะค่อนข้างยากในการวินิจฉัย

"วิชาเบิกเนตรสวรรค์นั้นช่างมีประสิทธิภาพมากแสงยิ่งกว่าเครื่องสแกนร่างกายในโลกก่อนของข้า!!!!" ชิงสุ่ยยืนนิ่งขณะที่กำลังตื่นตาตื่นใจกับผลลัพธ์พลังของมัน

ก่อนหน้านี้ที่เขามองไปยังชิงสือ เขาได้พบว่าเส้นพลังปราณของชิงสือหากเทียบกับตัวของเขาเองเพราะว่าเส้นลมปราณของชิงสือนั้นถูกผนึกทำให้การโคจรพลังปราณนั้นอ่อนแอหรือหยุดลงบางครั้งเนื่องจากการอุดตัน ส่วนอวัยวะภายในรวมทั้งโครงสร้างของกระดูกของชิงสือค่อนข้างดีกว่ามนุษย์ธรรมดาเล็กน้อย เมื่อพิจารณาเพิ่มเติมแล้วชิงสุ่ยคาดว่าปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของชิงสืออ่อนแอลงนั้นมาจากช่องเส้นลมปราณที่แคบ

"ชิงสุ่ย เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ทำไมเจ้ายืนแข็งทื่อเป็นหินเลยล่ะ!!!" ชิงสือค่อยๆจับลงที่ตัวของชิงสุ่ยอย่างนุ่มนวล

"อืม ไม่มีอะไรหรอกข้าแค่คิดอะไรบางอย่าง!!"ชิงสุ่ยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

"ฮ่า ฮ่า ก็คงคิดเรื่องเกี่ยวกับสตรีสินะ"

ยามเมื่อชายหนุ่มสองคนอยู่ด้วยกันประจวบกับไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาจะต้องทำ พวกเขาเริ่มพูดล้อเลียนเรื่องต่างๆทุกอย่างที่อยู่บนโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับสตรีที่สวยที่สุดในตระกูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนท่าทางทุกกิริยา แม้กระทั่งข้อดีข้อเสีย และประเภทผู้หญิงที่พวกเขาชอบและเริ่มจินตนาการเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ

หลังจากสิ้นสุดการสนทนากัน พวกเขาทั้งสองก็เริ่มบ่มเพาะพลังอย่างที่เคยทำทุกเช้า โดยที่ชิงสุ่ยยังคงให้คำแนะนำจับชิงสือ เพราะโดยธรรมชาติชิงสุ่ยไม่ต้องใส่ใจในการฝึกฝนของตัวเองมากนักเพราะเขามีสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่าดินแดนห่วงมิติ แล้วทำไมเขาจะต้องสูญเสียเวลาในโลกภายนอกเพียงเพื่อการบ่มเพาะอีก???

ไม่นานนัก ชิงอี้ และ หยานหยิง ได้ตะโกนเรียกพวกเขา เพราะถึงเวลารับประทานอาหารเช้าแล้ว กินที่ล่องลอยออกมาจากภายในตัวบ้านนั้น ชิงสุ่ยสามารถบอกได้ทันทีว่าพวกเขาเตรียมปลาสีดำไว้สำหรับมื้อเช้า

"ฮ่าๆๆ ดูเหมือนพวกเราจะได้กินอาหารอร่อยอร่อยกับมื้อเช้าอีกแล้ว" ชิงสือมีความสุขหลังจากการฝึกซ้อมของพวกเขาทั้งสองจบลง

เมื่อชิงสุ่ยตอบกลับ เขาได้สังเกตเห็นคนบางคนอยู่ภายในร้านโอสถตระกูลชิง และคนๆนั้นมีคลื่นพลังแห่งความงามที่โดดเด่นมาก

อวี้เหอ!!!!!

เมื่ออวี้เหอมองเห็นชิงสุ่ย ดวงตาของเธอก็กระพริบขึ้นลงอย่างรวดเร็ว และแลบลิ้นของเธอไปที่ชิงสุ่ย การกระทำที่น่ารักของเธอนั้นทำให้ชิงสุ่ยถึงกับยืนตะลึงราวกับคนโง่

"เอ่อ เอ่อ……..ท่านมาทำอะไรที่นี่?" คำถามเกิดขึ้นผ่านสายตาของเขา ในขณะที่ชิงสุ่ยถามออกไปเพราะตามข้อกำหนดของเขานั้นคือทุก 10 วัน แต่ตอนนี้มันพึ่งผ่านไปเพียงแค่ 4 ถึง 5 วันเท่านั้น

"โอ้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่อยากต้อนรับข้า" อวี้เหอโผ่ลออกมาหาชิงสุ่ย

"ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ มันจะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร ความสวยงามในตัวของท่านนั้นอยู่ในใจข้าเสมอ ตัวข้านั้นพร้อมจะต้อนรับท่านตลอดเวลา! แต่เฉพาะคราวนี้ท่านจู่ๆอยู่ก็โผล่มามันทำให้ข้าถึงกับตกใจ"ชิงสุ่ยตอบกลับอย่างรวดเร็ว

เมื่อเสียงสนทนาของพวกเขาดังขึ้น ชิงอี้ที่ได้ยิน ก็เชิญอวี้เหอเข้าไปภายในห้องด้วย จากการสังเกตของชิงสุ่ย เขาก็รู้ว่าแม่ของเขาและอวี้เหอนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

เมื่อชิงสุ่ยเข้าไปในห้อง สิ่งแรกที่เขาเห็นนั่นก็คือ จำนวนเงิน 7-8 กองตั้งอยู่บนโต๊ะ เขาถึงกลับขมวดคิ้วเคยเห็นรอยย่นที่หน้าผาก "นี่ไม่ใช่เงินของข้า" เขานั้นไม่ได้สังเกตเห็นถึงความขมขื่นที่ซ่อนอยู่ภายในอวี้เหอ หลังจากที่สงบสติอารมณ์ เขาก็ได้แค่ยิ้มไปทางอวี้เหอ เนื่องจากเขาเสนอขีดจำกัดในการให้ปลากลับเธอได้เพียงแค่ 10 ตัวต่อวัน

ชิงสุ่ยเป็นคนเดียวที่รู้สึกอึดอัดใจในตอนนี้ในขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอาหารด้วยเสียงหัวเราะ และอวี้เหอเองก็กำลังชมทักษะการทำอาหารของชิงอี้อีกด้วย

โดยปกติแล้วชิงสุ่ยจะมีความสุขอย่างยิ่งที่มีสุภาพสตรีโฉมงามรับประทานอาหารเช้ากับเขาและอวี้เหอก็เป็นหนึ่งในนั้น อย่างไรก็ตามจากการสังเกตของเขา เขาบอกได้ทันทีถึงความรู้สึกผิดปกติจากการมาเยือนอย่างฉับพลันของอวี้เหอ

"พี่สาวชิงอี้ ปลาที่ท่านทำนี่มันช่างอร่อยยิ่งนัก"

"อรึ้กกกกก" ชิงสุ่ย ถึงกับสำลักอาหารของเขาออกมา

ชิงอี้ มองไปที่ชิงสุ่ยที่กำลังทำท่าทางแปลกๆ ทำไมชิงสุ่ยถึงมีปฎิกิริยาแปลกๆแบบนี้ แล้วมันยิ่งทำให้เขารู้สึกแปลกมากขึ้นเพราะว่าเหตุใดอวี้เหอถึงเรียกแม่ของเธอเขาว่าพี่สาว? ไม่ใช่ว่าความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองนั้นไม่ดีแต่มันคงไม่อาจพัฒนาก้าวไปถึงจุดนั้นได้

ในขณะที่อวี้เหอจ้องมองชิงสุ่ยกินอาหารอย่างมีความสุข เธอได้เผยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ออกมาอย่างไรก็ตาม เมื่อเธอสบตากับชิงอี้ มันจะเผยให้เห็นถึงร่องรอยความสุข ความหลงใหลและความซับซ้อนภายในสายตาของอวี้เหอ

เมื่อความสุขระหว่างมื้ออาหารจบสิ้นลง อวี้เหอกำลังจะจากไป จู่ๆเธอก็หยุดชั่วคราวและหันไปหาชิงสุ่ยก่อนทีจะกล่าวว่า "ชิงสุ่ย เกี่ยวกับสิ่งที่เจ้าส่งให้ข้า ป้าอวี้มีบางสิ่งบางอย่างที่จะคุยกับเจ้าหน่อย"

ชิงสุ่ยสังเกตสัญชาตญาณของชิงอี้ที่กำลังพยักหน้าตกลงอนุญาตให้ชิงสุ่ยเดินออกไปพร้อมกับอวี้เหอ

" ขงจื้อนั้นกล่าวได้ถูกต้องยิ่งนัก หญิงงามทั้งคู่นั้นเป็นเรื่องยากยิ่งเกินกว่าชายคนเดียวจะจัดการได้"ชิงสุ่ยถอนหายใจออกมาขณะที่เดินไปทางอวี้เหอ

"เจ้าพูดถึงอะไรเกี่ยวกับข้าหรือเปล่า ข้าฟังไม่ค่อยได้ยิน" อวี้เหอถาม

"เอ่ออ ข้าบอกว่าความงามราวกับถูกมนต์สะกดที่ป้าอวี้นี่มันครอบครองอยู่นั้น งดงามซะยิ่งกว่าสวรรค์ทั้ง 9 ข้าเองนะสงสัยว่าชายผู้โชคดีคนใดนั้นจะสามารถขโมยหัวใจท่านไปได้ "

"พ่อหนุ่มน้อย เมื่อช่วงเช้าตอนรับประทานอาหารอยู่นั้น เหตุใดเจ้าถึงสำนักอาหารล่ะ? ข้ารู้สึกสงสัยมาก?"อวี้เหอถามในขณะที่มองไปที่ชิงสุ่ย

เมื่อวานก็ไปที่อวี้เหอ ชิงสุ่ยถึงกลับคืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว

"ป้าอวี้ ข้าผิดไปแล้ว" หลังจากนั้นชิงสุ่ยก็ปล่อยตัวเองลงไปสู้ระหว่างยอดภูเขาทั้งสองของอวี้เหอในระหว่างที่เขากำลังจมลึกลงไปในระหว่างหุบเขา มือทั้งสองข้างของเขานั้นกอดเธอแน่น มันเป็นธรรมชาติที่เขาจะไม่ลืมใช้โอกาสนี้ในการซึมซับกลิ่นหอมร่างกายของเธอ

อวี้เหอตกใจในขณะที่เธอยืนแข็งราวกับน้ำแข็ง

"อ้าาาา!!!"ในที่สุดเธอก็ฟื้นตัวขึ้นจากความตกใจ อวี้เหอพลักชิงสุ่ยออกไปในขณะที่ใบหน้าและสายตาของเธอนั้นราวกับเธอกำลังหวั่นไหวและร้องไห้ออกมา

"จะจะ…..เจ้า พยายามกลั่นแกล้งข้า"

แม้ว่าอวี้เหอจะดูหวาดกลัวและมีความทุกข์แต่ก็ไม่มีลักษณะใดเลยที่เผยให้เห็นถึง ความหวาดผวา ชิงสุ่ยรู้สึกว่าอวี้เหอตอนนี้นั้น มีความแปลกและยิ่งน่าสนใจยิ่งขึ้น เธอนั้นไม่มีร่องรอยความรู้สึกว่าเป็นแม่ค้าที่ประสบความสำเร็จใดๆ แต่เธอกลับเผยความรู้สึกที่เธอนั้นเป็นหญิงสาวอ่อนแอ ที่ประสบความเดือดร้อนมากมายผ่านชีวิตของเธอ

0 0 โหวต
Article Rating
9 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด